พ่อพันธุ์ที่ดีคือพ่อผัว

2748 Words
ตอน พ่อพันธุ์ที่ดีคือพ่อผัว ความสุขบนกองคำโกหกมักมีอายุขัยสั้นเสมอ หลังจากที่ฉันประกาศข่าวดี(ลวงโลก)เรื่องการตั้งครรภ์ บรรยากาศในบ้านก็เต็มไปด้วยความปิติยินดี คุณเหมดูแลฉันประดุจไข่ในหิน คุณหญิงนิมมาสั่งแม่ครัวทำอาหารบำรุงฉันทุกมื้อ ทุกอย่างดูเหมือนจะไปได้สวย จนกระทั่ง... ความหวังดีของคุณเหมกลายเป็นมีดที่กลับมาแทงฉัน "ริสาครับ วันนี้ผมมีเซอร์ไพรส์" เย็นวันศุกร์ คุณเหมกลับมาบ้านเร็วกว่าปกติ พร้อมกับแขกผู้มาเยือนคนหนึ่ง ชายหนุ่มใส่แว่นท่าทางภูมิฐาน สวมชุดกาวน์สีขาวทับเสื้อเชิ้ต "นี่ 'หมอวิน' เพื่อนสนิทผมสมัยเรียน ตอนนี้เป็นอาจารย์หมอสูตินารีเวชมือหนึ่งของโรงพยาบาลอันดับหนึ่งของประเทศ ผมไปขอร้องมันให้มาดูแลคุณเป็นพิเศษเลยนะ อยากให้คุณฝากท้องกับหมอที่เก่งที่สุด" ฉันยืนตัวแข็งทื่อ เลือดในกายเย็นเฉียบเหมือนถูกราดด้วยน้ำแข็ง "สะ... สวัสดีค่ะหมอวิน... คือ... ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นก็ได้มั้งคะ ริสาฝากคลินิกแถวนี้ก็ได้" ฉันพยายามบ่ายเบี่ยง เสียงสั่นเครือ "ไม่ได้หรอกครับคุณริสา เรื่องลูกคนแรกของครอบครัว เราต้องให้ความสำคัญที่สุด" หมอวินยิ้มอย่างใจดี "เดี๋ยวผมขอตรวจเบื้องต้นหน่อยนะครับ วัดชีพจร ตรวจครรภ์ แล้วเดี๋ยวผมจะนัดเจาะเลือดที่โรงพยาบาลอีกที" ฉันไม่มีทางหนี คุณเหมพาฉันขึ้นไปที่ห้องนอน พร้อมกับหมอวิน บรรยากาศที่เคยอบอุ่นกลายเป็นห้องสอบสวน หมอวินเริ่มทำการตรวจ เขาจับชีพจร กดหน้าท้อง และซักถามอาการอย่างละเอียด ยิ่งถาม ฉันก็ยิ่งตอบตะกุกตะกัก ความรู้เรื่องคนท้องที่ฉันจำมาจากอินเทอร์เน็ตเริ่มตีกันมั่วไปหมด หมอวินขมวดคิ้ว เขาหยิบเครื่องอัลตราซาวด์แบบพกพาที่เตรียมมาด้วยออกมา "ขอผมดูเด็กหน่อยนะครับ" วินาทีที่เจลเย็นๆ สัมผัสหน้าท้อง ฉันรู้ทันทีว่าชะตาขาด หมอวินเลื่อนหัวตรวจไปมาบนหน้าท้องฉันอยู่นาน สายตาจ้องมองที่หน้าจอแท็บเล็ตด้วยความสงสัย ก่อนจะถอนหายใจยาว แล้ววางเครื่องมือลง ความเงียบเข้าปกคลุมห้องนอน ทุกคนจ้องไปที่หมอวิน "ไอ้เหม..." หมอวินหันไปหาเพื่อนสนิท สีหน้าลำบากใจ "เสียใจด้วยนะเพื่อน... แต่เมียนายไม่ได้ท้อง" "วะ... ว่าไงนะ!" คุณเหมตะลึง "แต่ริสาบอกว่าแพ้ท้อง อาเจียน เหม็นกลิ่นกาแฟ..." "อาการพวกนั้นอุปโลกน์ขึ้นมาเองได้ หรืออาจจะเป็นโรคกระเพาะ แต่จากผลตรวจ... มดลูกของคุณริสาว่างเปล่า