หลังจากมื้อกลางวันผ่านไปเพียงไม่นาน
—ยังไม่ทันให้ข้าวเรียงเม็ดดี—
วันวาก็เป็นฝ่ายลุกขึ้นก่อน
ใบหน้าสวยเรียบเฉย แววตามุ่งมั่น
เกินกว่าจะผ่อนคลายตามบรรยากาศ
..
“คุณธัตทานนท์ ..
ช่วยพาไปดูรอบการซ่อมบำรุงต่อได้ไหมคะ”
น้ำเสียงเธอหนักแน่น ชัดถ้อยชัดคำ
.
ทานน์ที่ยังนั่งเอนพิงพนักเก้าอี้
หันมามองพร้อมรอยยิ้มเจือความอ้อน
“จะรีบไปไหนคะ วาน…
พักก่อนสิคะ เพิ่งทานข้าวเสร็จเองนะคะ”
.
“เสร็จงานจะได้รีบกลับค่ะ”
วันวาตอบเรียบ เธอยืนกอดแฟ้มเอกสารแน่น
“ยังเหลืออีกหลายเครื่อง
หลายโซนที่เรายังไม่ได้ตรวจดู”
.
รอยยิ้มของทานน์ชะงักไปเพียงเสี้ยววินาที
ก่อนจะพยักหน้ารับโดยไม่โต้เถียง
“ครับ…ไปกัน”
เสียงคำว่า ครับ แม้เรียบง่าย
แต่แฝงบางอย่างที่ยากจะตีความ
.
ตลอดบ่าย ทั้งคู่เดินตรวจเช็กตัวเลข
และสภาพเครื่องจักรอย่างจริงจัง
ท่ามกลางเสียงเครื่องจักรกลหนัก
ก้องสะท้อนทั่วโรงงาน
กลิ่นน้ำมันเครื่องและเหล็กร้อนคลุ้งอยู่ในอากาศ
ทุกจังหวะที่ต้องก้าวลงบันได
หรือก้มมองรหัสครุภัณฑ์
ทานน์มักยื่นมือคอยประคองอย่างเงียบ ๆ
ความใกล้ชิดนั้นแม้สั้น
แต่กลับทิ้งร่องรอยอุ่นแผ่ว
บนผิวกายวันวาอย่างไม่ตั้งใจ
.
จนเกือบค่ำ—
ไฟสีส้มจากดวงโคมโรงงาน
เริ่มแทนที่แสงแดดยามเย็น—งานจึงเสร็จสิ้น
วันวายกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา หนึ่งทุ่มพอดี
ความเหนื่อยล้าฉายชัดบนดวงหน้า
แต่ในน้ำเสียงยังคงมั่นคง
.
ทานน์เหลือบตามองท้องฟ้าที่เริ่มมืดสนิท
เอ่ยเสียงนุ่มที่เจือด้วยแผนการบางอย่าง
“เราคงต้องหาที่พักแถวนี้นะคะ
พี่ว่า…คงกลับไม่ทันแล้ว”
.
“ไม่ค่ะ”
วันวารีบตอบทันที
“เราเปลี่ยนกันขับรถได้”
.
ทานน์หัวเราะเบา ๆ แต่แววตามีประกายดื้อรั้น
“ไม่ต้องกังวลนะคะ พี่หาที่พักไว้แล้ว…
พักคนละห้อง วานไม่ต้องกลัวอะไร”
.
“ไม่ให้กังวลได้ยังไงคะ” วันวาเสียงแข็งขึ้น
“ฉันไม่ได้เตรียมตัวมาพักค้างคืน”
.
ชายหนุ่มเพียงเหลือบมองเธอ
แล้วหันไปจับพวงมาลัยแน่นขึ้น
โดยไม่เอ่ยคำใดต่อ รถยุโรปหรูเคลื่อนตัว
ออกจากลานโรงงานอย่างนิ่งเรียบ
แต่ในบรรยากาศกลับเต็มไปด้วยแรงกดดัน
ที่วันวาสัมผัสได้—
แรงกดดันที่มาจากทั้งระยะทางอันยาวไกล
และหัวใจของคนขับที่ดูเหมือนมีแผนบางอย่าง
ซ่อนอยู่ทุกลมหายใจ
___
วันวา
เปิดประตูห้องพักด้วยความเหน็ดเหนื่อย
ร่างสูงโปร่งก้าวเข้ามาในห้อง
เธอปลดกระเป๋าและแฟ้มเอกสาร
วางลงบนโต๊ะเรียบเรียบ
จากนั้นจึงทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่ม ลมหายใจหนัก
สะท้อนความเหนื่อยล้าจากทั้งร่างกายและจิตใจ
.
เธอไม่ลืมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู
หน้าจอสว่างขึ้นด้วยสายเรียกเข้าล่าสุด
> “พ่อคะ… วานถึงที่พักแล้วนะคะ
วันนี้เหนื่อยมากเลย..
วานออกมาเก็บตัวเลขทางบัญชีนอกพื้นที่ค่ะ”
น้ำเสียงปลายสายฟังออกว่า
พ่อเธอกังวลเล็กน้อย และเตือนด้วยความห่วงใย
คำพูดนั้นทำให้หัวใจวันวาสงบลงบ้าง
แต่ก็ยังคงหนักอึ้งจากความเหนื่อยล้า
.
เธอวางโทรศัพท์ลงข้างตัว ตาปิดลงอีกครั้ง
ในใจคิดเพียงอย่างเดียว…
คืนนี้จะพักผ่อนให้เต็มที่
ไม่อยากคิดเรื่องงาน เรื่องทานน์
หรือสิ่งใด ๆ อีกแล้ว
.
คืนนั้น วันวาหลับสนิท
ราวกับปล่อยทุกความกังวลไว้ข้างนอก
ประคองตัวเองในความเงียบสงบของห้องพัก
จนรุ่งสางแสงแรกลอดผ่านผ้าม่าน
เธอหลับไปอย่างเหน็ดเหนื่อยแต่เต็มอิ่ม