ในที่สุดธาวิตก็สามารถขึ้นมานั่งบนรถของปริมฐาได้สำเร็จ โดยอาการเมา ซึ่งคนจัดแจงงานนี้เขาคงจะต้องตอบแทนนันทิดา
“เงียบจัง”
“เมาก็นอนไป” ปริมฐาทำเสียงหงุดหงิด
“ขอให้มาส่งแค่นี้ ทำไมต้องบ่น ฉันเมาแล้วก็พึ่งกลับมา เกิดหลงจะทำไง” ธาวิตพูดเสียงอ้อแอ้
“คงเมาหรอก ถ้าเมาจริงคงจำอะไรไม่ได้ นายมีคนขับรถจะให้ฉันขับไปส่งทำตัวเป็นเด็กไปได้” ปริมฐาบ่น
“แค่ไปส่งที่บ้าน เธอจะบ่นอะไรเยอะแยะ บ่นเป็นยายแก่ ไปได้อายุแค่นี้” น้ำเสียงบ่งบอกถึงนิสัยที่เอาแต่ใจ คนเมาแกล้งเอนซบพิงไปตรงไหล่
“ทำอะไรของนาย”
“พิงหน่อยไม่ได้หรือไง” ธาวิตตอบก่อนช้อนสายตาขึ้นมอง ใจนึกอยากจะหอมแก้ม
“พิงไปตรงประตูสิ มาพิงไหล่ฉันทำไม”
“ประตูมันแข็ง” ธาวิตหรี่ตามอง
“ฉันรู้ว่านายคอแข็งดื่มแค่นี้ไม่เมาหรอก”
“รู้ด้วยว่า ฉันคอแข็งเคยจับหรือไงถึงได้รู้” ธาวิตอมยิ้ม ปริมฐาหมั่นไส้ผลักใบหน้าที่พิงไหล่ออกไป
“ดื่มนิดหน่อยมันไม่ถึงกับทำให้นายเมาได้หรอกนะ”
“ตอนนี้อยากเมาอยากอื่นมากกว่า” น้ำเสียงกรุ่มกริ่มไม่แพ้สายตา
“เมาก็นอนไป” ปริมฐาถอนหายใจออกแรงๆ ให้รู้ว่าไม่พอใจ
กว่าจะขับรถวนกลับไปส่งคนเมา จนกระทั่งถึงห้องคอนโดมิเนียม เธอพึ่งรู้ว่าธาวิตไม่ได้พักอยู่ที่บ้าน
ปริมฐาขับรถวนขึ้นไปจอดที่ชั้น ตามที่ธาวิตสั่งรีบจอดรีบส่งจะได้รีบกลับ แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่ปริมฐาคิดมันจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น
“ฉันพานายมาส่งถึงห้องแล้ว รีบๆ ลงไปได้แล้ว”
“อย่าพึ่งไล่จะได้ไหม อยากพิงซบอยู่แบบนี้”ธาวิตพูดทั้งที่ตายังหลับอยู่
“ไม่เอา ฉันรีบกลับห้อง นี่มันดึกแล้ว” ปริมฐาพยายามผลักใบหน้าคนพิงซบไหล่ให้ออกห่าง
“ดึกแล้วก็นอนด้วยกันที่นี่สิ”
“จะบ้าหรือไง”
“คนมันคิดถึง อยากอยู่ด้วยนานๆ ทำไมต้องไล่”
“อะ…อะไรนะ หูฉันเพี้ยนหรือเปล่า” ปริมฐาได้ยินคำว่า คนมันคิดถึง ใจถึงกับสั่น
ธาวิตยังหลับตาซบตรงไหล่นิ่งๆ ความรู้สึกบางอย่างกำลัง ก่อตัวทนไม่ไหว จากที่พิงซบเด้งตัวเองขึ้นมา ก่อนจะดึงร่างคนขับให้ย้ายมานั่งบนตักของเขา ปริมฐาตกใจพยายามดิ้น มือผลักใบหน้า ให้ห่างออกไป เธอไม่ใช่คนไม่รู้เรื่องอะไร สายตาของธาวิตมันชัดเจนมากว่าต้องการอะไรมากกว่าแค่กอด
“เมาก็หัดมีสติบ้างสิ ฉันเป็นเพื่อนายนะ”
“เธอคิดกับฉันแค่เพื่อนจริงๆนะเหรอ”
“ใช่! ฉันคิดแค่เพื่อน! ปล่อย! ไม่ใช่แบบนี้” ปริมฐาพยายาม สู้แรงของคนเมา มือปัดป่ายให้วุ่น มือของธาวิตดึงรั้งชุดเดรสให้สูงขึ้นอย่างง่ายดาย
“ธาวิต! นายจะบ้าหรือไง ฉันเพื่อนนายนะ”
“ฉันรอไม่ไหวแล้ว รอให้เธอเดินเข้ามาบอกว่าต้องการฉัน รอมานานหลายปีแล้ว แต่เธอก็เงียบ”
“เราเป็นเพื่อนกันนะดีแล้ว”
“ไม่!”
“ทำไมนายต้องการ นายไม่ไปหาเด็กๆ ของนาย”
“ไม่มี! ฉันอยากจะทำกับเธอแค่คนเดียว”
คำว่า แค่คนเดียว มันหมายความว่ายังไง ปริมฐาไม่มีเวลาคิดอะไรให้เยอะในตอนนี้ สิ่งที่จะต้องจัดการคือส่วนล่างที่กำลังถูไถของสงวนของเธออยู่
“อย่า! ธาวิต”
“หยุด! ห้ามดิ้น”
“อื้อ” เสียงต่อต้านถูกริมฝีปากของคนต้องการประกบ ปิดสนิท ลิ้นของธาวิตกำลังดูดดึงลิ้นของเธออยู่ กลิ่นแอลกอฮอล์ผสมกับรสที่ยังติดอยู่ตรงลิ้น มันกำลังกระตุ้นความรู้สึกบางอย่าง โดยเฉพาะส่วนล่างที่กำลังขยายจนรู้สึกได้
ชุดเดรสถูกดึงรั้งให้ยกถอดทิ้งไป หน้าอกสองข้างที่ซ่อนตัวอยู่หลังบราเซีย ตอนนี้ฝ่ามือของธาวิตกำลังบีบเคล้นอย่างเมามัน
ความปรารถนาที่ถูกกระตุ้น เสื้อผ้าของทั้งคู่หลุดพ้นออกไปจากลำตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ขนาดอยู่ในรถ โชคดีที่รถของปริมฐาติดฟิล์มทึบข้างนอกมองเข้ามาด้านในไม่เห็น ชั้นนี้เป็นชั้นส่วนตัว ไม่มีใครกล้าขึ้นมา
ร่างของปริมฐาถูกจับให้หันหลังกลับไป เขาสอดความต้องการที่มันขยายเข้าไปจากทางด้านหลัง เพียงแค่ได้สัมผัสความนุ่ม น้ำเยิ้มหล่อเลี้ยงไม่ให้ฝืด ธาวิตเม้มกระตุ้นตรงใบหู สะโพกขยับเด้งรับการกระแทก ซึ่งมันเป็นจุดที่อ่อนไหวสำหรับผู้หญิง