ตอนที่15

1802 Words
ตอนที่ 15 ภัยมุ่งเป้า เสียงนาฬิกาปลุกส่งเสียงร้องดังขึ้น ดารินทร์บิดกายขี้เกียจ ลืมตาขึ้นมาช้อนมองบริเวณด้านข้าง หลงเหลือเพียงร่องรอยเตียงนุ่มยุบตามน้ำหนักตัวและไออุ่นของชายหนุ่มจางๆ เธอจัดการธุระส่วนตัวเรียบร้อยจึงเดินลงบรรไดมาดื่มเลือดบรรจุลงบนแก้วสีใสเฉกเช่นทุกวัน พี่ฟาร์อูลเตรียมเลือดของเขาให้เธอดื่มทุกเช้า ทว่าวันนี้กลับมีชายหนุ่มผู้ที่ร่วมนอนเคียงหมอนกับเธอเมื่อคืนนี้นั่งหัวโด่อยู่ด้วย “เดี๋ยวเช้านี้ฉันไปส่งเธอเอง” ราอูลเอ่ย “......” หญิงสาวชำเลืองมองผู้เป็นพี่ชายบุญธรรม “มันผีเข้าอะไรก็ไม่รู้ เกิดอยากไปดูไซต์ก่อสร้างน้องก็ไปกับมันก็แล้วกัน เดี๋ยวพี่จะเข้าไปคุมคนงานรีโนเวทคลับ” “ค่ะ” บรรยากาศภายในรถยนต์เงียบกริบไร้บทสนทนา วันนี้ชายหนุ่มต้องการขับรถเอง ทำให้เธอจำใจต้องนั่งรถมากับเขาเพียงลำพัง ไซต์งานก่อสร้างริมแม่น้ำเจ้าพระยาคอนโคโครงการใหม่ที่มียอดจองทะลุ 80%ของจำนวนยูนิต การก่อสร้างคอนโดต้องรักษาความปลอดภัยของคนงานและต้องรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน เนื่องจากพื้นที่ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำ หากเกิดข้อผิดพลาดอาจจะถูกเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างได้ วิศวกรคนงานหลายร้อยชีวิตขะมักเขม้นตั้งใจทำงานท่ามกลางแสงแดดจ้า ไอร้อนระอุตกกระทบพวงแก้มป่องจนแดงระเรื่อ แม้นเป็นเผ่าพันธุ์แวมไพร์แข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็ไม่สามารถอยู่ท่ามกลางแสงแดดจ้าได้เป็นเวลานาน มันผลาญพลังงานเธอไปไม่น้อย “ยัยโง่อยากโดนแดดเผาตายหรือไง” ราอูลยกร่มคันใหญ่สีดำทะมึนขึ้นมากางบดบังแดดให้ร่มเงาแก่เธอ “ขอบคุณค่ะนายน้อย...” “ออกแบบเก๋ดี มีช่องลมหลายทิศทำให้ระบายอากาศในหน้าร้อนได้ดี โครงสร้างก็แข็งแรงทนทาน เลือกทำเลง่ายต่อการขาย” ชายหนุ่มออกปากชมเธอ เขาทึ่งในความสามารถของหญิงสาว “ทำเลดีราคาก็ยิ่งแพง ส่วนกลางคอนโดก็ต้องคุ้มค่าลูกค้าพิจารณาจากทำเล ความคุ้มค่า และโครงสร้างที่แข็งแรงเป็นอันดับแรกค่ะ” สถานที่แห่งนี้ใกล้ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง อีกทั้งใกล้กับรถไฟฟ้าสะดวกสบายในการเดินทาง ราคาประมูลที่ดินจึงสูงลิ่ว กลยุทธิ์ทางการตลาดขั้นพื้นฐานจึงถูกงัดนำมาใช้กับโครงการนี้ คอนโดสมัยนี้ราคาแพงทว่าห้องเล็กเท่ารูหนู เธอจึงออกแบบแปลนห้องให้มีความสูงโปร่งสองชั้นและกว้างขวาง “เก็บห้องใหญ่ให้ฉันด้วยหนึ่งห้อง” “ยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะคุณลูกค้า” หญิงสาวคลี่ยิ้มอ่อนหวานดีใจที่คอนโดอีกห้องขายออก แม้จะขายให้เขาก็ตาม ขายให้คนกันเองไม่มีส่วนลดหรอกนะจะบอกให้ พวกเขาตรวจเช็คความเรียบร้อยของสิ่งก่อสร้าง เมื่อเห็นว่าเป็นไปดังแผนจึงเลี่ยงเดินไปตรวจเช็คความเรียบร้อยริมตลิ่ง เสียงฝีเท้าสองคู่เหยียบย่ำเศษใบไม้แห้งระมัดระวัง “..!!!” ใบหูหนากระดิกผิดสังเกตุ มือสากกระชากแขนเรียวเบี่ยงหลบมาทางเขา ไม่ทันการณ์มีดเงินสั้นแหลมคมปักลงกลางแผ่นหลังเล็กครึ่งด้าม “อึก..!!” ริมฝีปากเล็กอิ่มกระอักเลือดสีสดออกมา “ดารินทร์!” “รีบสั่งคนงานให้ย้ายออกจากพื้นที่ เร็วสิคะ! ไม่มีเวลาแล้ว ดารินทร์จะถ่วงเวลาทางนี้ให้” เธอไม่อยากเห็นโศกนาฏกรรมสุดสลดเกิดขึ้นที่นี่ มือบางเช็ดคราบเลือดบริเวณมุมปากอิ่ม คมเขี้ยวแหลมคมงอกขึ้น ดวงตากลมโตแปรเปลี่ยนเป็นสีนิลเฉกเช่นชายหนุ่ม เธอล้วงหยิบมืดสั้นที่เตชินเคยให้ไว้ขึ้นมากำแน่น “ใครจะตายฉันไม่สน ฉันไม่ปล่อยเธอไว้ที่นี่คนเดียวแน่ มีดเล่มแค่นั้นทำอะไรพวกมันไม่ได้หรอกยัยโง่” กระแสจิตทรงพลังเรียกกำลังคนของตระกูลเอนส์เวิร์ธจากทั่วสารทิศให้มารวมตัวกันที่นี่ “อย่าดึงมีดออกมันจะทำให้เธอเสียเลือดมากกว่าเดิม” เขาเอ่ยปราม เมื่อเห็นเธอทำท่าจะดึงมืดที่ปักคากลางแผ่นหลัง กูลล์หลายสิบตัวกระโจนจู่โจมหมายขย้ำพวกเขาทั้งคู่ให้แหลกคามือ กริชเงินเล่มยาวสลักลายในมือสากปักลงกลางต้นคอของหนึ่งในพวกมัน “โฮกกก..!!” เสียงครวญร้องดังด้วยความเจ็บปวด เลือดสีดำทะลักพุ่งจากต้นคอ พลังจิตสีดำเข้มรุนแรงโจมตีพวกเขาจากทางด้านหลังปะทะพลังจิตสีขาวแกร่งกล้าของชายหนุ่มที่โผล่ถลาปัดป้องภัยให้ดารินทร์ เธอไม่อยากเป็นตัวถ่วงด้วยกระแสจิตอ่อนหัดของเธอนั้น ไม่สามารถที่จะทำอะไรพวกมันได้ มือบางตวัดมีดสั้นปักลงบนดวงตากูลล์ทมิฬ มือหยาบกร้านเต็มไปด้วยขนเคลื่อนบีบคอเธอแน่นจนหายใจไม่ออก “อ้ากก..!!” มือเล็กปักมืดสั้นลงกลางหัวใจกูลล์ตัวนั้น มันส่งเสียงคำรามอาฆาต มือหยาบเต็มไปด้วยขนสากขว้างเธอโยนลงกับพื้นก่อนสิ้นใจอนาถ ดารินทร์หน้านิ่วมีดกลางหลังปักลึกจนมิดด้าม