EP.1 คืนรักที่ลืมไม่ลง
“พ่อขา...คืนนี้พริ้งขอไปค้างบ้านเพื่อนนะคะ พอดีว่าเรามีนัดติวหนังสือสอบเข้ามหา’ลัยกันน่ะค่ะ” พริ้งพราวพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูอ่อนหวานและจริงใจ แต่ภายในใจกลับมีแผนบางอย่างซ่อนอยู่
(แล้วบ้านเพื่อนอยู่แถวไหน ต้องค้างเลยเหรอลูก) พ่อถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใย
(พ่อว่ากลับบ้านดีกว่านะ ดึกแค่ไหนพ่อก็ไปรับได้)
“พ่อคะ พริ้งตั้งใจจะติวหนังสือกันยันเช้าเลยค่ะ พ่อไม่ต้องมารับหรอกนะ” เธอพยายามอธิบาย พร้อมกับสร้างภาพของลูกสาวที่ขยันขันแข็ง
“อีกอย่างพริ้งก็ไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ ทีพี่พิมพ์ไปอยู่หอ พ่อยังไม่ว่าเลย” เธอยกเรื่องพี่สาวขึ้นมาเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพ่อของเธอ
“หรือว่าพ่อไม่เชื่อพริ้งคะ?” เธอทำเสียงเศร้าเล็กน้อย ทำให้พ่อยอมปล่อยผ่านในที่สุด
(เฮ้อ...ก็ได้ ๆ ที่ถามน่ะ เพราะเป็นห่วงลูกต่างหากล่ะ ถ้าเรื่องติวหนังสือสอบน่ะ พ่อไม่ว่าหรอกลูก)
“พ่อน่ารักที่สุดในโลกเลยค่ะ งั้นคืนนี้พ่อโอนเงินมาติดบัญชีให้พริ้งสักสามพันนะ” พริ้งพราวพูดด้วยเสียงสดใส ก่อนจะพยายามเน้นคำขอเงิน เพื่อเป็นการเตรียมตัวสำหรับค่ำคืนที่เธอวางแผนไว้แล้ว
(โอเค ๆ ไม่ต้องทำเสียงอ้อนแล้วน่า เดี๋ยวพ่อโอนให้ห้าพันเลย ไว้ซื้อหนังสือ และสั่งอะไรกินกันตอนอ่านหนังสือแล้วกันนะลูก) พ่อใจอ่อนตามเคย
“รักพ่อนะคะ แค่นี้ก่อนนะ” พริ้งพราวพูดทิ้งท้ายก่อนจะวางสายด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขใจ
(จบบทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างพริ้งพราวกับพ่อ)
หลังจากที่คุยกับพ่อเสร็จ ชายหนุ่มที่อยู่ข้างกายก็โน้มตัวเข้ามาหอมแก้มของเธอเบา ๆ พร้อมกับกอดเอวคลอเคลียเธอไม่ห่างกาย
“พี่คริสอะ” พริ้งพราวลูบแก้มตัวเองอย่างตกใจและเขินอายเล็กน้อย
“มีลูกสาวสวยขนาดนี้ พ่อคงจะหวงแย่เลยใช่ไหม?” ชายหนุ่มรุ่นพี่ที่เพิ่งรู้จักกันผ่านแอปพลิเคชันหาคู่เอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินโอบเอวเธอไปหยุดยืนที่หน้าโรงหนังภายในห้างใหญ่
“ค่ะ...พ่อหวงมากเลย” เธอเอ่ยพลางยิ้มหวานส่งให้เขา ก่อนที่จะยอมให้เขาโอบเอวเดินต่อไปอย่างไม่ขัดเขิน
“ปกติแล้วพริ้งไม่ค่อยได้ออกไปไหนเลยนะคะ...อยู่แต่กับบ้าน” เธอทำท่าเหมือนจะเปิดเผยความลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ของตัวเอง เพื่อให้เขารู้สึกว่า เธอเป็นคนที่น่าเอ็นดูและบริสุทธิ์ใจ
“แบบนี้ก็...แปลว่ายังไม่เคยเหรอ?” ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงที่ดูเป็นกันเอง แต่แฝงไปด้วยความหมายซ่อนเร้น
“คะ?” พริ้งพราวตอบด้วยความสับสนเล็กน้อย
“พี่หมายถึงเรายังไม่เคย...มีแฟนเลยใช่ไหม?” เขาย้ำคำถามอีกครั้งอย่างชัดเจน
“ใช่ค่ะ...ยังไม่เคย” เธอตอบไปพร้อมกับหันหน้ามองไปทางอื่นเพื่อหลบสายตาของเขาที่จ้องมองมา
“ไม่อยากเชื่อเลยนะว่า สาวน้อยน่ารัก ๆ แบบนี้จะยังไม่มีแฟนน่ะ” เขายิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะดึงเธอเข้ามาใกล้มากขึ้น
“พี่คริสก็...หล่อนะคะ ยังโสดมาแชตพริ้งได้เลย” เธอพยายามเลี่ยงความลับที่ซ่อนอยู่ในใจด้วยการพูดเปลี่ยนเรื่อง
“แล้วนี่เราจะเข้าไปดูหนังกันเลยไหมคะ...สามทุ่มแล้วนะ” เธอถามเขาเพื่อดึงตัวเองกลับมาสู่แผนเดิม
“ไปสิครับ พี่จองตั๋วหนังโซฟาไว้ให้ VIP เลยนะ หนูน่าจะชอบ” ชายหนุ่มตอบด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนที่จะพาเธอเดินเข้าไปยังโซฟาสีแดงสุดหรูหราในโรงหนังที่เงียบสงัด
ภายในโรงหนังสุดหรู
เวลาสามทุ่มครึ่ง
เมื่อพริ้งพราวนั่งลงที่โซฟา เธอก็รู้สึกได้ถึงความนุ่มสบายที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับอยู่ในสวรรค์เล็ก ๆ ที่ไม่มีใครรบกวน
“เดี๋ยวหนูนั่งรอตรงนี้แป๊บนะ พี่จะออกไปซื้อน้ำกับพ็อปคอร์นน่ะ” เขารีบอาสาแล้วลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
แต่ในขณะที่ชายหนุ่มเดินออกไป พริ้งพราวกลับนั่งนิ่งอยู่บนโซฟา ความคิดมากมายวิ่งผ่านหัวของเธอ เธอรู้สึกตื่นเต้น... แต่ก็น่าแปลกที่ใจของเธอกลับเต้นแรงกว่าปกติ
แต่ใครจะคิดว่า ค่ำคืนนี้มันจะเป็นจุดเริ่มต้นของจุดเปลี่ยนในชีวิตของเธอ...ที่เธอจะไม่มีวันย้อนกลับมาแก้ไขมันได้อีกแล้ว
(ระหว่างที่หนังกำลังฉายอยู่)
“เฮ่อ ๆ ๆ” พริ้งพราวเริ่มรู้สึกกระสับกระส่ายมากขึ้น เธอดูดน้ำในแก้วดื่มจนหมดเพื่อหวังจะดับความรู้สึกร้อนผ่าว ๆ ในร่างกายของเธอในตอนนี้
มันน่าแปลกใจมากเหมือนกันที่แอร์ในโรงหนังควรจะเย็นฉ่ำมากกว่าร้อนระอุแบบนี้
“เป็นไรไปคนดี?”
“เฮ่อ...พริ้ง...พริ้งร้อนค่ะ ร้อนมาก ๆ เลย” พริ้งพราวพยายามกำชายกระโปรงแน่น แต่อีกใจเธออยากจะถอดกระโปรง และเสื้อที่สวมใส่อยู่ออกตอนนี้เลย
“ดูท่าทางเราเหมือนไม่สบายเลยนะ...มีอะไรให้พี่ช่วยไหม??” ชายหนุ่มขยับตัวเข้าใกล้เธอมากขึ้น และเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
พริ้งพราวรู้สึกเหมือนมีบางอย่างไม่ถูกต้อง แต่ในเวลาเดียวกัน ความรู้สึกภายในของเธอกลับดึงดูดเธอให้เข้าไปใกล้เขาเรื่อย ๆ
“พี่ชอบหนูนะ...ชอบมาก ๆ เรียกว่ามันเป็นความรักตั้งแต่แรกเจอเลยก็ว่าได้” เสียงของเขาเบาและนุ่มนวล แต่กลับทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงยิ่งขึ้น
พริ้งพราวรู้สึกถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของชายหนุ่มที่โน้มหน้าเข้ามาใกล้ เธอพยายามตั้งสติ แต่ความรู้สึกร้อนระอุในร่างกายกลับทำให้เธออ่อนแรง และยอมปล่อยให้เขาเข้ามาใกล้ชิดมากขึ้น
“รู้ไหมว่า...หนูคือคนที่พี่เฝ้ารอ อยากจะเจอมานานแสนนาน” ชายหนุ่มกระซิบเบา ๆ ข้างหูพริ้งพราว เสียงของเขานุ่มนวล แต่แฝงไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง สายตาของเขาจับจ้องที่ใบหน้าของเธออย่างไม่ละสายตา
“จะ...จริงเหรอคะพี่คริส?” พริ้งพราวรู้สึกมึน ๆ ทุกอย่างรอบตัวของเธอมันเหมือนหมุนไปอย่างช้า ๆ คล้ายเธอถูกดึงเข้าไปในอีกโลกใบหนึ่งที่ไม่คุ้นเคย ความร้อนในร่างกายของเธอทำให้เธอไม่สามารถคิดอย่างชัดเจนได้ เธอรู้สึกถึงมือของเขาที่ลูบไล้ไปตามต้นขาสวยของเธอ และค่อย ๆ สอดเข้ามาใต้กระโปรงสั้น ๆ
“พี่คริส...” เธอพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เสียงของเธอกลับออกมาแผ่วเบา จนแทบไม่ได้ยิน
“ไม่ต้องพูดอะไรตอนนี้หรอกคนดี...แค่ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความรู้สึกนี้ก็พอ” ชายหนุ่มพูดพลางใช้นิ้วชี้เชยคางของเธอขึ้นมา สายตาของเขาจับจ้องไปยังดวงตาของเธอที่เริ่มพร่ามัว ริมฝีปากของเขาเคลื่อนเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ จนเกือบจะสัมผัสกับเธอ
พริ้งพราวรู้สึกเหมือนถูกสะกดจิตด้วยคำพูดและการกระทำของเขา หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอก ความรู้สึกในตอนนี้เหมือนกับว่า เธอไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป
“คืนนี้มันจะเป็นคืนที่หนูลืมไม่ลงเลยที่รัก” เขากระซิบอีกครั้ง ก่อนจะก้มหน้าลง และจูบเธอเบา ๆ ที่มุมปาก
สัมผัสนั้นอ่อนโยนแต่เต็มไปด้วยความหวานล้ำ พริ้งพราวรู้สึกถึงความร้อนในร่างกายที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เธอเริ่มรู้สึกเคลิบเคลิ้มไปกับการกระทำของเขา มือของเธอที่เคยกำแน่นเริ่มคลายออก เธอยอมปล่อยให้เขาโอบกอด และพาเธอเข้าสู่ความลึกซึ้งที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน
ฝ่ามือหนาของชายหนุ่มลูบที่เนินสวาทของเธอภายใต้ผ้าห่ม ขณะที่หนังยังคงฉายต่อไปเรื่อย ๆ แต่มือของเขากลับไม่ได้หยุดนิ่ง เขาล้วงสอดปลายนิ้วเข้าไปที่ใต้แพนตี้ตัวบางของเธอ และเกลี่ยวน ๆ กดแทรกเข้าใจกลางรอยแยกของเธอที่เริ่มแฉะ ๆ
“คะ...คือหนู” เธอพยายามจะพูดอะไรอีกครั้ง แต่ชายหนุ่มเพียงแค่ส่ายหน้าเบา ๆ และนำมือของเธอมาวางบนหน้าอกของเขา เธอรู้สึกถึงการเต้นของหัวใจของเขาที่ประสานไปกับจังหวะของหัวใจของเธอ
พร้อมกับขยับโอบเอวบางของเธอเข้ามาแนบกาย ขณะที่มือก็ยังคงล้วงและขยี้ซ้ำ ๆ ๆ จนพริ้งพราวนั่งตัวสั่นสะท้าน ทั้งเสียวทั้งอยากจะกรีดร้องให้ดังลั่น แต่ก็ทำไม่ได้
“ไม่ต้องกลัว...ไม่มีใครเห็นหรอก” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลและอบอุ่น มืออีกข้างสอดเข้าใต้เสื้อและบีบขย้ำซ้ำ ๆ
“ตะ...แต่...พะพี่ขา”