ตอนที่ 19 อดีตไม้เบื่อไม้เมา
ในพิมพ์ลดาก็ยอมกลับกับอัคคี หญิงสาวนั่งนิ่ง ไม่พูดไม่จาอะไรสักคำทำให้บรรยากาศภายในรถค่อนข้างอึดอัด ตอนนี้พอจะยอมรับความจริงได้บ้างแล้วว่าอัคคีไม่ได้รักเธอ ที่ผ่านมาเขาแค่แกล้งรักเพื่อให้เธอตายใจและยังไม่รู้ว่าบทสรุปสุดท้ายของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร หากเป็นเรื่องเข้าใจผิดจริงๆ อัคคีคงต้องใช้ทั้งชีวิตเพื่อขอโทษเธอ
ชายหนุ่มใบหน้าคมเข้มเหลือบมองร่างเล็กด้วยหางตา แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปากถาม เสียงมือถือเครื่องหรูที่วางอยู่ข้างๆก็แผดดังขึ้น ทำให้หญิงสาวที่นั่งเหม่อตั้งแต่ออกมาจากบ้านหันมามองแล้วก็เห็นชื่อของใครบางคนโชว์อยู่บนหน้าจอมือถือ
‘อังศุมา’
เมื่อเห็นว่าพิมพ์ลดามองเขาก็รีบกดตัดสายทันที พร้อมกับหันมาตำหนิเบาๆ
“ไม่มีมารยาท”
“….” พิมพ์ลดานิ่งเหมือนโดนคำสาป มองใบหน้าคมตาไม่กระพริบ ทั้งๆที่ควรจะชิน แต่ทำไมลึกๆใจก็ยังเจ็บอยู่เหมือนเดิม
เมื่อก่อนเธอเคยมีเพื่อนร่วมชั้นเรียนชื่อ 'อังศุมา' แต่ไม่ค่อยจะลงรอยกันเท่าไหร่เพราะครอบครัวเป็นคู่แข่งทางธุรกิจกัน แต่หลังจากนั้นไม่นานครอบครัวของอังศุมาก็โดนพิษเศรษฐกิจเล่นงานทำให้บริษัทของเกรียงไกรเข้ามาแทนที่ จนทำให้อังศุมาเกิดความริษยา หาเรื่องกลั่นแกล้งพิมพ์ลดา แถมยังชอบปั่นให้เพื่อนๆในห้องเกลียดเธอ ซึ่งพิมพ์ลดาก็เคยมีประเด็นเรื่องที่ไม่ค่อยได้ทำกิจกรรมกับเพื่อนๆจนโดนล้อว่าเป็นเด็กเส้น ทำให้เธอเลือกที่จะอยู่คนเดียว ไม่สุงสิงกับใคร แต่กว่าจะผ่านจุดนั้นมาได้ก็โดนอังศุมากลั่นแกล้งสารพัด
...เธอยังจำความรู้สึกนั้นได้ดี
ขออย่าให้เป็นอังศุมาที่เธอเคยรู้จักเลย
“ฉันจะไปส่งเธอที่บ้าน ดึกๆเดี๋ยวกลับ”
“จะไปไหนหรอคะ”
“ออกไปทำธุระข้างนอก นี่ฉันต้องรายงานเธอตลอดเวลาเลยหรอ”
“...” พิมพ์ลดาเม้มปากเข้าหากัน ใช่! เธอไม่มีสิทธิ์ถาม เพราะทุกอย่างไม่เหมือนเดิมแล้ว
“คืนนี้ฉันจะกลับมานอนที่บ้าน”
“คะ?” เธอเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ ถ้าจำไม่ผิด ป้าเนียมบอกว่าตั้งแต่พ่อกับแม่เสีย อัคคีก็ไม่เคยมานอนที่บ้านอีกเลย
“เลิกทำหน้าโง่ๆสักที นั่นบ้านฉัน ถ้าไม่กลับมานอนบ้านแล้วจะให้ฉันไปนอนไหน!” เขากระแทกเสียงด้วยท่าทีหงุดหงิด
“ก็ป้าเนียมบอกว่าปกติคุณอัคคีไม่นอนบ้านนี่คะ แล้วทำไม...”
“อย่าพูดมากได้ไหมฉันรำคาญ ถึงบ้านแล้วก็ลงไปสิ ฉันมีธุระต่อ!”
พิมพ์ลดาเงยหน้ามองสีหน้าหงุดหงิดของเขาอีกรอบก่อนจะตัดสินใจก้าวลงจากรถไป และเมื่อเท้าแตะพื้น อัคคีก็ขับรถออกไปทันที เธอหันกลับไปมอง เหมือนมีอะไรบางอย่างดลใจให้ตามไป
คนที่โทรเข้ามา คงไม่ใช่อดีตไม้เบื่อไม้เมาของเธอใช่ไหม?
เมื่อคิดได้เช่นนั้นพิมพ์ลดาก็รีบโทรเรียกแท็กซี่ทันที ต้องรู้ให้ได้ว่าอัคคีไปหาผู้หญิงที่ชื่ออังศุมาหรือเปล่า
@หนึ่งชั่วโมงต่อมา
ในที่สุดอัคคีก็ขับรถมาถึงภัตตาคารสุดหรูที่นัดกับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจเอาไว้ ซึ่งคุณน้าของเขามาถึงก่อนหน้านี้แล้ว
“นั่นไง ตาคีย์มาพอดีเลย”
เพียงแค่ได้ยินชื่อของใครบางคนทำให้หญิงสาวที่กำลังนั่งเขี่ยโทรศัพท์เล่นรีบเงยหน้าขึ้น หัวใจของหล่อนพองโตทุกครั้งที่เจอหน้าเขา ปฏิเสธไม่ได้ว่าหล่อนชอบเขา ชอบตั้งแต่เจอกันครั้งแรกและครอบครัวของหล่อนเองก็ถูกอกถูกใจผู้ชายคนนี้เหมือนกัน
“ขอโทษนะครับที่ให้รอนาน พอดีรถค่อนข้างติดครับ” ชายหนุ่มโค้งศีรษะให้ผู้ใหญ่ด้วยความเคารพ ก่อนหันไปส่งยิ้มให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ “ขอโทษนะที่พี่ไม่ได้รับสายน้องอัง พอดีพี่รีบขับรถอยู่”
“ไม่เป็นไรค่ะ อังแค่จะโทรไปถามเฉยๆว่าพี่คีย์ถึงไหนแล้ว” หล่อนฉีกยิ้มหวานฉ่ำหวังมัดใจชายหนุ่ม ถ้าจำไม่ผิด นี่ก็น่าจะเป็นครั้งที่สามแล้วที่เจอกัน แต่อัคคีก็ยังมีท่าทีเมินเฉยเหมือนเดิม
หล่อนจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ผู้ชายคนนี้มา เพราะหลังจากนี้ถ้าร่วมทำธุรกิจด้วยกันก็คงต้องเจอกันบ่อยขึ้น
น้ำหยดลงหินทุกวันหินยังกร่อน นับประสาอะไรกับใจคน
“ไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่าคุณหญิงจะมีหลานชายรูปงามขนาดนี้” ชายอายุราวๆห้าสิบกว่าเอ่ยปากชมก่อนจะปรายตามองไปทางลูกสาว เพียงเท่านี้ก็รู้แล้วว่าลูกสาวคิดยังไงกับชายหนุ่มคนนี้
“บ้านนี้หน้าตาดีกันทั้งบ้านค่ะ” คุณหญิงเทียมศิริหัวเราะคิกคักด้วยความชอบใจ
“ว่าแต่...หล่อๆแบบนี้มีแฟนแล้วหรือยังล่ะ”
“มะ...”
“ยังไม่มีครับ”
คุณหญิงเทียมศิริรีบหันขวับมาทางหลานชาย หล่อนไม่อยากให้อัคคีโกหกพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจว่าโสดทั้งๆที่เพิ่งแต่งงานได้ไม่นาน เพราะในอนาคตยังไงทุกคนก็ต้องรู้แล้ว
ก็ได้แต่ส่วยหน้าให้กับความร้ายกาจของหลานชาย ลึกๆก็อดสงสารพิมพ์ลดาไม่ได้ที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้
“งั้นก็ดีเลย หนูอังก็โสดเหมือนกัน หวังว่าคุณอัคคีจะรับลูกสาวของผมไปพิจารณานะครับ มันคงจะดีมากๆเลยถ้าในอนาคตเราสองคนกลายมาเป็นบริษัทเดียวกัน” เปรมชัยพูดติดตลกก่อนจะหันหน้าไปทางลูกสาวอีกรอบ
“คุณพ่อก็....ไปพูดแบบนี้กับพี่คีย์ได้ยังไง วันนี้เรามาคุยเรื่องงานกันนะคะ” อังศุมาบิดตัวไปมาด้วยความขวยเขิน แกล้งปฏิเสธเพราะหล่อนยังไม่อยากออกตัวแรง
เชื่อว่าในอนาคตยังไงเขาก็ต้องเป็นของหล่อนอย่างแน่นอน เพราะไม่เคยมีผู้ชายคนไหนปฏิเสธคนอย่างอังศุมา
“ไม่น่าเชื่อนะครับ น้องอังสวยขนาดนี้กล้าโสดได้ยังไง” อัคคียิ้มหวาน โปรยเสน่ห์กลับ ทำเอาอีกคนหัวใจเต้นรัวจนเก็บอาการไว้แทบไม่อยู่
“เพราะอังยังไม่เจอคนถูกใจค่ะ”
“แล้วคนแถวๆนี้ล่ะครับ ไม่มีใครถูกใจเลยหรอ”
“...” อังศุมาจิกเท้าลงบนพื้นกลบความขวยเขิน พอจะดูออกว่าเขากำลังสื่อถึงอะไร “มีสิคะ แต่ไม่รู้ว่าเขาคนนั้นจะคิดแบบเดียวกันกับอังหรือเปล่า”
อัคคีไม่ตอบเพียงแต่กระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะเอนกายพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทางผ่อนคลาย เขารู้ว่าโต๊ะข้างหลังเป็นใคร เพราะได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆเหมือนที่เขาเคยซื้อให้พิมพ์ลดา ความจริงเขารู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าเธอแอบตามมา
กึก!
หญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างหลังหัวใจแตกสลาย สายตาว่างเปล่า แม้จะมีแจกันดอกไม้ขนาดใหญ่กั้นอยู่ แต่เธอก็รับรู้ได้ว่าโต๊ะนั้นพูดอะไรกันบ้าง
กรอบแว่นสีดำไม่อาจกักเก็บหยาดน้ำตาไว้ได้ มันค่อยๆไหลลงมาอย่างไม่รู้ตัว ไร้เสียงสะอื้นใดๆ ในเวลานี้เธอสงสารตัวเองที่สุด นอกจากจะเจอกับรักที่ไม่สมหวังแล้วยังมาเจอกับอดีตไม้เบื่อไม้เมาที่เคยกลั่นแกล้งเธอจนไม่มีเพื่อน
ใช่! ผู้หญิงคนนั้นคืออังศุมา....อดีตเพื่อนร่วมห้องของเธอเอง!