หยาดเลือดไหลรินจนเธอหน้าซีด กระนั้นเธอก็ยังฝืนต่อกรกับพวกกูลล์ไม่ถดถอย เธอใจกล้าบ้าบิ่นจนชายหนุ่มหน้าถอดสี กระแสจิตสีดำทะมึนแผ่กระจายโจมตีเขารุนแรงดุเดือดทำให้เขาไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือเธอได้ในขณะนี้ ราอูลรวบรวมแรงเฮือกสุดท้าย กระแสจิตสีขาวแผ่อานุภาพทำลายร้างคู่โจมตีได้ในครั้งเดียวจนเจ็บหนัก “อึก..!!” หมอกหนาปกคลุมบดบังกายเจ้าของกระแสจิตดำมืดก่อนมันจะหนีหายออกไป เหล่ากูลล์ที่เหลือหลบหลีกตามผู้้เป็นนาย “ยัยโง่ฉันบอกให้อยู่นิ่งๆไง” ราอูลตกใจสุดขีด ความกลัวที่จะสูญเสียเธอถาโถมจนเขาใจเจ็บ นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกกลัวขนาดนี้ มีดสั้นปักลงกลางศรีษระของกูลล์ตัวสุดท้าย ท่ามกลางเสียงร้องดังระงม หญิงสาวล้มตัวลงไร้เรี่ยวแรง อย่างน้อยเธอก็ไม่เป็นภาระเขา ดวงตากลมโตหนักอึ้ง ริมฝีปากซีดเซียว “......” เธอสูญเสียเลือดมากเกินไป เนื้อตัวชาไร้ความรู้สึก นอนหายใจรวยรินกองกับพื้นจมกองเลือดขนาดใหญ่ “ยัยโง่!” ราอูลถลาช้อนอุ้มหญิงสาวเดินตรงไปยังรถยนต์ที่จอดสนิทหน้าโครงการ ฟาร์อูลที่พึ่งมาถึงเอะอะโวยวายเป็นการใหญ่ เมื่อเห็นสภาพรวยรินของน้องสาวบุญธรรม “เอาน้องกูมา!!!” ฟาร์อูลตะคอกเสียงดังลั่น พยายามยื้อแย่งร่างน้องสาวจากราอูล “ทำไมมึงมาช้าวะ! มึงไปจัดการพวกมันก่อน หาตัวมันให้เจอ อีกอย่างดารินทร์เป็นห่วงคนงานอย่าทำให้ผิดสังเกตุบอกว่าเป็นอุบัติเหตุก็พอ เค้นคนงานให้ดีกูว่ามีหนอนแน่ๆ” ราอูลออกคำสั่งรีบวางเธอนอนตะแคงลงบนเบาะหลังที่นั่งคนขับอย่างเบามือ “แต่ดารินทร์ต้องดื่มเลือดกู!” “เลือดกูก็ดื่มได้! มึงไปจัดการหน้าที่ของมึงซะไอ้ฟาร์อูล กูจะพาเธอไปหาหมอ” “เออไอ้สัส!” ฟาร์อูลอดกลั้นโทสะ ภายในใจเดือดดาลเคียดแค้น แววตาวาวโรจน์เอาจริงราวกับสัตว์ป่าที่พึ่งถูกปลุกจากการหลับใหล ใครมันกล้าทำร้ายน้องสาวตัวน้อยของเขาถึงเพียงนี้ ครั้งนี้เขาเดือดดาลจนใครก็ห้ามไว้ไม่อยู่ ฟาร์อูลรวบกำลังคนตามหาผู้ก่อเหตุอย่างบ้าคลั่ง กระแสจิตของชายหนุ่มแปรเปลี่ยนเป็นจิตมืดดำสนิทตามอารมณ์เดือดดาลในขณะนี้ ทำให้ไม่มีใครกล้าปริปากพูดสักคำ วันนี้เขาจะเด็ดหัวมันให้ได้! “กินซะ...อยากกินเท่าไหร่เธอกินให้พอ” กริชคมเฉือนข้อมือตนเองเป็นทางยาว ปล่อยให้สีเลือดสดไหลรินลงบนริมฝีปากอวบอิ่มซีดขาวราวกับคนตาย สีหน้าเป็นกังวลตึงเครียดจ้องมองดวงหน้างาม ก่อนจะนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ เธอร่วมสู้กับเขาจนตัวตายไม่ยอมถดถอย ใจกล้ายิ่งกว่าแวมไพร์บางตนเสียอีก มือบางที่จับเพียงปากกาเซ็นเอกสาร วันนี้กลับหันมาจับมีดสั้นพรากชีวิตกูลล์ที่ขึ้นชื่อว่าเหี้ยมโหดอย่างไม่เกรงกลัว “เธอมันซาดิสท์สมกับเป็นเธอจริงๆยัยโง่...” “......” สีหน้าซีดขาวเริ่มมีสีฝาดเลือดเขาจึงรีบห้ามเลือดข้อมือของตน เปลี่ยนไปนั่งประจำที่คนขับแล่นรถยนต์มุ่งสู่บ้านตระกูลเอนส์เวิร์ธ หมอประจำตระกูลพร้อมพยาบาลสี่ห้าคนยืนรอนานแล้ว ราอูลวางหญิงสาวลงบนเตียงนอนหนานุ่ม หมอเข้าประจำตำแหน่งรักษาชีวิตของเธอนานหลายชั่วโมงโดยมีเขายืนเฝ้าไม่ห่างกาย สีหน้าหนักใจของผู้รักษาสร้างความกังวลให้เขา หมอประจำตระกูลยืนปาดเหงื่อโล่งอกในที่สุดก็รักษาชีวิตของหญิงสาวไว้ได้ “เรียบร้อยแล้วครับคุณราอูล” “เป็นไงบ้าง” “แผลค่อนข้างใหญ่และลึกฉีกขาด ผลพวงมาจากการฝืนใช้กำลังเกินขีดจำกัดด้วยครับ ระยะนี้ต้องดูแลรักษาอย่าออกแรงเยอะ ควรบำรุงด้วยเลือดวันละสองครั้งให้ร่างกายสมานแผลเองก็จะดีขึ้นครับ” แวมไพร์มีกลไลรักษาตัวเองได้ดีกว่ามนุษย์ทั่วไปอยู่แล้ว ข้อนี้จึงไม่ใช่ปัญหา “แล้วรอยแผลเป็นล่ะ?” เธอเป็นผู้หญิงย่อมต้องรักสวยรักงามเป็นธรรมดา หากมีแผลเป็นบนเรือนร่างเธอย่อมไม่ชอบใจเป็นธรรมดา “เดี๋ยวผมให้ยาทาหลังแผลแห้งตกสะเก็ตครับนายน้อย” “อืมขอบใจ” “งั้นพวกผมขอตัวลากลับก่อนนะครับ” หมอประจำตระกูลเอ่ย “ผมไม่ส่งนะ” ร่างสูงเลื่อนเก้าอี้มานั่งเฝ้าหญิงสาวข้างเตียง ไม่ส่งเสียงดัง เกรงจะรบกวนเวลาพักผ่อนของเธอ “นายน้อยดูแลตัวเองด้วยนะครับ เดี๋ยวผมจะจัดยาบำรุงให้นายน้อยอีกชุด” หมอประจำตระกูลมองใบหน้าซีดของนายน้อย เหตุจากสูญเสียเลือดเป็นจำนวนมาก “ไม่จำเป็น” “......” เขาส่ายหน้าให้กับความดื้อรั้นของชายหนุ่มรุ่นลูกที่เขาเห็นมาแต่เล็กแต่น้อย ถึงอย่างนั้นเขาก็จัดยาบำรุงพร้อมกำชับสาวใช้ให้บังคับเขาดื่มอยู่ดี “......” ราอูลนั่งเฝ้าอยู่หลายชั่วโมง ไม่มีทีท่าว่าเธอจะฟื้นตื่นขึ้นมาปากเก่งใส่เขา จนในที่สุดเขาผล็อยหลับข้างเตียงนอนของหญิงสาวด้วยความเหน็ดเหนื่อยและหมดแรง พลังจิตที่เขาใช้ในวันนี้ผลาญกำลังของเขาหมดสิ้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD