"เป็นผงห้าศิลาขอรับ" [ผงห้าศิลาเป็นสารเสพติดชนิดหนึ่ง]
ท่านหมอพูดออกมาด้วยสีหน้าลำบากใจหลังจากกล่าวรายงานอาการของคุณชายลั่วต่อท่านผู้เฒ่าลั่วและฮูหยินลั่ว ลั่วหลี่เวยที่ได้ฟังก็ปรายตามองไปที่ลั่วหลี่หยวนที่ตอนนี้โดนมัดอยู่บนเตียง บนรถม้านางรู้สึกว่าเขามีอาการแปลก ๆ บุรุษที่รักศักดิ์ศรีเช่นเขาไม่มีทางยอมเลียรองเท้านางเพื่อดื่มสุราแน่ ๆ หลังจากพากลับจวนลั่วหลี่หยวนก็เกิดอาการคลุ้มคลั่งจึงต้องจับมัดและตามท่านหมอมาตรวจอาการ
"เจ้าหลานไม่ได้ความ!!!"
ท่านผู้เฒ่าลั่วที่ตั้งสติได้ เขาชี้หน้าตะโกนด่าหลานชายเสียงดังในใจของเขาเต็มไปด้วยความโกรธไม่คิดว่าเจ้าโง่นี่จะเสเพลถึงเพียงนี้ ถึงขนาดยอมเป็นนายโลมเพื่อสิ่งนี้งั้นหรอ
"ท่านตาใจเย็น ๆ ก่อนเจ้าค่ะ ท่านหมอเป็นเช่นนี้แล้วควรทำเช่นไร"
"จากที่ข้าตรวจคุณชายพึ่งเริ่มเสพติดได้ไม่นาน ข้าจะจ่ายยาให้อาจจะช่วยบรรเทาได้บางส่วนระหว่างนี้อาจจะมีไข้มีอาการเจ็บปวดตามตัว ขอช่วงนี้ฮูหยินใส่ใจคุณชายลั่วให้มาก"
"เขาจะกลับมาเป็นปกติหรือไม่"
"ขอรับ เพราะกินเข้าไปเล็กน้อยจึงทำให้มีเพียงอาการเสพติดเท่านั้น"
ท่านผู้เฒ่าลั่วแม้ในใจจะรู้สึกโกรธแต่ความรู้สึกเป็นห่วงนั้นย่อมมีมากกว่า แม้เจ้าหลานจะเสเพลไม่ได้ความแต่ชายชราก็เลี้ยงและดูแลพวกเขามาด้วยความรัก ไม่แปลกที่จะรู้สึกเป็นห่วงเช่นนี้
ลั่วหลี่เวยเองกำลังรู้สึกผิด นางคิดเพียงว่าหากนางวางแผนรอบคอบกว่านี้ไม่แน่ว่าลั่วหลี่หยวนอาจจะไม่ต้องมาติดผงห้าศิลาแบบนี้ ความผิดนี้เป็นเพราะนางจริง ๆ
"ชิงถง เจ้าไปส่งท่านหมอ"
"เจ้าค่ะ"
หลังจากชิงถงและท่านหมอเดินออกไปจากห้อง ภายในห้องก็เงียบทันทีท่านผู้เฒ่าลั่วนั่งลงที่ขอบเตียงเขาลูบใบหน้าของหลานชายที่กำลังหลับสนิท คุณชายที่เคยสดใสเหตุใดถึงโทรมเช่นนี้
"ท่านผู้เฒ่าลั่วทั้งหมดเป็นเพราะความไม่รอบคอบของข้าเอง"
"........."
