ภูริดลเดินออกไปข้างนอกครู่หนึ่งแล้วกลับเข้ามาพร้อมกับแก้ว กอญักในมือ เขาเดินไปนั่งเหยียดขาพิงหัวเตียง จิบน้ำสีอำพันอย่างสบายอารมณ์ เวลาผ่านไปสิบห้านาที ฟ้าพราวก็ยังอาบน้ำไม่เสร็จ แต่เขาก็ไม่ได้เข้าไปตามอย่างที่ขู่ไว้แต่แรก เพราะอยากให้เธอมีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจสำหรับการ ‘เข้าหอ’ ให้เต็มที่ แต่ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องของเธอก็ทำให้เขาต้องวางแก้วแล้วรีบวิ่งพรวดพราดเข้าไปในห้องน้ำ
“กรี๊ด!!! ช่วยด้วย!!!”
“เกิดอะไรขึ้น!” ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปพร้อมกับถามหน้าตาตื่น
“จิ้งจกอ่ะ มันอยู่ตรงนั้น เอามันออกไปที” หญิงสาวใช้มือข้างหนึ่งปิดตาตัวเองเอาไว้ ส่วนอีกข้างชี้ไปที่กระจกบานใหญ่เหนืออ่างล้างหน้า
“ผู้ดีนี่ดัดจริตจริงๆ จิ้งจกตัวแค่นี้ก็กลัว” บ่นพลางจับจิ้งจกตัวเล็กไปปล่อยตรงช่องลมบานเกร็ด แล้วเดินกลับมายืนตรงหน้าหญิงสาวที่กลัวจนตัวสั่นอีกครั้ง “เอาไปทิ้งแล้ว”
“เฮ้อ...เกือบช็อกตาย” ฟ้าพราวถอนหายใจเฮือกแล้วทิ้งหลังพิงผนังห้องน้ำ
คนที่กำลังจะช็อกตายน่าจะเป็นภูริดลมากกว่า เพราะภาพหญิงสาวผิวขาวอมชมพูที่คาดผ้าเช็ดตัวไว้หลวมๆ ที่กลางลำตัวนั้นช่างเย้ายวนสายตาเหลือเกิน ใบหน้าที่แต่งแต้มไว้ด้วยเครื่องสำอางถูกล้างออกจนเกลี้ยงเกลา ผมยาวดำขลับที่เกล้าเป็นมวยไว้ก่อนหน้านี้ถูกปล่อยให้ทิ้งตัวลงแนบแผ่นหลัง เนินอกอวบเหนือขอบผ้าทำให้ลมหายใจของเขาติดขัด
และไวกว่าความคิด เขาก้าวเท้าเข้าไปประชิดตัวเธอ ใช้แขนทั้งสองข้างยันกับผนังคร่อมร่างเธอไว้
“จะทำอะไร” ฟ้าพราวถามเสียงสั่นพร้อมกับยกมือขึ้นดันแผงอกกว้างเอาไว้ไม่ให้เขาแนบตัวเข้ามาชิดจนเกินไป
“ได้ฤกษ์เข้าหอของเราแล้ว” เขาโน้มใบหน้าลงมากระซิบด้วยน้ำเสียงแหบพร่าชิดใบหูแล้วสูดกลิ่นหอมสะอาดหลังอาบน้ำเข้าไปจนชุ่มปอด จากนั้นลากปลายลิ้นไปตามแนวสันใบหูเล็กแล้วงับเบาๆ ก่อนจะระดมจูบลงมาตามลำคอระหง ระเรื่อยไปตามแนวกระดูกไหปลาร้าจนถึงเนินอกอวบ ริมฝีปากและปลายลิ้นของเขาแตะลงตรงไหนก็ร้อนผ่าวเหมือนมีเปลวไฟลามเลียที่ตรงนั้น
“อื้อ” ฟ้าพราวส่งเสียงครางแผ่วหวิวออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ใบหน้าสวยหวานแหงนเงยไปด้านหลังเพื่อเปิดทางให้เขาจูบเนินอกได้สะดวกขึ้นแล้วปิดเปลือกตาลงอย่างยินยอมพร้อมใจ
เธอไม่ได้โลกสวยและไม่คิดว่าการแต่งงานครั้งนี้จะไม่มีการเสียตัว ตั้งแต่วันที่รับปากกับท่านพ่อว่าจะแต่งงานกับหนุ่มชาวไร่คนนี้ เธอก็เตรียมใจไว้แล้วว่าต้องมอบร่างกายให้แก่เขา ผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘สามี’ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งถือเป็นเรื่องเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกว่ายังพอมีเกียรติหลงเหลืออยู่บ้าง เพราะอย่างน้อยก็บอกกับทุกคนได้เต็มปากเต็มคำว่าเป็น ‘ภรรยา’ ที่มีทะเบียนสมรส ไม่ใช่แค่นางบำเรอที่ถูกเขาจับมาซุกไว้ในไร่ชาบนดอยแห่งนี้
มือเล็กขยุ้มอกเสื้อเขาแน่นเมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวเลื่อนจากเนินอกขึ้นมาประกบกับเรียวปากนุ่มปากของเธอ เขาออกแรงกดเชื่องช้าทว่าหนักแน่น ใช้ปลายลิ้นผลักดันให้เธอเผยอริมฝีปากขึ้นแล้วสอดแทรกเข้ามาไล้เลียอ้อยอิ่งก่อนจะเกี่ยวรัดเอาลิ้นเล็กไปดูดดึง
น่าแปลกที่เขาทำตัวดิบเถื่อนกับเธอมาตลอดทั้งวัน แต่พอถึงบทรักเขากลับนุ่มนวลอย่างไม่น่าเชื่อ ทุกสัมผัสของเขาปราศจากการคุกคามหรือเรียกร้องเอาแต่ใจ ตรงกันข้าม เขาปรนเปรอและปลุกเร้าเธออย่างตั้งอกตั้งใจ ทำให้ความต้องการตามธรรมชาติที่ซ่อนตัวอยู่ในหลุมลึกถูกขุดออกมาอย่างง่ายดาย
“หยะ...หยุดก่อน...” ฟ้าพราวแข็งใจดันหน้าอกของเขาให้ออกห่างแล้วเบือนหน้าหนีไปทางด้านข้าง
“หยุดทำไม” ภูริดลจับคางเล็กให้หันหน้ากลับมามองตากันแล้วถามด้วยน้ำเสียงต่ำพร่าเจือแววหงุดหงิดเล็กน้อย เธอจะมาบอกให้หยุดตอนที่ความปรารถนาของเขากำลังไต่ระดับขึ้นสูงแบบนี้ไม่ได้ “จะไม่ยอม จะร้อง จะหนี”
“มะ...ไม่...ใช่...” เธอตอบเสียงเบา ลมหายใจสะดุดเป็นห้วง
“แล้วให้หยุดทำไม”
“ฉัน...หายใจ...ไม่ทัน” ตอบแล้วก็เลื่อนแขนขึ้นไปคล้องคอเขาไว้เป็นหลักยึด ตอนนี้ขาเธอสั่นจนแทบจะล้มทั้งยืนอยู่แล้ว “ยืนไม่ไหวด้วย”
เท่านั้นแหละ คนหน้าโหดถึงกับหลุดรอยยิ้มขบขันออกมาให้เห็นเป็นครั้งแรก แล้วเธอก็ถูกอุ้มออกจากห้องน้ำมาวางบนเตียง ภายในห้องนอนตอนนี้อบอวลไปด้วยกลิ่นซ่านจมูกของคอนยัค และมีเสียงเพลงรักท่วงทำนองอ่อนหวานจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงคลาสสิคดังคลอเบาๆ
ฟ้าพราวทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากนอนหายใจหอบสะท้าน ประสานสายตากับร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างเตียง เขาถอดเสื้อยืดสีขาวออกอย่างใจเย็น โดยไม่ละสายตาไปจากเรือนร่างเกือบเปลือยของเธอเลย สายตาของเขาลากจากใบหน้าแดงระเรื่อผ่านริมฝีปากเต็มอิ่มที่เผยอขึ้นเล็กน้อยเพราะหายใจไม่ทันไปยังทรวงอกอวบที่โผล่พ้นขอบผ้ามาครึ่งเต้า ต่ำลงไปยังโคนขาที่ปลายผ้าแหวกออกจนเกือบเปิดเผยนวลเนื้อเร้นลับ สายตาของเขาเร่าร้อนดั่งเปลวไฟ ทำให้เธอร้อนวาบที่กึ่งกลางกาย ต้องเบียดขาเข้าหากันเพื่อบรรเทาความปรารถนาที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ
เธอได้ยินเขาหัวเราะเสียงต่ำคล้ายเย้ยหยัน แล้วหยิบกอญักที่เหลืออยู่มากระดกรวดเดียวหมดแก้ว แต่ไม่ได้กลืนลงคอ เขาเอามาป้อนให้เธอด้วยปากของเขา ริมฝีปากร้อนผ่าวกดตรึงริมฝีปากของเธอเอาไว้ บังคับให้กลืนน้ำสีอำพันลงไป ความขมปร่าร้อนวาบแล่นผ่านลำคอลงไปถึงช่องท้อง ฟ้าพราวไม่ใช่ราชนิกุลที่เรียบร้อยมากนัก เธอเคยดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ จำพวกพันซ์หรือค็อกเทลมาบ้างตามงานเลี้ยงสังสรรค์ แต่ไม่เคยดื่มเหล้าดีกรีแรงแบบที่ไม่ผสมอะไรเลยแบบนี้มาก่อน
คนบ้า นุ่มนวลได้ไม่นาน เถื่อนอีกแล้ว!