Chapter 7

1033 คำ
ฉันไม่ฟังพี่สองตรงดิ่งไปยังห้องสำนักงาน สอบถามหาหมายเลขบัญชี ซึ่งทุกวันนี้แสนสะดวกสบายมีป้ายคิวอาร์โค้ดไว้บริการ ฉันกดโอนไปสามหมื่นบาท พี่สองที่เดินตามมาถึงกับส่ายหัว “เราสบายใจละ ขอบคุณพี่สองมากนะที่ช่วยเป็นธุระให้ ขอตัวกลับก่อนนะพี่” “ไม่เป็นไรหรอก พี่จะมาหาไอ้กายอยู่แล้วน่ะ แต่ถ้านาเนียร์อยากขอบคุณ เปลี่ยนเป็นเลี้ยงเหล้าพี่สักมื้อดิ” ฉันลากสายตาไปหยุดที่เจ้าของอู่อีกรอบ ครั้งนี้เขาเงยหน้ามองมาทางนี้ เราได้สบตากัน นัยน์ตาคมกล้าคู่นั้นลึกเย็นอ่านยาก ที่รู้แน่ ๆ คือ กลับทำให้ตัวฉันรุ่มร้อนแปลก ๆ จนต้องเบือนหน้ากลับมากดยิ้มให้พี่สอง ตกปากรับคำ “ได้ค่ะ เป็นวันศุกร์ละกันนะ เจอกันที่ SRL” “โอเค ไว้เจอกัน” หลังจากร่ำลาเขาอีกคำ ฉันก็ขึ้นรถลูกรักกลับบ้าน ระหว่างทางในหัวนึกถึงแต่เจ้าของรูปร่างสูงใหญ่ดูดีเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาโดดเด่น พี่กายทำให้ฉันสนใจเขา โดยเฉพาะแววตาราบเรียบเย็นชาคู่นั้น มองสบทีไรหัวใจเต้นตึกตักอย่างไม่เคยเป็น “คนอะไรขี้เก๊กชะมัด” ตั้งแต่คืนนั้น ท่ามกลางผู้คน ฉันกลับสะดุดตาสะดุดใจ สนใจเขาอย่างที่ไม่เคยสนใจใครมาหลายปีแล้ว นับจาก... ฉันหัวเราะขื่น ชักจะคิดเลอะเทอะไปเรื่อย ดึงความคิดกลับมาที่รุ่นพี่สุดหล่อ ถึงเขาจะนิ่ง ๆ ติดเย็นชา ฉันแอบเห็นนะว่า เขาสนใจฉันไม่น้อยเหมือนกัน “แกจะคิดอะไรมากทำไมฮะนาเนียร์ ชอบก็จัด สนุกกันครั้งสองครั้ง น้ำแตกแยกทางแค่นั้นก็พอแล้ว...” บ้านที่ใหญ่โตมากแต่รู้สึกเหมือนเป็นสนามรบ “กลับมาแล้วเหรอครับคุณหนู คุณท่านทุกคนอยู่ที่ห้องอาหารครับ” “ขอบคุณค่ะลุงเปรม” ลุงเปรมเป็นคนสนิทของคุณตา ที่มายืนตรงนี้คงได้รับคำสั่งมา ฉันดูเวลาแล้วเลยเวลาอาหารมานิดหน่อยจึงรีบเข้าไปที่ห้องอาหาร พบสมาชิกทุกคนของบ้านอยู่ที่นี่ ซึ่งก็มีคุณตาของฉัน น้าสาวน้าชายและลูกสาวลูกชาย น้าปาลิดาเป็นน้องสาวฝาแฝดของแม่ฉันเอง หลังแต่งงานกับน้าบวรมีลูกสองคนคือเตชินและอิงวรา ทั้งสองเป็นฝาแฝดและอ่อนเดือนกว่าฉัน “มาแล้วเหรอ มากินข้าวกับตามา” “ค่ะคุณตา” ฉันฉีกยิ้มสดใสเอาใจบุคคลที่เลี้ยงดูฉันมาตั้งแต่เล็ก “พิณตักข้าวให้นาเนียร์ด้วย ทำไมกลับมืดล่ะ” “รถหนูยางแบนน่ะค่ะ เลยเสียเวลาอยู่อู่นานไปหน่อย” “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว กินข้าวเถอะ มาเหนื่อย ๆ จะได้รีบไปพัก” คุณตาบอกเสียงอาทร ทั้งยังตักแกงเขียวหวานกุ้งของโปรดฉันให้ด้วย “แหมแค่ไปเรียนจะเหนื่อยอะไรคะคุณพ่อ ทำอาหารทำขนมแค่เนี้ย ตาชินเรียนหมอสิน่าจะเหนื่อยกว่า ปีนี้เพิ่งขึ้นปีสองยังแทบไม่มีเวลากลับบ้านกลับช่องเลยค่ะคุณพ่อ” คนที่เอ่ยแทรกขึ้นมาคือน้าสาวของฉันเอง สายตาขุ่นเคืองส่งตรงมาที่ฉัน “ไม่ใช่ว่ามัวแต่ไปทำอย่างอื่นหรือเปล่าล่ะเราน่ะ วันก่อนก็ได้ยินว่าไปนัวเนียกับผู้ชายในผับนี่ กลางคืนในผับ กลางวันในอู่เหรอ” “แม่...” อิงวราพูดแทรกขึ้น น้ำเสียงคล้ายจะปรามคนเป็นแม่ ไม่ใช่ว่าเธอห่วงใยอะไรฉันหรอก คงรำคาญแม่ตัวเองที่กำลังจะทำให้บรรยากาศมื้อเย็นเสียมากกว่า “ทำไมยะยายอร แม่ได้ยินคนพูดมาก็อยากจะปราม ๆ นาเนียร์บ้าง จะได้ไม่ออกไปทำตัวขายหน้าข้างนอกให้เสียชื่อเสียงบ้านเรา” ฉันมองเลยไปยังหน้าว่าที่นายแพทย์หนุ่มอนาคตไกล หมอนั่นมองตอบฉันแววตาท้าทายและหยามหยันกลับภายใต้ท่าทางสงบของเจ้าตัว ขณะที่คนเป็นเมียจีบปากจีบคอพูด สามีอย่างบวรก็นั่งนิ่งทำหน้าบื้อเป็นใบ้อย่างไม่ใส่ใจนัก สามีคนนี้ของน้าปาลิดา มีบ้านเล็กบ้านน้อยเป็นสิบ ใคร ๆ ก็รู้ไปทั่ว ถ้าจะขายหน้าก็คงขายไปนานแล้ว “คุณพ่อจะไม่พูดอะไรสักหน่อยเหรอคะ หลานสาวคนโปรดของพ่อทำเรื่องงามหน้าขนาดนี้” ฉันกินข้าวไปเงียบ ๆ ไม่ใส่ใจ น้าปาลิดาโยนเรื่องไปหาผู้เป็นประมุขของบ้าน คุณตาวางช้อน ยกแก้วน้ำขึ้นดื่มก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเรียบ “อาหารมื้อนี้รสชาติดีมากนะพิณ โดยเฉพาะแกงคั่วส้มมะตาด คราวหน้าทำอีกโต๊ะอีกนะ” “ค่ะคุณท่าน” “คุณพ่อ! ไม่ต้องเฉไฉเปลี่ยนเรื่องหรอกค่ะ หลานคนโปรดของคุณพ่อนี่แตะไม่ได้เลยใช่ไหมคะ เข้าข้างกันแบบนี้อีกหน่อยคงเสียคน ใจแตกตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ” “พอหรือยังปาลิดา ยังไม่รู้ตัวอีกว่าทำมื้อค่ำดี ๆ เสียหมดแล้ว” “คุณพ่อ!” “การที่แกได้ยินคนอื่นพูดแล้วเอามาพูดลิดรอนน้ำใจคนในบ้านมันใช้ได้ที่ไหน ฉันเองก็เลี้ยงหลานทุกคนอย่างให้อิสระในการใช้ชีวิต ใช้คตินี้มาตั้งแต่รุ่นพวกแกด้วยซ้ำ ถ้าฉันเข้มงวดกับแกตั้งแต่ตอนนั้นคงดี” “คุณพ่อพูดแบบนี้หมายความว่าไงคะ” “หมายความว่า แกคงไม่โตมาแล้วมีนิสัยแย่ ๆ แบบนี้ไง” “คุณพ่อ!” ถ้าเป็นเด็ก น้าปาลิดาคงลุกขึ้นกระทืบเท้าเต้นเร่า ๆ ที่ถูกต่อว่าต่อหน้าฉัน แต่ด้วยวัยที่มากขึ้นจึงทำให้เธอทำได้แค่นั่งเม้มปาก จิกตาวาวดุใส่ฉันหลังคุณตาลุกจากโต๊ะอาหาร “ยังจะมีหน้านั่งกินอยู่อีก” พอไม่มีใครให้ว่า น้าสาวก็หันมาแว้ดแหวใส่ฉัน ขณะที่คนเป็นสามีดื่มน้ำแล้วลุกออกจากห้องอาหารไปอีกคน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม