ไฟหน้ารถหรูคันใหญ่ค่อย ๆ หรี่ลงเมื่อจอดสนิทหน้ารั้วบ้าน
ขนมเหลือบมองนาฬิกา…หนึ่งทุ่มตรงเป๊ะ!
เธอถอนหายใจเบา ๆ ขณะคลายเข็มขัดนิรภัย แก้มยังแดงระเรื่อ ดวงตายังเป็นประกายจากความสุขล้นทะลักจนเก็บไม่อยู่
กันต์เหลือบมองเธอ ยิ้มมุมปากนิด ๆ มือใหญ่เอื้อมมาลูบศีรษะเบา ๆ
“เป็นอะไร เหนื่อยเหรอ?”
“เหนื่อยสิคะ คิดว่าเป็นเพราะใครล่ะคะ” ขนมย่นจมูกใส่เขา ก่อนเบือนหน้าหนีเขิน ๆ
กันต์ยิ้มกว้างขึ้น ดวงตาคมเป็นประกายเจ้าเล่ห์
“ให้พี่อุ้มเข้าไปส่งมั้ย?”
“มะ ไม่ต้องเลยค่ะ” ขนมร้องลั่น ผงะออกโดยอัตโนมัติ แต่หน้าแดงก่ำ
เธอรีบเปิดประตูลงจากรถอย่างตั้งใจจะหนี แต่ทันทีที่เท้าสัมผัสพื้น...ขาทั้งสองข้างกลับไม่มีแรงอย่างที่คิดไว้ จนต้องรีบเอนตัวพิงประตูรถไว้ทันที
กันต์หัวเราะในลำคอ ขณะที่รีบก้าวลงจากรถแล้วประคองร่างเล็กเอาไว้ ฝ่ามือหนารวบเอวเอวคอดแน่น
“ปากเก่งนะเรา” เขากระซิบข้างหู
“ขาอ่อนขนาดนี้ ยังจะปากดีอีก”
“เพราะใครล่ะคะ” ขนมตวัดสายตาค้อนขวับ ทั้งเขิน ทั้งหงุดหงิด ทั้งอาย
“งั้นพี่รับผิดชอบ...คืนนี้จะทำให้ลุกไม่ขึ้นเลยละกัน”
“พี่กันต์!!!” ขนมร้องเสียงหลง มือเล็กยกขึ้นฟาดไหล่เขาเบา ๆ ด้วยความเขินจัด
“เฮ้ย ๆ ๆ ๆ อะไรกัน ยัยขนม!!”
เสียงใสของมิวดังขึ้นจากระเบียงหน้าบ้าน
หญิงสาวในชุดนอนลายการ์ตูนกำลังหิ้วถุงขยะจะออกมาทิ้ง แต่เมื่อเห็นเพื่อนรักทำท่าจะทรุดเข้าใส่พี่ชายสุดหล่อของเธอ ก็รีบวิ่งพรวดเข้ามาทันที
“แกเป็นอะไรมากมั้ย!?”
“ทำไมหน้าซีดแบบนี้...เมื่อคืนไปไหนมา?”
“แล้วพี่กันต์? เอ๊ะ? พี่มาทำอะไรตรงนี้?!”
มิวตาโต สายตาเหลือบไปมองรอยแดงจาง ๆ ที่คอเสื้อเดรสของขนมที่เผยออกมา
รอยที่ดูไม่ใช่ยุงกัดแน่ ๆ เธอหรี่ตาแคบ มองพี่ชายตัวดีที่กำลังโอบเอวเพื่อนสนิทอย่างไม่ละสายตา
“โอ้โห...ไม่ต้องบอกก็รู้ละ!”
“เมื่อคืน ‘ไม่สบาย’ จริงเหรอ? หรือว่าสบายกันจนลืมเวลาไปเลย?”
กันต์ยังคงทำสีหน้าไม่รู้เรื่อง ส่วนขนมเรียบแดงแจ๋
“มิวววว!”
“ฉันไม่เป็นไร แค่...แค่ปวดหัว อาจเพราะดื่มมากไปแค่นั้นล่ะ”
ขนมแก้ตัวเลิกลั่ก พยายามแกะมือหนาที่โอบเอวเอาไว้ออก
“มิว...อย่าเพิ่งแซว เดี๋ยวพี่ไปส่งขนมก่อน”
“ไม่ต้องเลยย!!”
เสียงเธอเบรกพี่ชายดังลั่น แถมยังใช้มือดันอกกันต์ออกห่างจากเพื่อนตัวเองทันที
“พี่กันต์ปล่อยเดี๋ยวนี้ ยัยขนมเพื่อนฉัน เดี๋ยวฉันดูแลเอง!”
กันต์เลิกคิ้ว ยกมือสองข้างขึ้นอย่างยอมแพ้
“โอเค ยัยตัวแสบ พี่ไม่ยุ่งก็ได้”
มิวหันไปประคองร่างขนมที่ดูอ่อนล้าจนขาแข้งอ่อนแรงราวกับเพิ่งผ่านศึกขนาดหนัก
“มานี่มาเพื่อนรัก...เดี๋ยวฉันพาแกเข้าไปนอนพักเอง”
เธอกระซิบข้างหู ก่อนจะเอ่ยแซวด้วยประโยคที่แทบน็อคขนม
“ไงล่ะแก...ขาอ่อนขนาดนี้ ‘ออกกำลัง’ กันกี่ยก ห๊ะ?”
“มิวววววววว อย่าแซววววว~”
ขนมครางเสียงเบา หน้าแดงจัดแทบจะหลอมละลาย
“เฮ้ยยยย แกต้องเล่าให้ฉันฟังเลยนะ ยัยขนม” มิวตาโต กระซิบเสียงเข้ม
“รู้แล้วน่า~”
กันต์ได้แต่ส่ายหน้าให้กับความแสบของน้องสาวตัวเอง ก่อนจะหันไปหยิบกระเป๋าถือใบเล็กของขนมออกจากรถ แล้วเดินตามทั้งคู่เข้าไปในบ้าน
ทันทีที่เข้ามาถึงห้องนั่งเล่น มิวก็หันกลับมาหาพี่ชาย ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์
“เออ...คืนนี้ฉันค้างบ้านขนมนะ”
กันต์ชะงักไปเล็กน้อย สายตาคมกริบเหลือบไปมองน้องสาวที่ยืนยิ้มแป้นอยู่ข้างขนม
“ค้าง?”
น้ำเสียงของเขานิ่ง…แต่มันนิ่งแบบที่ทำให้ทั้งห้องรู้ว่าเจ้าตัวไม่ปลื้มนัก
“อือ~ มีซีรีส์ดูค้างไว้ด้วยกันตั้งแต่คราวก่อน คืนนี้เราจะได้ดูรวดเดียวให้จบ เนอะขนม”
มิวพูดเสียงสดใส พลางหันไปขยิบตาให้เพื่อนรัก ขนมได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ มองหน้ากันต์ที่เคร่งขรึมสลับกับมิวไปมา
“ยังไง เรา?”
กันต์ถามเสียงขุ่น พยายามบังคับอารมณ์
‘น้องเวร! คืนนี้ตั้งใจจะมากินขนมซะหน่อย ขัดลาภซะได้’
“เอ่อ...ตามมิวว่าเลยค่ะ” ขนมยิ้มหวานทำไม่รู้ไม่ชี้กับสายตาหื่นของเขา
“เย้~ ดีเลย เราจะได้ทำป๊อปคอร์นกันเนอะ”
มิวโห่ร้องอย่างดีใจ ก่อนจะกอดขนมแล้วเอาหน้าถูไถไปที่หน้าอกอวบอิ่ม
“ยัยมิว ให้มันน้อย ๆ หน่อย” กันต์ห้ามเสียงเข้ม
“พี่ไม่โอเคเหรอคะ?” ขนมถามพลางมองเขาตาแป๋วเหมือนลูกแมวตัวน้อย
กันต์ถอนหายใจเบา ๆ
เขาไม่ได้ตอบทันที แต่เดินเข้ามาใกล้จนเหลือเพียงช่วงลมหายใจ ก่อนจะโน้มตัวลงกระซิบชิดริมหูเธอ
เสียงทุ้มต่ำพร่าที่กระซิบออกมาแทบทำให้ขนมเข่าอ่อนอีกรอบ
“พี่แค่อยาก...กินขนมอีกซักคืนก็เท่านั้น”
ขนมสะดุ้ง หน้าแดงจัด ยกมือฟาดอกเขาเบา ๆ
“พี่กันต์!!! อย่าพูดแบบนี้ต่อหน้ามิวสิคะ!”
“โอ๊ยยยยยยย!!! หยุดเลย!”
มิวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ทนไม่ไหว รีบคว้าหมอนอิงจากโซฟาแล้วฟาดใส่ทั้งคู่
“ฉันอยู่ตรงนี้นะเว้ยยย อย่าทำเหมือนฉันเป็นอากาศ!”
กันต์หัวเราะเบา ๆ ในลำคออย่างเอ็นดู ก่อนจะละสายตามาสบกับดวงตาหวานฉ่ำของขนมอีกครั้ง
“ก็ได้...คืนนี้ยกให้พวกเธอไปดูซีรีส์กันสองคน”
เขาพูดพลางถอนหายใจ แต่แววตายังคงแฝงความเสียดายนิด ๆ
“แต่พรุ่งนี้เช้า...พี่จะมารับไปกินข้าวนะ ห้ามเบี้ยว”
“ค่า~”
ขนมยิ้มกว้าง ส่งเสียงหวานรับคำ มือเล็กแอบเกี่ยวปลายนิ้วเขาเบา ๆ อย่างซุกซน ก่อนรีบปล่อยเมื่อเห็นสายตามิวมองมาอย่างหมั่นไส้
“อ้อ แล้วอย่าลืมเก็บเสื้อผ้าล่ะ” กันต์หันมากำชับพร้อมยกคิ้วนิด ๆ
“อีกสองวันเราต้องไปไซต์งานกัน”
“ห๊ะ? ไซต์งานอะไรอะ ทำไมหนูไม่รู้เรื่อง?”
มิวตาโต โวยวายเสียงดัง
“ไม่ต้องรู้ทุกเรื่องก็ได้มั้ง”
กันต์หันไปตัดบทน้องสาว ก่อนจะวกกลับมาหาขนมอีกครั้ง
เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ แล้วกดจูบเบา ๆ ที่หน้าผากมนของเธอ ต่อหน้ามิวที่ช็อตฟีลไปเรียบร้อยแล้ว
ขนมตัวแข็งทื่อ หน้าแดงก่ำแทบลุกเป็นไฟ
“ฝันดีนะครับ...เด็กดื้อของพี่”
เขาพูดพลางยิ้มมุมปาก แล้วขยี้ผมเธอเบา ๆ ก่อนจะหันหลังเดินออกจากบ้านไป
“เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!”
มิวถึงกับร้องลั่นทันทีที่ประตูปิด
…
เวลาผ่านไปซักพัก
ในห้องนอนขนาดกะทัดรัด กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ลอยฟุ้งในอากาศ สองเพื่อนสาวสุดซี้ในชุดนอนน่ารัก กำลังนอนตะแคงหันหน้าหากันใต้ผ้าห่มลายแมวเหมียว
ไฟหัวเตียงสลัว ๆ ทำให้บรรยากาศเหมาะกับการเค้นความจริงยิ่งนัก
มิวขมวดคิ้ว มือกอดหมอนแน่น สีหน้าของเธอ...จริงจังยิ่งกว่าตอนสอบโอเน็ต
“เล่ามาซะดี ๆ”
“…เมื่อคืนนี้ พี่ฉันกินแกไปกี่รอบ?”
ขนมสะดุ้งโหยง หน้าแดงระเรื่อจนถึงหู มือเล็กคว้าหมอนอีกใบขึ้นมาปิดหน้าแบบไม่ต้องคิด
“มิวววววววววววว!!! อย่าพูดแบบนั้นสิ!”
เสียงเธอสั่นรัวแถมแหลมขึ้นเกือบ 2 คีย์
“โอ๊ย ไม่ต้องพูดก็รู้เว้ย!”
มิวเบะปากก่อนเอานิ้วจิ้มเบา ๆ ที่ต้นขาขาวใต้ผ้าห่ม
“ดูขาแกดิ เดินแทบไม่ไหวเมื่อเย็นอะ!”
“ก็...ก็ฉันใส่ส้นสูงนานไปเฉย ๆ น่ะ...”
ขนมแก้ตัวเสียงอู้อี้จากใต้หมอน
มิวกลอกตาใส่ทันที
“แกจะเอาแบบนี้จริงดิ?”
“อะไรเล่า”
ขนมยังเถียงอู้อี้ แต่มือที่จับหมอนไว้เริ่มสั่นเล็กน้อย ทำให้มิวยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาทันที
“แบบนี้ต้องจัดการ!!!”
ว่าแล้วเธอก็โถมตัวเข้าใส่เพื่อนรักทันที สองมือกระหน่ำจี๋เอว บางอย่างไม่ปรานี
“มิวววววววววววว~ ฮ่าๆๆๆๆ! พอแล้วววววว!”
“บอกมา! กี่รอบ!!!”
มิวหัวเราะสะใจ ขณะที่ปลายนิ้วยังกดจี้ลงบนเอวบางของขนมไม่หยุด จนอีกฝ่ายดิ้นพล่านแทบตกเตียง
“มิว! หยุดดดด! ฉันจะตายแล้วววว ฮ่าๆๆๆ!”
“ไม่หยุดเว้ย! จนกว่าจะยอมรับ!”
ขนมดิ้นหนีจนเสื้อนอนเลิกขึ้นเหนือเอว มือของมิวที่พยายามคว้าตัวเพื่อนไว้จับไปที่หน้าอกขนมเข้าเต็ม ๆ
ทั้งคู่ชะงักไปครู่หนึ่ง...ก่อนที่ขนมจะกรี๊ดลั่นอีกครั้ง
“มิววววววววววววววววววววววววววววว!!!”
“จับนมฉันทำไม!!!”
มิวหัวเราะเสียงดังแล้วพูดสวนแบบหน้าตาย
“ก็แกไม่บอก ฉันจะบีบนมแตกเลย”
ว่าแล้วก็บีบซ้ำอย่างหมั่นไส้ ทำเอาขนมร้องลั่น ดิ้นพล่านไปรอบเตียง
“อ๊ายยยย! พอแล้ว! มิวบ้า!!! หยุดนะ ฉันพูดแล้ววววววว~!”
มิวชะงัก ยิ้มเจ้าเล่ห์
“หืมมม~ ว่าไงน้า? ยอมพูดแล้วเหรอคะคุณขนมมม~”
ขนมกดหน้าลงไปบนหมอนมากกว่าเดิม หน้าแดงถึงหู มือเล็กกำแน่น ก่อนจะกระซิบ
“...เจ็ด”
“ห๊ะ?”
มิวขมวดคิ้ว ยื่นหูเข้าใกล้
ขนมหลับตาปี๋แล้วกระซิบอีกครั้ง
“...เจ็ดรอบ...”
มิวตาโต อ้าปากค้าง
“ห๊าาาาาาาาาาาาาาาาา!!! แกพูดว่า ‘เจ็ด’ ใช่มั้ย!!!”
ขนมกดหน้าลงหมอนแน่น ไม่กล้าสบตากับเพื่อน
“โอ๊ยยยยย! พี่ฉันมันไม่ใช่คนแล้ว!!!”
มิวกรีดร้องพลางกลิ้งไปมาบนเตียงอย่างกับนางเอกละคร
“นี่มัน เจ็ดยับชัด ๆ ยัยขนม!!!”
“มิวววววววววววว!!!”
ขนมร้องลั่น เอาหมอนที่ปิดหน้าฟาดเพื่อนไม่ยั้ง รับคำพูดเพื่อนไม่ได้ ก่อนที่มิวจะเอาหมอนฟาดกลับ เกิดสงครามฟาดหมอนขึ้นกะทันหัน
หลังจากที่ทั้งคู่เล่นกันจนเหนื่อย มิวก็นอนมองหน้าเพื่อน ก่อนจะยิ้มมุมปาก
“แก...”
ขนมเหลือบตามองเพื่อน
“อะไรอีกล่ะ...”
มิวยิ้มให้เพื่อนอย่างอ่อนโยน ดวงตาซุกซนคู่นั้นดูอบอุ่น มือเล็กลูบผมเพื่อนช้า ๆ
“ดีใจที่แกมีความสุขนะเว้ย…”
ขนมชะงัก ก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง แล้วโผเข้าไปกอดเพื่อน
“ขอบใจนะ...มิว”
“ถ้าพี่กันต์ทำแกร้องไห้เมื่อไหร่ ฉันจะตัดกล้วยเขาทิ้งเลย คอยดู!”
“มิวววววววววววววววว!!!”
เสียงร้องของขนมดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่เสียงหัวเราะของทั้งสองจะกลบห้องทั้งห้อง จนกระทั่งความเงียบเข้ามาแทนที่
ค่ำคืนแห่งความลับ ความแสบ...และมิตรภาพ ก็จบลงด้วยหัวใจอุ่น ๆ ของเพื่อนรักสองคนที่มีอะไรก็แชร์ให้กันเสมอ