คนโดนชนนั่งพับเพียบอยู่ที่พื้นข้าวของที่ไปช็อปปิ้งมากระจัดกระจายเต็มพื้นถนน มากิก้มลงสำรวจตัวเอง เธอมีแผลถลอกที่ข้อศอก เธอซื้อของมาเสียเยอะเลยมองไม่เห็นทาง ไม่น่าประมาทเลย
หญิงสาวลุกขึ้นยืนปัดเสื้อผ้าก่อนจะหันมาโค้งคำนับชายที่ตะโกนด่าเธอ
“สุมิมาเซน” เธอเผลอพูดภาษาแม่ไปก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองอยู่ประเทศไทยจึงเปลี่ยนใหม่ “ขอ..ขอโท้ดค่ะ” เธอก้มอยู่สักครู่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองคนที่เธอตัดหน้ารถเขา
คาเมรอนถึงกับตะลึงในความสวยของเธอ ผมยาวสีน้ำตาลสวยยาวตรงถึงเอว ดวงตากลมโตสีเดียวกับผม ขนตางอนยาว จมูกโด่งรับกับริมฝีปากได้รูปชมพูระเรื่อ ใบหน้าเรียวรูปไข่ ผิวขาวอมชมพู
พระเจ้านี่คนหรือเทพธิดา ทำไมสวยตรงสเปคเขาได้ขนาดนี้
“ขอโท้ดค่า คุณ...เอ่อ โอเคมั้ย” หญิงสาวถามพลางสอดสายตามองหาการบาดเจ็บของเขาก่อนจะเลยไปมองที่รถเขา
รถหรูตอนนี้สภาพเรียกได้ว่า...น้วม
เหตุการณ์เมื่อครู่ที่ชายหนุ่มหักหลบหญิงสาว รถเขาจึงไปชนกับเสาสัญญาณไฟ โชคดีที่เสาร์ไม่เป็นอะไร แต่รถเขาฝากระโปรงหน้ารถยุบล้อหน้าข้างขวายางแตก
แย่แล้ว...ล้อขวาเธอจ่ายไหว แต่ฝากระโปรง...ตอนนี้ชดใช้ให้ไม่หวาย ฮืออ
หญิงสาวคร่ำครวญไว้อาลัยให้ตัวเองในใจก่อนจะหันมาที่ชายหนุ่ม มือเรียวยกขึ้นมาพนมไว้ก่อนที่เธอจะก้มลงไหว้เขาแบบถอนสายบัว นี่คือการไหว้ที่แม่เธอเคยสอนเวลาทำผิดต้องไหว้อย่างนี้
“ขอโท้ดค่า” สำเนียงไทยเปร่ง ๆ ของเธอพอจะทำให้ชายหนุ่มทราบได้ว่าหญิงสาวตรงสเปคคนนี้ไม่ใช่คนไทย
ถึงแม้จะถูกใจแค่ไหน แต่การที่หญิงสาวเดินไม่ดูตาม้าตาเรือแบบนั้นก็อันตรายใช่เล่น ทำให้เขาเผลอดุโดยไม่ตั้งใจ “ทำไมถึงข้ามไม่ดูสัญญาณไฟ”
“อ่า..” เธออยากอธิบายแต่ไม่รู้จะพูดอะไรจึงก้มหัวขอโทษเขาอีกที “ขอโท้ดค่า”
คาเมรอนถอนหายใจ “พูดภาษาอังกฤษได้มั้ย”
มากิเงยหน้าขึ้นพยักหน้ารัว ๆ แล้วยิ้มแป้นให้ พึ่งจะสังเกตว่าชายหนุ่มตรงหน้าไม่มีความเอเชียอยู่เลยคงมีแต่สำเนียงไทยที่พูดชัดถ้อยชัดคำเท่านั้น
ด้านคนที่โดนรอยยิ้มทำลายหัวใจก็ตาพร่าทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนมาพูดภาษาอังกฤษให้ง่ายต่อการสื่อสาร “ขึ้นรถ”
มากิขมวดคิ้ว “คะ ?”
ชายหนุ่มเท้าสะเอวพยักหน้าไปทางรถ “มันร้อน มาคุยในรถ”
นั้นสิ แดดประเทศไทยไม่เหมาะจะทำอะไรทั้งสิ้นนอกจากตากผ้า
หญิงสาวพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเก็บข้าวของที่พึ่งซื้อมาเข้าถึงกระดาษ แต่มันเยอะเสียจนชายหนุ่มต้องยื่นมือมาช่วยเก็บจะได้ไวขึ้น
คาเมรอนเก็บเสร็จก็เอาของมาไว้ในกระโปรงท้ายรถ ถุงแล้วถุงเล่า มากิเดินเอาถุงสุดท้ายมาไว้ก่อนจะยิ้มเจื่อนให้เขา เขาช่วยเธอเก็บของจนใบหน้าเริ่มมีเหงื่อไหลแล้ว เมื่อเห็นว่าเป็นถุงสุดท้าย คาเมรอนก็กระแทกฝากระโปรงรถปิดดังโครม ทำเอาสาวน้อยหน้าใสสะดุ้งโหยง เขาต้องโกรธเธอแน่
มากิเดินมานั่งที่เบาะหลัง ส่วนชายหนุ่มเปิดประตูด้านคนขับก่อนจะกดไฟฉุกเฉินแล้วย้ายตัวเองมานั่งที่ท้ายรถเช่นกัน
ทั้งสองคนไม่มีใครพูดอะไร ด้วยตัวหญิงสาวรู้สึกผิดและเกร็งกับท่าทีของเขา ส่วนชายหนุ่มเขาไม่พูดเพราะเขาก้มเก็บของในแดดเมืองไทย เขาหน้าจะมืดแล้ว ขอตากแอร์ให้อาการดีขึ้นก่อนเถอะ
กว่าครึ่งชั่วโมงที่ทั้งสองเงียบใส่กัน คาเมรอนที่อาการดีขึ้นแล้วเขาหยิบโทรศัพท์ออกมาแจ้งเรื่องอุบัติเหตุกับเลขาก่อนจะวางสายไป เขาจึงหันมาสนใจคู่กรณี
หญิงสาวอยู่ในชุดเสื้อเอวลอยลายฮัลโหลคิตตี้กระโปรงยีนส์ปิดเพียงขาอ่อนกับรองเท้าแตะฟองน้ำ แต่แต่งแบบนี้ก็ยังไม่ทำให้ความสวยลดลงแม้แต่น้อย
“คุณบาดเจ็บตรงไหนมั้ยคะ” เธอถามชายหนุ่มหลังเห็นว่าเขาลืมตามามองกันแล้ว
คาเมรอนไม่ตอบเขาเพียงมองที่แขนขาว “เธอมีแผล”
มากิก้มมองแขนตัวเอง เธอมีแผลถลอกที่เข่าสองข้างและข้อศอกขวา
มากิยิ้ม “ไม่เป็นไรค่ะ เล็กน้อยไม่เจ็บมาก เดี๋ยวค่อยไปทำแผล”
ชายหนุ่มไม่พูดอะไรต่อ เป็นมากิเองที่เริ่มบทสนทนา
“คือ...เรื่องรถคุณ” เธอเม้มปากลอบสังเกตใบหน้าคู่สนทนา
นอกจากหล่อเธอไม่สามารถเดาอะไรได้อีกเลย เขาหล่อจนเธออยากกรี้ด หล่อเหมือนเทพสร้าง หล่อเหมือนไม่ได้เดินบนดิน หล่อเหมือนไม่ต้องกินข้าว หล่อเหมือนไม่มีอยู่จริง
หญิงสาวเหม่อไปจนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ตัวเองได้นั่งสบตากับเขามากว่านาทีแล้ว
“รถผม..ครับ ยังไงต่อ” คาเมรอนต่อเรื่องที่ค้างเอาไว้
มากิกระพริบตาถี่ ๆ ก่อนจะกระแอ้มไอเล็กน้อย “ค่ะ..ค่ะ เอ่อ เรื่องรถของคุณ คือว่า ในสถานะหนูตอนนี้ฉันชดใช้ให้คุณได้เพียงล้อหน้าค่ะ ส่วนฝากระโปรงรถ” เธอเงียบไปอึดใจก่อนจะมองเขาอย่างหวาด ๆ “หนูว่าหนูคงไม่ไหว...แต่..แต่ว่า ถ้าคุณเชื่อใจหนู หนูขอทยอยชดใช้ให้ได้มั้ยคะ” เธอต่อรอง คิดว่าเดี๋ยวต้องคุยเรื่องนี้กับยามาโมโตะให้เขาโอนเงินมาให้
ก่อนที่จะได้คุยอะไรก็มีชายหนุ่มชาวไทยใส่ชุดสูทเดินมาเคาะกระจกรถ คาเมรอนกดเลื่อนกระจกลงจนสุด ชายไทยก็เริ่มเอาหน้าเข้ามาในรถ
“นายเป็นอะไรมั้ยครับ บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”น้ำเสียงร้อนรนบ่งบอกว่าคนถามเป็นห่วงเขาสุดขีด
คาเมรอนชักสีหน้ารำคาญใส่เลขาก่อนจะยันหน้าเขาให้ถอยออกไปเล็กน้อย “อยู่เคลียร์ตรงนี้ที” ก่อนจะหันมาทางหญิงสาว “ส่วนเธอ เราไปคุยกันที่รถอีกคัน” เขาพยักเพยิดไปที่รถตู้อีกคันที่ชายไทยนั่งมา
มากิพยักหน้าก่อนจะเปิดประตูลงจากรถไปคาเมรอนเองก็ออกประตูฝั่งเธอก่อนจะเดินนำไปขึ้นรถตู้
“อ่า..ของ” เธอทำท่าจะไปเอาแต่ชายหนุ่มดึงให้เธอขึ้นรถมาเสียก่อน
“ค่อยให้เอาตามมา”
“อ่า...ค่ะ” เธอพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะนั่งที่นั่งแถวเดียวกับชายหนุ่มหากแต่เว้นที่ไว้หนึ่งที่เพื่อเว้นระยะห่าง
คาเมรอนหันไปสั่งคนขับรถเป็นภาษาไทย “ลุงยงขับกลับบริษัท ฝากเรียกหมอจากคลินิกมาห้องทำงานด้วย”
“ครับนาย”
หลังจากนั้นรถก็เคลื่อนตัวออกไปช้า ๆ ภายในที่นั่งผู้โดยสารก็ตกสู่ความเงียบอีกครั้ง