“คืนนี้...พี่เป็นของขนม...คนเดียว” เขากระซิบพร่าข้างหู ขณะที่มือใหญ่บีบสะโพกเธอแน่น
ขนมครางเสียงหวาน ร่างกายตอบรับทุกจังหวะ จนในที่สุด...ทั้งคู่ถึงจุดสุดยอดพร้อมกัน
ขนมตัวสั่นกระตุกในอ้อมแขนกว้างของเขา น้ำตาไหลด้วยความสุขที่ท่วมท้น ร่างกายยังเกร็งแน่นจากจุดสุดยอดที่ถาโถมเข้ามาแรงกล้า ฤทธิ์ยาที่อยู่ในร่างกายทำให้เสียวมากกว่าเดิม ยิ่งเป็นเขา คนที่เธอรักและรอคอยมานานหลายปี
“พี่กันต์...หนู...อา...”
เธอหอบหายใจถี่ มือเล็กโอบรอบคอเขาแน่น ซุกหน้าลงที่เนินอกกว้างที่เปียกชุ่มเหงื่อ กลิ่นน้ำหอมผู้ชายคุ้นเคยผสมกลิ่นน้ำรักที่เพิ่งเกิดขึ้นทำให้หัวใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ
กันต์ครางแผ่วในลำคอ กอดเธอแน่นจนแทบละลายร่างกายเข้าด้วยกัน แต่แทนที่จะถอนตัวออกช้า ๆ อย่างที่เธอคิด...เขากลับขยับสะโพกเบา ๆ แก่นกายของเขายังคงฝังลึกในตัวเธอ
ดวงตาคมกริบของเขายังลุกโชนด้วยไฟปรารถนาที่ไม่ยอมดับ มือใหญ่ลูบไล้แผ่นหลังเธอช้า ๆ ราวกับกำลังชิมรสชาติของของหวานที่เพิ่งได้ครอบครอง
“อย่าคิดว่าพี่จะพอนะ...” เขากระซิบเสียงพร่าข้างหู เสียงทุ้มต่ำแฝงความหิวกระหายที่ซ่อนไว้มานาน
“คืนนี้...พี่จะกินหนูทั้งคืน”
ขนมเบิกตากว้าง ตาโตกลมโตด้วยความตกใจปนเขินอาย แม้ฤทธิ์ยายังทำให้ร่างกายเธอร้อนผ่าว อยากได้เขาอีก...แต่เธอไม่คิดว่าพี่กันต์ของเธอ พี่ชายใจดีที่เคยปฏิเสธเธอเพราะไม่อยากกินเด็ก จะหื่นขนาดนี้!
“พี่...ไหนพี่บอกไม่กินเด็กไงคะ!” เธอร้องเสียงหลง
“ใครใช้ให้เด็กคนนี้น่ากินกันล่ะ” เขายิ้มร้ายกาจให้เธอ ดวงตาคมกริบลุกโชนด้วยไฟปรารถนาที่ไม่ยอมดับ
“พี่...อีกแล้วเหรอคะ? หนู...หนูเพิ่ง...อ๊า...”
คำพูดของเธอสะดุด เสียงครางหวานหลุดออกมา เมื่อเขาเริ่มขยับอีกครั้ง
กันต์ยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์ ถอนตัวออกช้า ๆ จากตัวเธอ
ขนมรู้สึกว่างเปล่าแปลก ๆ ร่างกายที่ยังอ่อนไหวจากจุดสุดยอดรอบก่อนโหยหาเขาอย่างบ้าคลั่ง และเขาก็ไม่ปล่อยให้เธอรอนาน
มือใหญ่เอื้อมไปหยิบถุงยางอันใหม่มาสวมใส่แก่นกายที่ยังแข็งตัวด้วยความรวดเร็ว
ปลายนิ้วลูบไล้เพื่อให้แน่นหนา ขนาดใหญ่โตที่ยาวและหนา หลอดเลือดปูดโปนใต้ผิวเข้มกร้านแดด ทำให้ขนมกลืนน้ำลายดังเอื๊อก ตากลมโตมองไม่วางตา หน้าแดงก่ำด้วยความเขินอายปนตื่นเต้นที่ไม่อาจซ่อน
“พี่...พี่กันต์...หนูจะไหวเหรอคะ?” เธออ้อนเสียงสั่น แต่ดวงตาหวานฉ่ำกลับแฝงแววอยากรู้อยากเห็นปนตื่นเต้น
“พี่จะทำให้เราไหวเอง”
เขายิ้มอ่อนโยน จูบที่หน้าผากเธอเพื่อปลอบประโลม ก่อนโน้มตัวลงคร่อมร่างเธออีกครั้ง มือใหญ่จับขาเธอขยับกางออก กดปลายหัวร้อนผ่าวไปยังเนินสาวที่ยังเปียกชุ่มน้ำหวานของเธอ ลูบไล้วนเวียนช้า ๆ ยิ่งเร้าอารมณ์ขนมมากขึ้น ริมฝีปากร้อนกระซิบเสียงพร่าที่หูเธอ
“หายใจเข้าลึก ๆ นะ...รอบนี้พี่จะไม่ใจดีแล้ว”
ขนมกะพริบตาปริบ ๆ แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร กันต์ก็สอดแทรกเข้าไปทีละนิด ช้า ๆ จนสุดอีกครั้ง ร่องแคบร้อนรุ่มของเธอโอบรัดเขาแน่นจนเขาครางแผ่วในลำคอ
แต่คราวนี้...เขาไม่หยุดรอเพื่อให้เธอปรับตัว มือใหญ่บีบสะโพกนุ่มนวลของเธอแน่น จับเธอตรึงไว้กับเตียง แล้วขยับสะโพกแรงและเร็วทันที จังหวะกระแทกดุเดือดราวกับพายุที่ถูกปลดปล่อย ทุกการกระแทกเต็มไปด้วยความคลั่งรักที่เขาเก็บกดเอาไว้
“อ๊า! พี่...พี่กันต์...แรงเกิน...อ๊าาา!”
ขนมครางลั่น ร่างบางสะดุ้งเด้งตามจังหวะกระแทกที่ไม่ยั้ง หน้าอกอวบอิ่มกระเพื่อมตามแรง มือเล็กจิกแผ่นหลังกว้างของเขาแน่นจนเกิดรอยเป็นแนวยาว แต่ความเจ็บนั้นกลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของความสุขที่แผ่ซ่าน เธอแอ่นตัวขึ้นรับโดยสัญชาตญาณ เรียวขาสวยพันรอบเอวเขาเพื่อดึงเขาให้ลึกยิ่งขึ้น
“พี่...ลึก...ลึกมากเลย...หนู...หนูไม่ไหวแล้ว...อ๊า!”
กันต์คำรามเสียงต่ำในลำคอ เหงื่อไหลลงไปตามแผ่นหลังกว้างที่เกร็งแน่น เขาก้มลงประกบปากร้อนกับเนินอกเธอ เม้มดูดยอดถันชูชันแรง ๆ ขณะที่สะโพกยังกระแทกไม่หยุด จังหวะเร็วและหนักหน่วงยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องห้อง ดังก้องในหัวใจทั้งคู่
“ขนม...ของพี่...แน่น...แน่นจนพี่คลั่ง....”
“ครางให้ดังกว่านี้สิ...ให้พี่ได้ยินว่าเราชอบ...ชอบที่พี่รักเราแบบนี้”
ขนมครางไม่เป็นภาษา น้ำตาไหลด้วยความสุขที่ท่วมท้นปนความเหนื่อยล้า ร่างกายเธอเกร็งแน่นอีกครั้ง จุดสุดยอดถาโถมเข้ามาแรงกล้ากว่าทุกครั้ง
“พี่กันต์...หนู...อีกแล้ว...อ๊าาาา!” เธอร้องลั่น ร่างกายกระตุกสะท้าน น้ำหวานฉ่ำไหลทะลักโอบรัดเขาแน่นยิ่งกว่าเดิม
“ฮื่ม...”
“พี่กันต์...หนูไม่ไหวแล้ว...”
แต่กันต์ยังไม่หยุด...เขาไม่ยอมปล่อยเธอ เขาเปลี่ยนท่าทาง ดึงเธอขึ้นมานั่งตัก หลังของเธอแนบอกกว้าง มือใหญ่ประคองสะโพกให้ขยับขึ้นลงตามจังหวะกระแทกของเขาเอง จังหวะที่ยังคงแรงและเร็วไม่เปลี่ยน ปลายลิ้นร้อนไล้ไปตามซอกคอเธอ กระซิบพร่าข้างหู
“ยังไม่พอ...พี่ยังไม่พอใจ...เราต้องเป็นของพี่ทั้งคืน...ทั้งตัว...ทั้งใจ!”
คืนนั้น...กลายเป็นคืนที่ยาวนานและร้อนแรงที่สุด ขนมครางไม่รู้กี่ครั้ง จุดสุดยอดถาโถมเข้ามาไม่รู้กี่รอบ กันต์เปลี่ยนถุงยางใหม่กี่ครั้งไม่อาจนับได้
แต่จังหวะกระแทกของเขายังคงดุเดือด คลั่งรักไม่ยอมหยุด จนร่างกายเธออ่อนระโหยด้วยความสุขที่เกินบรรยาย เธอซุกหน้าลงอกเขา ครางแผ่ว
“พี่...พอเถอะ...หนู...หนูจะตายอยู่แล้ว...อ๊า...พี่...กันต์...”
จวบจนกระทั่ง...แสงยามเช้าสาดส่องลอดผ้าม่านบางเข้ามาในห้องสวีท กันต์ถึงกับถอนหายใจยาว ถอนตัวออกจากตัวเธอครั้งสุดท้าย ร่างกายกำยำที่เปียกชุ่มเหงื่อล้มตัวลงนอนกอดเธอแน่น ในขณะที่ร่างกายของขนมอ่อนล้าในอ้อมแขนเขา ริมฝีปากยิ้มอ่อนแรง
“พี่...บ้า...บ้าจริง ๆ ...เลยค่ะ...”
กันต์หัวเราะเบา ๆ ในลำคอ
“พี่ยอมให้ เพราะเห็นเราเหนื่อยหรอกนะ อ้าว?”
กันต์ก้มมองคนตัวเล็กที่ตอนนี้ดวงตาหวานฉ่ำปรือปิดลงช้า ๆ ก่อนจะผล็อยหลับไปเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าแดงก่ำซุกแนบอกเขา ราวกับเด็กน้อยที่เพิ่งได้พบที่พักพิงปลอดภัยที่สุดในโลก
กันต์มองเธอนิ่ง ๆ หัวใจพองโตอย่างบอกไม่ถูก เขายกมือใหญ่ลูบผมเปียกชุ่มของเธอเบา ๆ แล้วโน้มลงจูบหน้าผากเรียบเนียนนั้นอย่างทะนุถนอม
“ฝันดีนะ...ขนมของพี่” เขากระซิบแผ่ว เสียงทุ้มนุ่มแฝงความอ่อนโยนที่ไม่เคยมีให้ใครมาก่อน พลางดึงผ้าห่มนุ่มคลุมร่างเธอ ก่อนจะกอดเธอไว้แน่น ท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเช้าที่สาดส่องเข้ามา
...
เช้าวันถัดมา ที่บ้านหลังเก่าในซอยคุ้นเคย แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างบานใหญ่ มิวกำลังยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ภายในห้องห้องนั่งเล่น ในมือถือแก้วกาแฟร้อน ๆ ชะเง้อมองไปทางบ้านของขนมทางหน้าต่างที่ยังคงปิดสนิทเหมือนไม่มีคนอยู่
เธอก้มลงมองโทรศัพท์เพื่อเพิ่งเช็คข้อความล่าสุด
“ห๊ะ? เมื่อคืนพี่กันต์บอกพาขนมกลับก่อน...”
“แล้วทำไมพี่กันต์ไม่กลับบ้าน?”
“หรือว่า...ขนมไม่สบายหนักมาก?” เธอพึมพำกับตัวเอง เดินวนไปวนมาอย่างหงุดหงิด
“สองคนนั้นหายไปไหนเนี่ย? ไม่ใช่ว่า...อ๊ะ?!”
มิวชะงักกึก ใบหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันทีเมื่อนึกภาพพี่ชายคาสโนว่าตัวแสบกับเพื่อนรักสุดแซ่บที่หายไปทั้งคู่
“หรือว่า...สองคนนั้นจะแอบไปแซ่บกันวะ!”
“ไม่น่าเชื่อ! พี่กันต์คลั่งขนมจริง ๆ เหรอเนี่ย!”
“ไม่ได้ละ! ต้องเค้นคอยัยขนมให้ได้!!”
เธอเข่นเขี้ยวในใจ มือบางกำลังจะกดมือถือโทรหาขนม เพื่อสอบสวนความจริง
ทันใดนั้น...กริ่งหน้าบ้านก็ดังติ๊งต่องขึ้นเสียก่อน
“ใครกันนะ? มาแต่เช้า ๆ แบบนี้...อย่าบอกนะว่าเป็นพี่กันต์กับขนม แล้วทำไมไม่โทรบอกก่อนล่ะ?”
มิวพึมพำอย่างหงุดหงิด ก่อนจะวางแก้วกาแฟลงแล้วเดินย่ำเท้าไปที่ประตูหน้าบ้าน ใบหน้าที่กำลังบูดบึ้งถึงกับอ้าปากค้างตาโต
เมื่อเปิดประตูออกไปก็พบกับ...ผู้ชายในสูทเรียบหรูสีเทาเข้มยืนยิ้มกว้างตรงหน้า ถือกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่ดูประหลาดตา แต่ที่มันแปลกยิ่งกว่านั้นคือ เมื่อสิ่งที่โผล่ล้นออกมาด้านนอก...กลับเป็นวัตถุดิบสดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นผักสด เนื้อวัวชิ้นโต ไข่ไก่ และเครื่องปรุงครบครันราวกับร้านขายของชำย่อส่วน
“สวัสดีครับ น้องมิว...ตื่นเช้าจังเลยนะ”
ราวิน ซีอีโอสุดหล่อที่เมื่อคืนเพิ่งสารภาพรักแบบกะทันหันยืนอยู่หน้าประตูบ้าน มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกงสูทหลวม ๆ ดวงตาคมกริบใต้กรอบแว่นบางวาววับด้วยแววขี้เล่นที่ทำให้หัวใจมิวเต้นผิดจังหวะ
“พี่มาตามสัญญาเมื่อคืน อยากชิมอาหารจากฝีมือของเธอ...เอ๊ะ? หรือว่ายังไม่ทันทำ? ไม่เป็นไร พี่ช่วยทำก็ได้นะ”
มิวอึ้งอ้าปากค้าง แก้มแดงแจ๋ขึ้นมาทันทีราวกับมะเขือเทศสุกถูกแดดเผา เธอรีบยกมือปิดปากตัวเอง แต่สายตายังจ้องกระเป๋าเดินทางที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบเหล่านั้นไม่วางตา
“พี่...พี่วิน?! มาทำไมตั้งแต่เช้า ๆ แบบนี้”
“แล้ว...แล้วกระเป๋านั่นมันอะไรกันคะ!? อย่าบอกนะ ว่าพี่ลากร้านตลาดมาทั้งร้าน!?”
มิวตาเหลือกเมื่อเห็นของที่ใส่มาเต็มกระเป๋า
ราวินหัวเราะร่าในลำคอ เสียงทุ้มนุ่มที่ทำให้มิวขนลุกซู่ เขาก้าวเข้ามาใกล้แค่นิดเดียว แต่ก็พอให้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายลอยมาแตะจมูกเธอ
“ก็เมื่อคืนเธอสัญญาแล้วนี่ พี่เลยมาแต่เช้า”
“นี่พี่เอาของมาเต็มสูบเลยนะ เนื้อวากิวชิ้นดี ผักออร์แกนิกสด ๆ จากฟาร์ม และไข่ไก่ฟรีเรนจ์ที่เธอชอบ”
“อ๊ะ อย่าบอกนะว่าเธอจะผิดสัญญากับพี่น่ะ”
ดวงตาคมกริบภายใต้แว่นที่มองมาด้วยสายตาลุ่มลึก ทำเอามิวหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม เธอแกล้งยกมือผลักอกเขาเบา ๆ ทำท่ากระฟัดกระเฟียด
“โอ้ยยย! พี่วินนี่...บ้าจริง! ใครให้พี่มาถึงเช้าแบบนี้ล่ะคะ?”
“หนูยังไม่ได้แปรงฟันเลยนะ!”
“พี่กลับไปกินข้าวที่ออฟฟิศสิ...ไม่ก็ให้เมียพี่ทำอาหารให้สิ!”
เธอพูดพลางกลอกตา แต่หัวใจเต้นตึกตักไม่หยุด มือบางผลักอกเขาอย่างไม่จริงจัง แถมยังรู้สึกถึงกล้ามอกแน่นใต้เนื้อผ้าสูทที่ทำให้เธอหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม
ราวินฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิม ดวงตาคมวาววับ เขาจับข้อมือเธอไว้แล้วดึงเข้ามาใกล้จนลมหายใจแทบรินรดกัน
“พี่อยากให้เป็นเธอไงครับ ที่ทำอาหารให้พี่กิน”
“ที่สำคัญพี่ยังไม่มีเมีย ถ้าน้องมิวจะกรุณา พี่จะดีใจมากเลยครับ”
คำพูดที่แฝงความนัยแนวจริงจัง ทำให้มิวสะดุ้งโหยง หน้าแดงจนหูแดงตาม เธอรีบสะบัดมือออก แต่สุดท้ายก็ยอมถอยหลังให้ทำท่าทางเหมือนยอมจำนนอย่างไม่เต็มใจ
“ก็ได้ค่ะ แต่ถ้าพี่บอกว่าอาหารไม่อร่อย หนูไล่กลับจริง ๆ นะคะ!”
ราวินหัวเราะร่า ลากกระเป๋าเดินทางใบโตนั้นก้าวเท้าตามเธอเข้าไปในบ้าน
เช้าวันนั้น...บ้านของมิวเต็มไปด้วยกลิ่นหอมกรุ่นของอาหารเช้า และเสียงหัวเราะคิกคักที่ดังลั่นครัว ท่ามกลางความกุ๊กกิ๊กหวานแหววที่เพิ่งเริ่มต้น