"เพราะข้าคิดน้อยเกินไป ลั่วหลี่หยวนคงได้ยินข่าวลือและเกิดเสียใจจนคิดประชดตัวเองเสพติดผงห้าศิลาเช่นนี้"
"ล้วนเป็นความผิดของทั้งข้าและเจ้า ใครจะคิดว่าเจ้าเด็กโง่นี้จะทำเช่นนี้"
ท่านผู้เฒ่าลั่วยิ้มเศร้าออกมา โชคดีที่ช่วยเหลือไว้ได้ทันหากปล่อยให้ระยะเวลานานกว่านี้เขาอาจจะสูญเสียหลานชายไปแล้วจริง ๆ เจ้าหลานโง่ทั้งที่ข้าเป็นห่วงพวกเจ้าที่สุดจะกล้าขับพวกเจ้าออกจากตระกูลได้เช่นไร
"ข้าจะชดใช้ความผิดนี้เองเจ้าค่ะ ข้าจะดูแลคุณชายจนกว่าเขาจะหายดี"
"ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องการหย่าหรือ"
"ข้าคงทิ้งปัญหาที่ข้าก่อไว้ไปไม่ได้ เรื่องหย่าค่อยพูดหลังจากคุณชายหายก็ได้เจ้าค่ะ"
"เช่นนั้นก็ฝากเจ้าด้วย เรื่องในวันนี้ต้องปิดเป็นความลับห้ามให้ผู้ใดรู้ส่วนเจ้าหลานโง่ของข้าให้พักที่เรือนรับรองไปก่อน"
"เจ้าค่ะ"
หลังจากนั้นทุกอย่างถูกอย่างถูกเตรียมการตามคำสั่งของท่านผู้เฒ่าลั่ว ลั่วหลี่หยวนถูกย้ายไปที่เรือนรับรองที่อยู่ไกลจากเรือนหลักเป็นอย่างมากทำให้ลั่วหลี่เวยที่เฝ้าดูแลต้องนอนพักที่เรือนรับรองด้วยเช่นเดียวกัน บ่าวรับใช้ที่อยู่ในเรือนรับรองล้วนเป็นบ่าวที่อยู่กับท่านผู้เฒ่าลั่วมานานจึงไว้ใจได้ว่าเรื่องของคุณชายจะไม่เผยแพร่ไปด้านนอกได้แน่นอน
"ข้าไม่กิน ข้าบอกให้เอาสุรามาปล่อยข้า"
ลั่วหลี่หยวนที่ถูกมัดอยู่บนเตียงเม้มปากแน่น มองสตรีน่ารังเกียจตรงหน้าที่กำลังป้อนบางอย่างที่อยู่ในชามให้เขากินเพราะนางเขาถึงถูกขับออกจากตระกูลและสูญเสียทุกอย่างเช่นนี้
"ไม่ได้ยินหรือไง ข้าต้องการสุรา!!"
ลั่วหลี่เวยที่ถูกตะโกนใส่หน้านางไม่ได้โต้ตอบอะไรทำเพียงใช้ช้อนคนยาที่อยู่ในชามด้วยสีหน้าเรียบเฉย อาจจะเพราะลั่วหลี่หยวนมีอายุน้อยกว่านางหนึ่งปีนางจึงเห็นเขาเป็นเพียงเด็กที่เอาแต่ใจที่เดินทางผิดเท่านั้น ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเช่นตอนที่อยู่กับคุณชายใหญ่หรือคุณชายรอง
"จะกินดีดี หรือต้องให้ข้าบังคับ"
"เหอะ สตรีเช่นเจ้ากล้า....ทำอะไรของเจ้าคิดจะทำอะไรข้า!!!"
ลั่วหลี่หยวนตะโกนออกมาสุดเสียง ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อจู่ ๆ ลั่วหลี่เวยก็ขึ้นมานั่งคร่อมบนตัวของเขา ลั่วหลี่หยวนพยายามขยับตัวหนีแต่เพราะถูกมัดอยู่จึงขยับไปไหนไม่ได้
"นี่เจ้า...อึก...อึก...อึก"
หากผู้ใดมาเห็นตอนนี้คงคิดว่าลั่วหลี่เวยเป็นฮูหญิงเลวทรามที่กำลังบังคับกรอกยาพิษสามี นางใช้แรงทั้งหมดที่มีบีบปลายคางให้ลั่วหลี่หยวนอ้าปากก่อนจะเทยาลงไปจนหมดชาม
"หากเจ้าไม่กลืนบ้วนทิ้งออกมา ข้าจะเทยาทั้งหม้อลงไปในปากของเจ้า"
ลั่วหลี่เวยพูดออกมาเสียงเย็นจ้องมองบุรุษที่อยู่ตรงหน้าด้วยแววตาจริงจัง น่าแปลกที่ดูเหมือนคำขู่ของนางจะได้ผลลั่วหลี่หยวนยอมกินยาด้วยสีหน้าไม่ดีนัก เมื่อเห็นว่ายาถูกกลืนลงไปจนหมดแล้วนางจึงผละออกจากลั่วหลี่หยวนมานั่งลงที่ขอบข้างเตียงเช่นเดิม มือบางหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับยาที่หกเลอะตามตัวของลั่วหลี่หยวนอย่างตั้งใจ
"ออกไป ข้าบอกให้ออกไป!!!"
"......"
"นี่เจ้า!! ไม่ได้ยินหรือไง!!"
ลั่วหลี่เวยไม่ได้สนใจคำพูดของบุรุษตรงหน้านางยังคงนั่งเฝ้าเขาเงียบ ๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมา ไม่นานเสียงของลั่วหลี่หยวนก็ค่อย ๆ เงียบลงภายในห้องปกคลุมไปด้วยความเงียบ จวบจนเวลาผ่านไปหลายชั่วยามภายในค่ำคืนที่เงียบสงบลั่วหลี่หยวนกลับรู้สึกกระวนกระวายเขาบิดกายไปมาก่อนจะร้องออกมาสุดเสียง
"เจ็บ...ข้า..ปวด..ช่วยด้วย.."
ลั่วหลี่เวยที่นอนอยู่ห้องข้าง ๆ สะดุ้งตื่นด้วยความตกใจเมื่อรู้ว่าเสียงนั้นคือลั่วหลี่หยวนก็รีบวิ่งเข้าไปหาเขาทันที เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องพบว่าลั่วหลี่หยวนกำลังร้องเจ็บปวดอยู่บนเตียง
"หลี่หยวนเจ้าเป็นอะไร"
ลั่วหลี่เวยรับเข้าไปพยุงเขาให้ลุกขึ้นนั่ง นางมองสำรวจตัวเขาด้วยความร้อนรนแม้ท่านหมอจะเคยบอกว่าเขาจะมีอาการ แต่ก็ไม่คิดว่าจะดูทรมานถึงเพียงนี้
"ข้า...เจ็บ...ขอร้อง..สุรา..เอาสุรามาให้ข้า..ข้ายอมทุกอย่าง..."
ลั่วหลี่หยวนพูดออกมาทั้งน้ำตา เขารู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่างเจ็บจนเขาต้องร้องอ้อนวอนออกมา เขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร รู้เพียงว่าตอนนี้เขาต้องการสุราเท่านั้น จิ่นมีเพียงเขาเท่านั้นที่ช่วยให้ข้าไม่ต้องทรมานได้
"ขอร้องเว่ยเว่ย ปล่อยข้าไปเถอะข้าเจ็บข้าทรมาน"
ลั่วหลี่เวยเม้มปากแน่น นางมองลั่วหลี่หยวนที่กำลังอ้อนวอนนางทั้งน้ำตาสีหน้าของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและทรมาน เขาพยายามดิ้นไปมาก่อนจะมองนางด้วยสายตาอ้อนวอน
"เพื่อตัวเจ้าเอง อดทนหน่อยเถอะนะ"
"หากเจ้าไม่ปล่อยข้า เช่นนั้นได้โปรดสังหารข้าเถอะนะข้าไม่อยากทรมานเช่นนี้อีกแล้ว.."
"ลั่วหลี่หยวนเจ้าอดทนหน่อยเถอะนะ"
ลั่วหลี่เวยตัดสินใจเข้าไปโอบกอดบุรุษตรงหน้าให้เขาหยุดดิ้น เพราะยิ่งเขาดิ้นมากเท่าไหร่เชือกที่มัดตัวเขาไว้จะยิ่งสร้างรอยแผลมากเท่านั้น
"สังหารข้าเถอะ ขอร้อง"
ลั่วหลี่หยวนเอาแต่พูดคำนั้นซ้ำ ๆ เขาจ้องมองประตูผ่านม่านน้ำตา คิดเพียงว่าหากต้องทรมานอยู่เช่นนี้สู้ให้นางสังหารข้าให้ตายเลยยังดีกว่า หากข้าตายไปความเจ็บปวดที่เคยมีก็คงหมดลง..