ตอนที่3 ถ้าเธอตายไป

872 คำ
“ไม่เห็นนายเคยบอกเลยว่าจะมีเมีย” เสียงเรียบนิ่งของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นถามเธอ แต่ใบหน้าของเขาถูกคลุมด้วยผ้าขาวม้าลายสก็อตขาวดำ ทำให้มองเห็นแค่ดวงตาคมเข้ม “พอจะมีใครพาฉันไปหาคุณสายลมหน่อยได้ไหมคะ” เอวาไม่ได้ตอบคำถามนั้น เพราะไม่รู้ว่าจะตอบยังไง เธอจึงถามคำถามเดิมขึ้นแทน “ตามมาสิ” แล้วผู้ชายคนเดิมก็พูดขึ้นก่อนจะหมุนตัวเพื่อเดินนำเธอไปยังที่ที่เธอต้องการ “เอ่อ...” ทั้งที่ถามออกไปว่าพอจะมีใคร แต่พอเอาเข้าจริงแล้วเธอก็หวังว่าจะมีผู้หญิงสักคนที่อาสาพาเธอไปเพราะยังไงตอนนี้ฟ้าก็ยังไม่สร่าง เธอจะต้องเดินไปกับผู้ชายคนนั้นสองต่อสองเหรอ “หรือเธอโกหก” เขาเห็นว่าเธอไม่ได้ตามไปจึงหันมาถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเหมือนเดิม “เปล่าค่ะ” “งั้นก็ตามมา” เขาสั่งขึ้นเสียงเรียบก่อนจะก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างไม่คิดจะรอเธอ “ถ้าไม่ได้โกหกก็ตามไปสิ” ชายคนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้นไล่เธอ ซึ่งพอเธอกวาดสายตามองพวกเขาแล้วก็เห็นว่าพวกเขามองเธอด้วยสายตาแปลกๆ มันเป็นสายตาที่ทำให้เอวารู้สึกทำตัวไม่ถูกและไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก สุดท้ายก็ได้แต่ตัดสินใจเดินตามผู้ชายร่างสูงในชุดดำคนนั้นไปห่างๆ อย่างทำอะไรไม่ได้ “อ๊ะ!” เพราะความมืดที่เธอสะดุดหลายต่อหลายครั้ง สุดท้ายเธอก็ล้มลงจนได้ “จะมาเป็นเมียเจ้าของไร่แต่เดินดินยังล้ม” แต่เขาคนข้างหน้าไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง ไม่แม้แต่จะหยุดรอเธอ มีแต่คำเหน็บแนมและเย้ยหยันที่ดังขึ้น “คุณลองให้ไฟฉันส่องแล้วตัวเองเดินแบบไม่มีไฟสิ” ปากของเธอดันไวไปหน่อย ย้อนกลับไปขณะลุกขึ้นยืนและเดินตามหลังเขาไป “.....” เขาเงียบอย่างไม่ได้พูดอะไร นั่นเลยทำให้เอวาคิดว่าอีกฝ่ายคงหาข้อโต้แย้งไม่ได้เพราะสิ่งที่เธอพูดมันถูกต้อง บรรยากาศรอบด้านที่เงียบสงัดมีเพียงเสียงของใบไม้แห้งที่เธอกับเขาเหยียบดังขึ้นกระทบหู ตอนนี้ฟ้าก็ยังไม่มีความสว่าง เธอเดินตามเขามาสักพักใหญ่แล้ว เดินห่างออกจากกลุ่มคนงานเหล่านั้นมาไกลจนไม่ได้ยินเสียงหรือแม้แต่หันกลับไปมองก็ไม่เห็นดวงไฟอีกแล้ว “อีกนานไหมคะจะถึง” เอวาถามขึ้นอย่างอดสงสัยไม่ได้ว่าเธอถูกใครแกล้งพาไปทิ้งไว้ลึกแค่ไหนกัน เธอเดินมาตั้งนานแล้วยังไม่มีวี่แววว่าจะถึงบ้านสักที ไม่เห็นแม้แต่ดวงไฟของบ้านที่ควรจะมี “นาน” คำตอบของเขาดังขึ้นสั้นๆ ขายาวๆ ของเขายังคงก้าวนำหน้าเธอต่อไปเรื่อยๆ ไม่แม้แต่จะถามอะไรหรือพูดอะไรกับเธอก่อน ขณะตอบก็ไม่หันมามองเธอเลยสักนิด หากไม่ได้เจอเขาในกลุ่มคน เธอคงอดคิดไม่ได้ว่าเขาไม่ใช่คนหรือเปล่า แต่ที่มากกว่านั้นคือความกลัวที่เธอคิดไปต่างๆ นานาอย่างหยุดไม่ได้กับสถานการณ์ตอนนี้ หากเขาเป็นคนไม่ดีล่ะ เขาจะทำร้ายเธอระหว่างทางหรือเปล่า แล้วถ้าเธอจะหันหลังกลับตอนนี้อันไหนอันตรายกว่ากัน เธอพยายามคิดในแง่ดีนะ ว่าถ้าเขาเป็นคนไม่ดีจริงๆ ทำไมคนงานเหล่านั้นยังกล้าปล่อยเธอมากับเขาแค่คนเดียว มันต้องมีสักคนสิที่มีความเป็นพลเมืองดีเอ่ยห้ามเธอบ้างสักนิด แต่ที่พวกเขาปล่อยให้เธอมาแบบนี้ก็คง...ไม่มีอะไรอันตรายใช่ไหม “เธอชื่ออะไร” เอวาสะดุ้งด้วยความตกใจหลุดจากภวังค์ความคิดหลังจากอยู่ๆ เขาก็ถามขึ้นท่ามกลางความเงียบ “เอวา” เอวาลังเลเล็กน้อย แต่ในที่สุดก็ตอบออกไป เพราะเธอยังต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ต่ออย่างไม่มีกำหนด สักวันเธออาจจะได้เจอกับเขาอีกก็ได้ “ครอบครัวเธอมีกันกี่คน” แล้วคำถามสุดแปลกของคนแปลกหน้าก็ดังขึ้น “ถามทำไม” เอวาย้อนกลับอย่างไม่ได้ตอบคำถามของเขา เพราะนี่ไม่ใช่คำถามที่จะถามคนแปลกหน้าเลยสักนิด เธอไม่ได้มาสมัครงานสักหน่อย “ถามให้รู้ เผื่อเธอเป็นลูกคนเดียว” เขาก็บอกเหตุผลอย่างไม่ปิดบัง แต่เป็นเหตุผลที่น่างุนงงมาก “เป็นลูกคนเดียวแล้วยังไง?” เอวาถามกลับทันที มองแผ่นหลังของเขาอย่างรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ “ครอบครัวเธอคงจะเสียใจ” เขาตอบกลับราบเรียบ ตอบกลับด้วยโดยไม่ได้หันมามองเธอเช่นเคย “หมายถึงอะไร” ฝีเท้าของเอวาช้าลง ทิ้งระยะห่างมากกว่าเดิมระหว่างย้อนถามเขากลับไป “หมายถึงว่า...ถ้าเธอตายไปน่ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม