📚 ˚◞♡ ◟✦✩‧₊˚
🌤️ เช้าวันศุกร์
ลมเย็นหน้าอักษรฯ 🍃 ใบไม้ยังเปียกจากฝนเมื่อคืน
เมื่อวานทีมทำรายงานกว่าจะเสร็จจนดึก เช้านี้เลยไม่ได้มีนัดทำงานกลุ่ม
☕ ร้านกาแฟชั้นล่าง
สายธารคืนหนังสือเสร็จ แวะร้านกาแฟ นั่งฟังเพลงเบา ๆ
สั่งอเมริกาโน่ร้อน 0% น้ำตาล ถือแก้วแล้วเลือกนั่งริมกระจก มองแสงแดดส่องลงพื้นเงียบ ๆ
เธอเปิดโน้ตบุ๊ก 💻 ตั้งใจแก้บทงาน ไม่ทันเห็นเงาคนบังแสง
“นั่งด้วยได้ไหม”
🧑🦱 ธันวาโผล่มา
“นั่งด้วยได้ไหม” ถือกาแฟ+ครัวซองต์ ยิ้มรอคำว่า “ได้”
สายธารยิ้มสุภาพ : “ขอโทษค่ะ ขออยู่เงียบ ๆ ทำงานก่อน”นะคะ”
ธันวา : “ยิ่งดีเลย ผมก็ชอบคนตั้งใจ” เขานั่งลงตรงข้ามทันที “เธอชื่อสายธารใช่ไหม ผมเห็นในประกาศคะแนน”
“ค่ะ” เธอตอบสั้น
“ผมธันวา ปีสี่ อยากรู้จักไว้” เขายื่นมือมา
สายธารไม่จับ แค่พยักหน้า “สวัสดีค่ะ”
🥐 เริ่มกดดัน
เขาชะงัก แต่ยังยิ้ม แล้วเลื่อนเก้าอี้นั่งต่อ “ไม่ต้องเป็นพิธี น่ารักดี”
เธอสวนทันที “ขอโทษนะคะ อยากนั่งคนเดียวจริง ๆ มีงานด่วน”
ธันวายังไม่ลุก เขาเอนหลัง ยกคิ้ว “งั้นพี่ถามสั้น ๆ เธอชอบเพลงแนวไหน พี่มีเพลย์ลิสต์จะแชร์ให้”
เธอตอบ: “ไม่คะ ตอนนี้ยังไม่อยากฟังคะ ตอนนี้ต้องการความเงียบในการคิดงานคะ” เธอก้มหน้าลงทำงานต่อ
เขาหัวเราะ “คมดีนะ” แล้วฉีกครัวซองต์ “กินด้วยกันสิ”
สายธาร: “ไม่ค่ะ”
ธันวา: “ครีมร้านนี้อร่อยนะ แบ่งกัน ถือว่าพี่เลี้ยง” น้ำเสียงเริ่มกดดัน
สายธารวางแก้ว “พี่ธันวา หนูขอทำงานจริง ๆ ถ้าพี่จะนั่ง หนูย้ายไปโต๊ะอื่นได้”
“ไม่ต้อง พี่สุภาพพอ แค่อยากคุยนิดหน่อยเอง” เขายิ้ม “เธอเข้าชมรมอะไรบ้าง”
“ไม่ได้เข้าค่ะ”
“งั้นพี่ชวนเข้าชมรมดนตรี พี่อยู่ที่นั่น มีคอนเสิร์ตบ่อย ๆ …พี่เห็นกีตาร์เธอในไอจีร้านหนังสือบ้านเธอด้วย”
สายธารเงยหน้า “พี่รู้ได้ยังไงคะ”
เขาหัวเราะ “เพื่อนพี่แชร์มาไง รูปเธอสวย แสงก็ดี พี่เลยคิดว่าถ้าได้ทำโปรเจกต์ด้วยกันก็น่าสน”
คำว่า โปรเจกต์ด้วยกัน ทำให้เธอนั่งตัวตรง “ไม่สะดวกค่ะ”
“โธ่ ไม่ต้องคิดมาก พี่คุยดี ๆ นะ” เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้นิด “พี่ว่าเราเข้ากันได้ เธอนิ่ง พี่เย็น เรา—”
🧋 มินตราเดินเข้ามาหาสายธารพอดี
เสียงเก้าอี้ข้าง ๆ ขยับ มินตราเดินมาพร้อมแก้วชานม เธอขมวดคิ้วทันที “มีอะไรกัน”
ธันวาหันไปยิ้ม “ไม่มีครับ แค่คุยเฉย ๆ”
มินตราหันมองสายธาร เพื่อนพยักหน้าเบา ๆ เหมือนบอกว่า โอเค แต่รำคาญ
มินตราวางแก้วลงแรงกว่าปกติ “คุณพี่ โต๊ะนี้กำลังทำงาน”
“ครับ ๆ ไม่กวนหรอก แค่ชวนคุย” ธันวายังยิ้ม
มินตราหยีตา “ชวนคุยแต่เลื่อนเก้าอี้มานั่งก่อนถาม? คนที่เขานั่งอยู่ก่อนแล้วเนี้ยนะพี่ อย่างงี้หรอเรียกว่าแค่ชวนคุย เฉย ๆ”
ธันวาชะงัก รอยยิ้มเริ่มฝืด “น้องใจร้อนจัง พี่ก็คุยสุภาพนะครับ”
ทันใดนั้นประตูร้านเปิด
🧢 วายุเข้าร้าน (กระดิ่งดัง)
เขาใส่เสื้อยืดสีเข้มทับแจ็กเก็ตยีนส์ กระเป๋าผ้าห้อยหมวกแก๊ป ST เขามองเห็นสถานการณ์ครบในวินาทีเดียวก็เห็นภาพ
ชายคนหนึ่งเอนตัวเข้าหาสายธาร จานครัวซองต์ถูกดันเข้ามาใกล้ โน้ตบุ๊กที่อยู่ตรงหน้าเธอถูกจับแน่นเกินปกติ
ส่วนมินตรากอดอกยืนรอเหมือนบอดี้การ์ด
แววตาวายุเปลี่ยนทันที เขาเดินเข้ามาช้า ๆ หยุดยืนข้างโต๊ะ ระหว่างสายธารกับธันวา โดยไม่แตะใคร แค่ยืนอยู่ใกล้ ๆ
วายุ: “มีอะไร” น้ำเสียงเรียบ ดวงตาคมเหมือนถามว่า มีปัญหาอะไรไหม
ธันวาหันมามอง ยิ้มบาง “น้องรู้จักกันเหรอครับ”
วายุไม่ตอบ แต่หันไปถามสายธาร “เธอโอเคไหม”
สายธารพยักหน้า “โอเคคะ ฉันแค่อยากทำงานเงียบ ๆ คนเดียว”
“อืม” เขาตอบสั้น ๆ แล้วหันไปบอกธันวา “โต๊ะนี้เขาจะทำงานกัน”
ธันวายังยิ้ม “ผมก็แค่อยากคุยด้วยเฉย ๆ ครับ เห็นว่าน้องเขาเรียนคณะเดียวกัน เลยอยากชวนเข้าชมรม เผื่อน้องเขาสนใจนะ”
วายุพูดนิ่ง “เธอบอกแล้วว่าไม่สนใจ”
⚡ เส้นขาวบนพื้น
ธันวายักคิ้ว “คุณเป็นใครครับ เป็นแฟนเขาหรือไง ถึงพูดแทน”
คำว่า แฟน ลอยอยู่กลางโต๊ะ วายุไม่สะดุด เขาตอบตรง “ไม่ใช่ แต่ฉันรู้ว่าเธอไม่สบายใจที่ถูกนั่งคุยโดยไม่ถามก่อน”
ธันวาหัวเราะเบา ๆ “เอาจริง ๆ นะ น้องเขาไม่ได้ว่าอะไรเลย ฉันกับเขาคุยกันดี ๆ นายโผล่มาจะเอาเรื่องทำไม”
ธันวา: แล้วเขาฝืนยิ้ม หยิบกระดาษเขียนเบอร์ เลื่อนมาทางสายธาร “งั้นพี่ฝากไลน์ไว้ เผื่อวันหลังอยากคุย”
🧱 หมัดคำของวายุ
กระดาษยังไม่ถึงมือสายธาร วายุก็พูดขึ้นก่อน เสียงไม่ดัง แต่ชัดเจน
“เก็บไปเถอะ เธอไม่สนใจนายหรอก”
ธันวาชะงัก รอยยิ้มหลุดไปครู่หนึ่ง ก่อนเชิดคางถาม “แล้วนายมีสิทธิ์อะไร”
วายุไม่อธิบาย เขาทวนชัด ๆ ช้า ๆ: “เธอ–ไม่–สน–ใจ–นาย–หรอก”
คำแต่ละคำหนักแน่น บรรยากาศรอบ ๆ เงียบ มินตรากอดอกยืนมอง
ธันวายกมือขึ้น “โอเค งั้นให้เธอพูดเอง” เขาหันหาสายธาร “ขอคำตรง ๆ อีกครั้ง”
สายธารสบตาแน่น “หนูไม่สะดวกคุย และไม่สนใจจะแลกไลน์ค่ะ”
ธันวาเก็บกระดาษ ลุกช้า ๆ เสียงเก้าอี้ครืดเบา ๆ เขายิ้มฝืน “โอเคครับ ไม่กวนแล้ว โชคดีกับงาน”
ธันวาหยิบแก้วกาแฟกับครัวซองต์แล้วเดินออกจากประตูร้านไป ประตูปิด เสียงกระดิ่งดังตาม
💓 หลังเหตุการณ์
เงียบลง แต่ใจสายธารยังเต้นแรง เธอยกแก้วจิบกาแฟ ทั้งที่ไม่รับรส
มินตราทิ้งตัวนั่ง “โห วันนี้พายุดูเท่มาก”
วายุยังยืนตรงนั้น หันมาถาม “โอเคไหม”
สายธารพยักหน้า “โอเค…ขอบคุณนะ” เสียงเบากว่าปกติ
วายุนั่งข้างเธอ เว้นระยะนิดหน่อย วางหมวกบนตัก “ขอโทษที่พูดแรง”
สายธารส่ายหน้า “ดีแล้ว”
มินตราหัวเราะหึ “ฉันชอบประโยคนั้น—‘เธอไม่สนใจนายหรอก’ โครตตรง โครตชัด”
วายุยกคิ้ว “ต้องชัด ไม่งั้นคนแบบนี้ก็จะชวนคุย มากวนพวกเธออยู่เรื่อย ๆ” เขาหันมองสายธารสั้น ๆ “ถ้าเธอไม่โอเค แปลว่าจบ”
สายธารเงียบไปครู่หนึ่ง ภาพเมื่อครู่ยังวนในหัว
วายุเดินมาแบบไม่รีบ แต่มั่นคง เขายืนบังธันวาพอดี ไม่แตะ ไม่ขู่ แต่คำว่า “เธอไม่สนใจนายหรอก” กลับคมพอให้ธันวายอมถอย
หัวใจเธอเต้นแรงตั้งแต่วินาทีนั้น มือสั่นจนต้องใช้แก้วกาแฟร้อนกลบเกลื่อน
มินตราเปลี่ยนเรื่อง “แล้วนายมาอะไรแต่เช้า อย่าบอกว่าตระเวนทุกคาเฟ่”
วายุยักไหล่ “ผ่านมาเอาเอกสาร จะไปโรงกลึงต่อ เห็นสตอรี่ว่าคนแน่นเลยจะแวะซื้อขนมมา แต่…น่าซื้อหมัดมากกว่า”
มินตราหัวเราะ “หมัดที่ไม่ต้องใช้มือ แต่ใช้ปากแทนใช่ไหม”
วายุยิ้มมุมปาก “หมัดคำ”
สายธารยกแก้วขึ้นบังหน้า ไม่ใช่เพราะซ่อนยิ้ม แต่ซ่อนหน้าแดง เธอปิดโน้ตบุ๊ก “ฉันไปคืนหนังสือก่อน”
“ไปด้วย” มินตราลุกทันที
วายุก็ลุก “ฉันเดินไปส่งหน้าห้องสมุด”
🚶 ย้ายไปห้องสมุด
ทั้งสามออกจากร้านพร้อมกัน ลมข้างนอกโล่งขึ้น อากาศโล่งกว่าในร้าน สายธารรู้สึกโล่งใจ ที่มีคนค่อยอยู่ข้าง ๆ
ระหว่างเดิน มินตราสะกิดแขน “คืนนี้ร้านบ้านเธอมีอ่านกลอนใช่ไหม ฉันจะไปนะ บอกพ่อแม่ด้วย”
“ได้” สายธารยิ้ม “พ่อคงดีใจ”
วายุหันมา “มีอ่านกลอน? เธออ่านด้วยหรือเปล่า”
“ฉันช่วยถือไมค์ อ่านไม่เก่งหรอก”
“ไม่จริง เมื่อคืนเธออ่านปิดสคริปต์ เสียงนั่นแหละ ใช่เลย”
คำพูดเขาเหมือนก้อนหินเล็กตกลงน้ำ เธอทำหน้านิ่ง แต่ใจสะเทือนเบา ๆ
วายุชมเสียงอ่านปิดสคริปต์ของเธอเมื่อวาน
📚 คืนหนังสือ
ถึงหน้าห้องสมุด มินตราแยกไปห้องน้ำ สายธารกับวายุเดินเข้าไปคืนหนังสือ บรรณารักษ์ยิ้มรับ กดระบบ ปิ๊บ ๆ “เรียบร้อย”
ขากลับออกมา เธอถามเบา ๆ: “เมื่อกี้ นายตั้งใจกันฉันจากคนแบบนั้นใช่ไหม”
วายุเหลือบตา “กันอะไร”
“กันฉันจากคนแบบนั้น”
เขาคิดนิดหนึ่ง “กันความไม่สบายใจ ที่เขาดันเข้ามาโดยไม่ถาม” เขาหัวเราะในคอ “กันไม่ให้ฉันใช้มือ เลยใช้ปากแทน”
“ประโยคเมื่อกี้ตรงมาก” เธอบอกจริงจัง
“ต้องตรง ไม่งั้นเขาจะคิดว่ายังมีสิทธิ์” เขาส่ายหน้า “คนแบบนี้ต่อปากต่อคำชวนคุยไปเรื่อง ถ้าเราไม่พูดตัดบทเอาให้ชัดเจน เขายิ้มเล็กน้อย”
🫶 ความรู้สึกของเธอ
แอบดีใจที่เขาอ่านสถานการณ์เร็ว
แอบดีใจที่เขายืนบังไฟให้พอดี
แอบดีใจ…ที่เขา “เลือกอยู่” ข้าง ๆ
มินตรากลับมาพอดี “โอเค ฉันไปก่อน เดี๋ยวมีเรียนย่อย” 👋 เธอตบไหล่สายธารเบา ๆ “ถ้ามีคนมากวนอีก ส่งพิกัดมาฉันจะสวมวิญญาณนางฟ้าถือปากกาไฮไลต์ไปตีหัว” 🖊️😆
“บ้า” สายธารหัวเราะ 🤭
มินตราหันไปทางวายุ “นาย…วันนี้สอบผ่านในวิชา กลั้นกวน ให้เต็มสิบ” ✅
วายุก้มหัวเล็กน้อย “ขอบคุณที่ให้เกียรติ” แล้วชี้หมวกแก๊ปบนกระเป๋า “สังกัดเดิม Saitharn Team” 🧢
มินตรายักคิ้ว “โอเค ไปละ” แล้ววิ่งเหยาะ ๆ ลงบันได 🏃♀️
เหลือสองคนยืนเงียบกันแป๊บเดียว 🌤️ สายธารมองเส้นแดดบนพื้น เธออยากขอบคุณอีกครั้ง แต่คำดูเล็กเกินไปกับสิ่งที่รู้สึกจริง ๆ
วายุเอ่ยก่อน “ฉันไปโรงกลึงนะ ตอนเย็นอาจแวะร้าน” 🛠️
“ได้” เธอพยักหน้า “คืนนี้มีอ่านกลอนเล็ก ๆ” 📖
“ฉันจะนั่งแถวหลัง สัญญาว่าจะเงียบ” เขายิ้มมุมปาก 🙂
“ถ้าไม่เงียบ ฉันจะดุ” เธอตอบกลับเบา ๆ 😏
“ดุมาเลย” เขาหัวเราะ แล้วก้าวถอย “ไปละ” 🚶♂️
เขาเดินลงบันได กลุ่มปีหนึ่งวิ่งสวนขึ้นมา เขาหลีกให้ลื่นจนแทบไม่โดนใคร เสื้อยีนส์สะท้อนแสงเป็นเงาเคลื่อนไปตามพื้น ✨ สายธารมองตาม แล้วเข้าใจว่า ทำไมเมื่อกี้เขาถึง “พอดี” …เพราะตอนนี้เขากำลังเลือกพอดีในหลายเรื่องมากขึ้นเรื่อย ๆ
บ่ายนั้นผ่านไปเงียบ ๆ 📖
สายธารนั่งเรียน จดโน้ต ฟังอาจารย์ ยิ้มให้เพื่อนที่ทัก
แต่หัวใจยังวนฉากเดิมเหมือนกดรีเพลย์ 🎞️
ภาพที่ประตูร้านกาแฟสั่นกริ่ง วายุเดินเข้ามา ยืนบังแสง เอียงหน้านิด แล้วพูดชัด ๆ
“เธอไม่สนใจนายหรอก”
ไม่ใช่คำหวาน 💌
ไม่ใช่คำประกาศดัง ๆ 📢
แต่เป็นเส้นชอล์กขาวที่ขีดชัดบนพื้น — ขอบเขตที่ใคร ๆ ต้องเห็น และทำให้เธอยืนตรงนั้นได้อย่างสบาย 🌿
ตกเย็น 🌙 ร้านหนังสือบ้านเปิดไฟขาวนวล ✨
ผ้าสีครีมผูกมุมป้าย “อ่านบทกลอนยามค่ำ” 📜
พ่อจัดเก้าอี้ 🪑 แม่เตรียมชาคาโมมายล์วางบนโต๊ะเล็ก
🍵
สายธารติดไมค์ ลองเสียง “หนึ่ง สอง” 🎤 แล้วส่งสคริปต์ให้คนอ่านสลับกัน
วายุโผล่มาตามสัญญา 🧢
เขาถอดหมวก เก็บไว้ในแจ็กเก็ต เดินเข้ามานั่งแถวหลังเงียบ ๆ
ก้มหัวสวัสดีพ่อแม่อย่างสุภาพ 🙇
พ่อยิ้มตอบเหมือนช่างเครื่องที่เห็นเด็กหนุ่มรู้กาลเทศะ คะแนนในใจบวกเพิ่มอีกหน่อย ✅
เสียงกลอนดังทีละบท 📝
จากท้องฟ้ากว้าง สู่ฝนที่พรำ
บทกวีเก่าถูกอ่านด้วยเสียงใหม่ ๆ อาจขัดหูบ้าง แต่เต็มไปด้วยความจริงใจ 💭
สายธารนั่งเช็กเวลาอยู่ตรงเคาน์เตอร์ ⏰
เธอมองไปทางแถวหลังแวบหนึ่ง
วายุนั่งนิ่ง มือประสานบนตัก 🖐️
ไม่มีรอยยียวนเหมือนที่ใครเคยรู้จัก
เขาดูเหมือนเครื่องจักรที่ปิดเสียงคำราม เอาไว้แค่รอบเดินเบาที่สม่ำเสมอ 🔧
ช่วงพักเบรกสั้น ๆ ⏸️
วายุเดินมาที่เคาน์เตอร์ วางห่อขนมปังเล็ก ๆ 🍞
“ให้ทีมจัดงาน”
สายธารรับไว้ 😊 “ขอบใจ วันนี้นิ่งดีนะ”
เขายิ้มมุมปาก “ฝึกอยู่ เริ่มรู้แล้วว่าเงียบแบบไหนทำให้คนสบายใจ ไม่ใช่เงียบแบบกดคน” 🫢
คำง่าย ๆ นั้นทำให้เธอเงียบไปครู่หนึ่ง 💭
ภาพเหตุการณ์ในร้านกาแฟตอนเช้าก็ย้อนขึ้นมา
เงียบหลังคำคมแข็งพอที่จะกันใครออกไป และเงียบแบบที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ไม่รบกวน
“ปลายโชว์ ฉันช่วยเก็บเก้าอี้” 🪑 เขาบอก
สายธารเลิกคิ้ว “ห้ามยกหนัก”
วายุยกมือเหมือนรับภารกิจ ✋ “ครับ รับคำสั่ง”
แล้วเดินกลับไปนั่ง
ท้ายงาน 🎤
มีบทกลอนหนึ่งดังขึ้น
พูดถึง “การยืนบังแดดให้กัน ในวันที่ผิวใครบางคนบางลงกว่าปกติ” ☀️➡️🕶️
สายธารฟังแล้วใจสะดุด ❤️
ไม่รู้ว่าคิดเข้าข้างตัวเองหรือเปล่า
แต่เช้านี้มีใครบางคนยืนบังแสงให้เธอจริง ๆ
งานเล็ก ๆ จบลงด้วยเสียงปรบมือ 👏
เก้าอี้ถูกซ้อน โต๊ะถูกเช็ด ขวดชาถูกเก็บ
วายุทำตามที่พูด 🪑 ยกทีละตัว วางเบา ๆ ไม่มีเสียงดัง
พ่อพยักหน้าให้ 👍
“ขอบคุณนะหนุ่ม” พ่อบอก
“ยินดีครับ” 😊 เขาตอบ
แม่ยื่นถุงขนม 🍪 “เอาไปกินดึก ๆ อย่าลืมกินข้าวนะ”
“ครับ” เขารับอย่างดี
ทุกอย่างเก็บเรียบร้อยแล้ว มินตรามาชนไหล่เพื่อนเบา ๆ 🤭
“ฉันกลับก่อนนะ นางเอกคืนนี้ยิ้มบ่อยผิดปกติ”
สายธารหัวเราะ “พูดมาก” 😅
วายุเดินมาหยุดใกล้ ๆ “ฉันกลับคอนโดละนะ”
“ขี่ระวัง” 🛵 เธอบอกสั้น ๆ
เขาพยักหน้า “อืม”
ก่อนหันไปยกมือไหว้พ่อแม่อีกครั้ง 🙏 แล้วเดินออกประตู
เงาหลังเขาซ้อนบนกระจกหน้าร้าน 🪞
กลายเป็นภาพทับกับชั้นหนังสือ 📚
เด็กหนุ่มกับตัวอักษร ที่เงียบกว่าข่าวลือที่คนอื่นเล่า
🔔 ประตูกระดิ่งดังอีกครั้ง ลมเย็นพัดเข้ามา
สายธารยืนหลังเคาน์เตอร์ หัวใจที่ทั้งวันพยายามนิ่ง กลับเต้นแรงขึ้นอีก
คราวนี้ไม่ใช่เพราะกลัว ไม่ใช่เพราะอึดอัด
แต่เป็นจังหวะที่สะอาด ทำให้หายใจยาวขึ้นเอง 🌬️💓
เธอยกหลังมือแตะแก้ม มันอุ่นอย่างแปลกใจ
ในหัววนซ้ำประโยคคม ๆ ของวายุ
“เธอไม่สนใจนายหรอก”
ถ้อยคำสั้น ๆ ทำหน้าที่เหมือนโล่ 🛡️
ไม่ฟาดใคร ไม่บาดใคร แต่บังให้เธอพอดี
และใช่…เธออึ้งตั้งแต่วินาทีนั้นจนถึงตอนนี้
อึ้งที่วายุกลายเป็น “กำแพงที่อุ่น” ได้
อึ้งที่หัวใจตัวเองเต้นแรง ทั้งที่ปากบอกว่าไม่อิน
อึ้งที่ประโยคสั้น ๆ ทำให้เธออยากยิ้มทั้งวัน 🙂
เธอหยิบสมุดบันทึก ✍️ เขียนต่อท้ายรายการประจำวัน
“วันนี้มีคนยืนบังแสงให้
พูดว่า ‘เธอไม่สนใจนายหรอก’ ชัดและพอ
ฉันไม่ได้พูดอะไรแค่พยักหน้า
แต่หัวใจชอบเสียงนั้นมากกว่าที่คิด”
เธอปิดสมุด วางปากกา 📖
ฟังเสียงพ่อแม่คุยกันเบา ๆ กลิ่นชาลอยหอม 🍵
ม่านสีครีมไหวตามลม เงาไฟถนนทอดบนพื้นไม้
คืนนี้ไม่มีคำหวาน 💌
ไม่มีคำสัญญาใหญ่โต
มีเพียง “การปกป้องครั้งแรก” กลางร้านกาแฟ ☕
กับ “หัวใจที่เต้นแรง” ของใครบางคน
ที่เริ่มยอมรับว่า…มันกำลังเต้นเพื่อเสียงนั้น 💓
⟡ ⍤ ᱸ⁎⁺˳ ♡̩͙ ꙳꒰•◡̎•꒱꙳ ♡̶ ⟡ ⑅◡̈ 𓇥 ✩‧₊˚