ไม่มีถุงการตั้งครรภ์ ไม่มีตัวเด็ก และผนังมดลูกก็ไม่ได้หนาตัวขึ้นเหมือนคนท้องเลย" ความจริงถูกเปิดเผย คุณเหมหันขวับมามองฉัน ดวงตาที่เคยเปี่ยมด้วยความรักแปรเปลี่ยนเป็นความเจ็บปวดและโกรธแค้น "ริสา... นี่คุณโกหกผมเหรอ... โกหกแม่ผม... โกหกทุกคน..." "คุณเหม... ฟังริสาก่อนนะคะ คือริสา..." ฉันพยายามจะเข้าไปจับแขนเขา เพี๊ยะ! ฝ่ามือหนาของคุณเหมฟาดลงบนใบหน้าของฉันเต็มแรง แรงตบจากความผิดหวังทำให้ฉันหน้าหันจนล้มลงไปกองกับพื้น "อย่ามาแตะตัวผม! ผู้หญิงจอมลวงโลก!" คุณเหมตะคอกเสียงดังลั่นจนเส้นเลือดปูดโปน "ผมรักคุณ ผมให้เกียรติคุณ แต่คุณกลับเล่นละครตบตาผมแบบนี้! คุณเห็นผมเป็นตัวตลกหรือไง! อยากให้คุณแม่เกลียดผมรึไง" "คุณเหม ฮือ... ริสาขอโทษ... ริสาแค่อยากให้คุณแม่สบายใจ..." "ออกไป!" เขาชี้มือไปที่ประตู "ออกไปให้พ้นหน้าผมเดี๋ยวนี้!" ฉันร้องไห้โฮ ลุกขึ้นวิ่งหนีออกจากห้องนอน วิ่งเท้าเปล่าลงบันไดมาด้วยความหวาดกลัว เสียงคุณเหมอาละวาดทำลายข้าวของดังไล่หลังมา ฉันไม่รู้จะไปที่ไหน จะกลับบ้านนอกก็ไม่ได้ จะไปหาเพื่อนก็กลัวเรื่องจะบานปลาย ในสมองอันตื่นตระหนกของฉันนึกออกเพียงที่เดียว... ที่ที่เงียบสงบที่สุดในบ้านหลังนี้ ห้องนอนของคุณท่านชัชชาย... พ่อของสามี ฉันผลักประตูบานหนาหนักเข้าไปในห้องปีกซ้ายชั้นล่าง กลิ่นยาฆ่าเชื้อและกลิ่นอับของผู้ป่วยติดเตียงลอยมาแตะจมูก ภายในห้องมืดสลัว มีเพียงแสงไฟจากเครื่องช่วยหายใจและมอนิเตอร์วัดชีพจร เตียงผู้ป่วยขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง บนเตียงนั้นคือร่างผอมเกร็งของชายชราวัย 70 ปี ท่านชัชชาย ประมุขตัวจริงของตระกูล ที่นอนป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบมานานหลายเดือน ขยับตัวได้เพียงเล็กน้อย ฉันทรุดตัวลงนั่งร้องไห้อยู่ที่มุมห้อง กอดเข่าตัวเองแน่น สั่นเทาด้วยความกลัวและเสียใจ "ฮึก... ฮือ... ริสาขอโทษ... ริสาไม่ได้ตั้งใจ..." เสียงสะอื้นของฉันดังก้องในห้องเงียบ ทันใดนั้น ฉันก็ได้ยินเสียงเคาะเบาๆ ที่ข้างเตียง ก๊อก... ก๊อก... ฉันเงยหน้าขึ้นมอง เห็นมือเหี่ยวย่นของคุณท่านชัชชายกำลังเคาะราวเตียงเหล็ก ดวงตาฝ้าฟางของท่านจ้องมองมาที่ฉัน ท่านพยายามขยับปากและ กวักมือเรียก ฉันอย่างช้าๆ ฉันปาดน้ำตา ลุกขึ้นเดินไปนั่งที่ข้างเตียงด้วยความสงสัยและหวาดหวั่น "คุณพ่อ... คุณพ่อตื่นเหรอคะ" ฉันถามเสียงสั่น ชายชราไม่ตอบ แต่สายตาของท่านมองฉันด้วยความเวทนา... หรืออะไรบางอย่างที่มากกว่านั้น ท่านพยายามยกมือที่สั่นเทาขึ้นมา ฉันจึงยื่นหน้าเข้าไปใกล้ มือเหี่ยวแห้งวางแปะลงบนศีรษะของฉัน ลูบหัว ฉันเบาๆ เหมือนปลอบโยน สัมผัสนั้นทำให้ฉันน้ำตาไหลพรากหนักกว่าเดิม "ริสา... ไม่มีที่ไปแล้วค่ะคุณพ่อ... คุณเหมไล่ริสา..." ท่านลูบผมฉันลงมาเรื่อยๆ ผ่านแก้มที่บวมช้ำ ลงมาที่ลำคอ... และมือของท่านก็หยุดลง... ที่ เต้านม ของฉัน มือสั่นเทานั้นวางทาบลงบนเนินอกอวบอิ่มผ่านชุดเดรสผ้าไหม ท่านไม่ได้หยุดแค่การวางเฉยๆ แต่นิ้วของท่านเริ่มขยับ... บีบ... และ คลึง เบาๆ ฉันชะงัก ลมหายใจสะดุด "คุณพ่อคะ..." ฉันมองหน้าท่าน ดวงตาที่เคยฝ้าฟางกลับมีประกายบางอย่างวาบขึ้นมา ประกายตาของผู้ชาย... ที่ฉันคุ้นเคยดีจากผู้ชายหลายคนที่ผ่านมา มันคือประกายแห่งตัณหา ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะยังหลงเหลืออยู่ในร่างชายชราใกล้ตาย สมองอันบิดเบี้ยวของฉันเริ่มทำงานอย่างรวดเร็ว คุณเหมเป็นหมัน... น้ำเชื้อของเขาว่างเปล่า แต่คนตรงหน้านี้... คือ พ่อ ของเขา คือต้นกำเนิดสายเลือดอัครเดชาที่แท้จริง ถ้าฉันท้องกับเขา... ลูกในท้องก็จะมีสายเลือดของตระกูลนี้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นทายาทที่ถูกต้องที่สุด! ความคิดวิปริตแล่นปราดเข้ามาครอบงำจิตใจ ความสิ้นหวังผลักดันให้ฉันทำสิ่งที่บ้าคลั่งที่สุด "คุณพ่อ... อยากได้เหรอคะ..." ฉันกระซิบถามเสียงพร่า จับมือเหี่ยวๆ ของท่านให้กดแนบลงกับหน้าอกฉันแน่นขึ้น ท่านไม่ตอบ แต่ริมฝีปากแห้งผากเผยอขึ้นเล็กน้อย ลมหายใจเริ่มถี่กระชั้นขึ้น ฉันตัดสินใจเอื้อมมือของตัวเอง เลื่อนต่ำลงไปที่ใต้ผ้าห่มผืนหนา ล้วงเข้าไปสัมผัสที่ เป้ากางเกง ของชุดนอนคนป่วย และสิ่งที่ฉันสัมผัสได้... มันทำให้ฉันต้องเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง ภายใต้ผ้าอ้อมผู้ใหญ่และกางเกงผ้านิ่ม... มีแท่งเนื้อแข็งๆ ร้อนๆ กำลังตุงนูนขึ้นมาสู้มือฉัน มันแข็ง! ชายชราที่นอนติดเตียง ขยับตัวแทบไม่ได้ แต่ความเป็นชายของท่านกลับยังทำงานได้อย่างน่าอัศจรรย์ อาจจะเป็นเพราะสัญชาตญาณดิบข้อสุดท้ายก่อนจะมอดดับ หรือเพราะสัมผัสจากเรือนร่างสาวรุ่นลูกสะใภ้ที่ปลุกเร้าท่าน ฉันไม่รอช้า ดึงผ้าห่มออก รูดกางเกงนอนของท่านลง แล้วล้วงมือเข้าไปควักเอา แท่งเอ็น นั้นออกมาสู่โลกภายนอก ภาพที่ปรากฏแก่สายตาทำเอาฉันกลืนน้ำลาย ความเป็นชายของชายชราวัย 70... มันไม่ได้เหี่ยวเฉาอย่างที่คิด มันยาว... ยาวมาก แม้จะไม่ใหญ่โตมโหฬารเท่าหนุ่มๆ แต่ความยาวของมันน่าเกรงขาม ผิวหนังย่นยับสีคล้ำเข้มตามกาลเวลา เส้นเลือดปูดโปนสีเขียวคล้ำพาดพันรอบลำเหมือนรากไม้โบราณ หัวหยักบานใหญ่สีม่วงคล้ำ ผงาดง้ำชี้ฟ้าอย่างทระนง แข็งโด่ ผิดกับร่างกายที่นอนนิ่ง นี่คือไม้ใกล้ฝั่งที่ยังแข็งขึง... นี่คือต้นตอของมรดกหมื่นล้าน ฉันใช้มือเรียวสวย กำรูด ท่อนเอ็นโบราณนั้นขึ้นลงช้าๆ สัมผัสได้ถึงความร้อนผ่าวที่แผ่ออกมา "อือ... อือ..." เสียงครางในลำคอดังลอดออกมาจากปากชายชรา ท่านหลับตาพริ้ม สีหน้าแสดงความสุขสมและทรมาน มือของท่านที่เคยลูบนมฉัน เลื่อนมาวางบนศีรษะของฉันอีกครั้ง แต่คราวนี้... ท่านออกแรง กดหัวฉันลง ท่านต้องการให้ฉันทำอะไร... ฉันรู้ดีที่สุด ฉันมองหน้าท่านสลับกับแท่งเอ็นที่สั่นระริกอยู่ตรงหน้า ถ้าฉันทำ... ฉันจะกลายเป็นผู้หญิงที่เลวที่สุดในโลก แต่ถ้าฉันไม่ทำ... ฉันก็จะสูญเสียทุกอย่าง "ค่ะคุณพ่อ... ริสาจะดูแลคุณพ่อเอง" ฉันค่อยๆ โน้มตัวลงไป ลมหายใจของฉันเป่ารดส่วนหัวสีม่วงคล้ำ กลิ่นเฉพาะตัวของคนแก่ผสมกับกลิ่นยารักษาโรค มันฉุนจมูก แต่ฉันกลั้นใจ ฉันอ้าปากกว้าง... แล้วครอบดูดความเป็นชายของพ่อสามีเข้าไป สัมผัสแรกที่ลิ้นแตะโดนผิวหนังย่นยับ มันสากและนิ่มหยุ่นแปลกประหลาด ไม่ตึงแน่นเหมือนของหนุ่มๆ แต่มันมีความขลังและทรงพลังในแบบของมัน ฉันค่อยๆ ดูดดึงส่วนหัวหยักนั้นเข้าปาก ใช้ลิ้นตวัดเลียไปตามรอยย่นรอบคอหยัก "อื้อ... อ๊า..." เสียงครางของท่านดังขึ้นชัดเจน ชีพจรบนจอมอนิเตอร์เต้นเร็วขึ้น ฉันผงกหัวขึ้นลง รูดรั้งความยาวของท่านเข้าไปจนลึกสุดคอหอย ปากของฉันโอบรัดท่อนเอ็นเหี่ยวย่นที่แข็ง ตึงเปรี๊ยะ อยู่ภายใน ดูดดึงเอาความเสียวซ่านมอบให้ชายแก่ที่นอนรอความตาย มือของท่านขยุ้มผมฉันแน่นขึ้น ท่านพยายามจะเด้งสะโพกสวนขึ้นมา แต่สังขารไม่เอื้ออำนวย ท่านทำได้เพียงนอนเกร็งกระตุก ปล่อยให้ลูกสะใภ้ปรนเปรอรสสวาทให้ถึงเตียง ฉันเหลือบตามองท่าน เห็นใบหน้าที่บิดเบี้ยวด้วยความเสียว เห็นหน้าอกที่กระเพื่อมไหว ฉันเร่งจังหวะปาก เร็วขึ้น... แรงขึ้น... ในใจคิดวางแผนการร้ายขั้นต่อไป... ถ้าท่านแข็งขนาดนี้... ท่านก็น่าจะมีน้ำเชื้อ... และถ้าท่านมีน้ำเชื้อ... ฉันจะไม่หยุดแค่อม... ฉันจะขึ้นไปขย่มท่าน... ฉันจะเอาน้ำเชื้อของท่านมาใส่ในท้องฉันให้ได้! เพราะนี่คือโอกาสสุดท้ายที่จะได้ทายาท "อัครเดชา" ตัวจริงเสียงจริง ปากของฉันยังคงทำหน้าที่ดูดดึงความแข็งขึงของชายชราอย่างไม่ลดละ เสียงครางในลำคอของท่านชัชชายดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ บอกให้รู้ว่าท่านกำลังมีความสุขสมเพียงใด แต่แค่นั้นมันยังไม่พอสำหรับฉัน ฉันต้องการมากกว่าความสุข... ฉันต้องการน้ำเชื้อคุณพ่อ ฉันค่อยๆ ถอนริมฝีปากออก น้ำลายใสยืดติดออกมาเป็นสายยาวเชื่อมโยงระหว่างปากฉันกับส่วนหัวสีม่วงคล้ำของท่าน ฉันเงยหน้าขึ้นสบตาชายชราที่นอนหอบหายใจรวยริน แววตาของท่านฉ่ำเยิ้มไปด้วยราคะ ไม่หลงเหลือเค้าความน่าเกรงขามของประมุขตระกูล เหลือเพียงชายแก่ตัณหากลับที่ต้องการปลดปล่อยน้ำที่อัดอั้นในตัว "ริสาจะขึ้นไปหาคุณพ่อนะคะ..." ฉันกระซิบเสียงพร่า แล้วค่อยๆ ปีนขึ้นไปบนเตียง ผู้ป่วย ระวังไม่ให้ไปทับสายน้ำเกลือหรืออุปกรณ์การแพทย์ เตียงไฟฟ้าขนาดใหญ่ยุบยวบยาบลงตามน้ำหนักตัวของฉัน ฉันขยับตัวขึ้นไป นั่งยองๆ คร่อมเอว สอบของพ่อสามี ขาเรียวขาวทั้งสองข้างแยกกว้างวางนาบไปกับที่นอนข้างลำตัวท่าน ฉันมองลงมาเห็นท่อนเอ็นเหี่ยวย่นที่ยังคงตั้งตระหง่านชี้หน้าฉันอยู่ มันดูน่าเกรงขามและขลังอย่างประหลาด เหมือนวัตถุโบราณที่ยังมีฤทธิ์เดช มือทั้งสองข้างของฉันจับชายกระโปรงเดรสผ้าไหมราคาแพง ถลกขึ้นมา จนกองอยู่ที่เอว เพื่อไม่ให้มันเกะกะ แต่กลัวมันจะร่วงลงมาปิดบังทัศนียภาพอันงดงาม ฉันจึงรวบชายกระโปรงขึ้นมาแล้ว คาบไว้ที่ปาก เผยให้เห็นเนินสวาทขาวผ่องที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำหล่อลื่นและไร้กางเกงในปกปิด ภาพของลูกสะใภ้แสนสวย นั่งยองๆ อ้าซ่าอยู่บนตัว พลางคาบชายกระโปรงยั่วยวน ทำให้ท่านชัชชายถึงกับตาเหลือกค้าง มือสั่นเทาของท่านพยายามเอื้อมมาจับที่สะโพกผายของฉัน ฉันเอื้อมมือลงไป จับแท่งเอ็น ร้อนผ่าวของท่าน จ่อที่ปากทางรักที่ขมิบรอ "เข้ามานะคะ... เข้ามาทำหลานให้ริสานะคะ" ฉันค่อยๆ กดสะโพกลงไป ร่องสาวบานอ้าออก กลืนกินส่วนหัวบานใหญ่สีม่วงคล้ำนั้นเข้ามา สวบ... "อื้มมมม!" ฉันครางออกมาทั้งที่ยังคาบชายกระโปรงอยู่ ความรู้สึกมันต่างจากหนุ่มๆ ที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง ผิวหนังที่เหี่ยวย่นและไม่เรียบเนียนของท่าน มันสร้างแรงเสียดทานที่แปลกประหลาด ครูดถูภายใน ผนังมดลูกของฉันอย่างหยาบโลนและสากระคาย แต่มันกลับกระตุ้นความเสียวซ่านให้พุ่งพล่านขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อฉันกดตัวลงจนสุดโคน ความยาวของท่านก็เข้าไปลึกจนชนจุดกระสัน ร่างกายของฉัน ร้อนผ่าว ไปหมด ทั้งตื่นเต้น ทั้งกลัว ทั้งเสียว ฉันเริ่มขยับสะโพก ขย่ม ขึ้นลงช้าๆ เนิบนาบ ตามจังหวะหัวใจที่เต้นรัวแรง เอี๊ยด... อ๊าด... เอี๊ยด... อ๊าด... เสียงเตียงเหล็กคนไข้ส่งเสียงร้องประท้วงทุกครั้งที่ฉันทิ้งน้ำหนักลงไป บรรยากาศในห้องมืดสลัวที่มีเพียงแสงไฟจากเครื่องมือแพทย์ มันช่างวิปริตและอีโรติกจนขนลุก ฉันมองลงไปเห็นแท่งเอ็นสีคล้ำผลุบเข้าโผล่ออกในร่องเนื้อขาวๆ ของตัวเอง น้ำหล่อลื่นไหลเยิ้มออกมาเคลือบจนมันวาววับ เสียง แจ๊ะ แจ๊ะ ดังผสานกับเสียงเครื่องช่วยหายใจ "อ๊า... คุณพ่อ... ลึก... เสียว..." ฉันคายชายกระโปรงออกจากปาก เพื่อที่จะร้องครางได้อย่างเต็มเสียง ฉันเร่งจังหวะเร็วขึ้น ควบขี่ชายแก่ที่นอนนิ่งเป็นท่อนไม้ แต่ท่อนเนื้อของท่านกลับสู้ตาย ท่านชัชชายเกร็งตัวจนตัวงอ มือเหี่ยวๆ จิกที่นอนแน่น ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความสุขสมสุดขีด ท่านพยายามเด้งสวนขึ้นมาเล็กน้อยตามแรงอารมณ์ "จะแตก... ริสา... พ่อจะแตก..." เสียงแหบพร่าเล็ดลอดออกมาจากลำคอ "แตกมาเลยค่ะ! แตกเข้ามาในท้องริสา! ให้หมดเลย!" ฉันตะโกนสั่งพร้อมกับโหมแรงขย่มชุดสุดท้าย บดขยี้ความเป็นชายของท่านอย่างบ้าคลั่ง "โอ้วววววว!" ร่างผอมเกร็งของท่านชัชชายกระตุกเกร็งอย่างรุนแรง ท่านตาเหลือกค้าง อ้าปากค้าง ชีพจรบนหน้าจอมอนิเตอร์พุ่งสูงปรี๊ด วินาทีนั้น ฉันรู้สึกถึงแรงฉีดพ่นที่ไม่ได้รุนแรงเท่าหนุ่มๆ แต่มันต่อเนื่องและยาวนาน น้ำเชื้ออุ่นๆ ค่อยๆ ไหลรินเข้ามาเติมเต็มในมดลูกของฉัน มันคือ น้ำเชื้อเจ้าสัว... เชื้อพันธุ์ของมังกรตัวจริง ฉันกรีดร้องออกมาด้วยความสุขสม ร่างกายกระตุกเกร็ง น้ำแตก ทะลักทลายออกมาผสมกับของท่าน เมื่อพายุสงบลง ฉันหมดเรี่ยวแรง ทิ้งตัวลง ฟุบนอนคว่ำทับตัวคุณพ่อ ทันที ใบหน้าของฉันซบลงกับอกผอมแห้งที่หัวใจกำลังเต้นระรัวราวกับกลองรัว เรานอนกอดกันในความเงียบ มีเพียงเสียงหอบหายใจของฉันและเสียงสัญญาณชีพจรของท่านที่ค่อยๆ กลับสู่ปกติ ฉันยิ้มมุมปาก... ในที่สุด ฉันก็ได้มันมาแล้ว สิ่งที่ฉันตามหามาตลอด สายเลือดของตระกูลผู้ดีที่แท้จริง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD