ตอนที่ 7

910 คำ
บรรยากาศราบรื่นของสองพี่น้องโดนสาวใช้ขัดจังหวะ ฝูมู่เสวี่ยเห็นท่าทางชิวถงยืนจ้องมองนานแล้ว สาวใช้จอมจุ้นจ้านกลับยังรอสองพี่น้องพูดคุยกันเสร็จถึงเดินเข้ามา “ชิวถงเจ้ามีอะไรว่ามาเถอะ” “คุณหนูเจ้าคะ คือว่าคุณชายเจามาเอาชิวเพ่ยกลับไปเจ้าค่ะ บอกว่ามันเป็นสัตว์เลี้ยงในเรือนชิงฟง” “เจาจื่อจิ้งอุ้มชิวเพ่ยกลับไปแล้วหรือ” “ยังเจ้าค่ะ คุณชายเดินหาทั่วเรือนจี๋ฟางไม่เจอมัน บ่าวเลยมาบอกคุณหนูเจ้าค่ะ หากมันกลับมาจะได้เอาไปคืน” “เหลวไหล! ข้าไม่คืนใครจะทำไม หากเขาไม่พอใจให้เขามาพูดต่อหน้าข้าสิ” ชิวถงส่งสายตาไปยังฝูหว่านอิง น้องสาวคนดีหัวคิ้วขมวดเล็กน้อยไม่เข้าใจว่าชิวเพ่ยเป็นตัวอะไรกันแน่ สิ่งที่นางไม่เข้าใจยิ่งกว่านั้นคือวาจาด่าคนของพี่สาว “โธ่! คุณหนูใหญ่ของข้า ชิวเพ่ยมันมีเจ้าของแล้วท่านจะไม่คืนได้อย่างไรกันเจ้าคะ เรื่องนี้เป็นความผิดข้าเอง ไว้พรุ่งนี้ข้าหาลูกแมวตัวอื่นมาให้คุณหนูดีหรือไม่เจ้าคะ” “ชิวเพ่ยเป็นสัตว์เลี้ยงของข้า หากมันไม่กลับไปเจาจื่อจิ้งก็ไม่มีสิทธิ์เอาตัวมันไป เจ้าไปบอกเขาตามนี้ก็พอแล้ว อีกอย่างมันเป็นลูกหมาไม่ใช่ลูกแมว” “คุณหนู!” “มัวรออะไรเล่ารีบไปสิ” ไล่สาวใช้ไปหนึ่งคำ วาจาถัดมาฝูมู่เสวี่ยหันมาไล่น้องสาว “วันนี้ข้าเหนื่อยแล้วอยากนอนพัก น้องสาวกลับไปเถอะข้าไม่ส่งนะ” พูดจบไม่รอผู้ใดพยักหน้า ฝูมู่เสวี่ยเอนกายลงนอนทั้งยังหันหลังให้ ความจริงฝูหว่านอิงคุ้นชินท่าทีเงียบเฉยเช่นนี้ของพี่สาวมากกว่า ดังนั้นข้อสังเกตที่ว่าฝูมู่เสวี่ยเปลี่ยนไปหรือไม่นั้น น้องสาวอย่างฝูหว่านอิงโยนทิ้งไปที่ใดก็สุดรู้ ม่านโปร่งหน้าเตียงนอนคลี่ลงมาบังสายตาผู้อื่น ฝูมู่เสวี่ยอาศัยข้ออ้างพักผ่อนตัดทิ้งปัญหารอบกายไปเช่นนี้ ก่อนกลับฝูหว่านอิงไม่ลืมชวนเจาจื่อจิ้งกลับด้วยกัน คุณหนูรองฝูมีถ้อยคำน่าฟังมากมายเอ่ยออกมาให้เจาจื่อจิ้งใจเย็นลง น่าเสียดายนางไม่อาจรู้ว่าต่อหน้านั้นเจาจื่อจิ้งยอมพยักหน้าปล่อยเลยตามเลย ส่วนในใจนึกโกรธเคืองสตรีไร้เหตุผลอย่างฝูมู่เสวี่ยเต็มที่ ไว้รอเสี่ยวไกวเผยร่างจริงแยกคมเขี้ยววาววับต่อหน้า ถึงตอนนั้นเขาจะรอดูสีหน้าตื่นตกใจจนปลายผมชี้ของฝูมู่เสวี่ย “คุณชายกลับมาแล้ว หลางไกวเล่าขอรับ” “หึ! มันรู้จักที่ทางที่ไหนกัน อาจารย์บอกว่าหมาป่าปีศาจหวงถิ่นหวงคู่ของมัน เหลวไหลทั้งเพ!” “คุณชาย” สือจ้วงลอบยิ้ม “หลางไกวยังเล็กนัก ไม่แน่หากมันเรียนรู้แล้วจะต้องรู้จักกลับมาหาท่านแน่” “ข้าไปถึงเรือนจี๋ฟาง เจ้าหน้าขนหายหัวไม่เห็นแม้แต่เงา คอยดูเถอะกินอาหารเรื่อยเปื่อยมากเข้า หากมันท้องอืดข้าจะไม่สนใจเลยเชียว” วาจาเจาจื่อจิ้งตัดพ้อกระทั่งลูกหมา ติดตรงที่หลางไกวไม่ใช่หมาน้อยทั่วไป หมาป่าปีศาจหายากเพียงใด? นั่นคงเป็นคำตอบเดียวกับคำว่าประตูสวรรค์เทียนเสิ่นหลงเหมิน[1] ตั้งอยู่ที่ใดนั่งเอง เจาจื่อจิ้งนั่งดื่มชาลงท้องไปหนึ่งกาแล้วยังไม่หายโมโหเจ้าลูกหมาตัวดี จะไม่ให้เขาโมโหเสี่ยวไกวได้อย่างไร เจ้าลูกหมาตัวนี้แม่ของมันทอดทิ้งเพราะมันเกิดมาร่างกายอ่อนแอ หากไม่มีเจาจื่อจิ้งขึ้นเขาหาบัวหิมะแปดกลีบป้อนมัน ป่านนี้เจ้าตัวก้อนขนเนรคุณไปเกิดใหม่นานแล้ว “ข้าเลี้ยงดูมันมาสองปี ได้กลิ่นสตรีเข้าหน่อยถึงกับหนีหายหัว!” “คุณชายปรักปรำหลางไกวเกินไป ไม่แน่หลายวันนี้ท่านอาจละเลยมัน พอมีคนใจดีอุ้มไปมันเลยตามผู้อื่นไปก็เป็นได้” สือจ้วงตั้งข้อสังเกต “คนใจดีอะไรกัน ตัวปัญหาทั้งนั้น” “ว่าแต่คุณหนูใหญ่รู้ว่ามันเป็นสัตว์เลี้ยงของท่าน นางไม่ยอมส่งคืนเชียวหรือ” “เหอะ!” หากฝูมู่เสวี่ยพูดง่าย มีหรือเจาจื่อจิ้งจะนั่งหน้าบูดบึ้งเช่นนี้ สาวใช้ของนางพูดออกมาว่าอย่างไรนะ? คุณหนูใหญ่บอกว่านางเลี้ยงมันแล้ว ไม่มีทางยอมคืนให้ เหอะ! หมาป่าปีศาจเลี้ยงง่ายเสียเมื่อไหร่กัน ยังไม่นับที่มันชอบกินเสี้ยววิญญาณผู้อื่นส่งเดช ยังมีสมุนไพรล้ำค่าหายากที่ต้องกินอยู่ทุกเดือนอีก ยิ่งคิดเจาจื่อจิ้งยิ่งโมโห ไม่เพียงโมโหเจ้าตัวหน้าขนจอมเนรคุณ ยังโมโหฝูมู่เสวี่ย โมโหไปถึงฝูหว่านอิง สือจ้วงกระแอมไอเล็กน้อย “ตามปกติแล้วหมาป่าปีศาจชอบซ่อนตัวยามกลางวัน คุณชายหามันไม่เจอก็ไม่แปลก ไว้ตกกลางคืนท่านค่อยกลับไปเอามันกลับมาก็ได้นะขอรับ” “ข้าจะไปก่อกวนฝูมู่เสวี่ย ให้นางตกใจจนจับไข้เลยคอยดู” [1] หนึ่งในประตูสวรรค์ตามตำนานโบราณ เชื่อว่าหากปลาใหญ่สามารถกระโดดข้ามสะพานได้ จะกลายร่างเป็นมังกรสวรรค์
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม