บทที่ 1 - เงื่อนไขการแต่งงาน [2]

1170 คำ
“อย่าโง่” ตรีทศดุ “แต่งงานกับฉันแล้วได้อยู่บ้านหลังใหญ่ สุขสบาย มีเงินให้ใช้มากเท่าที่เธอต้องการ ไม่ดีตรงไหน” “จะว่าพรีมโง่ก็ได้ แต่ถ้าให้แต่งงานกับพี่แทน พรีมยอมออกไปเป็นเด็กเร่ร่อนข้างถนนดีกว่า” “เด็กบ้านี่! เธอรังเกียจฉันมากขนาดนั้นเลยเหรอ” ตรีทศกัดฟันกรอดๆ เกิดมาไม่เคยถูกผู้หญิงหน้าไหนหยามขนาดนี้มาก่อน พิมดาริกาเม้มปากแน่น ไม่อยากโต้เถียงกับเขาให้เป็นเรื่องเป็นราว แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ง่ายๆ จึงใช้เงินก้อนโตฟาดหัวเธอ “ฉันจ้างสิบล้าน แต่งงานแล้วมีลูกด้วยกัน” “พรีมไม่แต่ง” หญิงสาวยืนยันคำเดิม “ยี่สิบล้าน” “ไม่ค่ะ” “สามสิบล้าน” “ไม่ค่ะ” “พรีม” ตรีทศกัดฟันเรียกชื่อเด็กดื้อด้วยน้ำเสียงกดต่ำ เขารู้ว่าเธอจงใจยั่วโมโห หวังจะให้เขายอมแพ้ แต่ฝันไปเถอะ คนอย่างเขาไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ “ต้องการเงินเท่าไหร่ถึงจะยอมแต่ง ว่ามา!” “หนึ่งร้อยล้าน ถ้าพี่แทนยอมจ่าย พรีมก็ยอมแต่ง” พิมดาริกาแกล้งเรียกราคาสูงลิบลิ่วเพราะคิดว่าเขาคงไม่ยอมทุ่มทุนให้เธอขนาดนั้น ทว่าเธอคิดผิด “ก็ได้! ร้อยล้านก็ร้อยล้าน” ตรีทศยิ้มมุมปากอย่างคนเจ้าแผนการ เขาไม่ได้ยอมแพ้ เพียงแต่ยอมถอยหนึ่งก้าวเพื่อรอวันเอาคืน เมื่อถึงวันนั้นอย่ามาร้องขอความเห็นใจก็แล้วกัน “งั้นก็วางเงินมาเลยค่ะ” “ฉันจะให้ แต่ไม่ใช่วันนี้” “แล้วพี่แทนจะให้พรีมเมื่อไหร่คะ” พิมดาริกาถามหน้าง้ำอย่างไม่พอใจ เธอคิดไว้อยู่แล้วว่าเขาต้องไม่ยอมง่ายๆ แน่ “ฉันจะให้ครึ่งนึงวันที่เราแต่งงานกัน อีกครึ่งนึงวันที่เราหย่ากัน” “กลัวพรีมโกงเหรอคะ” “คิดว่าตัวเองน่าไว้ใจนักหรือไง” ตรีทศแค่นยิ้ม “ถ้าฉันจ่ายเงินก่อนแล้วเธอหอบเงินหนีใครจะรับผิดชอบ” “พรีมไม่ใช่คนขี้โกงแบบนั้นหรอกน่า” “ยังไงฉันก็ไม่ไว้ใจเธอ” ตรีทศขึงตาใส่หญิงสาวหน้าซื่อตาใสแล้วหันไปรวบรัดสรุปกับทนายความหน้าตาเฉย “พรีมยอมแต่งงาน ยอมมีลูกกับผมแล้วครับ” “พี่แทน...” พิมดาริกาจะคัดค้าน แต่ก็พูดได้เพียงเท่านั้นเพราะถูกตรีทศดุขึ้นเสียก่อน “อย่างอแง! เธอเรียกเงินค่าจ้างแต่งงานร้อยล้าน ฉันก็ยอมจ่าย คุณย่ากับคุณอาทนายก็ได้ยิน ในเมื่อพูดออกมาแล้วก็ต้องรักษาคำพูด อย่าทำตัวเป็นพวกปากพล่อย สักแต่พูดไปเรื่อยเปื่อย เชื่อถือไม่ได้” พิมดาริกาหน้าชาจนแทบจะไร้ความรู้สึก ครั้นจะหันไปขอความช่วยเหลือจากเดือนประดับ ท่านก็ทำสีหน้าเรียบเฉยราวกับเห็นด้วยกับคำตำหนิของตรีทศ ทำให้คน ‘ปากพล่อย’ จำเป็นต้องยอมรับผลกรรมจากการพูดไม่คิดของตัวเอง “ก็ได้ค่ะ พรีมจะรักษาคำพูด พี่แทนก็อย่าผิดสัญญาก็แล้วกัน ถ้าถึงวันแต่งงานแล้วพี่แทนไม่ยอมจ่ายเงินให้พรีม เรามีเรื่องกันแน่” “คนอย่างฉันพูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว” “ถ้าคุณพรีมกับคุณแทนตกลงกันได้แล้วก็ช่วยเซ็นสัญญายอมรับเงื่อนไขพินัยกรรมให้ผมด้วยนะครับ” ศุภชัยส่งเอกสารพร้อมปากกาให้ตรีทศเซ็นก่อน หลังจากตรีทศเซ็นเสร็จ เขาก็ส่งเอกสารพร้อมปากกาให้พิมดาริกาเซ็นต่อ หญิงสาวจรดปากกาเตรียมจะเซ็นชื่อแต่เกิดลังเลใจขึ้นมาอีกครั้งจึงหันไปมองหน้าเดือนประดับเป็นเชิงปรึกษาว่าจะเซ็นดีหรือไม่ “เซ็นเถอะลูก ลุงภูมิของหนูคงคิดดีแล้วถึงได้สร้างเงื่อนไขแบบนี้ขึ้นมา” “ค่ะคุณย่า” พิมดาริการับคำแล้วเซ็นชื่อลงบนเอกสารโดยไม่สนใจที่จะอ่านรายละเอียดเช่นเดียวกับตรีทศ วันนี้เธอจะยอมทำตามน้ำไปก่อน มีเวลาอีกตั้งสองปีกว่าจะถึงวันแต่งงาน ยังมีเวลาคิดหาทางออก เมื่อลงชื่อเสร็จ หญิงสาวก็ส่งเอกสารคืนทนายความ ศุภชัยรับเอกสารสัญญามาตรวจดูความเรียบร้อยเมื่อเห็นว่าถูกต้องแล้วจึงอธิบายรายละเอียดในส่วนของงานที่ตรีทศต้องรับผิดชอบให้เขาฟัง “คุณแทนยังคงดำรงตำแหน่งรองประธานฯ เหมือนเดิม ส่วนตำแหน่งประธานฯ คุณเดือนประดับจะเป็นผู้รักษาการ รวมถึงเป็นผู้จัดการมรดกด้วย” “เรื่องตำแหน่งผมไม่มีปัญหา” ตรีทศบอกด้วยท่าทางสบายๆ เพราะสุดท้ายแล้วตำแหน่งประธานฯ บริษัท รวมถึงสมบัติทุกอย่างก็ต้องเป็นของเขาอยู่ดี หลังจากเคลียร์เรื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ทนายความจึงขอตัวกลับ ส่วนเดือนประดับก็ปลีกตัวออกไปดูคนสวนลงกุหลาบที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ปล่อยให้สองหนุ่มสาวนั่งมองหน้ากันด้วยความกระอักกระอ่วนใจ จนในที่สุดพิมดาริกาก็เป็นฝ่ายทนอึดอัดไม่ไหว ลุกหนีออกไปก่อน ตรีทศมองตามร่างเล็กที่วิ่งหนีเขาขึ้นไปชั้นบนอย่างเร็วจี๋ ราวกับรังเกียจเขานักหนาแล้วนึกฉุน จึงลุกขึ้นแล้วเดินเร็วๆ ตามไป “คุยกันก่อนพรีม” ตรีทศจับขอบประตูห้องนอนของพิมดาริกาไว้ได้ทันก่อนที่มันจะถูกปิดสนิท “พรีมไม่มีอะไรจะคุยกับพี่แทน” หญิงสาวตอบเสียงเบา ใบหน้ารีรูปไข่โผล่พ้นกรอบประตูออกมาแค่เสี้ยวเดียว “แต่ฉันมี” ชายหนุ่มจะผลักบานประตูเข้าไป ทว่าเจ้าของห้องออกแรงต้านไว้ “พี่แทนจะคุยเรื่องอะไรคะ” “เรื่องเงื่อนไขพินัยกรรมข้อที่สอง” “ก็คือเรื่องที่เราต้องแต่งงานกัน แล้วก็มีลูกด้วยกัน” “ใช่” “คุณอาทนายบอกชัดเจนแล้ว พรีมเข้าใจหมดแล้ว พี่แทนไม่ต้องคุยอะไรแล้ว” ว่าแล้วก็ฉวยโอกาสที่อีกฝ่ายเผลอผลักบานประตูปิดแล้วกดล็อกทันที “เด็กบ้านี่! กล้าปิดประตูใส่หน้าฉันเหรอ” ตรีทศฉุนจัด เดินปึงปังกลับไปที่ห้องนอนของตัวเองที่อยู่ตรงกันข้ามกับห้องนอนของพิมดาริกา พิมดาริกาได้ยินเสียงเขาปิดประตูเสียงดังโครมทะลุเข้ามาถึงในห้องนอนของเธอ แรงกระแทกขนาดนี้รู้เลยว่ากำลังโกรธจัด “พรีมไม่ได้ทำอะไรให้สักหน่อย เรื่องอะไรมาโกรธพรีม” หญิงสาววัยสิบเก้าปีบ่นอุบอิบพลางเดินไปทิ้งตัวนอนคว่ำหน้าพาดกลางเตียง ถ้าเธอมีญาติพี่น้องคนอื่นให้พึ่งพาก็คงไม่ต้องทนอยู่ที่นี่ให้เป็นที่ขวางหูขวางตา ‘ผู้ปกครอง’ คนใหม่แบบนี้หรอก ผู้ปกครองที่อีกสองปีจะเลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นสามีและพ่อของลูก!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม