โยชินเหมือนกับถูกสาปไว้ไม่ให้ขยับ ร่างสูงหยุดการเคลื่อนไหว ภาพที่เห็นคนรักเก่าปรากฏตัวขณะนี้ทำให้เขาตกใจเป็นที่สุด จะบอกว่าดีใจก็ไม่ใช่ หรือว่าเสียใจก็ไม่เชิง มันยากเกินจะอธิบาย
“อุ๊ย!!โยชิน ทางนี้ๆ เซอร์ไพร์” เสียงหวานดังผ่าวงล้อมของนักข่าวชายหนุ่ม คลี่ยิ้มแล้วเดินเข้าไปหาผู้มาเยือนอย่างช้าๆ
“มาเมื่อไหร่เนี่ย” ชายหนุ่มเอ่ยพลางมองหน้าหญิงสาวตรงหน้า สายตาคมกวาดมองใบหน้าของเจ้าหล่อนนิ่ง
“อื้อหือ น้องโยชินรู้สึกอย่างไรบ้างคะตอนนี้” นักข่าวต่างพากันยื่นไมค์ให้ชายหนุ่มพูด
“เอ่อๆ ก้อๆ ดีใจฮะ เซอร์ไพร์มากเลยด้วย” ร่างสูงตอบนักข่าวโดยไม่ลืมที่จะหันไปยิ้มกับอดีตคนรัก
“ศศิก็กะมาเซอร์ไพร์ไง แต่ว่าไม่ทัน ให้ที่นี่แล้วกันนะ” ศศิยื่นช่อดอกไม้ในมือนั้นให้กับโยชิน ทำเอาโยชินหน้าแดงขึ้นมาทันที จากนั้นนักข่าวต่างรุมล้อมสัมภาษณ์ทั้งคู่ ทุกคนตรงนั้นมีแต่เสียงหัวเราะและรอยยิ้ม แต่หญิงสาวร่างเล็กที่ยืนหลบมุมอยู่ตรงนี้สิข้างในเหมือนมีเสียงร้องไห้ ญารินบอกกับตัวเอง หล่อนหันหลังให้กับภาพนั้นแล้วเดินจากไปอย่างช้าๆ
“ไปหาอะไรกินกันนะโยชิน ศศิเพิ่งลงเครื่องหิวมากเลย”
“ได้สิ ร้านไหนดี”โยชินหันไปมองหน้าหญิงสาวที่ไม่ได้เจอกันนานเกือบ 5 ปีแล้ว
“ร้าน A ดีกว่า ศศิชอบ”
“ได้สิ ไปกันๆ” โยชินเดินนำไปยังรถของเขา ชายหนุ่มคลี่ยิ้มให้กับศศิ รอยยิ้มที่แสนหวานนั้นเขาจำได้เป็นอย่างดี เพราะในชีวิตนี้มีไม่กี่คนหรอกที่เขารู้สึกชอบรอยยิ้มนั้น มีศศิแล้วก้อ...คิ้วคมขมวดเข้าหากันเมื่อนึกขึ้นได้ เรานัดกับเด็กนั่นไว้ที่คอนโดนี่หน่าลืมเลย โยชินรีบหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาเจ้าหล่อนทันที
“ฮัลโหล....ญารินเหรอ วันนี้ไม่ต้องไปที่คอนโดพี่แล้วก็ได้ เดี๋ยววันหลังพี่นัดเจอนะ”
“อ่อค่ะ” ญารินขานรับน้ำเสียงอ่อย หล่อนกดวางสายหลังจากที่ได้ยินเสียงของเขากดวางสายก่อนนั้น
“อะไรเนี่ยญาริน ทำไมหัวใจหล่อนเจ็บแบบนี้” ร่างเล็กที่แอบยืนมองเขาอยู่นั้นรีบหันหลังแล้วกุมหน้าอกตัวเองเบาๆด้วยความรู้สึกปวดร้าว
“เธอเลือกเองนะ เธอเลือกที่จะเจ็บแบบนี้ญาริน” หล่อนบอกตัวเองย้ำไปย้ำมาระหว่างที่ยืนเหม่อนั้น
“อ้าว..ญารินมายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ ปะ กลับบ้านกัน” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น ร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อยแล้วรีบปาดน้ำตาก่อนที่จะหันไปหาต้นเสียงด้วยสีหน้าปกติ
“เป็นอะไรหรือเปล่า ไม่พูดตลอดทาง”
“ปะ ป่าวค่ะพี่อาร์ท รู้สึกเบื่อนิดหน่อย” ญารินบอกเพื่อนรุ่นพี่ตามตรง
“อืม พี่ก็เบื่อ กลับบ้านไปก็อยู่คนเดียว”
“อ้าวแล้วแฟนพี่หละคะ”
“พี่เลิกได้เกือบปีแล้ว”
“จริงเหรอคะ หนูก็ไม่มีแฟนเหมือนกัน” ญารินหันไปยิ้มสดใส หล่อนพยายามฝืนทุกการกระทำ
“เหรอ ไม่อยากเชื่อเลย งั้นเราไปเที่ยวเปิดหูเปิดตากันดีกว่า แก้เบื่อนึ” อาร์ทพยักหน้าแล้วยิ้มให้ ญารินยิ้มกว้าง แล้วปล่อยให้เพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นหนุ่มLเดินนำไปยังรถของเขา
ณ ผับแห่งหนึ่ง
ญารินก้มมองตัวเองที่ถูกพี่อาร์ทจับแปลงโฉมเป็นสาวเฉี่ยว เปรี้ยวเข็ดฟันเช่นนี้ เขาบอกว่ามาหาอ่อยหนุ่มๆแถวนี้ เผื่อได้กลับบ้านสักคนสองคน
“อื้อ ยืนอยู่ทำไมเนี่ยญาริน ปะ ไปกันดีกว่า” เพื่อนรุ่นพี่เดินนำเข้าไปก่อน โดยไม่ลืมหันมาลากแขนเล็กของหล่อนให้เดินตามนั้น แสงไฟสลัวและเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม ทำให้ญารินรู้สึกสนุกขึ้นมาบ้าง
“อื้อ พี่อาร์ท ไปไหนคะเนี่ย”
“ก็มานั่งโต๊ะนี้ไง พี่จองไว้เอง ดื่มเต็มที่วันนี้พี่เลี้ยง”
“อื้อ จริงเหรอคะ ถ้าอย่างนั้นหนูไม่เกรงใจแล้วน๊า” ร่างเล็กรีบสั่งน้ำเมาที่หล่อนชอบ เอาวะคืนนี้ต้องเมาย้อมใจสักหน่อย เรามันแค่คู่นอน ใครจะไปสู้รักแรกได้ล่ะ ร่างเล็กคิดอย่างน้อยใจ
“อื้อ เต็มที่เลย ถือว่าขอบคุณที่เธอช่วยงานพี่วันนี้”
แกร่ง!!! สองหนุ่มสาวยกแก้วชนกันอย่างไม่ขาด เมื่อน้ำเปลี่ยนนิสัยบรรจุเข้าร่างกายแล้วนั้น สติที่มันไม่ค่อยมีอยู่เดิมแล้วเริ่มที่จะเลือนหาย ญารินทั้งดื่มทั้งแดนซ์อย่างสุดเหวี่ยง หล่อนออกสเต็ปอยู่ข้างๆโต๊ะที่หล่อนนั่ง ด้วยหน้าตาและเรือนร่างที่เย้ายวนชวนมอง ร่างน้อยนั้นจึงเป็นจุดสนใจของหนุ่มใกล้ๆ
“อุ๊ย!! โยชินดูน้องคนนั้นสิ ตัวเล็กน่ารักนึ สเป๊กโยชินเลย” โยชินขยับหมวกตัวเองเล็กน้อยแล้วค่อยๆหันไปมองตามศศิ ทันทีที่ดวงตาปรับโฟกัสได้ ร่างสูงถึงกับกำมือแน่น ชายหนุ่มยืนมองอยู่สักพัก หญิงสาวชุดดำเกาะอกที่ถูกรุมล้อมด้วยบรรดาหนุ่มๆนั้น ญารินมาทำอะไรที่นี่ โยชินมองภาพนั้นอย่างขัดตาขัดใจเป็นที่สุด
“ใช่สเป็กโยชินหรือเปล่า ศศิจำได้ว่าตัวเองชอบผู้หญิงทรงนี้” โยชินหันไปยิ้มให้กับร่างบางที่นั่งกระแซะเขา นี่หากไม่ปลอมตัวมาเที่ยวจะเดินไปดูหน้าสักหน่อย จะกระชากถามสักทีว่าจะอยู่บ้านสักคืนไม่ได้เหรอยังไง ชายหนุ่มคิดในใจ ก่อนจะหันไปมองอีกครั้ง มือหนากำแก้วบรั่นดีนั้นแน่นแล้วกระดกของเหลวที่อยู่ในแก้วรวดเดียวหมด
“อื้อ โยชินเป็นอะไรหรือเปล่า” ศศิก้มลงไปหาเขา สายตาแห่งความอาลัยอาวรณ์ปรากฏขึ้น นี่หากหล่อนไม่เลือกความสบายป่านนี้หล่อนคงยังหวานชื่นกับเขา ไม่ต้องทนเป็นที่ลองมือลองตีนให้กับไอ้มาร์คแบบนี้ ศศิคิดในใจพรางซบหน้ากับบ่าอุ่นๆของเขา
“อื้ม ไม่มีอะไรหรอก” โยชินหันไปตอบเสียงเรียบ โดยไม่วายมองร่างเล็กที่ดูจะมีความสุขอยู่กับหนุ่มๆที่รายล้อมอยู่นั้น
“หืม ชอบน้องเค้าเหรอ ศศิไปขอไลน์ให้เอาไหม” ศศิทำเป็นหวังดี แต่ใจจริงไม่อยากให้เขาไปมองใครเลยด้วยซ้ำ
“อื้อ ไม่เป็นไรหรอก โยชินไม่สนใจหรอก” ปากบอกไม่สนใจ แต่สายตามองตามหลังคนที่เดินโซซัดโซเซไปทางนั้น โยชินผุดลุกขึ้นตามไปเกือบจะทันที
“อ้าว...โยชินจะไปไหน อ้าว”ศศิมองร่างสูงอย่างไม่เข้าใจ แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีใครเฝ้าโต๊ะหล่อนจำต้องนั่งอยู่
ทางด้านของญาริน หล่อนขอตัวมาเข้าห้องน้ำ เพราะเริ่มรู้สึกตัวเองว่าไม่ไหว ดวงตาหวานปรือมองตามทาง ร่างบางของหล่อนพยายามทรงตัวให้ถึงที่หมาย ไม่ไหวๆ เดินจะไม่ตรงทางอยู่แล้ว ญารินส่ายหน้าตัวเองไปมา
โยชินก้มหน้า แล้วขยับหมวกแล้วเดินตามเจ้าหล่อนไปแบบเกือบจะประชิดตัว สายตามองแผ่นหลังเนียนนั้นอย่างหงุดหงิด นึกว่าเป็นเด็กใสๆ ที่ไหนได้ หึ สายตากวาดมองไปทั่ว เมื่อเห็นว่าไม่มีใคร ร่างสูงจึงรีบเดินตามเจ้าหล่อนแล้วเข้าห้องน้ำไปนั้น
“อุ๊ย!!ว๊าย...อุ๊บ!! อื้อ” ดวงตากลมหวานเบิกกว้างอย่างตกใจ เมื่อจู่ๆมีใครเดินตามหล่อนมาเข้าห้องน้ำนั้น หล่อนพยายามจะส่งเสียงร้อง แต่ก็ถูกเขาคนนั้นใช้มืออุดปากเธอเอาไว้
“อย่าเสียงดังนี่พี่เอง” โยชินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดังมากนัก เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพยายามปรือตามอง และร่างสาวนั้นหยุดดิ้นเขาจึงคลายมือออกจากการปิดปาก
“อุ๊ย!! พี่โยชิน มาได้ยังไงคะเนี่ย” น้ำเสียงที่ฟังไม่ค่อยเป็นศัพท์กับท่าทางที่โคตรอ่อย โยชินรู้ได้ทันทีว่าเจ้าหล่อนคงจะไม่มีสติแล้ว เห็นได้จากการยกมือขึ้นคล้องคอเขาแล้วรั้งร่างของเขาเข้าหา
“ใครใช้ให้มาเมาแบบนี้” น้ำเสียงที่แข็งกับสายตาเข้มที่มองมานั้นญารินไม่เกรงกลัวสักนิด หล่อนกลับยิ้มอ่อยและยั่วอารมณ์เขาเป็นที่สุด
“ก็โดนคนแถวนี้เท เลยต้องมาย้อมใจไงคะ” ร่างเล็กพยายามชี้มือชี้ไม้กับใบหน้าเขา โยชินคว้ามือเล็กเอาไว้มั่นแล้วมองหน้าอย่างเอาเรื่อง
“กลับไปคุยกันที่บ้าน” ไม่รู้ว่าเพราะอะไรจึงบอกไปแบบนั้น ก่อนที่จะคว้าข้อมือสวยแล้วเปิดประตูหมายจะออกไป
“อื้อ ไม่กลับ ไม่คุยค่ะ อยากคุยตรงนี้” ร่างเล็กกว่าพยายามโอบรอบคอเขาแล้วโน้มใบหน้าเขาลงต่ำ สายตาหล่อนมองจดจ่อยู่กับปากหยักน่าจูบนั้น
“นี่ญาริน!!” โยชินเอ่ยเสียงต่ำ แต่เมื่อเห็นว่าเจ้าหล่อนรีบเบียดกายเข้าหา จากนั้นก็เขย่งเท้าขึ้นมาจูบปากเขา ร่างโปร่งถึงกับตะลึงในความกล้าของอีกฝ่าย นี่เมาแล้วหื่น แบบนี้ถ้าปล่อยไว้มีหวังไปหื่นใส่ใครต่อใครเป็นแน่ โยชินคิดอย่างหนักใจ ก่อนที่จะปล่อยให้เจ้าหล่อนจูบอยู่อย่างนั้น....>>>>>>>