ตอนที่ 14 ขาอ่อนเพราะพี่ หรือเขินจนหมดแรง!?

1856 คำ
ไฟหน้ารถหรูคันใหญ่ค่อย ๆ หรี่ลงเมื่อจอดสนิทหน้ารั้วบ้าน ขนมเหลือบมองนาฬิกา…หนึ่งทุ่มตรงเป๊ะ! เธอถอนหายใจเบา ๆ ขณะคลายเข็มขัดนิรภัย แก้มยังแดงระเรื่อ ดวงตายังเป็นประกายจากความสุขล้นทะลักจนเก็บไม่อยู่ กันต์เหลือบมองเธอ ยิ้มมุมปากนิด ๆ มือใหญ่เอื้อมมาลูบศีรษะเบา ๆ “เป็นอะไร เหนื่อยเหรอ?” “เหนื่อยสิคะ คิดว่าเป็นเพราะใครล่ะคะ” ขนมย่นจมูกใส่เขา ก่อนเบือนหน้าหนีเขิน ๆ กันต์ยิ้มกว้างขึ้น ดวงตาคมเป็นประกายเจ้าเล่ห์ “ให้พี่อุ้มเข้าไปส่งมั้ย?” “มะ ไม่ต้องเลยค่ะ” ขนมร้องลั่น ผงะออกโดยอัตโนมัติ แต่หน้าแดงก่ำ เธอรีบเปิดประตูลงจากรถอย่างตั้งใจจะหนี แต่ทันทีที่เท้าสัมผัสพื้น...ขาทั้งสองข้างกลับไม่มีแรงอย่างที่คิดไว้ จนต้องรีบเอนตัวพิงประตูรถไว้ทันที กันต์หัวเราะในลำคอ ขณะที่รีบก้าวลงจากรถแล้วประคองร่างเล็กเอาไว้ ฝ่ามือหนารวบเอวเอวคอดแน่น “ปากเก่งนะเรา” เขากระซิบข้างหู “ขาอ่อนขนาดนี้ ยังจะปากดีอีก” “เพราะใครล่ะคะ” ขนมตวัดสายตาค้อนขวับ ทั้งเขิน ทั้งหงุดหงิด ทั้งอาย “งั้นพี่รับผิดชอบ...คืนนี้จะทำให้ลุกไม่ขึ้นเลยละกัน” “พี่กันต์!!!” ขนมร้องเสียงหลง มือเล็กยกขึ้นฟาดไหล่เขาเบา ๆ ด้วยความเขินจัด “เฮ้ย ๆ ๆ ๆ อะไรกัน ยัยขนม!!” เสียงใสของมิวดังขึ้นจากระเบียงหน้าบ้าน หญิงสาวในชุดนอนลายการ์ตูนกำลังหิ้วถุงขยะจะออกมาทิ้ง แต่เมื่อเห็นเพื่อนรักทำท่าจะทรุดเข้าใส่พี่ชายสุดหล่อของเธอ ก็รีบวิ่งพรวดเข้ามาทันที “แกเป็นอะไรมากมั้ย!?” “ทำไมหน้าซีดแบบนี้...เมื่อคืนไปไหนมา?” “แล้วพี่กันต์? เอ๊ะ? พี่มาทำอะไรตรงนี้?!” มิวตาโต สายตาเหลือบไปมองรอยแดงจาง ๆ ที่คอเสื้อเดรสของขนมที่เผยออกมา รอยที่ดูไม่ใช่ยุงกัดแน่ ๆ เธอหรี่ตาแคบ มองพี่ชายตัวดีที่กำลังโอบเอวเพื่อนสนิทอย่างไม่ละสายตา “โอ้โห...ไม่ต้องบอกก็รู้ละ!” “เมื่อคืน ‘ไม่สบาย’ จริงเหรอ? หรือว่าสบายกันจนลืมเวลาไปเลย?” กันต์ยังคงทำสีหน้าไม่รู้เรื่อง ส่วนขนมเรียบแดงแจ๋ “มิวววว!” “ฉันไม่เป็นไร แค่...แค่ปวดหัว อาจเพราะดื่มมากไปแค่นั้นล่ะ” ขนมแก้ตัวเลิกลั่ก พยายามแกะมือหนาที่โอบเอวเอาไว้ออก “มิว...อย่าเพิ่งแซว เดี๋ยวพี่ไปส่งขนมก่อน” “ไม่ต้องเลยย!!” เสียงเธอเบรกพี่ชายดังลั่น แถมยังใช้มือดันอกกันต์ออกห่างจากเพื่อนตัวเองทันที “พี่กันต์ปล่อยเดี๋ยวนี้ ยัยขนมเพื่อนฉัน เดี๋ยวฉันดูแลเอง!” กันต์เลิกคิ้ว ยกมือสองข้างขึ้นอย่างยอมแพ้ “โอเค ยัยตัวแสบ พี่ไม่ยุ่งก็ได้” มิวหันไปประคองร่างขนมที่ดูอ่อนล้าจนขาแข้งอ่อนแรงราวกับเพิ่งผ่านศึกขนาดหนัก “มานี่มาเพื่อนรัก...เดี๋ยวฉันพาแกเข้าไปนอนพักเอง” เธอกระซิบข้างหู ก่อนจะเอ่ยแซวด้วยประโยคที่แทบน็อคขนม “ไงล่ะแก...ขาอ่อนขนาดนี้ ‘ออกกำลัง’ กันกี่ยก ห๊ะ?” “มิวววววววว อย่าแซววววว~” ขนมครางเสียงเบา หน้าแดงจัดแทบจะหลอมละลาย “เฮ้ยยยย แกต้องเล่าให้ฉันฟังเลยนะ ยัยขนม” มิวตาโต กระซิบเสียงเข้ม “รู้แล้วน่า~” กันต์ได้แต่ส่ายหน้าให้กับความแสบของน้องสาวตัวเอง ก่อนจะหันไปหยิบกระเป๋าถือใบเล็กของขนมออกจากรถ แล้วเดินตามทั้งคู่เข้าไปในบ้าน ทันทีที่เข้ามาถึงห้องนั่งเล่น มิวก็หันกลับมาหาพี่ชาย ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ “เออ...คืนนี้ฉันค้างบ้านขนมนะ” กันต์ชะงักไปเล็กน้อย สายตาคมกริบเหลือบไปมองน้องสาวที่ยืนยิ้มแป้นอยู่ข้างขนม “ค้าง?” น้ำเสียงของเขานิ่ง…แต่มันนิ่งแบบที่ทำให้ทั้งห้องรู้ว่าเจ้าตัวไม่ปลื้มนัก “อือ~ มีซีรีส์ดูค้างไว้ด้วยกันตั้งแต่คราวก่อน คืนนี้เราจะได้ดูรวดเดียวให้จบ เนอะขนม” มิวพูดเสียงสดใส พลางหันไปขยิบตาให้เพื่อนรัก ขนมได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ มองหน้ากันต์ที่เคร่งขรึมสลับกับมิวไปมา “ยังไง เรา?” กันต์ถามเสียงขุ่น พยายามบังคับอารมณ์ ‘น้องเวร! คืนนี้ตั้งใจจะมากินขนมซะหน่อย ขัดลาภซะได้’ “เอ่อ...ตามมิวว่าเลยค่ะ” ขนมยิ้มหวานทำไม่รู้ไม่ชี้กับสายตาหื่นของเขา “เย้~ ดีเลย เราจะได้ทำป๊อปคอร์นกันเนอะ” มิวโห่ร้องอย่างดีใจ ก่อนจะกอดขนมแล้วเอาหน้าถูไถไปที่หน้าอกอวบอิ่ม “ยัยมิว ให้มันน้อย ๆ หน่อย” กันต์ห้ามเสียงเข้ม “พี่ไม่โอเคเหรอคะ?” ขนมถามพลางมองเขาตาแป๋วเหมือนลูกแมวตัวน้อย กันต์ถอนหายใจเบา ๆ เขาไม่ได้ตอบทันที แต่เดินเข้ามาใกล้จนเหลือเพียงช่วงลมหายใจ ก่อนจะโน้มตัวลงกระซิบชิดริมหูเธอ เสียงทุ้มต่ำพร่าที่กระซิบออกมาแทบทำให้ขนมเข่าอ่อนอีกรอบ “พี่แค่อยาก...กินขนมอีกซักคืนก็เท่านั้น” ขนมสะดุ้ง หน้าแดงจัด ยกมือฟาดอกเขาเบา ๆ “พี่กันต์!!! อย่าพูดแบบนี้ต่อหน้ามิวสิคะ!” “โอ๊ยยยยยยย!!! หยุดเลย!” มิวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ทนไม่ไหว รีบคว้าหมอนอิงจากโซฟาแล้วฟาดใส่ทั้งคู่ “ฉันอยู่ตรงนี้นะเว้ยยย อย่าทำเหมือนฉันเป็นอากาศ!” กันต์หัวเราะเบา ๆ ในลำคออย่างเอ็นดู ก่อนจะละสายตามาสบกับดวงตาหวานฉ่ำของขนมอีกครั้ง “ก็ได้...คืนนี้ยกให้พวกเธอไปดูซีรีส์กันสองคน” เขาพูดพลางถอนหายใจ แต่แววตายังคงแฝงความเสียดายนิด ๆ “แต่พรุ่งนี้เช้า...พี่จะมารับไปกินข้าวนะ ห้ามเบี้ยว” “ค่า~” ขนมยิ้มกว้าง ส่งเสียงหวานรับคำ มือเล็กแอบเกี่ยวปลายนิ้วเขาเบา ๆ อย่างซุกซน ก่อนรีบปล่อยเมื่อเห็นสายตามิวมองมาอย่างหมั่นไส้ “อ้อ แล้วอย่าลืมเก็บเสื้อผ้าล่ะ” กันต์หันมากำชับพร้อมยกคิ้วนิด ๆ “อีกสองวันเราต้องไปไซต์งานกัน” “ห๊ะ? ไซต์งานอะไรอะ ทำไมหนูไม่รู้เรื่อง?” มิวตาโต โวยวายเสียงดัง “ไม่ต้องรู้ทุกเรื่องก็ได้มั้ง” กันต์หันไปตัดบทน้องสาว ก่อนจะวกกลับมาหาขนมอีกครั้ง เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ แล้วกดจูบเบา ๆ ที่หน้าผากมนของเธอ ต่อหน้ามิวที่ช็อตฟีลไปเรียบร้อยแล้ว ขนมตัวแข็งทื่อ หน้าแดงก่ำแทบลุกเป็นไฟ “ฝันดีนะครับ...เด็กดื้อของพี่” เขาพูดพลางยิ้มมุมปาก แล้วขยี้ผมเธอเบา ๆ ก่อนจะหันหลังเดินออกจากบ้านไป “เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!” มิวถึงกับร้องลั่นทันทีที่ประตูปิด … เวลาผ่านไปซักพัก ในห้องนอนขนาดกะทัดรัด กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ลอยฟุ้งในอากาศ สองเพื่อนสาวสุดซี้ในชุดนอนน่ารัก กำลังนอนตะแคงหันหน้าหากันใต้ผ้าห่มลายแมวเหมียว ไฟหัวเตียงสลัว ๆ ทำให้บรรยากาศเหมาะกับการเค้นความจริงยิ่งนัก มิวขมวดคิ้ว มือกอดหมอนแน่น สีหน้าของเธอ...จริงจังยิ่งกว่าตอนสอบโอเน็ต “เล่ามาซะดี ๆ” “…เมื่อคืนนี้ พี่ฉันกินแกไปกี่รอบ?” ขนมสะดุ้งโหยง หน้าแดงระเรื่อจนถึงหู มือเล็กคว้าหมอนอีกใบขึ้นมาปิดหน้าแบบไม่ต้องคิด “มิวววววววววววว!!! อย่าพูดแบบนั้นสิ!” เสียงเธอสั่นรัวแถมแหลมขึ้นเกือบ 2 คีย์ “โอ๊ย ไม่ต้องพูดก็รู้เว้ย!” มิวเบะปากก่อนเอานิ้วจิ้มเบา ๆ ที่ต้นขาขาวใต้ผ้าห่ม “ดูขาแกดิ เดินแทบไม่ไหวเมื่อเย็นอะ!” “ก็...ก็ฉันใส่ส้นสูงนานไปเฉย ๆ น่ะ...” ขนมแก้ตัวเสียงอู้อี้จากใต้หมอน มิวกลอกตาใส่ทันที “แกจะเอาแบบนี้จริงดิ?” “อะไรเล่า” ขนมยังเถียงอู้อี้ แต่มือที่จับหมอนไว้เริ่มสั่นเล็กน้อย ทำให้มิวยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาทันที “แบบนี้ต้องจัดการ!!!” ว่าแล้วเธอก็โถมตัวเข้าใส่เพื่อนรักทันที สองมือกระหน่ำจี๋เอว บางอย่างไม่ปรานี “มิวววววววววววว~ ฮ่าๆๆๆๆ! พอแล้วววววว!” “บอกมา! กี่รอบ!!!” มิวหัวเราะสะใจ ขณะที่ปลายนิ้วยังกดจี้ลงบนเอวบางของขนมไม่หยุด จนอีกฝ่ายดิ้นพล่านแทบตกเตียง “มิว! หยุดดดด! ฉันจะตายแล้วววว ฮ่าๆๆๆ!” “ไม่หยุดเว้ย! จนกว่าจะยอมรับ!” ขนมดิ้นหนีจนเสื้อนอนเลิกขึ้นเหนือเอว มือของมิวที่พยายามคว้าตัวเพื่อนไว้จับไปที่หน้าอกขนมเข้าเต็ม ๆ ทั้งคู่ชะงักไปครู่หนึ่ง...ก่อนที่ขนมจะกรี๊ดลั่นอีกครั้ง “มิววววววววววววววววววววววววววววว!!!” “จับนมฉันทำไม!!!” มิวหัวเราะเสียงดังแล้วพูดสวนแบบหน้าตาย “ก็แกไม่บอก ฉันจะบีบนมแตกเลย” ว่าแล้วก็บีบซ้ำอย่างหมั่นไส้ ทำเอาขนมร้องลั่น ดิ้นพล่านไปรอบเตียง “อ๊ายยยย! พอแล้ว! มิวบ้า!!! หยุดนะ ฉันพูดแล้ววววววว~!” มิวชะงัก ยิ้มเจ้าเล่ห์ “หืมมม~ ว่าไงน้า? ยอมพูดแล้วเหรอคะคุณขนมมม~” ขนมกดหน้าลงไปบนหมอนมากกว่าเดิม หน้าแดงถึงหู มือเล็กกำแน่น ก่อนจะกระซิบ “...เจ็ด” “ห๊ะ?” มิวขมวดคิ้ว ยื่นหูเข้าใกล้ ขนมหลับตาปี๋แล้วกระซิบอีกครั้ง “...เจ็ดรอบ...” มิวตาโต อ้าปากค้าง “ห๊าาาาาาาาาาาาาาาาา!!! แกพูดว่า ‘เจ็ด’ ใช่มั้ย!!!” ขนมกดหน้าลงหมอนแน่น ไม่กล้าสบตากับเพื่อน “โอ๊ยยยยย! พี่ฉันมันไม่ใช่คนแล้ว!!!” มิวกรีดร้องพลางกลิ้งไปมาบนเตียงอย่างกับนางเอกละคร “นี่มัน เจ็ดยับชัด ๆ ยัยขนม!!!” “มิวววววววววววว!!!” ขนมร้องลั่น เอาหมอนที่ปิดหน้าฟาดเพื่อนไม่ยั้ง รับคำพูดเพื่อนไม่ได้ ก่อนที่มิวจะเอาหมอนฟาดกลับ เกิดสงครามฟาดหมอนขึ้นกะทันหัน หลังจากที่ทั้งคู่เล่นกันจนเหนื่อย มิวก็นอนมองหน้าเพื่อน ก่อนจะยิ้มมุมปาก “แก...” ขนมเหลือบตามองเพื่อน “อะไรอีกล่ะ...” มิวยิ้มให้เพื่อนอย่างอ่อนโยน ดวงตาซุกซนคู่นั้นดูอบอุ่น มือเล็กลูบผมเพื่อนช้า ๆ “ดีใจที่แกมีความสุขนะเว้ย…” ขนมชะงัก ก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง แล้วโผเข้าไปกอดเพื่อน “ขอบใจนะ...มิว” “ถ้าพี่กันต์ทำแกร้องไห้เมื่อไหร่ ฉันจะตัดกล้วยเขาทิ้งเลย คอยดู!” “มิวววววววววววววววว!!!” เสียงร้องของขนมดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่เสียงหัวเราะของทั้งสองจะกลบห้องทั้งห้อง จนกระทั่งความเงียบเข้ามาแทนที่ ค่ำคืนแห่งความลับ ความแสบ...และมิตรภาพ ก็จบลงด้วยหัวใจอุ่น ๆ ของเพื่อนรักสองคนที่มีอะไรก็แชร์ให้กันเสมอ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม