จุดเริ่มต้น(พลาดท้อง)
เอย รมิตา
พนักงานสาวออฟฟิศโปรไฟล์ธรรมดาเธอเปลี่ยนตัวเองจากสาวเฉิ่มเป็นสาวสวยสุดฮอตเพียงในชั่วข้ามคืน... เพราะ
อกหัก...ใช่อกหักฟังไม่ผิดเลย เป็นการอกหักที่เจ็บที่สุด แบบเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด เธอเสียแฟนให้กับเพื่อนสนิท เจ็บยิ่งกว่าการเสียแฟนก็คือเสียเพื่อนที่เธอไว้ใจและรักมาก สองคนนั้นหักหลังเธออย่างเลือดเย็น หักหลังเธอมาตลอดโดยที่เธอไม่เคยรู้เพราะความไว้ใจ แต่ไม่เป็นไรเธอจะถือเสียว่าทำทาน...
'อยากได้มากก็เอาไป แค่ผู้ชายห่วยๆ ฉันทานให้ '
หลังจากวันนั้น รมิตาก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคน จากคนที่ไม่แต่งตัวเป็นสาวเฉิ่มใส่แว่นก็เปลี่ยนมาแต่งตัวสวยแซ่บลุกเป็นไฟชนิดที่ผู้ชายเหลียวหลัง คนมองกันทั้งออฟฟิศ...
'ยิ่งอกหักยิ่งต้องสวย คนใหม่เชิญค่ะ'
อกหักได้ไม่นาน รมิตาก็ตัดสินใจคุยกับหนุ่มหล่อในแอปหาคู่ เป็นครั้งแรกที่เธอกล้าทำอะไรแบบนี้ ในเมื่อไม่มีอะไรต้องเสียทำไมเธอต้องกลัวเป็นคนดีรักเดียวใจเดียวแล้วได้อะไรสุดท้ายสิ่งที่ได้ตอบแทนก็คือการถูกสวมเขามาตลอดหลายปี
รมิตาคุยกับหนุ่มหล่อผ่านแชทเป็นเวลาหลายเดือนกว่าจะตัดสินใจนัดเจอกัน แม้จะคุยกันผ่านแชทมานานแต่ความรู้สึกเมื่อเจอกันครั้งแรกก็ตื่นเต้นเกินกว่าจะควบคุม อาจเป็นเพราะเขาเป็นผู้ชายที่เป็นดั่งภาพฝันของใครหลายๆ คน ความสัมพันธ์ลับๆ ได้เริ่มขึ้น ไม่ได้มีการผูกมัดเมื่อถึงเวลาก็แยกย้ายเป็นข้อตกลงที่ต่างฝ่ายต่างก็เข้าใจกัน ในความสัมพันธ์จะต้องไม่มีความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง เหมือนจะง่ายแต่ความจริงนั้นไม่ง่ายเลย
ข้อความ
'ช่วงนี้ผมไม่ว่าง งานยุ่งมากมีอะไรคุยกันในแอป ห้ามไลน์มา'
คงใกล้ถึงเวลาแล้วสินะเขากำลังจะเขี่ยเธอทิ้ง เธอรู้ว่าสักวันก็ต้องมาถึงเพราะเขาแสดงออกอย่างชัดเจนมาตลอดว่ากำลังจะไปมีเพียงเธอเท่านั้นที่รอให้เขาแชทมาและยิ่งหลังๆ ยิ่งชัดเจนว่าเขาไม่ต้องการเธอแล้ว เขาคงมีคนใหม่ ซึ่งมันก็เป็นสิทธิของเขา
ความจริงเรื่องทั้งหมดมันก็ควรจะจบลงด้วยดีต่างคนต่างแยกย้ายไม่มีอะไรติดค้างกันอีก ก็แค่ความสัมพันธ์ลับๆ ต่างฝ่ายต่างพึงพอใจ มันจะเป็นเพียงประสบการณ์และความทรงจำของเธอ...แต่เธอดันมา
'ท้องเหรอ? ไม่จริงเป็นไปไม่ได้'
ความสัมพันธ์ที่ผ่านมาทั้งเขาและเธอต่างระมัดระวังป้องกันเรื่องนี้อย่างดี มันเกิดขึ้นได้ยังไง?รมิตานึกย้อนกลับไปเมื่อครั้งล่าสุดประมาณเดือนที่แล้วที่เขาเริ่มห่างๆ ในคืนนั้นเขาเป็นฝ่ายมาหาเธอที่ห้องเป็นครั้งแรกที่เขามา ปกติจะนัดกันที่โรงแรม ในคืนนั้นเขาเมาเล็กน้อยพูดเพ้อเรื่องงานให้เธอฟังทั้งที่เขาไม่เคยเล่าเลยสักครั้งและจากที่เธอได้ฟังก็พอเดาออกว่าเขากำลังมีปัญหาเรื่องงาน และในค่ำคืนนั้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็แซ่บซ่านถึงใจเหมือนในทุกครั้งแต่มีแตกต่างไปตรงที่ถุงยางหมดเขาขอหลั่งนอกครั้งแรก เธอพยายามห้ามเขาแต่สุดท้ายก็สู้แรงเขาไม่ได้ มันเป็นความผิดพลาดที่ไม่ควรเกิดขึ้น
ปัจจุบัน
รมิตาเดินไปเดินมาเป็นสิบๆ รอบ ในมือกำเทสตั้งครรภ์ไว้แน่น ในหัวยังคงสับสนมึนงงไปหมด...การตั้งครรภ์มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ มันคือขีวีตของคนหนึ่งคนที่กำลังจะได้เกิดมา ส่วนตัวเธอเองก็เคยคิดเคยฝันว่าอยากแต่งงานมีลูกน่ารักๆ คงเป็นชีวิตที่แฮปปี้และมีความสุขแต่ด้วยชีวิตรักที่ผ่านมามันไม่ได้ราบรื่นสมหวังอย่างที่เธอคิด จึงทำให้เธอไม่เคยคิดถึงเรื่องมีลูกเลย...แต่ถามว่าเธอจะทำร้ายเขาเอาเด็กออกไหมตอบเลยว่าไม่ เธอไม่มีทางทำร้ายเด็กที่ไม่ได้ผิดอะไร เมื่อเขาเกิดขึ้นมาแล้วก็ต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุดแต่ที่เธอเครียดเดินไปเดินมาอยู่ตอนนี้ก็คือผู้ชายคนนั้นที่เป็นพ่อเด็ก เธอควรจะบอกเขาไหมหรือควรเงียบและถอยออกมาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่คนอย่างเธอจะทำอย่างนั้นได้เหรอ เธอไม่ชอบการโกหกเกลียดที่สุดก็คือการโกหกมีอะไรก็ควรพูดออกมาตรงๆ ไม่ใช่แอบทำลับหลังทั้งชีวิตเธอแทบจะเจอแต่คนประเภทนี้และในใจลึกๆ แล้ว เธอก็อยากจะบอกเขา ไม่ว่าผลจะออกมายังไงเธอก็อยากบอกเขา
" มีอะไรก็ควรบอกควรพูดตรงๆ จะรับหรือไม่รับก็ไม่เห็นต้องแคร์ เลี้ยงเองก็ได้" เลี้ยงเองได้แต่ลึกๆ ในใจก็คาดหวัง...
รมิตาพูดกับตัวเองด้วยความมั่นใจ เรื่องให้ผู้ชายมารับผิดชอบนั้นเธอขอบอกเลยว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญและเธอก็พอเดาออกอยู่แล้วว่าผลจะออกมายังไง เรื่องที่เธอให้ความสำคัญก็คือการไม่โกหก อย่างน้อยเธอก็ได้บอกก่อนที่จะจากกันไป แต่ถ้าเขาจะรับผิดชอบเธอก็ยินดีให้เขาทำหน้าที่ในส่วนนั้น แต่กไม่อยากจะคาดหวังเพราะรู้อยู่แล้วว่าผลจะออกมายังไงและความแข็งแกร่งที่เธอสร้างขึ้นมันก็แค่เปลือกลึกๆ เธอรู้ตัวเองดีว่ารู้สึกยังไง
เอย : ออกมาเจอกันหน่อยได้ไหมคะ สองทุ่มที่เดิมคุณสะดวกไหม? มีเรื่องจะคุยด้วยค่ะ
เธอส่งข้อความไปในแอปตอนสิบโมงเช้า กว่าเขาจะตอบกลับมาก็บ่ายโมง
ปรานต์ : วันนี้ผมไม่ว่าง พรุ่งนี้ได้ไหม ผมก็มีเรื่องจะคุยกับคุณเหมือนกัน
เอย : ได้ค่ะ พรุ่งนี้ที่เดิมเวลาเดิมค่ะ