Episode 2 ไม่ได้ตั้งใจ

2050 คำ
@ห้องเรียน TIME 12:00 PM “อาทิตย์หน้าสอบปลายภาคตั้งใจอ่านหนังสือกันด้วยนะคะ” เสียงอาจารย์เอ่ยบอกนักเรียนทุกคนก่อนปล่อยให้ไปทานข้าว ก่อนที่หัวหน้าห้องจะสั่งทำความเคารพ “นักเรียนทำความเคารพ” “ขอบคุณครับ / ค่ะ” “อย่าลืมอ่านหนังสือนะเฟรนด์เราเป็นกำลังใจให้เรื่องนี้ไม่ยากเลย” เป็นกระเพราที่เอ่ยบอกเฟรนด์ที่นั่งอยู่ด้านข้างตัวเองขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มใสซื่อ “ไม่ยากบ้านมึงสิ กูบอกแล้วไงว่าวิชาคำนวณอย่ามาพูดให้กูได้ยิน มึงคอยดูนะอาจารย์จะออกไม่ตรงที่สอน” เฟรนด์เอ่ยตอบเพื่อนไปตามปกติด้วยคำพูดที่ออกจะหยาบสำหรับคนอย่างกะเพรา แต่ทว่าเธอก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเธอนั่นชินกับการพูดแบบนี้ของเฟรนด์แล้ว “แต่เราว่าทุกครั้งอาจารย์ก็ออกตรงตามที่สอนนะ แต่ที่เฟรนด์พูดแบบนั้นเพราะเฟรนด์ไม่ตั้งใจเรียนต่างหากเลยไม่เข้าใจ” “กูไม่ตั้งใจเรียนตรงไหน กูตั้งใจสุดๆแล้วนะ” ฉันตอบกลับไปพร้อมทำหน้าหงุดหงิด “จริงหรอ วันๆเราเห็นเฟรนด์นั่งจ้องแต่เขื่อนทั้งวันเลยอะ” “กะ ก็ฉันชอบของฉันนี่ ก็ต้องจ้องมองเป็นธรรมดาปะ” “แต่เราว่าเฟรนด์ไม่ธรรมดานะ” กะเพราพูดพร้อมทำหน้านึกคิด “ยังไง” ฉันถามกลับพร้อมทำหน้างง “ก็ตรงที่เฟรนด์จ้องพร้อมกับทำหน้าเหมือนคนกระหายอะไรสักอย่างอะ” “กะเพรา กูเพื่อนมึงนะ แล้วมึงจะมาวิพากษ์วิจารณ์กูทำไมเนี่ยมาเครียดเรื่องสอบช่วยกูดีกว่าไหม” เฟรนด์ที่ไม่มีคำแก้ตัว ก็รีบพูดเปลี่ยนเรื่องทันที ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยสีหน้าที่เริ่มซีเรียสจริงจัง “ถ้ากูสอบวิชานี้ไม่ผ่านเกณฑ์นะ กูต้องถูกอาจารย์จับย้ายไปอยู่ห้องอื่นแน่ๆ” “งั้นเอางี้ไหม ให้เราติวให้” กะเพราพูดเสนอตัวเองขึ้น ก่อนจะโดนเฟรนด์พูดปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย “ไม่เอาอะ มึงติวเข้าใจยากกว่าที่อาจารย์สอนอีก” “แล้วเฟรนด์จะทำยังไง” เฟรนด์นั่งใช้ความคิดอยู่พักนึง แต่แล้วผ่านไปได้ไม่ถึงนาทีเธอก็นึกถึงใครบางคนขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มจะเผยขึ้นบนใบหน้าสวย “กูรู้แล้วว่าใครจะช่วยกูได้” @บ้านเขื่อน “อะไรนะ จะให้ผมไปติวให้ยัยนั่น ไม่อะ ไม่มีทาง” ผมกลับมาถึงบ้าน ผมก็ได้รับคำสั่งจากพ่อของผมบอกกับผมว่าให้ผมไปติวให้ยัยเฟรนด์นั่น แต่ฝันไปเถอะว่าคนอย่างผมจะทำ หลังจากเขื่อนปฏิเสธออกไปอย่างเด็ดขาด เขื่อนก็เดินขึ้นห้องไปทันทีอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น “อะไรของมัน” ผู้เป็นพ่อได้แต่ส่ายหัวแล้วทำหน้างง เพราะก่อนหน้านี้เฟรนด์ได้มาที่บ้านเขื่อนเพื่อมาขอให้เขื่อนติวให้แต่ตอนที่เฟรนด์มาเขื่อนยังไม่กลับบ้าน เธอจึงฝากให้พ่อของเขื่อนบอกกับเขาให้ วันต่อมา @ณ โรงอาหาร “เขื่อน~” เสียงร้องมาแต่ไกลของเฟรนด์ที่กำลังมุ่งหน้ามาทางกลุ่มของเขื่อน “ดูเหมือนว่า หวานใจของไอ้เขื่อนจะมาแล้วว่ะ” เข็มทิศพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเฟรนด์กำลังมุ่งตรงมาที่โต๊ะของพวกเขานั่งอยู่ “หวานใจแม่มึงสิ เจ้ากรรมนายเวรสิไม่ว่า” เขื่อนตอบกลับเพื่อนด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเบื่อหน่าย “เขื่อน นี่จะไม่ติวให้เราจริงๆหรอ” หลังจากที่เฟรนด์เดินมาถึง เธอก็ถามเจ้าตัวอย่างเข้าประเด็นทันที หลังจากที่เธอรู้ว่าเขื่อนปฏิเสธคำขอของเธอไป “เออ! คนอื่นที่เก่งๆก็มีเยอะแยะทำไมต้องเป็นกูด้วย” “ก็เราอยากให้เขื่อนเป็นคนติวให้อะ” เฟรนด์พูดพร้อมทำหน้าตาอ้อนๆ “แต่กูไม่ติว!” “แต่…” “ไม่ก็คือไม่ เลิกยุ่งกับกูสักทีเถอะ น่ารำคาญ” หลังจากเขื่อนพูดจบเขื่อนก็ลุกออกไปทันที โดยที่สนใจหญิงสาวที่พึ่งเข้ามาเลยแม้แต่น้อย “แรงว่ะ” เข็มทิศพูดขึ้น ก่อนจะหันไปบอกกับเฟรนด์ด้วยความหวังดีไม่อยากให้อีกคนคิดมาก “เฟรนด์อย่าไปใส่ใจกับคำพูดของไอ้เขื่อนมันเลยนะ มันก็ปากหมาแบบนี้แหละ” พูดจบวอดก้ากับเข็มทิศก็ลุกตามเขื่อนไปทันที “เฟรนด์ เป็นอะไรไหม” กะเพราหลังจากที่ยืนซื้อน้ำเสร็จก็รีบวิ่งเข้ามาถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง “ฉันจะไม่ยอมแพ้หรอกนะ ยังไงเขื่อนก็ต้องติวให้ฉัน” ฉันจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้เขื่อนติวให้ฉันให้ได้ แม้จะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม หลังเลิกเรียน @โรงจอดรถ “มึงอีกแล้วหรอ กูบอกแล้วไงว่าไม่ก็คือไม่” หลังจากผมแยกกับเพื่อนแล้วเดินมาที่โรงจอดรถก็เห็นเฟรนด์ยืนรอผมอยู่ คงจะมาพูดเรื่องติวนั่นอีกสินะ น่าเบื่อชิบหาย “หลบไปกูจะกลับบ้าน” ผมใช้มือผลักไหล่เธอออกจากรถของผมเพื่อที่จะขึ้นรถกลับบ้าน “แต่ถ้านายติวให้ฉัน ฉันจะยอมทำตามที่นายบอกทุกอย่าง” ฉันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง เขื่อนหันมามองฉันเล็กน้อยโดยไม่พูดอะไร ก่อนที่เขาจะก้าวขาขึ้นรถแล้วขับออกไปโดยไร้ซึ่งคำตอบ @บ้านเขื่อน ติ๋งต๋อง~ ติ๋งต๋อง~ ตอนนี้ฉันยืนกดออดอยู่หน้าบ้านของเขื่อน ผ่านไปไม่นานแม่นมก็เดินมาเปิดประตูให้ฉัน แม่นมเป็นแม่บ้านที่นี่ตั้งแต่ฉันยังเด็กฉันสนิทกับแม่นมมาก แต่ทว่าฉันกลับไม่สนิทกับเขื่อนเพราะเขื่อนไม่ชอบฉัน…..แล้วยังไงแค่ฉันชอบนายก็พอ “อ้าวคุณหนูเฟรนด์ มีอะไรหรือเปล่าคะ” “หนูมาหาเขื่อนค่ะ เขื่อนกลับบ้านหรือยังคะ” “อ่อ กลับมาได้สักพักแล้วค่ะ เข้ามาข้างในก่อนนะคะ” แม่นมตอบกลับ พร้อมกับเดินจูงมือฉันเข้าไปในบ้าน “คุณอาทั้งสองคนไปไหนคะ” ฉันถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในบ้านแล้วไม่พบใครเลยสักคน “คุณท่านออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ น่าจะกลับดึกเลย” “อ่อ” ฉันพยักหน้าอย่างเข้าใจ “คุณหนูเฟรนด์นั่งรอตรงนี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวป้าขึ้นไปตามคุณเขื่อนให้” “ค่ะ รบกวนแม่นมด้วยนะคะ” ฉันยิ้มตอบแม่นมด้วยท่าทีสดใส เวลาผ่านไปไม่นานแม่นมก็เดินลงมาแต่ทว่ากลับไร้ซึ่งร่างคนที่ฉันต้องการเจอ “แล้วเขื่อนล่ะคะแม่นม” “เอ่อ....คุณเขื่อนบอกว่าให้คุณหนูกลับไปเถอะค่ะ เพราะว่าคุณเขื่อนไม่มีอะไรจะคุยกับคุณหนู” แม่นมเอ่ยบอกด้วยสีหน้าที่หนักใจอยู่ไม่น้อย เฟรนด์ไม่พูดอะไรแต่ทว่ากลับสาวเท้าเดินฟขึ้นบันไดตรงไปยังห้องเขื่อนทันที โดยไม่คิดจะสนคำเรียกร้องตามหลังของแม่นม “คุณหนูคะ คุณหนูเฟรนด์จะไปไหนคะ” ก็อกๆๆ ตอนนี้ฉันมายืนอยู่หน้าห้องของเขื่อน พร้อมกับเคาะประตูรัวๆ ไม่นานประตูก็ถูกเปิดออกโดยเจ้าของห้อง “ก็บอกว่าไม่.....นี่เธอขึ้นมาได้ยังไง กลับไปซะฉันไม่มีอะไรจะคุยกับเธอ” เขาพูดไล่ฉันทันทีที่เปิดประตู “นายไม่มีแต่ฉันมี” ฉันพูดสวนกลับด้วยน้ำเสียงที่จริงจังไม่ติดเล่นแม้แต่น้อย และตอนนี้ฉันกับเขื่อนต่างก็ยืนจ้องหน้ากันอย่างดุเดือดอย่างไม่มีใครยอมใคร ก่อนที่เขื่อนจะเป็นคนพูดออกมา “นี่ถามจริงนะ เธอไม่เบื่อบ้างหรือยังไง คอยตามตื้อฉันทุกวันแบบนี้” “ไม่ ฉันไม่เบื่อและฉันจะตามตื้อนายอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆจนกว่านายจะชอบฉัน” “ฝันไปเถอะ ฉันจะบอกเธอให้รู้ไว้ตรงนี้เลยนะว่า ต่อให้เธอพยายามแทบตายฉันก็ไม่มีวันชอบคนอย่างเธอ และถ้าเธอยังไม่เลิกยุ่งกับฉันอย่าหาว่าฉันไม่เตือน” หลังจากผมพูดด้วยน้ำเสียงดุดันใส่หน้าเธอไป ผมก็ปิดประตูใส่หน้าเธออย่างเต็มแรงแต่ทว่าตอนที่ผมออกแรงปิดประตูนั้น…… ปึก!! "อ่ะ" “เฮ้ยย!! นี่มึงบ้าหรือเปล่าเนี่ย เอาแขนมาขวางทำไม” จังหวะที่ประตูถูกปิดเฟรนด์ได้เอาแขนของเธอมากั้นเอาไว้ ทำให้ประตูกระแทกเข้าใส่แขนของเธอไปชนกับเหลี่ยมของประตูอย่างจัง เฟรนด์แสดงสีหน้าเหยเกออกมาเล็กน้อย แต่ก็พยายามข่มความเจ็บนั้นไว้ ก่อนจะเอ่ยบอกเขื่อน “ฉันแค่จะบอกนายว่า ถึงนายจะไม่มีวันชอบฉันแต่ฉันจะไม่มีวันเลิกชอบนาย” ฉันเอ่ยบอกคนตรงหน้าออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นคลอนเล็กน้อย ก่อนที่ฉันจะประคองแขนข้างที่เจ็บของตัวเองไว้ แล้วค่อยๆหันหลังเดินลงบันไดมาช้าๆ และนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันร้องไห้ต่อหน้าเขา “ธะ เธอ....” ผมอยากจะเรียกเธอเพื่อที่จะดูว่าแขนเธอเป็นยังไงเพราะอีกอย่างผมก็เป็นคนปิดประตูใส่แขนเธอถึงจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม แต่ทำไมปากของผมมันกลับไม่ยอมเอ่ยเรียกเธอกันนะ “คุณหนูเฟรนด์นั่นแขนไปโดนอะไรมาคะ” แม่นมทำหน้าตกใจเมื่อเห็นฉันประคองแขนข้างที่เจ็บลงมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้ม “ไม่มีอะไรหรอกค่ะแม่นม หนูขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ ออกมานานเดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่เป็นห่วง” ฉันยิ้มตอบบางๆ “แต่...” “หนูไม่เป็นไรจริงๆค่ะ” แม่นมกำลังจะพูดแต่ฉันพูดตัดก่อนแล้วเดินออกจากบ้านมาเลย @บ้านเฟรนด์ “เฟรนด์นั่นแขนไปโดนอะไรมา” แม่เอ่ยเรียกฉันขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นฉันพยุงแขนข้างที่เจ็บของตัวเองอยู่ “ฮึก แม่คะหนูเจ็บ ฮืออ” ทันทีที่ฉันเห็นหน้าแม่ฉันก็ปล่อยโฮออกมาทันที ส่วนพ่อที่เห็นว่าแขนที่ฉันประคองนั้นมีอาการแดงช้ำก็ถามขึ้นอย่างเสียงเข้มทันที “ใครทำอะไรแก บอกพ่อมา” “ปะ เปล่าค่ะคุณพ่อ หนูแค่เดินชนประตูเองค่ะ อึก!”ฉันไม่รู้ว่าจะโกหกคุณพ่อว่ายังไงฉันไม่อยากให้เขื่อนเดือดร้อนเพราะฉัน อีกอย่างฉันเป็นคนทำตัวเองที่เอาแขนไปกั้นประตูไว้ “อย่ามาโกหก พ่อถามว่าใครทำ” คุณพ่อถามขึ้นอีกครั้งด้วยเสียงแข็ง “คุณคะใจเย็นๆก่อนได้ไหม ลูกเจ็บอยู่ไม่เห็นหรือไง พาลูกไปโรงพยาบาลเร็ว” คุณแม่ที่เห็นท่าทีไม่ยอมของคุณพ่อก็ต่อว่าออกไป ก่อนจะมองแขนของฉันที่มันเริ่มมีอาการปวดบวมอยู่ตอนนี้ “โถ่เว้ย!! เตรียมรถ” ผู้เป็นพ่อที่ไม่สามารถเค้นคำตอบจากปากของลูกสาวได้ ก็ได้แต่สถบออกมาอย่างหัวเสีย ก่อนจะสั่งคนให้เตรียมรถ @โรงพยาบาล “แขนไปโดนอะไรมาล่ะ” คุณหมอเอ่ยถามฉันขึ้น “เอ่อ...เดินชนประตูมาค่ะ” ตอบกลับพร้อมกับก้มหน้าไม่กล้าสบตา “โกหกไม่เก่งเลยนะเรา แค่เดินชนประตูไม่ทำให้กระดูกเกือบร้าวหรอกนะ” คุณหมอพูดบอกฉันอย่างรู้ทัน ส่วนฉันไม่รู้จะตอบอะไรกลับไป ก็ทำได้แค่เพียงก้มหน้าเหมือนเดิม “ดีนะที่ไม่เป็นอะไรมาก แต่ก็ต้องระวังอย่างให้แขนไปกระแทกกับอะไรเข้าล่ะไม่งั้นร้าวจริงๆแน่” ตอนนี้คุณหมอใส่ผ้าคล้องแขนให้ฉันเพื่อประคองแขนไว้และให้ยามากินเพื่อลดอาการปวดบวม “ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” ฉันกล่าวขอบคุณพร้อมกับเดินออกจากห้องมา “โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก กลับบ้านกันเถอะ” คุณแม่เดินมาประคองฉันพร้อมกับลูบหัวฉันเบาๆ ส่วนคุณพ่อไม่พูดอะไรออกมาสักคำได้แต่มองหน้าฉันเหมือนกำลังข่มอารมณ์ของตัวเองไว้ ก่อนจะเดินออกไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม