ภายในรถเงียบกริบ
มีเพียงเสียงลมพัดลอดกระจก
กับเสียงเครื่องยนต์เดินเรียบเป็นจังหวะ
ริง…ริง…!!
เสียงโทรศัพท์ของวันวาดังขึ้น
ทำลายบรรยากาศกดดันในทันที
..
วันวาเหลือบมองหน้าจอเพียงเสี้ยววินาที
ก่อนกดรับสาย น้ำเสียงเธอเปลี่ยนเป็นนุ่มนวล
อย่างเป็นธรรมชาติ
> “วานมาทำงานข้างนอกค่ะ…
...น่าจะกลับเย็น ๆ ค่ะ”
>“วานยังไม่สะดวกนะคะ ถ้าวานกลับถึงที่พัก
...วานจะรีบโทรกลับนะคะ”
.
ทานน์ได้ยินเพียงเสียงปลายสายเป็นผู้ชาย
แต่จับคำพูดชัดเจนไม่ได้
ในอกกลับร้อนวูบเหมือนมีไฟลามขึ้นมาทันที
นิ้วที่จับพวงมาลัยเริ่มเกร็งแน่นจนข้อขาว
..
เขาเอ่ยถามออกมาแทบไม่รู้ตัว
น้ำเสียงแฝงความกดดัน
“แฟนวานโทรมาเช็คเหรอ… คบกันนานหรือยัง?”
วันวาไม่ได้ตอบ ราวกับไม่ได้ยินคำถาม
ดวงตายังคงมองตรงไปข้างหน้าอย่างสงบนิ่ง
ทานน์สูดลมหายใจลึก เสียงทุ้มต่ำเริ่มเข้มขึ้น
“พี่กำลังถามวานอยู่นะคะ… ว่าใครโทรมา?”
..
คราวนี้วันวาหันมาสบตาเขาตรง ๆ
แววตาคมกริบเต็มไปด้วยแรงกดดันเย็นชา
น้ำเสียงเรียบชัดเจน แต่แฝงคมมีดที่บาดลึก
“คุณไม่มีสิทธิ์รู้เรื่องส่วนตัวของฉัน…
...ขอโทษด้วยค่ะ”
.
คำตอบสั้น ๆ กลับเหมือนแรงกระแทกมหาศาล
ทานน์เม้มปากแน่น
จับพวงมาลัยจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดขึ้น
เขาพยายามกลั้นอารมณ์ไม่ให้ระเบิดออกมา
สายตาเบนกลับไปยังถนน
แต่หัวใจกลับเต้นแรงรัว
ความหึงหวงแล่นพล่านทั่วร่าง—
ทั้งเจ็บ ทั้งโกรธ และทั้งอยากรู้ให้ได้ว่า
ผู้ชายคนนั้น…คือใครกันแน่.
___
รถสปอร์ตยุโรปสีดำมันวาว
แล่นเข้ามาจอดยังลานจอด
ของร้านอาหารหรูริมทาง
กระจกใสราวคริสตัลสะท้อนเงาเช้าวับแวม
ขับเน้นบรรยากาศหรูหราของสถานที่
..
พนักงานหญิงในยูนิฟอร์มเรียบร้อย
รีบก้าวออกมาต้อนรับทันทีที่เห็นรถคันนั้น
เธอยิ้มกว้างพลางเอ่ยทัก
ด้วยน้ำเสียงเคารพปนตื่นเต้น
> พนักงาน: “สวัสดีค่ะ คุณธัตทานนท์ วันนี้รับอะไรดีคะ”
ทานน์ถอดแว่นกันแดดออก
ดวงตาคมเข้มทอดมองวันวาที่นั่งข้าง ๆ
ก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม
แต่แฝงความเป็นเจ้าของโดยไม่รู้ตัว
“วานอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมคะ
แวะทานข้าวเช้าก่อนเข้าโรงงาน ..
จะได้มีแรงทำงาน”
.
วันวาเงยหน้าขึ้นสบตาเขาเพียงแวบเดียว
แววตานั้นนิ่งเรียบ ไม่มีรอยไหวแม้แต่น้อย
เธอหันไปยิ้มบางให้พนักงาน แล้วตอบเสียงสุภาพ
“ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”
พูดจบ เธอหยิบกระเป๋าถือผ่านไป
ส้นสูงกระทบพื้นหินอ่อนดังก้องเบา ๆ
ก่อนร่างสมส่วนจะหายลับเข้าไปหลังร้าน
.
ทานน์ยืนมองตามแผ่นหลังนั้น
ในแววตาแฝงทั้งความคิดถึง
และความคาดหวังบางอย่าง
หัวใจเขากำลังเต้นแรง…
แม้หญิงสาวตรงหน้าจะทำท่าทางเหมือนไม่มีอะไร
แต่ทุกการเคลื่อนไหวของเธอ
กลับดึงสายตาเขาไว้ทุกวินาที
___
วันวากลับมาที่โต๊ะ
เธอพบว่าทานน์กำลังพูดคุยกับพนักงาน
ด้วยน้ำเสียงสุภาพ
ก่อนหันกลับมาพร้อมรอยยิ้มบาง—
รอยยิ้มที่เคยทำให้หัวใจเธอเต้นแรงในอดีต
“พี่ยังจำได้นะ ..วานชอบ. .
แซนด์วิชอกไก่ซอสฮันนี่มัสตาร์ด..
กับชาเขียวมิ้นต์สดไม่ใส่น้ำตาล…
ยังชอบอยู่รึเปล่าคะ”
.
วันวาหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง
หัวใจคล้ายถูกกระตุกอย่างไม่ทันตั้งตัว
เพราะเมนูนั้น…คือเมนูที่เธอสั่งซ้ำแทบทุกเช้า
ที่คาเฟ่เล็ก ๆ ใกล้หอพักสมัยเรียนอเมริกา
แม้เวลาจะผ่านไปเกือบสิบปี
เขายังจำได้แม้แต่รายละเอียดเล็กน้อย
.
เธอยกแก้วน้ำขึ้นจิบเพื่อกลบความสั่นไหว
ก่อนเอ่ยเสียงเรียบเฉย
ราวกับทุกสิ่งไม่เคยมีความหมาย
“ขอโทษนะคะ… วานจำแทบไม่ได้แล้วว่าเคยชอบเมนูนี้”
คำตอบสั้น ๆ ไม่มีน้ำหนัก
แต่กลับหนักอึ้งในอกของอีกคน
รอยยิ้มที่ริมฝีปากของทานน์ค่อย ๆ จางลง
ดวงตาที่เคยทอประกายอบอุ่น
แปรเปลี่ยนเป็นความหม่นเศร้า
เขาก้มหน้ามองเมนูตรงหน้า
เหมือนกำลังต่อสู้กับความทรงจำ
ที่ย้อนกลับมารุมเร้าอย่างเจ็บปวด
.
ในหัวทานน์มีเพียงคำถามที่วนเวียนไม่สิ้นสุด
เธอลืมไปจริง ๆ หรือ…..หรือเป็นเพียงกำแพง
..ที่เธอตั้งขึ้นเพื่อกันเขาออกไปอีกครั้ง