หลิวเหว่ยเฉิงกลับถึงบ้านในเวลาค่ำมืดหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจทางทหารที่แสนวุ่นวาย เขารู้สึกเหนื่อยล้า แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่สบายใจที่สุดคือภรรยาในสมรสของเขา
เวลาสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ภรรยาของเขาแทบไม่เคยอยู่บ้านเลย ห้องนอนใหญ่ที่เขาและเธอใช้ร่วมกันดูว่างเปล่าและไร้ชีวิตชีวา ไม่เหลือร่องรอยของความอ่อนโยนของหญิงสาวที่เคยมี
ทุกครั้งที่เขากลับมา อาหารเย็นจะถูกจัดเตรียมไว้ให้เขาพร้อมสรรพ แต่ซูเม่ยหลิงจะฝากข้อความไว้กับป้าแม่บ้านว่า
"มีธุระนอกบ้านหรือไม่ก็ติดประชุมธุรกิจ"
"คุณนายกลับมาหรือยัง?"
หลิวเหว่ยเฉิงถามป้าแม่บ้านด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียดกว่าปกติ
"ยังเลยค่ะ ท่านรองผู้บัญชาการ คุณนายโทรมาบอกว่าวันนี้คงต้องใช้เวลาเจรจาธุรกิจนานหน่อย และจะกลับดึกมาก"
ป้าแม่บ้านตอบอย่างระมัดระวัง เพราะรู้สึกได้ถึงความตึงเครียดของเจ้านาย
หลิวเหว่ยเฉิงนั่งลงที่โต๊ะอาหาร อาหารเย็นรสชาติดีถูกจัดเตรียมไว้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แต่เขากลับรู้สึกว่ารสชาติของมันจืดชืดลงอย่างประหลาด
เขาเคยชินกับการมีซูเม่ยหลิงนั่งอยู่ตรงข้าม เคยชินกับการเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความรักที่คอยจับจ้องเขา แม้ว่าเขาจะไม่เคยสนใจมันเลยก็ตาม
แต่ตอนนี้... สิ่งที่เขาเริ่มไม่ชินคือการที่เธอไม่อยู่ที่นี่ ทั้งที่เขาควรจะดีใจด้วยซ้ำกับการที่ไม่เห็นเธออยู่ขวางหูขวางตา
ความหงุดหงิดก่อตัวขึ้นในใจอย่างไม่มีเหตุผล เขาไม่ต้องการให้เธอรัก แต่เขาก็ไม่ต้องการให้เธอทำตัวเป็นอิสระราวกับว่าตัวเองเป็นหญิงสาวโสดไร้ซึ่งสามีคอยควบคุม
เธอไปทำธุรกิจอะไรกันแน่?
แต่ก่อนหลิวเหว่ยเฉิงไม่เคยสนใจเรื่องของภรรยา แต่ตอนนี้กลับถูกความรู้สึกไม่สบายใจตีขึ้นมาเสียดื้อ ๆ
เขาพยายามสอบถามจากทหารใต้บังคับบัญชาที่รู้เรื่องกิจการของภรรยาตนเอง แต่สิ่งที่ได้รับคือข่าวลือที่ว่า คุณนายหลิว กำลังสร้างอาณาจักรธุรกิจนำเข้าขนาดใหญ่ และกำลังมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ใกล้ชิดกับ เซียวหาน นักธุรกิจสีเทาผู้มีชื่อเสียงเรื่องเส้นสายที่ไม่ชอบธรรมนัก
ชื่อ เซียวหาน ทำให้หลิวเหว่ยเฉิงรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมากระแทกหน้า เซียวหาน บุคคลผู้นี้ชื่อเสียงเลื่องลือเรื่องผู้หญิง อีกทั้งเป็นคนที่ค่อนข้างเจ้าเล่ห์และอันตราย ยิ่งกว่านั้นเป็นคนที่มีรูปร่างหน้าตาดี มีผู้หญิงมาหลงเสน่ห์และติดพันมากมาย
ในขณะเดียวกันที่ร้านอาหารหรูหราแห่งหนึ่ง เม่ยหลิงกำลังรับประทานอาหารค่ำอย่างผ่อนคลายกับเซียวหาน
"คุณซู สินค้าล็อตแรกทำกำไรได้ดีมากจริง ๆ ครับ"
เซียวหานกล่าวด้วยความชื่นชมอย่างจริงใจ
"คุณรู้เรื่องการตลาดดีกว่านักธุรกิจที่อยู่ในวงการมานานหลายปีเสียอีก"
"ฉันแค่มองเห็นสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็นค่ะคุณเซียว"
เม่ยหลิงจิบไวน์แดงราคาแพงด้วยท่าทางที่สง่างาม
"ในยุคนี้ ผู้คนต้องการสินค้าที่แสดงถึงความหรูหราและความทันสมัยค่ะ"
เซียวหานมองซูเม่ยหลิงด้วยความหลงใหลอย่างเปิดเผย ชุดที่เธอสวมใส่ เครื่องประดับที่เรียบง่ายแต่มีราคาแพง บ่งบอกถึงรสนิยมที่ไม่ธรรมดา
"ผมมั่นใจว่าเร็ว ๆ นี้ คุณจะเป็นนักธุรกิจหญิงที่มีอิทธิพลที่สุดในนครหลวง"
เซียวหานกล่าวพลางยื่นมือข้ามโต๊ะมาเพื่อรินไวน์ให้เธออีกครั้ง "ผู้หญิงอย่างคุณไม่จำเป็นต้องอยู่ภายใต้ใครเลย ไม่ต้องพึ่งพาแม้แต่กระทั่ง ท่านนายพลซู "
เม่ยหลิงปล่อยให้เขารินไวน์ให้เธออย่างใจเย็น
"ฉันไม่เคยต้องการพึ่งพาใครค่ะคุณเซียว"
"รวมถึงรองผู้บัญชาการหลิว ด้วยใช่ไหมครับ?"
เซียวหานจ้องมองเธอด้วยสายตาที่เย้ายวน
เม่ยหลิงยิ้มบาง ๆ
"คุณเซียวคงรู้จักสถานะของฉันดี และฉันก็รู้ว่าคุณเซียวเป็นคนฉลาดที่จะสามารถรักษาขอบเขตความสัมพันธ์ของเราไว้ได้"
เซียวหานหัวเราะเบา ๆ
"ผมรู้จักขอบเขตดีครับ... ถ้าคุณไม่ต้องการให้ผมล้ำเส้น"
เซียวหานเริ่มเปิดเผยความรู้สึกพึงใจออกมาอย่างชัดเจน เม่ยหลิงรู้สึกได้ว่าเซียวหานกำลังเริ่มรุกคืบเข้ามาในชีวิตส่วนตัวของเธออย่างช้า ๆ แปลกตรงที่เธอกลับไม่ได้รู้สึกรังเกียจ
หลิวเหว่ยเฉิงทอดทิ้งฉันไปหาคนอื่น แล้วทำไมฉันจะต้องซื่อสัตย์กับเขาด้วย?
"เอาเป็นว่า... ฉันต้องการให้คุณเซียวเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจที่ใกล้ชิดที่สุดของฉันค่ะ"
เม่ยหลิงตอบอย่างคลุมเครือแต่ทำเอาเซียวหานยิ้มอย่างพอใจ "ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ"
ในขณะที่การสนทนาของทั้งคู่ดำเนินไปอย่างสนุกสนานและเป็นส่วนตัว หลิวเหว่ยเฉิงก็ได้ตามเบาะแสจนมาถึงร้านอาหารแห่งนี้ความรู้สึกบางอย่างรบกวนจิตใจไม่หยุดหย่อนทำให้เขาตัดสินใจทำในสิ่งที่เขาไม่เคยคิดจะทำนั่นคือการตามดูภรรยา
หลิวเหว่ยเฉิงยืนอยู่หน้าประตูห้องวีไอพีของภัตตาคาร เขาแอบมองผ่านช่องว่างของบานประตู และสิ่งที่เขาเห็นก็ทำให้เลือดในกายเย็นเฉียบ
ซูเม่ยหลิงกำลังนั่งอยู่ตรงข้ามกับเซียวหาน! พวกเขานั่งคุยกันอย่างใกล้ชิดและสนิทสนมกันมากเกินกว่าจะเป็นแค่หุ้นส่วนทางธุรกิจ ดวงตาของเม่ยหลิงเปล่งประกายด้วยความสุขและมีชีวิตชีวา ซึ่งเป็นรอยยิ้มและแววตาที่หลิวเหว่ยเฉิงไม่เคยได้รับเลยตลอดชีวิตสมรส
และจังหวะนั้นเอง เซียวหานก็ยื่นมือออกไปสัมผัสเบา ๆ ที่หลังมือของซูเม่ยหลิง ขณะที่เธอกำลังหัวเราะอย่างร่าเริง
ภาพนั้นเหมือนมีดเฉือนลงมากลางใจของหลิวเหว่ยเฉิง เขาแน่ใจว่ามันไม่ใช่ความรักหรือหึงหวง แต่เป็นความโกรธและความรู้สึกถูกหยามเกียรติอย่างรุนแรง
หัวใจข้างในมันร่ำร้องฟ้องเขาว่านี่คือภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา! เธอเป็นถึงคุณนายของตระกูลหลิว และเป็นบุตรสาวของท่านนายพลซู! การที่เธอไปใกล้ชิดกับนักธุรกิจสีเทาคนนี้ต่อหน้าสาธารณชนเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้อย่างยิ่ง
"ซูเม่ยหลิง!"
หลิวเหว่ยเฉิงกระชากประตูเปิดออกอย่างแรงด้วยความโกรธที่พุ่งสูงปรี๊ด ใบหน้าคมคายของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจจนน่ากลัว เขาจ้องมองไปยังซูเม่ยหลิงด้วยสายตาที่ลุกเป็นไฟ
เม่ยหลิงและเซียวหานหันมามองเขาอย่างพร้อมเพรียงกัน สีหน้าของเม่ยหลิงเปลี่ยนจากความร่าเริงเป็นความเฉยเมยทันที ราวกับว่าการปรากฏตัวของสามีเป็นเพียงการขัดจังหวะที่น่ารำคาญ
"อ้าว... รองผู้บัญชาการหลิว"
เม่ยหลิงกล่าวทักทายอย่างเป็นทางการ โดยไม่แสดงความประหลาดใจหรือตกใจแม้แต่น้อย
"คุณมาทำอะไรที่นี่คะ? ไม่ได้ไปทำธุระส่วนตัวเหรอ?"
ความหมายที่แท้จริงของเม่ยหลิงที่อยากจะถามออกไปตรงๆคือ 'คุณมาตามสอดแนมสาระแนเรื่องของฉันทำไม' มากกว่า
เซียวหานลุกขึ้นยืนด้วยรอยยิ้มที่ยียวน เขาไม่ได้สะทกสะท้านแม้แต่น้อยต่อการมาของสามีเม่ยหลิง ไม่ใช่เซียวหานไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นอย่างไร
"สวัสดีครับ รองผู้บัญชาการหลิว ผม เซียวหาน หุ้นส่วนธุรกิจของภรรยาคุณยินดีที่ได้รู้จักครับ"
ความสัมพันธ์ที่เป็นดั่งฟางเส้นสุดท้ายระหว่างซูเม่ยหลิงและรองผู้บัญชาการหลิวเหว่ยเฉิง ว่าแท้จริงแล้วทั้งคู่เป็นเพียงแค่สามีภรรยาในนามไร้ซึ่งความรักต่อกันกำลังจะถูกเปิดเผยต่อหน้าบุคคลภายนอก และเม่ยหลิงพร้อมแล้วที่จะเผชิญหน้ากับมันด้วยหัวใจที่เคยบอบช้ำจนเย็นชา
เธอพร้อมบอกให้คนอื่นรับรู้ว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงของเขาอีกต่อไป ลำดับต่อไปเธอจะทำให้เขาหย่าและคืนชีวิตที่อิสระให้เธอให้ได้ บอกแล้วไงว่าจะไม่มีผู้หญิงโง่เง่าคนนั้นอีกต่อไปแล้ว