"สวัสดีครับผมไอศูรย์ แฟนของผู้หญิงคนนี้"น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยออกไป เขาจ้องมองหน้าของตรัยด้วยท่าทางเยาะเย้ยพอสมควร
ในตอนนี้ลันตาเริ่มทำตัวไม่ถูกแล้วกับการกระทำของผู้ชายข้างกาย แรงกอดของชายหนุ่มมันทำให้เธออึดอัดพอสมควร หญิงสาวพยายามปั้นยิ้มออกมาพร้อมหันหน้าไปมองคนตัวสูงเชิงบอกให้เขาปล่อยเธอเสียที แต่ทว่าอีกฝ่ายก็ไม่มีท่าทีใดๆ แถมยังกอดเธอแน่นขึ้นอีกด้วย
"แฟนงั้นเหรอ? หึ ฉันไม่ต้องการให้นายมายุ่งกับลูกสาวฉัน ปล่อยมือด้วย!"ท่านชีวินเองก็รู้จักผู้ชายตรงหน้านี้ดี แถมรู้จักกระทั่งพ่อของผู้ชายคนนี้อีกด้วย ถ้าจะให้เขายอมรับแฟนของลูกสาวคนนี้ฝันไปเถอะ ไม่ว่ายังไงเขาก็จะไม่ยอมให้ลันตามหาข้องเกี่ยวกับตัวอันตรายคนนี้เด็ดขาด
"คงไม่ได้หรอกครับท่านชีวิน ลูกสาวท่านเป็นผู้หญิงของผม ทำไมผมต้องปล่อยอีกอย่างถ้าได้ยินไม่ผิดท่านกำลังหาสามีให้แฟนผมงั้นเหรอครับ?"
"ใช่แล้วทำไม ยิ่งฉันรู้ว่านายเป็นแฟนกับลูกสาวฉัน ฉันก็ยิ่งอยากให้ลันตาแต่งงานกับผู้ชายที่ดีพร้อมอย่างตรัยไม่ใช่มาข้องเกี่ยวกับคนอย่างแก!"อะไรนะเนี่ยยังจะให้เธอแต่งงานอีกงั้นเหรอ คนตัวเล็กคิดในใจ เธอไม่เข้าใจว่าบิดาของเธอกับผู้ชายคนนี้รู้จักกันด้วนเหรอ แถมดูท่านชีวินจะไม่ชอบผู้ชายคนนี้มากเสียด้วยสิ
หญิงสาวคิดหักลบในหัวก่อนจะได้ผลสรุปว่าถ้าหากเธอตกลงกับผู้ชายคนนี้ได้ บางทีแผนการหลอกๆ เป็นแฟนกำมะลออาจจะเป็นผลดีก็ได้
"ลันตากลับบ้านกับพ่อ เรามีเรื่องที่ต้องคุยกัน"ท่านชีวินนึกสงสัยไม่น้อยว่าบุตรสาวไปรู้จักกับผู้ชายคนนี้ได้อย่างไรกัน เรียนอยู่เมืองนอกตลอดแล้วไปเป็นแฟนกันตอนไหน หรือว่าไอศูรย์จะเคยเจอลันตาที่ต่างประเทศข้อนี้คงเป็นไปได้ที่สุดแล้ว
"เอาไว้วันหลังนะคะคุณพ่อ ลันจะไปกับที่รักของลัน ไปกันเถอะคะคุณไอศูรย์"คนตัวเล็กเอ่ยบอกก่อนจะดึงแขนคนตัวสูงให้ออกมาจากงาน ท่ามกลางความไม่พอใจของบิดา ในเมื่อเธอเล่นละครให้ถึงที่สุดแล้วก็ต้องไปต่อ ถึงแม้จะมีปากเสียงกันกับชายชราถ้าหากทำให้เธอหลุดพ้นกับการคลุมถุงชนแบบนี้เธอยอม
ทันทีที่หญิงสาวเดินออกมาจากงานได้สำเร็จก็พ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ โดยไม่รู้เลยว่าท่าทางของเธอนั้นอยู่ในสายตาของคนตัวสูง ชายหนุ่มดูหงุดหงิดพอสมควรกับสิ่งที่คนตัวเล็กทำก่อนหน้านี้
"ขอบคุณมากนะคุณที่ช่วยเล่นละครกับฉัน ว่าแต่เราเคยเจอกันไหมทำไมหน้าตาคุ้นๆ จัง"เธอเหมือนเจอหน้าผู้ชายคนนี้มาก่อนแต่จำไม่ได้เลยว่าเคยเจอที่ไหน ไอศูรย์ยกมุมปากในตอนแรกก็จำไม่ได้แต่พอได้ยินแบบนี้เขาก็นึกได้ทันทีว่าเคยเจอผู้หญิงคนนี้ที่ผับของเขานั้นเอง
"แต่ช่างเถอะ เอาเป็นว่าขอบคุณมากนะคะ งั้นฉันขอตัวก่อน"ลันตาบอกออกไป ก่อนที่หญิงสาวจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์บอกเพื่อนสนิทว่าจะไปหาที่ห้องแต่ยังไม่ได้พิมพ์อะไรเลยเสียงของชายหนุ่มก็ดังขึ้นมาทำให้คนตัวเล็กชะงักไปทันที
"เพื่อนเล่นเหรอ?"
"คะ?"
"สิ่งที่เธอทำคิดว่าฉันเป็นเพื่อนเล่นรึไงวะ!"จู่ๆ ชายหนุ่มก็เอ่ยออกมาอย่างไม่พอใจ ท่าทางของเขาในตอนนี้ทำให้ลันตาไปไม่เป็นเลยทีเดียว
"เอ่อ ฉันขอโทษนะคะที่ดึงคุณเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ไม่ต้องห่วงฉันจะไม่ทำให้คุณเดือดร้อน"
"ไม่เดือดร้อน การที่เธอจูบกับฉันจนคนในงานเห็นคิดเหรอว่าจะไม่เดือดร้อน ไม่มีสมองรึไง!"พอถูกด่าลันตาก็ถอนหายใจออกมาทันที เธอไม่เคยเจอใครด่าขนาดนี้มาก่อนผู้ชายคนนี้เป็นคนแรกเลย
"นี่คุณฉันขอโทษคุณไปแล้วนะคะ ด่าฉันว่าไม่มีสมองเลยเหรอ"
"รับไม่ได้รึไงนี่มันยังน้อยนะ ผู้หญิงดีๆ ที่ไหนมาจูบกับคนแปลกหน้าอย่างง่ายๆ หรือว่าผู้หญิงอย่างเธอมันเจนจัดกับเรื่องพวกนี้ดี อ๋อ ผ่านมาเยอะสินะ!"
'อือหือ นี่ปากผู้ชายงั้นเหรอทำไมถึงได้กัดเจ็บมากขนาดนี้'ลันตาบ่นพึมพำในใจก่อนจะชักสีหน้าใส่อีกฝ่าย
"จะเอายังไงว่ามา ค่าเสียหายถ้าการที่คุณมาพูดแบบนี้เพราะต้องการให้ฉันรับผิดชอบล่ะก็ ก็บอกมาว่าไอ้จูบห่วยๆ ของนายเนี่ยเท่าไหร่จะได้จบ!"ไอศูรย์จ้องหน้าของหญิงสาวปากเก่งตรงหน้าด้วยความดุดัน จูบห่วยๆ ของเขางั้นเหรอ ใครกันแน่ที่ห่วยวะ
"จะทำอะไร ขยับเข้ามาทำไม?"จู่ๆ คนตัวสูงก็ขยับเข้ามาใกล้ทำให้ลันตาถอยหลังหนีทันที แต่ทว่าทางที่เธอถอยมันดันสุดทางแล้วทันมีที่แผ่นหลังนวลเนียนของหญิงสาวชนเข้ากำแพงใบหน้าสวยก็เผยความตื่นตระหนกออกมาอย่างชันเจน
"ถ้านายทำบ้าๆ กับฉันล่ะก็ฉันจะ อื้อ!"ร่างเล็กตกใจกับการกระทำอันอุกอาจของชายหนุ่มจนต้องเบิกตาโพลงกว้างออกมาทันที
ริมฝีปากหยักหนาได้รูปกระแทกริมฝีปากอวบอิ่มของหญิงสาวอย่างแรงก่อนจะบดขยี้จูบจนคนตัวเล็กรับรู้ถึงกลิ่นคาวเลือดที่ลอยฟุ้งออกมา เธอเจ็บจนน้ำตาเล็ดกับการกระทำอันป่าเถื่อนของอีกฝ่าย มือน้อยๆ ทั้งสองข้างพยายามดันอกแกร่งให้ออกห่างแต่ทว่ามันกลับไม่ได้ทำให้คนตัวสูงขยับเขยื้อนออกห่างจากร่างกายของเธอเลยสักนิด
"อื้อ อ่อยอะ(ปล่อยนะ)"ไอศูรย์ไม่สนใจคำร้องขอของอีกฝ่าย ในเมื่อเธอกล้ามาเล่นกับความรู้สึกเขา เขาก็จะสนองให้ ชายหนุ่มยังคงบดขยี้จูบคนตัวเล็กอย่างเอาแต่ใจจนกระทั่งหญิงสาวใต้ร่างเหมือนกับอ่อนแรงลงเขาถึงยอมปล่อยเธอให้เป็นอิสระ
แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก เสียงหายใจหอบของลันตาดังออกมา เธอคิดว่าจะตายแล้ว ผู้ชายคนนี้กล้าทำกับเธอขนาดนี้เลยงั้นเหรอ มาในตอนนี้เธอถึงคิดว่าสิ่งที่ที่ทำก่อนหน้านั้นเธอคิดผิดหมด ไม่น่าเลย ไม่น่าไปยุ่งกับผู้ชายคนนี้เลย
"เปิดประตูรถ!"เสียงคนใจร้ายหันไปบอกลูกน้องคนสนิทก่อนที่ชายหนุ่มจะกระชากหญิงสาวที่นั่งอยู่กับพื้นให้ลุกขึ้นทำให้ลันตาได้สติอีกครั้ง เธอยื้อตัวไม่ยอมไปกับอีกฝ่ายแต่ดูเหมือนแรงของเธอไม่อาจสู้ชายหนุ่มได้เลยสักนิด
"ปล่อยนะ ฉันไม่ไปไหนกับคุณทั้งนั้นปล่อย!"
"หุบปากซะ ถ้ายังพูดไม่หยุดฉันจะเอาคxxฉันยัดปากเธอเอง!"
"0_0!"ลันตาตกใจไม่น้อยกับคำพูดของผู้ชายแปลกหน้าคนนี้ที่เธอดึงเขาเข้ามาเกี่ยวด้วย ไม่คิดว่าจะเจอดีเข้าให้ คนตัวเล็กพยายามมองหาให้คนช่วยแต่ในที่จอดรถตอนนี้ไม่มีใครเดินผ่านมาเลยสักนิด
"โอ๊ยยยย เจ็บนะ!"ร่างเล็กถูกผลักเข้าไปในรถจนใบหน้าสวยเผยสีหน้าเหยเกออกมา ผู้ชายคนนี้แรงเยอะชะมัดผลักเธอเข้ามาไม่สนใจเลยสักนิดว่าทำให้เธอเจ็บรึเปล่า
"โอ๊ยยยย เจ็บนะ!"ร่างเล็กถูกผลักเข้าไปในรถจนใบหน้าสวยเผยสีหน้าเหยเกออกมา ผู้ชายคนนี้แรงเยอะชะมัดผลักเธอเข้ามาไม่สนใจเลยสักนิดว่าทำให้เธอเจ็บรึเปล่า
เพียงไม่นานรถหรูก็เลี้ยวเข้ามาจอดในคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลก้องวิวัฒนากุล ครอบครัวร่ำรวยที่ใครๆ ต่างก็รู้จัก ยกเว้นลันตาเอาไว้คนนึง เพราะหญิงสาวไม่เคยรู้จักนักธุรกิจหรือตระกูลดังอะไรพวกนี้ อีกอย่างเธอก็อยู่ต่างประเทศตั้งหลายปีไม่แปลกที่จะไม่รู้จัก
"คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม จอดรถนะฉันไม่ไป"
"....."ชายหนุ่มข้างกายไม่ตอบอะไรออกมาสักคำเริ่มทำให้ลันตารู้สึกไม่ปลอดภัยมากกว่าเดิม
หญิงสาวพยายามมองหาทางหนีแต่ก็ดูแล้วไม่มีทางอื่นเลย เพราะตั้งแต่ที่รถหรูเลี้ยวเข้ามาในรั้วบ้าน เธอก็สังเกตเห็นว่าบ้านหลังนี้มีบอดี้การ์ดเฝ้าเป็นจุดๆ อยู่หลายแห่งไม่รู้จะปลอดภัยอะไรขนาดนั้นทำอย่างว่าจะมีคนมาฆ่า ลันตาเบิกตาโตกว้างทันทีที่ติดมาถึงตรงนี้ เธอมองดูรอบๆ ของผู้ชายคนนี้รวมถึงท่าทางของชายหนุ่มมันไม่ต่างจากมาเฟียเลยสักนิด
"นะ นี่คุณเป็นมาเฟียเหรอ?"น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยถามออกไป ไอศูรย์ไม่ตอบเขาเพียงหันหน้ามามองคนตัวเล็กเท่านั้น แต่ทว่าสายตาของอีกฝ่ายพอลันตาเห็นก็รู้สึกขนลุกซู่ เธอนึกด่าทอตัวเองในใจที่ทำบ้าๆ แบบนั้นลงไป
"ลงมา!"ทันทีที่รถหรูจอดนิ่งเสียงดุดันของชายหนุ่มก็ดังขึ้นทำให้คนตัวเล็กส่ายหน้าปฏิเสธทันที เธอไม่อยากลงไป ไม่อยากอยู่ตรงนี้ด้วย
"ไม่ลงงั้นเหรอได้!"
"กรี๊ด ปล่อยนะปล่อยฉัน ฉันขอโทษอย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ ฉันไม่ตั้งใจที่จะไปยุ่งกับคุณ"คนตัวเล็กดิ้นไปมาทันทีเมื่ออีกฝ่ายเอื้อมมือมากระชากแขนให้เธอลงจากรถ แต่ทว่าท้ายที่สุดเธอก็โดนลากลงจากรถอยู่ดี
ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดก่อนจะย่อตัวอุ้มร่างเล็กพาดบ่าพร้อมย่ำเท้าเข้าไปในตัวคฤหาสน์หรูของเขา ภาพที่เห็นทำเอาบอดี้การ์ดรวมถึงแม่บ้านที่ออกมาต้อนรับเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียว
"กรี๊ด ปล่อยฉันลงนะถ้าคุณทำอะไรฉันล่ะก็ฉันจะฟ้องพ่อฉันให้มาจัดการคุณเลยคอยดู โอ๊ยยยย!"ร่างเล็กถูกปล่อยให้ตกลงจนก้นของหญิงสาวกระแทกกับพื้นจนลันตารู้สึกเจ็บก้นไปหมด บอกให้ปล่อยก็ปล่อยจริงๆ ปล่อยแบบไม่สนใจเลยว่าเธอจะเจ็บรึเปล่า
"ถ้าจำไม่ผิดล่าสุดนี่เราเป็นแฟนกันไม่ใช่รึไง?"
"ฉันก็แค่โกหกคุณพ่อกับผู้ชายคนนั้นเท่านั้น คุณอย่ามาจริงจังได้ไหม ไหนว่าไม่พอใจที่ฉันทำแบบนี้ไง ถ้าไม่พอใจต่อไปนี้เราต่างคนต่างอยู่ก็ได้ ฉันจะไม่วุ่นวายกับคุณอีก ไม่ไปบอกใครๆ ว่าเราเป็นอะไรกันด้วย"
"หึ ง่ายไป ในเมื่อลงทุนขนาดนี้แล้วฉันก็จะเสียเวลาเอาตัวไปยุ่งกับเธอก็ได้"
"มะ หมายความว่าไง?"ลันตาเอ่ยถามกลับไปด้วยท่าทางตื่นตระหนก จะไม่ให้เธอรู้สึกแบบนี้ได้ไงก็ไอ้สายตาคมเข้มนั้น ไหนจะใบหน้าที่เย็นชาจนเธอไม่รู้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ ท่าทางของเขาเธอเดาไม่ออกเลยจริงๆ
"ไม่น่าโง่นะ เธอเสนอฉันก็สนองก็เท่านั้น"
"ฮึก คุณจะทำอะไรฉัน ถอยออกไปนะ!"หญิงสาวเริ่มหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อเห็นคนตัวเล็กกำลังโน้มตัวลงมาใกล้เธอ ไอศูรย์ยกมุมปากขึ้นเมื่อได้ยินคำห้ามปรามจากคนอวดเก่งที่ในตอนนี้กลับเขามากขนาดนี้ยังมาทำตัวปากเก่งอีก
"เป็นใครถึงมาสั่งฉัน คนอย่างฉันใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์มาสั่ง ต่อให้จะเป็นเมียก็เถอะ!"
"ใครเขาเป็นเมียคุณไม่ทราบพูดจาให้มันดีๆ นะ"
"อีกไม่นานเธอก็ได้ตำแหน่งนั้นไม่ต้องห่วง โทษฐานที่อวดเก่งไม่ถูกที่จุดจบมันเป็นยังไงจะได้จำเอาไว้ มานี่!"ในเมื่อเรื่องของเขากับผู้หญิงคนนี้เป็นที่รู้ไปทั่วแล้ว เขาก็คงอยู่เฉยไม่ได้
"กรี๊ด ปล่อยนะคนบ้า อึกปล่อย!"