เปรมชัยเป็นผู้กำกับหนุ่มไฟแรง ผิวของเขาขาวซีดตามแบบฉบับลูกหลานคนจีน ใบหน้าตี๋ดูใจดี แต่งกายเรียบง่ายดูเข้าถึงได้อย่างไม่ยากเย็น “โอ้ ที่เคยแต่งให้คราวก่อนพี่ก็ว่าทำได้ดีเลยนะ เยี่ยม ๆ เอาไว้พี่จะบอกต่อ ญดาจะได้มีงานเข้าเยอะ ๆ”
“ขอบคุณมากนะคะคุณชัย” คนถูกชมยกมือไหว้ ด้านเพลงขวัญที่นั่งตัวตรงแน่วให้ช่างแต่งหน้าทำหน้าที่ได้อย่างสะดวกอยู่นานก็ยิ้มชื่นชมสำทับไปด้วย “งั้นเดี๋ยวดาขอตัวไปแต่งหน้าต่อที่ห้องแต่งตัวสองก่อนนะคะ ขอบคุณมากอีกครั้งค่ะ”
ทั้งเพลงขวัญและเปรมชัยพยักหน้ารับพร้อมกัน ช่างแต่งหน้าตัวเล็กจึงลุกขึ้นถือกระเป๋าคู่ใจของตนเดินออกไปยังประตู แต่ก็ต้องพลาดชนเข้าอย่างแรงกับแผงอกแกร่งของหนุ่มตัวสูงโปร่งในชุดราชปะแตนสีขาวและโจงกระเบนสีม่วง บ่งบอกถึงบทบาทเจ้าขุนมูลนายที่ได้รับ
“ยัยนี่ ไม่มีตาหรือไง เดินไม่ดูทางเอาซะเลย…โอโห…วันนี้แต่งหน้าสวยมากเลยค่ะน้องเรญ่า ทำเอาพี่อยากเป็นพระเอกคู่กับเราไปอีกหลาย ๆ เรื่องเลย เราสองคนจะได้เป็นคู่ขวัญกัน” เขาพุ่งตัวเข้าไปหาเพลงขวัญโดยไม่คิดขอโทษญดาก่อน ช่างแต่งหน้าสาวได้แต่ส่ายหัวก่อนจะเดินหนีออกไป
“กระแสคู่จิ้นช่วงนี้บนโลกออนไลน์ยิ่งแรงอยู่ด้วย ถ้าเราสองคนช่วยเซอร์วิสนิด ๆ หน่อย ๆ คงจะตกแฟนคลับได้เพิ่มหลายคนเลยค่ะ ว่าไหมคะ” เขาพูดต่อโดยไม่สนว่าเพลงขวัญจะรู้สึกไม่ดีมากแค่ไหน อีกทั้งมือหนายังวางลงบนลาดไหล่ฝั่งที่ไม่ถูกสไบพาดโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต
“เอามือออกไปจากไหล่ของเรญ่าดีกว่าไหมคะ คุณนนท์” ซานิพูดเสียงแข็ง พร้อมกับใช้สายตาบังคับให้พระเอกหนุ่มของกองรู้ตัวว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นเป็นการคุกคามดาราหญิงในความดูแลของตน
สายป่านซึ่งเป็นผู้จัดการก็รีบมาดึงตัวพระเอกตัวป่วนของตนให้ถอยห่าง ธนนท์ส่งเสียงจิ๊ปากอย่างรำคาญใจ “ก็แค่พูดเล่นกับน้องเขาเองครับ แต่เรื่องเป็นคู่ขวัญน่ะ ผมอยากให้คุณชัยช่วยพิจารณาหน่อยนะครับ น้องเรญ่าสวยระดับนั้นก็ต้องคู่กับพระเอกหล่อ ๆ อย่างผมอยู่แล้ว จริงไหมครับ”
“มั่นหน้าอะไรขนาดนั้น...” ซานิบ่นอุบอิบ จงใจให้เพลงขวัญได้ยินเพียงคนเดียว
“พี่ว่านนท์ก็หน้าตาดีคู่ควรกับน้องเรญ่านะ” ผู้กำกับหนุ่มพูดพลางยักไหล่ ประโยคนั้นเรียกรอยยิ้มให้กับพระเอกจอมมั่นหน้าได้ “…แต่พี่ว่า นนท์ต้องพัฒนาฝีมือการแสดงของตัวเองให้ดีเทียบเท่าน้องเรญ่าเขาบ้างนะครับ เผื่อจะมีโอกาสเป็นคู่ขวัญขึ้นมาได้บ้าง”
ประโยคหลังนั้นทำเอาคนที่อยู่โดยรอบได้ยินเสียงแตกดังเพล้งของใบหน้าพระเอกหนุ่มจนแทบกลั้นขำไม่อยู่ เพราะใครต่อใครต่างก็รู้ดีว่า นอกจากหน้าตากับฝีปากแล้ว ธนนท์ก็ไม่มีอะไรดีแม้แต่อย่างเดียว
พระเอกหนุ่มเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปด้วยความโมโห สายป่านเห็นนักแสดงในความดูแลของตนแสดงกิริยาอาการไม่สุภาพแบบนั้นก็รีบโค้งศีรษะขอโทษทีมงานโดยรอบแล้วรีบวิ่งตามไปจัดการทันที
ซานิตบเข่าตัวเองอย่างชอบใจกับคำพูดของเปรมชัย “ขอบคุณนะคะคุณชัย ที่ช่วยปกป้องน้องเรญ่า คนแบบนั้นต้องโดนซะบ้าง ตั้งแต่เปิดกล้องมา รุ่มร่ามกับน้องเรญ่าไม่หยุดเลยค่ะ”
“ถ้ามีอะไรที่มันมากกว่าการคุกคามทางคำพูดหรือถึงเนื้อถึงตัวแบบลูบไหล่เมื่อกี้ คุณซานิบอกผมได้เลยนะครับ นักแสดงไร้จรรยาบรรณแบบนั้น ผมไม่อยากเก็บเอาไว้ให้เป็นที่ครหาในละครที่ผมกำกับ” เปรมชัยพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่แววตานั้นฉายชัดว่าไม่ปลื้มกับการกระทำของพระเอกที่ผ่านการแคสต์มาแบบไม่ได้ดูที่ฝีมือ
“เรญ่าโอเคนะครับ”
เพลงขวัญที่เงียบอยู่นานแย้มรอยยิ้มออกมา อวดลักยิ้มเสน่ห์ข้างขวาจนผู้กำกับหนุ่มอดที่จะหัวใจเต้นแรงไม่ได้ “ญ่าไม่เป็นไรเลยค่ะ ขอบคุณทั้งพี่ซานิ ทั้งคุณชัยมากเลยนะคะที่เป็นห่วงความรู้สึกของญ่า”
“อันที่จริง…ก็มีเรื่องที่พี่อยากรู้นะครับ แต่คงเสียมารยาทที่จะถาม” เปรมชัยพูดพลางเกาท้ายทอยแก้เก้อ ซานิจึงเป็นฝ่ายสอดปากถามขึ้นมาเอง
“คุณชัยจะถามอะไรน้องเรญ่าเหรอคะ”
“คือ…” ผู้กำกับหนุ่มลากเสียงอย่างเก้อเขินกับคำถามที่ติดค้าง “…พี่อยากรู้เรื่องหัวใจของน้องเรญ่าน่ะครับ ว่าตอนนี้มีใครในใจหรือยัง”
คำถามเดียวกันกับที่ผู้กำกับหนุ่มถามไปในห้องแต่งตัวกองถ่ายถูกนักข่าวสาวจากช่องข่าวบันเทิงแห่งหนึ่งจ่อไมค์ถามอย่างเสียมารยาท ด้านเพลงขวัญที่อยู่ในชุดราตรียาวสีครีมสำหรับงานกาลาไนต์ละครเวทีรอบปฐมทัศน์มีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ก็พยายามอย่างหนักที่จะเก็บซ่อนมันเอาไว้ภายใต้รอยยิ้มที่เริ่มจะฝืดเฝื่อนเต็มที
“ว่ายังไงคะน้องเรญ่า ตอนนี้เรื่องหัวใจของน้องเรญ่าเป็นยังไงบ้างคะ มีใครเข้ามาจับจองหรือยังเอ่ย” เสียงนักข่าวถามเซ้าซี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเธอไม่อาจอยู่เฉยได้อีก จึงเขย่งปลายเท้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองหาตัวช่วยอย่างพี่ซานิ แต่ก็ดูเหมือนผู้จัดการคนเก่งของเพลงขวัญจะถูกผู้จัดละครหลายคนรุมล้อมอยู่
“ตอบหน่อยสิคะน้องเรญ่า มีหรือไม่มีเอ่ย” คำถามไร้จรรยาบรรณจากเหล่านักข่าวยังคงถูกยิงมาเรื่อย ๆ อย่างไม่มีหยุดพัก ราวกับจะรีดเค้นชีวิตของดาราสาวไปเขียนข่าวให้จงได้
“ได้ข่าวว่ามีนักธุรกิจหนุ่มมาจีบเป็นเรื่องจริงไหมคะ”
“แล้วที่มีภาพหลุดว่าไปเดตกับพระเอกเรื่องล่าสุดอย่างธนนท์ที่ชะอำนี่เป็นภาพจริงหรือภาพตัดต่อคะน้องเรญ่า”
“แชตหวานแหววกับผู้กำกับละครที่หลุดออกมาล่ะครับ เป็นเรื่องจริงใช่ไหมครับ นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้คุณเรญ่าได้รับเลือกเป็นนางเอกติดต่อกันสามเรื่องหรือเปล่าครับ”
เพลงขวัญหูอื้อตาลายไปหมด เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พร้อมด้วยรอยยิ้มหวานฉ่ำอวดลักยิ้มประจำตัว
“ขอโทษพี่ ๆ นักข่าวด้วยนะคะ…ที่ญ่าอาจจะตอบกลับได้ไม่ครบทุกคำถาม” ดวงตากลมสีน้ำตาลอ่อนเคลือบไปด้วยแววแห่งความไม่พอใจ ขัดกับริมฝีปากที่ยังยิ้มละไมอยู่ “เรื่องหัวใจของญ่าตอนนี้…ญ่ายังไม่มีใครค่ะ ไม่ได้รู้สึกชื่นชอบใครเป็นพิเศษด้วย กับพี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ ร่วมสังกัด ญ่าก็มีแต่ความปรารถนาดีให้ในฐานะเพื่อนร่วมงานเท่านั้นค่ะ ตอนนี้ญ่าอยากโฟกัสกับการทำงานมากกว่า อายุของญ่าก็เพิ่งขึ้นเลขสองมาได้ไม่กี่ปีเอง…ยังไงวันนี้ญ่าอุตส่าห์ตอบขนาดนี้แล้ว รบกวนคราวหน้า พี่ ๆ นักข่าวทุกคนไม่ถามเรื่องนี้กับญ่าแล้วนะคะ ญ่าอยากให้พี่ ๆ ถามเรื่องงานของญ่าเยอะ ๆ ญ่าจะได้ขายของสักหน่อยค่ะ”
หญิงสาวใช้วาทศิลป์ในการตอบ โดยปิดท้ายประโยคให้ดูไม่เครียดเกร็งจนเกินไป เรียกเสียงหัวเราะจากเหล่านักข่าวที่รุมล้อมได้มาก ประเด็นในการสัมภาษณ์จึงถูกผลัดเปลี่ยนไปยังเรื่องอื่น อย่างละครหลังข่าวที่กำลังจะออนแอร์หลังจากนี้ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์เพื่อความงามที่ดาราสาวดาวรุ่งอย่างเธอเป็นพรีเซนเตอร์อยู่
แม้ริมฝีปากจะคอยตอบคำถามนักข่าวอย่างฉะฉานตามที่พี่ซานิเคยเทรนให้ทุกครั้งที่มีโอกาส แต่หัวใจของเพลงขวัญกลับว้าวุ่นอยู่กับคำถามเรื่องหัวใจก่อนหน้า
ญ่ายังไม่มีใครค่ะ...
ถ้อยคำโกหกคำโตนั้น กำลังฉุดคร่าความแช่มชื่นใจให้เลือนหาย เหลือเพียงความรวดร้าวที่ยังคั่งค้าง และไม่มีทีท่าว่าจะหายไปบ้างเลยแม้แต่น้อย...