เมื่อกรรวีไปถึงโรงพยาบาล ก็พบกับวาสุกรีพี่ชายคนกลางยืนอยู่หน้าห้องของคนป่วย
ชายหนุ่มเพิ่งมาถึง...เขาพยักหน้ารับเมื่อเห็นกรรวียกมือขึ้นไหว้ขณะเดินเข้ามาหา...
พี่ชายอ้าแขนออกกว้าง..โอบกอดเธอไว้ทั้งตัว...ก้มลงมาจูบหน้าผากของน้องสาวอย่างรวดเร็ว
จุ๊บ!
เมื่อเห็นน้องสาวเงยหน้าตั้งท่าจะโวยใส่ และขืนตัวไว้เมื่ออีกฝ่ายก้มหน้าลงมาทำท่าจะจูบซ้ำ
“งื้อออ.พี่งู!นี่มันโรงพยาบาลนะคะ...แล้วลูกกวางก็โตแล้วด้วย” เธอโวยวายเมื่อพี่ชายคลายวงแขนออกให้แล้ว
“พี่น้องแสดงความรักต่อกันมันผิดด้วยเหรอวะ..แล้วอันไหนที่เรียกว่าโต...หัวเนี่ยเหรอ” เขาว่ายิ้มๆ...แล้วกางมือวางบนหัวของน้องสาว จับมันโยกไปมาราวกับว่ามันคือของเล่น..
“พี่งูแกล้ง...ลูกกวางจะไม่มาให้เห็นหน้าแล้ว”
ริมฝีปากบนของหญิงสาวเชิดขึ้นเกือบถึงปลายจมูกโด่งเล็ก แล้วค้อนใส่พี่ชายคนกลางวงเบ้อเร่อ..ก่อนหมุนตัวเดินหนี แต่ถูกพี่ชายคว้าข้อมือเอาไว้ได้ก่อน
หมับ!
“มานี่เลย..จะไปไหน...เดี๋ยวนี้พี่กอดนิดหอมหน่อยไม่ได้หรือไง..งอนพี่จริงเหรอ”
“จริง!”
“แล้วทำยังไงจะหายงอนพี่ละหืม” วาสุกรีครางอือในลำคอ เขากวาดสายตาคมมองใบหน้าของน้องสาวไปทั่ว
ช่วงหลังเขาไม่ค่อยเจอเธอสักเท่าไหร่ เพราะไม่ค่อยได้กลับบ้านเหมือนกับพี่ชายคนโตนั่นแหละ คลาดกันไปคลาดกันมันก็ปาไปเกือบ ๆ ปีได้ละมั้ง น้องสาวของเขา
...โตเป็นสาวแล้วนี่หว่า..ยิ่งโตยิ่งสวยไหม...
“เลี้ยงติม!” เธอเอ่ยออกมาแล้วฉีกยิ้มให้จนเต็มหน้า บ่งบอกว่าเธอไม่ได้งอนเขาจริงๆ แต่แค่อยากแกล้งพี่ชายเฉยๆ
วาสุกรีหัวเราะพรืดออกมา...ก่อนพิจารณาสาวน้อยตรงหน้าตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“เออ..โตเป็นสาวแล้วจริงด้วยว่ะ”
“พี่งูดูแก่ไปเลยใช่ไหมล่ะคะ..”
เธอหยอกพี่ชายกลับไป...ยิ้มให้อย่างน่ารัก…
นาน ๆ เจอกันทีแกล้งหยอกกันพอหอมปากหอมคอ...แต่เขาก็ไม่ควรจุ๊บเหม่งเธอกลางที่สาธารณะแบบนี้ไหมล่ะ เธอไม่ใช่เด็กแล้วจริง ๆ นะ
วาสุกรีเป็นพี่ชายที่ใจดีที่สุด...อ่อนว่ามนต์พยัคฆ์เพียงสองปี...ชายหนุ่มมีชื่อเล่นว่า จงอาง เพราะเขาเกิดปีงูใหญ่..แต่กรรวีเรียกพี่ชายคนนี้ว่าพี่งู มันสั้นดี...
...บ้านนี้คือศูนย์รวมของสัตว์ใหญ่ ๆ ทั้งนั้นเลยด้วยสิ
ส่วนอีกคนชื่อสั้นก็จริง แต่หญิงสาวเปลี่ยนให้มันยาวขึ้น...
เสือกะบาก นั่นเหมาะกับนายคนนั้นที่สุดเหอะ...
“จากจงอางกลายเป็นงูก็ดูแย่แล้ว..มาว่าพี่แก่อีก...หมดแรงเลยว่ะ...ไอ้แสบ..”
วาสุกรีว่า วางมือบนหัวกรรวีแล้วโยกอย่างเอ็นดูอีกครั้ง ก่อนที่ทั้งคู่จะเบนสายตาไปตามเสียงของประตูที่กำลังถูกเปิด และเห็นมารดายื่นหน้าออกมาเรียก
“ลูกกวาง...จงอางเข้ามาในห้องก่อนเถอะลูก...”
วาสุกรียักไหล่...ก่อนวาดแขนมาคล้องคอน้องสาวให้เดินเข้าไปพร้อมกัน
“เสือเป็นไงแย่เลยเหรอแม่..ถึงให้เจ้าวอกโทรไปตามผม....เอ๊ะ!..แล้วทำไมหน้ามันถึงคล้ำดำขนาดนี้ล่ะครับ”
วาสุกรีเอ่ยถาม…และทักขึ้น.. เมื่อหันไปเห็นมนต์พยัคฆ์นอนหมดสภาพอยู่บนเตียงคนไข้...ไม่กระดุกกระดิก..เพราะ
มนต์พยัคฆ์กำลังหลับ..ไม่งั้น...กรรวีคงอยู่ในห้องนี้ไม่ได้แล้ว หรือไม่ก็ต้องแอบอยู่ข้างหลังวาสุกรีแน่ ๆ...แต่มารดาอยู่ด้วยแบบนี้เขาคงไม่กล้าว่ากรรวีมากนัก...
จริงเหรอ...ตะกี้ยังตะคอกไล่เธออยู่เลยเมื่อเช้ามืด...ขนาดแย่นะนั่นน่ะ
แต่ถ้าแม่ไม่เรียกให้เธอมา ก็ใช่ว่าจะเสนอหน้ามาให้เขาเห็นหรอกนะ...จากอาการหนักอยู่แล้วอาจจะหนักกว่าที่เป็นอยู่เพราะเจอสารกระตุ้นต่อมอย่างเธอเข้านี่แหละ
“นั่นน่ะสิ...ผมก็ว่าเหมือนพี่งูนะ” หนุมานเอ่ยแทรกขึ้นมาจากโซฟามุมห้อง..
วาสุกรีตวัดสายตาคมตามเสียง...ยกมือเท้าเอวมือหนึ่ง อีกมือชี้หน้าน้องชาย...สีหน้าท่าทางเหมือนจะเอาเรื่อง...
“เดี๋ยวๆๆๆนะ...นี่แกเรียกฉันตามลูกกวางไปแล้วเหรอเฮ้ย.. แกลืมไปแล้วหรือไงว่าพี่คนนี้มีชื่อว่าจงอาง...แกเรียกเหมือนฉันเป็นงูเขียวเลยนะโว๊ย! ไอ้ลิงสังคัง!” วาสุกรีแว๊ดใส่น้องชายแล้วเรียกกลับไปหนักกว่าอีก
“พี่งู! พี่ก็เรียกผมให้มันถูก ๆ หน่อยเด้” ท่ากวนๆ ของหนุมานทำให้วาสุกรีหมั่นไส้...เพราะมันก็ยังเรียกชื่อเขาผิดอยู่น่ะสิ
“ลิงกัง!พอใจยังวะ”
“พี่งู...เอ้ย! พี่จงอาง..ถูกต้องนะครับ”
“เออ..ไอ้วอก”
สองพี่น้องปะทะคารมกันอย่างน่ารักจนกรรวีหัวเราะขำ นาน ๆ ทีเธอจะได้เห็นภาพแบบนี้บ้าง...แต่กับมนต์สิงหาเวลานี้เธอกำลังทุกข์ใจ เป็นห่วงลูกชายคนโต จนไม่มีอารมณ์มาเล่นกับลูกแล้ว
“หยุดเถียงกันก่อนนะจงอาง..วอก...เสียงดังกันใหญ่ เสือกำลังหลับอยู่” มารดาเอ่ยขึ้นมาห้าม...แต่คนอารมณ์ดีอย่างหนุมานอดค้านขึ้นมาไม่ได้
เขาหยัดตัวลุกขึ้นจากโซฟา เดินมาชะโงกหน้ามองพี่ชายที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง...
“แม่จะบอกพวกเราว่า อย่าแหย่เสือหลับอย่างนั้นใช่ไหมละครับ...สภาพ! เอาไม้เขี่ยยังไม่ตื่นเลยนะแบบนั้นน่ะ”
กรรวีหัวเราะคิก...สะกิดมือวาสุกรีที่อยู่ข้างกันแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า
“พี่งู..ดูพี่ลิงสิคะ ว่าคุณเสือเป็นขี้ใช่ไหมคะนั่นน่ะ”
คำถามน่ารักจากน้องสาว ทำให้สามคนพี่น้องหัวเราะเสียงดัง จนมนต์สิงหาถึงกับส่ายหน้า เพราะเวลานี้ เธอกำลังเครียดมาก
เมื่อเห็นสีหน้าและสายตาดุ ๆ จากมารดา ทุกคนจึงพร้อมใจกับหยุดหัวเราะราวกับมนต์สิงหาคือผ้าเบรคชั้นดี
คนที่เหมือนดูจะหลับอยู่บนเตียง นอนฟังตัวเองถูกนินทาจากน้อง ๆ ในระยะเผาขน...ทำอะไรไม่ได้นอกจากนอดกัดฟันคนเดียวเงียบๆ
ฮึ่ม..ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้พวกนอกคอก เห็นคนอื่นดีกว่าพี่ตัวเอง เข้าข้างยายเด็กขยะนั่นตั้งแต่เล็กจนโต..รวมไปถึงแม่กับพ่อด้วย ดูรักยายลูกกวางยิ่งกว่าเขาที่เป็นลูกเสียอีก....ขี้ประจบ..สอพรอ...ที่หนึ่ง...ไม่มีวันที่เขาจะญาติดีด้วยหรอกนะชาตินี้น่ะ...
“เสือถูกทำของใส่”
“ห๊ะ!”