แล้วผมจะอยู่ยังไง

918 คำ
“ไม่เป็นไรหรอก วันเกิดเพื่อนทั้งที ให้เขานอนอีกคืนก็ได้” “ออ แค่มาดูใช่ไหมว่ามันไม่ได้มีอะไรจริงๆ เนี่ย มีกันแค่สี่คน ไม่มีใครแล้ว” “แสดงว่าเมื่อคืนมีใช่ไหม” พอถูกแมงมุมย้อนมาแบบนั้นด้วยใบหน้ายิ้มๆ ไอ้บาสกับไอ้ฟอนต์ก็ชะงักกึก ทำหน้าเลิ่กลั่กเหมือนคนมีความผิด ทั้งๆ ที่เมื่อคืนก็ดื่มกันแค่สี่คน ผมก็ไม่ได้เหลวไหลตรงไหน ไอ้พวกบ้า แบบนี้แมงมุมก็คิดไปไกลแล้วสิ “ไม่มีๆ เมื่อคืนก็ดื่มกันสี่คนที่ผับ ห้องที่แมงมุมเคยไปตามนั่นแหละ เงียบสงบ มิดชิด ไม่มีสาวไหนเข้าใกล้ได้” “ก็ไม่ได้ว่าอะไร” “สั่งอะไรเพิ่มไหมแมงมุม ตอนนี้มีแค่เครื่องดื่มกับกับแกล้ม” ไอ้ยีนส์ถามแมงมุมอย่างเป็นห่วงเป็นใยเหลือเกิน “อืม สั่งให้หน่อยสิ ยังไม่กินข้าวมา” “กินข้าวหรืออะไรล่ะ” “ข้าวผัดหมูก็ได้นะ ง่ายๆ” “โอเค สั่งเครื่องดื่มด้วยไหม มีคาเฟ่นะ ช็อกโกแลตเย็นไหม” มันไปรู้ตอนไหนว่าเป็นเมนูประจำของเธอถ้าไม่ใช่กาแฟ ผมรู้ว่าแมงมุมสนิทกับไอ้ยีนส์มากกว่าสองคนนั้น แต่ไม่เคยระแคะระคายว่าเขาจะคุยกันหรือเจอกันบ่อยแค่ไหน “ช่วงนี้เรียนหนักเหรอ เธอดูเหนื่อยนะ” มันจะมารู้ดีกว่าผมได้ยังไงว่าแมงมุมจะเหนื่อยหรือจะเครียดกับอะไร “ก็นิดหนึ่งมั้ง เทอมนี้ลงเรียนเยอะน่ะ งานเยอะขึ้น” แล้วทำไมเรื่องนี้ผมไม่เคยรู้เลยล่ะ “หมายถึงตั้งใจลงเยอะกว่าปกติเหรอ” “อืม ลงวิชาบังคับเลือกกับวิชาเสรีให้ครบน่ะ คิดว่าปีสี่จะได้เรียนเบา แต่ไม่รู้ตอนนี้คิดถูกหรือผิด” ผมรู้สึกซึมยังไงไม่รู้ แทนที่เรื่องพวกนี้ผมควรจะได้เป็นคนที่เธอบ่นให้ฟัง นี่ต้องมานั่งฟังเธอบ่นกับคนอื่น...แบบสบายใจมากกว่าที่จะคุยกับผม “อืม ไม่ไหวยังไงก็โทรหา ห่วงอยู่นะ พูดกับฉันหน่อย” จากซึมๆ เมื่อกี้ก็ควันออกหู ต้องดับร้อนด้วยเหล้าอีกหนึ่งอึก “ถ้าฉันจีบเธอไวกว่านี้สักหน่อยจะไม่ให้เธอลงเรียนเยอะขนาดนี้หรอกแมงมุม” จีบ...ทำไมมันดูจริงจังขนาดนั้น ถ้าแค่อยากแกล้งผมต้องเล่นใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ “คิดว่าฉันจะฟังแกหรือไง” แล้วเขาสองคนคุยกันแบบเป็นกันเองขนาดนี้ คุยกันอยู่สองคน คนอื่นไม่มีความหมาย ผมเองก็ไม่มีความหมายเหมือนกัน ผมรู้สึกว่าคืนนี้มันไม่สนุกแล้ว หงุดหงิด งุ่นง่านและรู้สึกไม่มั่นคงเอาเสียเลย ผมไม่รู้จะพูดจะคุยอะไรกับคนอื่น ได้แต่ดื่มเอาๆ จนแมงมุมจะขอกลับตอนสี่ทุ่ม “เดี๋ยวลงไปส่ง” ไอ้ยีนส์ก็ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษปลอมๆ เธอยิ้ม พยักหน้า ก่อนที่ทั้งคู่จะออกจากห้องไปด้วยกัน สองคนนั้นก็หันมามองผมเป็นจุดเดียว อ้าปากจะถามผมก็ดักไว้ก่อน “ไม่ต้องมาถามกู กูไม่รู้ ไปถามไอ้ยีนส์นู่น” มันไม่ถามผม แต่หันไปคุยกันสองคน ซึ่งก็เข้าหูผมเต็มๆ “หรือว่าไอ้ยีนส์มันจะจีบแมงมุมจริงๆ วะ” “มันแกล้งไอ้เบสแหละ ทำเป็นอยากให้คนอื่นจีบเมียตัวเองขนาดนั้น” “อย่ามาลามปาม ใครเมียกู แล้วไอ้ยีนส์มันจะมาแกล้งอะไรกูได้วะ กูไม่ได้รู้สึกอะไรกับยัยนั่นเสียหน่อย อยากจีบก็ให้มันจีบไป” ผมโวย แล้วก็ดื่มเหล้าไปอีก อยากดื่มให้เมาจนไม่ต้องมารับรู้อะไรอีก...ถ้าไอ้ยีนส์จีบแมงมุมจริงๆ ถ้าจีบติดจริง แล้วผมจะอยู่ยังไง ผมน่าจะเมาแล้วแน่ๆ ถึงคิดว่าตัวเองจะอยู่ไม่ได้แค่ไม่มีเธอในชีวิต...ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอไม่ใช่เหรอ “เออๆ ไม่ได้คิดอะไรก็ไม่คิด” สองคนนั้นส่ายหน้าเหมือนไม่เชื่อถือผมเลยสักนิด “เดี๋ยวไอ้ยีนส์กลับมาลองถามมันดู” สิ้นคำพูดประตูห้องก็เปิดออก สองคนนั้นก็รุมถามไอ้ยีนส์ใหญ่เลย แต่ไม่ได้อยากรู้อะไรจริงจังหรอก ถามประชดผมมากกว่า “ยีนส์ มึงจีบแมงมุมจริงๆ หรือแกล้งไอ้เบสวะ” “กูจะไปแกล้งไอ้เบสทำไม มันจะรู้สึกอะไรมันไม่ได้ชอบแมงมุม” คำตอบและสายตาที่มองผมอย่างท้าทายทำให้ผมยิ่งรู้สึกเลือดร้อน ผมจะรู้สึกหรือไม่รู้สึกยังไงกับแมงมุมมันมายุ่งอะไรด้วย “จะบอกว่าจีบจริง” “อืม” ผมไม่เชื่อมันหรอก มันปั่นหัวผมแน่ๆ อยากกระชากคอเสื้อมันมาถามให้รู้แล้วรู้รอดว่าจะเอายังไง ดื่มไปจ้องหน้ามันไป แต่มันก็เมินผมเหมือนเป็นอากาศธาตุ ไม่คิดจะอธิบายอะไรให้มันชัดเจน...ผมจะไม่ถามมันหรอก ไม่จำเป็นต้องใส่ใจขนาดนั้น เพราะต่อให้มันตอบว่าจีบแมงมุมจริงๆ เหมือนที่ตอบไอ้สองคนนั้น ผมก็ไม่เชื่ออยู่ดี...ใครจะให้จีบ จะอยู่ยังไงเหรอ ก็อยู่ไปแบบไม่มีเธอไงเบส ต้องอยู่ให้ได้นะ ถถถ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม