ตอนที่ 3 ช่วยเหลือแบบตกกระไดพลอยโจน(1)

1476 คำ
คาซาร์ถามออกไปแต่ก็ได้เพียงแค่รอยยิ้มมุมปากจากวิฬาร์เท่านั้น เธอเลยตอบออกไปพร้อมกับรอยยิ้มแบบกวนๆ " เจ้าฮีโร่ไงคะ " คาซาร์ถึงกับจิ๊ปากในลำคอ นี่ไม่รู้เรื่องจริงๆหรือว่าแกล้งเขากันแน่ที่เขาถามมันชื่อเธอใช่ชื่อหมาที่ไหนล่ะ " กูถามชื่อมึงไม่ใช่ชื่อหมา หรือมึงเป็นหมาถึงได้ตอบชื่อนั้น " วิฬาร์ถึงกับส่งค้อนวงใหญ่ไปให้กับเขา เธอแค่แหย่เล่นนิดเดียวเองทำจริงจังไปได้ " โหนี่คุณ ฉันแค่แหย่เล่นนิดเดียวหลอกด่ากันซะได้ ฉันชื่อวิฬาร์ รู้แค่นี้ก็พอแล้ว เราคงไม่ได้รู้จักกันไปมากกว่านี้หรอก พรุ่งนี้เช้าคุณก็ต้องไปแล้วไม่ใช่หรอ ต่างคนก็ต่างใช้ชีวิตอย่าอยากรู้จักกันเลยฉันกลัวปืน " ร่างเล็กบอกออกไปเพราะเธอไม่ชอบพวกนักเลงตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เธอจึงไม่อยากรู้จักกับเขาแม้ว่าเขาจะดูหล่อเหลาอย่างกับดาราก็เถอะ แต่ชีวิตแขวนบนเส้นด้ายแบบนี้เธอก็รู้สึกกลัว เดี๋ยวก็ติดร่างแหไปกับเขาไม่เป็นอันได้ทำมาหากินกันพอดี " หึ กูยังไม่ได้พูดเลยว่าอยากรู้จักมึง กูก็แค่ถามชื่อจะได้รู้ว่าใครเป็นคนช่วยชีวิตถูก แล้วทำอาชีพอะไรทำงานอยู่ที่ไหน " วิฬาร์มองดูคนตรงหน้าที่เจ็บขนาดนี้ยังจะมาซักประวัติของเธออย่างกับเธอเป็นคนไข้เสียเอง จริงๆเธอต้องถามเขามากกว่าเพราะเขาคือคนแปลกหน้าสำหรับเธอ " ฉันไม่ใช่คนไข้นะคะคุณหมอ ไม่ต้องซักประวัติหรอกค่ะ " " ถามก็ตอบ " คาซาร์พูดออกไปโดยที่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆแต่วิฬาร์ยังคงเหล่ตามองเขาด้วยความระแวง แต่ทว่าเธอก็ยังตอบออกไปอยู่ดีไม่รู้ทำไมเหมือนกัน " พนักงานร้านสะดวกซื้อค่ะ หน้าปากซอยเข้าบ้านนี่แหละ " " อยู่คนเดียวทำไมถึงเลือกอยู่บ้าน ทำไมไม่อยู่คอนโด " " เพราะว่าอยู่บ้านมันสะดวกไงคะ อยู่บ้านมันก็ให้ฟิวส์ครอบครัว ฉันไม่ชอบคอนโดแคบๆมันอึดอัด ฉันชอบบรรยากาศรอบบ้านมันดูโล่งตาดี ประวัติแค่นี้พอไหมคะคุณหมอ " คาซาร์มองดูรอบๆบ้านของเธออีกครั้งโดยที่ไม่ได้ใส่ใจคำพูดที่เธอประชดมาเลยสักนิด " มันก็ดูโล่งตาจริงๆ " คาซาร์มองดูรอบๆบ้านของเธอที่แทบไม่มีของตกแต่งอะไรเลยมีแค่ชั้นวางของแล้วก็ทีวีตู้เย็นแค่นั้นเลยจริงๆ โต๊ะกินข้าวยังไม่มีเลย ความสะอาดตากับไม่มีอะไรอยู่ในบ้านเลยมันเป็นเส้นบางๆกั้นกันเอาไว้จริงๆ " นี่คุณอย่ามาบูลลี่นะ ฉันเช่าบ้านอยู่ราคาเดือนนึงก็ตั้งหลายบาทตกแต่งบ้านได้เท่านี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว " วิฬาร์ไม่ได้ตกแต่งบ้านในโทนต่างๆแต่เธอเน้นให้บ้านมีความสะอาดมากกว่าเพราะลำพังเงินเดือนของเธอมันก็เดือนชนเดือนอยู่แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อของตกแต่งบ้านให้สวยหรูกันเล่า " ยังไม่ได้ว่าอะไร อย่างน้อยบ้านมึงก็สะอาด ก็น่าอยู่ดี " คาซาร์พูดออกไปในแบบที่คิด แม้ว่าบ้านเธอจะไม่ได้มีของอะไรมากมายแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าของที่จำเป็นเธอก็มีครบหมด ถ้าให้เขาเดาเธอก็คงกินข้าวตรงที่เขานั่งนี่แหละ " แล้วกินข้าวที่ไหน " " ตรงที่คุณนั่ง เป็นได้ทั้งโซฟา โต๊ะกินข้าว เตียงนอนดูทีวี มุมอ่านหนังสือ " " อืม ครบดี " คาซาร์ทายาทมหาเศรษฐีชื่อดังของเมืองนี้ถึงกับอึ้ง เอาจริงๆเขาก็เป็นลูกคนรวยคนหนึ่งนั่นแหละทุกอย่างภายในคฤหาสน์ภัทรมนเป็นสัดเป็นส่วนทั้งหมดแยกกันอย่างชัดเจน ซึ่งต่างจากเธอไปมากแต่เขาก็ยังรู้สึกว่าตัวเขาเองปรับตัวได้ " คืนนี้คุณนอนตรงนี้แล้วกันฉันจะนอนข้างบน ว่าแต่คุณหิวไหมกินอะไรมาหรือยังฉันจะทำอะไรให้กิน " วิฬาร์แม้จะกลัวเขาแล้วก็ปืนของเขาแต่เธอก็ยังเป็นห่วงเพราะตอนนี้แผลของเขาแม้ว่ากระสุนมันจะไม่ได้ฝังเข้าไปข้างในแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคงจะเจ็บน่าดูเพราะเธอซับเลือดไปเยอะมาก แต่เขาไม่ยอมแสดงสีหน้าอะไรออกมาเลย เธอเลยไม่รู้ว่าเขาเจ็บขนาดไหน " ยัง ไม่ใช่ไม่หิวหมายถึงยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า " คาซาร์บอกออกไปเพราะเขาเองหลังจากได้นั่งพักจนหายเหนื่อยแล้วก็เริ่มรู้สึกหิวขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ " ถ้าอย่างนั้นคุณรอแป๊บนึง ฉันจะทำอะไรมาให้กินรับรองว่าจะทำสุดฝีมือเลย " วิฬาร์เดินไปที่มุมห้องครัวของตัวเอง ซึ่งก็อยู่ถัดไปไม่กี่ก้าวนั่นแหละ เพียงแต่มันมีประตูกั้นเอาไว้เพื่อไม่ให้กลิ่นของอาหารมันโชยเข้ามาในบ้านแค่นั้น เวลาผ่านไปไม่ถึง 10 นาทีวิฬาร์ก็เดินออกมาพร้อมเมนูที่เธอตั้งใจทำให้กับเขา เธอยกถาดมาวางมันลงตรงหน้าเขาพร้อมกับสูดกลิ่นที่หอมกรุ่นนั้น " หอมไหมคุณ ฉันตั้งใจทำสุดฝีมือเลยนะคุณจะได้กินข้าวแล้วก็กินยาจะได้หลับสบายๆหน่อย " " ข้าวอะไร นี่มันบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไม่ใช่หรือ " คาซาร์ตั้งแต่เกิดมากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนับครั้งได้เลย แต่เขาก็ไม่ได้รังเกียจเพียงแค่ไม่คิดว่าเมนูที่เธอทำสุดฝีมือมันจะคือบะหมี่ " ก็ใช่ไงคุณ คุณจะหวังให้ฉันทำอาหารภัตตาคารให้กินหรอ ทำไม่เป็นหรอกค่ะ ที่บ้านมีแค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นอกนั้นก็ไม่มีอะไรเลยค่ะ ในตู้เย็นมีแค่ผักเท่านั้นคุณก็ต้องกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปใส่ผักและไข่ แต่อย่าดูถูกมันเชียวนะเพราะว่าในชามนี้อร่อยมากคุณลองดูก่อนแล้วจะติดใจเรียกร้องให้ฉันทำให้กินอีก " " เหอะ " คาซาร์เมื่อเห็นอาหารตรงหน้าก็รู้สึกหิวขึ้นมา วันนี้ทั้งวันเขายังไม่ได้กินอะไรเลยเพราะมัวแต่ยุ่งวุ่นวายกับคาสิโนที่มันมีปัญหาแล้วก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมาถูกไล่ยิงแบบนี้ เขายกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นมากินหลังจากที่เห็นวิฬาร์กำลังกินมันอย่างเอร็ดอร่อย จนท้ายที่สุดบะหมี่นั้นก็หมดถ้วยจริงๆ " ฮ่าๆๆๆ ทีแรกก็นึกว่าจะไม่ชอบที่ไหนได้ไม่เหลือแม้กระทั่งน้ำซุป " วิฬาร์บอกหลังจากที่เธอกินบะหมี่ที่ต้มมาเพียงซองเดียวให้กับตัวเองแล้วยังเหลือน้ำซุปอยู่อีกมากแต่สำหรับเขาเธอต้มมาให้ตั้ง 2 ห่อแต่เขากลับไม่เหลือแม้กระทั่งน้ำซุปแสดงว่าเขาคงหิวมากจริงๆ " มีอีกไหม คือ...วันนี้ทั้งวันกูยังไม่ได้กินอะไรเลย พอได้กินขึ้นมามันก็เลยยังไม่รู้สึกอิ่มเท่าไหร่ " คาซาร์บอกออกไป ในตอนนี้เขาหิวมากไม่เหลือแม้แต่คราบมาเฟียผู้แสนน่ากลัวแล้ว คงเหลือไว้แค่คาซาร์ผู้ที่กำลังขอร้องหญิงสาวตรงหน้าให้ทำบะหมี่ให้เขากินเพราะเขาทำไม่เป็นเลย เรื่องเข้าครัวเขาแค่แยกระหว่างกระทะกับหม้อต้มออกก็เก่งมากแล้ว " ได้อยู่แล้ว แต่รอบนี้จะเป็นชามสุดท้ายนะคุณ ไม่ใช่ว่าฉันหวงแต่ว่าบะหมี่ถ้ากินมากเกินไปคุณจะนอนไม่ได้เพราะมันจะอืด ตื่นเช้าขึ้นมาหน้าคุณจะบวมเป็นพ่อหมูเลยนะ " ร่างเล็กพูดจบก็เดินเข้าไปในครัวพร้อมกับทำบะหมี่ให้เขาทานอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอเปลี่ยนรสชาติให้กับเขาเพราะกลัวว่าถ้ากินแบบเดิมอีกครั้งเขาจะรู้สึกเลี่ยน เวลาผ่านไปไม่ถึง 10 นาทีเหมือนเดิมเธอก็ออกมาพร้อมกับบะหมี่ชามโตที่วางตรงหน้าเขาอีกครั้ง แต่แล้วก็มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอตกใจนั่นก็คือน้ำซุปในชามบะหมี่ของเธอหายเกลี้ยงไปหมดแล้ว " คุณกินน้ำซุปในชามของฉันหรอ " ร่างเล็กถามออกไปอย่างสงสัยปนตกใจ " ใช่ กินรองท้องไปก่อนไง หิว ทำไมในนี้มียาพิษหรอถึงกินไม่ได้ " " บ้าหรอ! "
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม