สามีไม่รัก เลยจัดหนักกับคนสวน ตอนที่ 1 ภรรยาที่ถูกทิ้งขว้าง

1265 คำ
ณ ใจกลางเมืองหลวง อันเป็นที่ตั้งของคฤหาสน์หลังใหญ่ ถูกห้อมล้อมด้วยสวนดอกกุหลาบสไตล์อังกฤษ แสดงถึงความหรูหราและมีเอกลักษณ์ของผู้เป็นเจ้าของ ที่แห่งนี้ เป็นเสมือนบ้านในฝันของหญิงสาวทั้งหลาย ที่ซึ่งเต็มไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกหรูหรา น้ำหอมราคาแพงและเสื้อผ้าแบรนด์ดังสั่งตรงจากเมืองนอกมากมาย แต่แท้จริงแล้ว ความฝันไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด พลอยพรรณ เป็นคุณนายสาวสวยวัย 32 มีรูปร่างระหง สวยสง่าสมกับเป็นคุณนาย ใบหน้าและผิวพรรณอ่อนกว่าวัย ในตอนนี้ เธอกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้กำมะหยี่ขลิบดิ้นทอง พลางเหม่อมองออกไปนอกบานหน้าต่างด้วยหัวใจบอบช้ำ "วันนี้ พี่วิชัยกลับช้าอีกแล้วสินะ..." เสียงของเธอสั่นเครือ คล้ายคนหมดอาลัยตายอยาก แม้ว่าเธอจะเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมายของ วิชัย ชายวัยกลางคน เจ้าของทรัพย์สินทุกอย่างในที่แห่งนี้ แต่หัวใจเธอกลับว่างเปล่าเสียยิ่งกว่าความเงียบงันในห้องโถงกว้าง ครั้งหนึ่ง เธอเคยเชื่อว่าความรักและการทุ่มเท จะมอบชีวิตที่เพียบพร้อมให้แก่ผู้หญิงที่จงรักภักดีอย่างเธอได้ หลังจากแต่งงานกับนักธุรกิจหนุ่มธรรมดา ๆ คนหนึ่ง เธอใช้เวลาเกือบ 10 ปี ร่วมกับเขา และผลักดันจนเขาประสบความสำเร็จ กลายเป็นมหาเศรษฐีหน้าใหม่ที่ผู้คนจับตามอง ในช่วงเวลานั้นเธอได้รับความรักใคร่จากสามีเป็นอย่างดี เขาทั้งดูแลเธอ ให้เกียรติเธอ และตั้งใจทำมาหากินอยู่เสมอ แต่หลังจากประสบความสำเร็จได้เพียงปีเศษ ทุกอย่างก็กลับตาลปัตร และนั่นทำให้เธอแตกสลายลงอย่างช้า ๆ สามีที่ครั้งหนึ่งเคยเอาใจใส่ คอยดูแล และตั้งใจทำมาหากิน พอมาวันนี้กลับเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับเมียน้อยสาวรุ่น ปล่อยให้พลอยพรรณกลายเป็นเพียง เครื่องประดับ ชิ้นหนึ่งในคฤหาสน์หรูหลังนี้ กลางวัน เธอแต่งหน้า ทาปาก ยิ้มหวานให้ใคร ๆ เห็น ในยามค่ำคืน เมื่อไม่มีใครเห็น พลอยพรรณก็ถอดคราบคุณนายออก และนั่งกอดเข่าตัวเองใต้แสงไฟสลัว พร้อมเสียงหัวใจที่แตกสลายดังสะท้อนอยู่ในอกเงียบ ๆ เธอไม่ได้ต้องการเงินทองอีกแล้ว... สิ่งที่เธอต้องการ มีเพียงสายตาของใครสักคน ที่มองเธอด้วย ความรัก ไม่ใช่ ความเป็นเจ้าของ แต่ในบ้านหลังใหญ่ที่เหมือนกรงทองนี้ จะมีใครมองเห็นหัวใจที่ร้าวรานของเธอบ้าง... เสียงสายน้ำจากฝักบัวแบบ Rain Shower หยุดลงช้า ๆ พลอยพรรณเช็ดตัวเบา ๆ ก่อนหยิบชุดคลุมเนื้อบางขึ้นมาสวม เธอสาดสายตาจ้องมองกระจก จับจดใบหน้าตนเองนิ่งงัน ผู้หญิงที่ใครต่อใครต่างบอกว่าสวยสง่าแม้ไร้เครื่องสำอาง ในยามนี้ ดวงตากลับฉาดฉายความรู้สึกเศร้าลึก "ไม่เป็นไร ลองดู อาจจะดีขึ้นก็ได้..." ริมฝีปากแดงระเรื่อได้แต่พยายามเผยอยิ้มจาง ๆ อย่างให้กำลังใจตัวเอง คืนนี้เธอจะลองทำมันอีกสักครั้ง เมื่อก้าวเท้าออกจากห้องน้ำ พลอยพรรณมองเห็นว่าวิชัย สามีของตัวเอง กำลังยืนแต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่ เขาสวมเสื้อเชิ้ตใหม่เอี่ยม ฉีดน้ำหอมราคาแพงจนกลิ่นฟุ้งแตะจมูก สิ่งเหล่านั้นทำให้หญิงสาวใจสั่นขึ้นมาวูบหนึ่ง "พี่วิชัย จะออกไปไหนเหรอคะ" เธอจงใจใช้เสียงหวานอย่างเอาใจและมีความหมายลึกซึ้ง แต่ทว่าเศรษฐีหนุ่มใหญ่กลับปรายตามองเธอเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก่อนจะตอบกลับมาเสียงห้วน ๆ "ออกไปข้างนอก มีธุระ" คำตอบของเขาทำให้พลอยพรรณรู้สึกสะเทือนใจไม่น้อย แต่เธอก็ยังพยายามยิ้มหวาน และเดินเข้าไปใกล้แผ่นหลังใหญ่ ก่อนที่มือบางจะเอื้อมแตะเบา ๆ ที่ต้นแขนล่ำสันของสามี พลางลูบไล้ปลายนิ้วลงมาช้า ๆ อย่างเชื้อเชิญ "ดึกขนาดนี้แล้ว... นอนพักก่อนดีกว่าไหมคะ..." น้ำเสียงเธอแผ่วลง คล้ายกระซิบอย่างเย้ายวน "พลอยเหงา... เราสองคนไม่ได้..." เธอยังพูดที่ทันจบ แทนที่วิชัยจะหวั่นไหว เขากลับสะบัดแขนออกคล้ายว่ารำคาญและรังเกียจเธอเสียเต็มประดา "อย่ามายุ่ง! รำคาญ!" เขาขมวดคิ้วพลางตวาดเสียงใส่ ก่อนหยิบกุญแจรถแล้วรีบก้าวฉับ ๆ ออกไป ทิ้งให้พลอยพรรณยืนตัวแข็งอยู่กลางห้องนอนกว้าง จนเมื่อตั้งสติได้ เธอจึงรีบสาวเท้าตามเขาไปอย่างรวดเร็ว "พี่วิชัย!" เสียงหวานพยายามร้องเรียกสามีอีกครั้ง พลางเร่งย่ำเท้าก้าวเดินตามร่างท้วมของสามีไปโดยเร็วที่สุด หากแต่สุดท้ายก็ไม่ทัน โครม! เสียงประตูบ้านปิดดังลั่น ทำเอาหัวใจของเธอสั่นสะท้าน ทั้งอับอาย ทั้งเจ็บปวด จนน้ำตาเอ่อขึ้นโดยไม่ทันรู้ตัว ชุดคลุมบางเบาแนบผิวเนื้อเริ่มเย็นเฉียบเพราะกระแสลม ราวกับเตือนให้เธอรู้สึกถึงความว่างเปล่าที่โอบล้อมทั้งกายใจ เสียงเครื่องยนต์คันหรูแล่นออกจากประตูรั้วอย่างไร้เยื่อใย ทิ้งไว้เพียงฝุ่นเบาบางและความว่างเปล่าที่คลุ้งอยู่ในอากาศ พลอยพรรณยืนเหม่อมองตามแผ่นหลังกว้างของสามีอยู่ที่หน้าประตู ริมฝีปากที่ทาลิปสติกสีแดงสดเม้มแน่น ไม่มีกระจิตกระใจแม้แต่จะเช็ดหยาดน้ำตาเล็ก ๆ ที่คลอเบ้า ได้แต่ยืนนิ่งอย่างคนที่ไม่รู้จะจัดการกับความเศร้าในใจของตัวเองอย่างไรดี พลันก็แว่วเสียงทุ้มแหบมาจากทางสวนหย่อมข้างบ้าน "คุณพลอย..." เธอสะดุ้งนิด ๆ ด้วยความตกใจ ระคนงุนงง ก่อนจะหันไปเห็น นายเชษ คนสวนหนุ่มที่อยู่ประจำบ้านมาหลายปีแล้ว เขาเป็นชายหนุ่มวัย 20 ปลาย ๆ มีรูปร่างสูงใหญ่ สวมเสื้อเชิ้ตสีซีด กางเกงยีนส์เก่า ๆ มือหนาเปื้อนดินโคลน ทำงานหนักตลอดทั้งกลางวันและกลางคืนจนร่างกายกร้านกรำ หากแต่แววตาใต้คิ้วหนานั้นกลับแฝงด้วยความอ่อนโยน เมื่อเขาเห็นเธอทำท่าคล้ายจะร้องไห้ แต่ไม่รู้จะพูดปลอบอย่างไรดี จึงได้แต่เกาศีรษะตัวเองแก้เขิน ก่อนจะเหลือบมองไปที่แปลงกุหลาบสไตล์อังกฤษข้างรั้ว ซึ่งเขาเป็นคนดูแล จู่ ๆ นายเชษก็เดินกลับไปยังสวนนั้นแล้วใช้กรรไกรตัดกิ่งที่เหน็บกระเป๋าคาดเอว เลือกตัดเอาดอกที่สวยที่สุด แล้วบรรจงส่งกุหลาบสีขาวดอกนั้นให้เธอด้วยท่าทีเขินอายเล็กน้อย "เอ่อ...คือว่า ผมไม่เก่งเรื่องพูดเท่าไร...แต่คุณพลอยอย่าร้องไห้เลยนะครับ" เสียงเขาดูไม่มั่นใจนัก แต่ก็จริงใจจนเธอประทับใจ พลอยพรรณทอดมองกุหลาบเปื้อนดินในมือหยาบกร้าน ดอกไม้ที่ไม่หรูหราโอ่อ่าเหมือนช่อที่สามีเธอเคยซื้อให้เมื่อนานมาแล้ว มันมีรอยขูดขีดตามกลีบจากการอยู่กลางแดดกลางฝน แต่กลับสวยและซื่อตรงอย่างน่าประหลาด เธอลังเลอยู่เล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ยื่นมือบางไปรับมาช้า ๆ ริมฝีปากอวบอิ่มสั่นเบา ๆ ก่อนจะหลุบตาลงต่ำ เหมือนคนกำลังจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่ กุหลาบที่นายเชษยื่นให้ ไม่ได้ห่อหุ้มด้วยกระดาษราคาแพง ไม่มีแม้แต่ริบบิ้นประดับ มีแต่เพียงความจริงใจและสายตาของเขา...ที่มองเธอเหมือน ผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่ใช่เครื่องประดับราคาแพง และในเสี้ยววินาทีนั้นเอง หัวใจของพลอยพรรณก็รู้สึกเหมือน มีตัวตน อีกครั้ง... . . .
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม