ค่ำคืนนั้น ลมเย็นพัดแรงเหนือชานเมือง
แต่ความอึดอัดในอกของ มารุต
กลับร้อนระอุจนแทบระเบิด
เขานั่งอยู่ในห้องทำงานของเกรซเฮาส์
มือหนึ่งบีบโทรศัพท์แน่น
ขณะที่ปลายสายรายงานด้วยน้ำเสียงจริงจัง
...
“หัวหน้า…เราเช็กทุกฐานข้อมูลแล้ว .!
ทั้งในประเทศและนอกประเทศ
ไม่มีชื่อ ไอริส ... ปรากฏเลยครับ
เหมือนเธอ…ไม่เคยมีตัวตน”
...
คำพูดนั้นเหมือนค้อนทุบลงกลางอก
มารุตกัดฟันแน่น เส้นเลือดขมับเต้นตุบ ๆ
“เป็นไปไม่ได้… ไม่มีใครในเมืองนี้
จะไร้ร่องรอยได้ ถ้าไม่ใช่คนระดับที่…..
มีใครบางคนปกปิดให้”
...
เขาลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้
คว้าเสื้อสูทพาดบ่าโดยไม่สนอะไรทั้งนั้น
ลูกน้องที่ยืนรอด้านนอกรีบก้าวเข้ามา
“หัวหน้า จะไปไหนครับ?”
...
มารุตปรายตามองสั้น ๆ
แววตาเต็มไปด้วยโทสะและความอยากรู้
“ไปบ้านของผู้หญิงคนนั้น”
---
ไม่นาน รถสปอร์ตยุโรปสีดำ
แล่นฉิวบนถนนสายเปลี่ยว
มารุตบังคับพวงมาลัยด้วยมือที่สั่น
จากความเดือดดาลและความสับสน
...
“ไม่มีประวัติ…ไม่มีที่มา…แต่กล้าท้าทายฉัน”
เขาพึมพำกับตัวเอง
เสียงต่ำเย็นเยียบเหมือนคำสาป
..
เมื่อรถเลี้ยวเข้าสู่ซอยเงียบที่มืดสนิท
ดวงตาคมกริบของเขาสะท้อนแสงไฟหน้ารถ
เขามองตรงไปยังบ้านพักเล็ก ๆ ของไอริส
ที่ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้และสวนดอกไม้เงียบสงัด
..
มารุตเหยียบเบรก
รถหยุดนิ่งตรงข้ามประตูบ้าน
ดวงตาแข็งกร้าวตวัดมองบานประตูไม้สีขาว
ที่ปิดสนิท
..
คืนนี้…เขาจะหาคำตอบให้ได้
ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นใครกันแน่!!~
..
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงทุบประตูไม้สะท้อนก้องไปทั่ว
บ้านพักเงียบสงบในย่านชานเมือง
..
ไม่กี่อึดใจ เสียงฝีเท้าเบา ๆ
ดังลงมาตามบันไดในบ้าน
ประตูไม้สีขาวค่อย ๆ เปิดออก
ไอริส ปรากฏตัวในชุดนอนสีขาวบางพริ้ว
เนื้อผ้าละเอียดแนบเนียนไปกับผิวเนียนละเอียด
กลิ่นหอมสะอาดผสมกลิ่นดอกไม้ประจำตัวเธอ
หอมอบอวลออกมาแทบจะทันที...
ที่บานประตูแยกออก
...
เธอเงยหน้ามองเขา
ดวงตาสงบนิ่งไม่สะทกสะท้าน
แต่กลับเปล่งประกายอ่อนโยนปนอบอุ่น
ราวกับคนที่เพิ่งถูกปลุกให้ตื่นจากฝันกลางคืน
...
แสงไฟจากโคมหน้าบ้านสะท้อนกับ
เส้นผมลอนยาวสีน้ำตาลอ่อนที่สยายลงบนบ่า
ขับให้ภาพรวมของเธอสวยใสละมุน
เกินกว่าจะใช้คำว่าธรรมดา
...
มารุตชะงัก—!
ความโกรธที่อัดแน่นมาเต็มอกเมื่อครู่
พลันถูกกลืนหายไปในทันที
เขาตะลึงจนเผลอหยุดหายใจ
ดวงตาคมที่เคยแข็งกร้าว
กลับเต็มไปด้วยความหวั่นไหว
..
“คุณ…?” เสียงทุ้มของเขาหลุดออกมาเพียงแค่นั้น
..
ไอริสเพียงยิ้มบาง
มือน้อย ๆ ดันบานประตูออกกว้างกว่าเดิม
แล้วเอ่ยเบา ๆ
“เข้ามาสิคะ ยืนอยู่ตรงนี้ อากาศมันเย็นนะคะ”
---
มารุตก้าวข้ามธรณีประตู
ราวกับถูกแรงบางอย่างดึงดูด เมื่อประตูปิดลง ภายในบ้านกลับเผยภาพ
ที่ตรงข้ามกับความเย็นชาในโลกมาเฟีย
ที่เขาคุ้นชิน
...
ห้องรับแขกเล็ก ๆ
ถูกตกแต่งในสไตล์อังกฤษวินเทจ
ผนังสีขาวครีมประดับด้วยกรอบรูปไม้เล็ก ๆ
เฟอร์นิเจอร์หวานละมุน
โซฟาบุผ้าลายดอกไม้อ่อน ๆ
โต๊ะน้ำชาวางแจกันดอกไลแล็ก
และกุหลาบขาวหอมละมุน
กลิ่นหอมของดอกไม้สด
ผสมเข้ากับกลิ่นกายของไอริส
จนเกิดบรรยากาศอบอุ่นเกินจะบรรยาย
...
แสงไฟจากโคมแก้วข้างผนัง
ส่องให้ทุกสิ่งดูละมุน
ราวกับฉากในวรรณกรรมโรแมนติก
—ยิ่งตัดกับเงาของมารุตที่เพิ่งก้าวเข้ามา
ยิ่งทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังหลุดออกจากโลก
ที่คุ้นเคยสู่โลกของเธอโดยไม่รู้ตัว