“...กรีนอยากให้พี่มีนช่วยสกรีนว่าที่พี่สะใภ้ให้กรีนน่ะค่ะ ถ้าสาว ๆ ที่นั่นรู้ว่าพี่มีนเป็นคนในครอบครัวเราเขาก็จะทำดีต่อหน้าพี่มีนใช่ไหมล่ะ กรีนกลัวได้คนไม่น่ารักมาเป็นพี่สะใภ้”
คำพูดนั้นทำให้ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ผ่านมาปีกว่าเกือบสองปีฉันกับเขาก็ยังเป็นแค่เพื่อนร่วมคณะที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไม่มีใครรู้ว่าเราสองคนรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ไม่รู้เลยสักคนแม้แต่เพื่อนสนิทของฉันที่เป็น...แฟนของเขา ก็ยังไม่รู้
“ขิง”
“ว่า”
“มึงกับเกรย์ยังคบกันดีรึเปล่า” ฉันถามในช่วงบ่ายที่ไม่มีเรียนแล้วเราสองคนก็มาหาอะไรอร่อย ๆ กินแถว ๆ มหาลัยฯ นี่ล่ะถามด้วยความสงสัยเพราะประกาศตัวคบกันมาเป็นเดือนแล้วแต่ไม่ค่อยเห็นน้ำขิงไปไหนมาไหนกับแฟน ส่วนมากฉันจะเห็นน้ำขิงมันอยู่หอคนเดียวเป็นปกติเหมือนตอนไม่มีแฟนซึ่งมันผิดปกติเกินไปสำหรับคนที่ไม่โสด
“ก็...ดีสิ ทำไมเหรอ” มีพิรุธ...รึเปล่า?
“เห็นไม่ค่อยอยู่ด้วยกันกูเลยถาม ไม่มีไรหรอกแค่เป็นห่วงน่ะมึง”
“อื้ม ขอบใจนะมีนแต่ทุกอย่างปกติดี ไม่ค่อยมีเวลากันด้วย”
“โอเค” ฉันพยักหน้ารับขิงมันบอกไม่มีแล้วจะให้ถามอะไรต่อล่ะจริงไหมถึงแม้ว่าฉันจะยังสงสัยในความสัมพันธ์ของสองคนนี้ก็ตาม
เพื่อนฉันได้ผู้ชายที่ติดท็อปของมหาลัยเป็นแฟนเลยนะคะ ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ขิงมันจะชอบไทน์เพื่อนสนิทของเกรย์มาก ๆ แล้วอยู่ ๆ ก็มาคบกับเกรย์ซะงั้นโดยที่ใครต่อใครก็งงกันไปหมดว่าแอบมีซัมติงกันตอนไหน คนอื่นงงไม่เท่าไหร่แต่ฉันที่เป็นเพื่อนสนิทที่งงนี่สิโคตรแปลก แต่เกรย์ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าไทน์ สองคนนี้เพาเวอร์สูงปรี๊ดพอกันเลยนะแล้วทำไมเพื่อนรักของฉันที่เพิ่งจะมีความรักถึงไม่เคยดูสดใสเลยตั้งแต่คบกับเขา
เป็นเพราะอะไรกันนะ แล้วคนอย่างฉันจะพอมีสิทธิ์รู้เรื่องความสัมพันธ์ของเพื่อนรักกับคนที่อยู่สูงจนตัวเองเอื้อมไม่ถึงอย่างเขารึเปล่า...
-เวลาต่อมา-
ตื๊ด ตื๊ด~
...พี่อร เลขาคุณฤดี
ติ๊ด!
“สวัสดีค่ะพี่อร”
(จ้าน้องมีน ทำอะไรอยู่จ้ะ)
“เพิ่งกลับจากมหาลัยค่ะ พี่อรมีอะไรรึเปล่าคะ”
(อ๋อ ไม่มีอะไรจ้ะพี่แค่จะโทรมาบอกหนูว่าเงินเดือนเข้าแล้วนะจ้ะ)
“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”
(จ้า)
ติ๊ด!
สายที่โทรมาวางสายไปฉันก็...
“เฮ้อ!” เงินเดือนที่ว่าเป็นเงินที่ฉันจะได้จากคุณลุงพ่อของเกรย์แต่จะเรียกว่าได้จากคุณลุงก็คงไม่ถูกเพราะภรรยาของคุณลุงอย่างคุณฤดีขอเป็นคนดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายของฉันแทนคุณลุงตั้งแต่ฉันอยู่ม. 5 แล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากช่วยคุณลุงจัดการอะไรต่าง ๆ เท่าที่พอจะช่วยได้เพราะงานคุณลุงเยอะจนล้นมือ เรียกง่าย ๆ ก็คือภรรยาอยากแบ่งเบาภาระงานของสามีนั่นล่ะค่ะ เงินที่เคยได้จำนวนหนึ่งก็เลย...ถูกลดลงไปครึ่งหนึ่งโดยที่ฉันไม่กล้าเอ่ยปากพูดเพราะเคยเอ่ยปากพูดไปแล้ว ยังจำได้ดีเลยว่าตอนนั้นได้คำตอบแบบไหนมา
ตื๊ด ตื๊ด~
ติ๊ด!
(ฮัลโหล)
“คุณป้าสวัสดีค่ะ”
(นั่นใคร?)
“มีนค่ะคุณป้า”
(อ่อ มีนาเองเหรอ มีอะไร)
“คือ เหมือนเดือนนี้เงิน...”
(อ่อ เรื่องนั้นนี่เอง ฉันรู้แล้วล่ะจ้ะ ได้เงินเดือนไม่ครบใช่ไหม) ฉันยังพูดไม่จบเลย กำลังพยายามเรียบเรียงคำพูดให้ดีที่สุดทั้งที่พยายามซ้อมพูดไว้แล้ว ก็ทั้งชีวิตไม่เคยโทรหาผู้ใหญ่เรื่องเงินเลยนี่ค่ะ กลัวพูดอะไรผิดไปแล้วจะถูกมองว่าเห็นแก่เงินแต่ปลายสายก็พูดแทรกขึ้นมาทำให้ฉันสบายใจขึ้นเยอะเลยที่ท่านรู้แล้วว่ามีบางอย่างผิดพลาด
“ค่ะคุณป้า”
(โอเค ถ้างั้นขอถามอะไรหน่อยได้ไหมจ้ะมีนา)
“ค่ะ อะไรเหรอคะ”
(...เธอมาช่วยเหลืออะไรครอบครัวฉันเหรอ?)
“คะ...”
(เท่าที่ให้ไปก็เยอะมากเกินไปแล้วนะ เธอก็แค่กาฝากที่เลี้ยงไว้แถมยังไม่มีประโยชน์อะไรไม่ใช่เหรอ?)
“...มีนขอโทษค่ะ”
(หัดเกรงใจคนที่เขามีบุญคุณบ้างไม่ใช่มีแต่อยากได้ ช่วยเหลือตัวเองบ้างสิจ้ะแขนขาก็มี)
ผ่านมาหลายปีแล้วแต่ฉันไม่เคยลืมสักประโยค ทุกคำยังจำได้ดีทั้งที่ไม่อยากจำใส่สมองเลยด้วยซ้ำ คุณป้าที่ฉันเคยรู้สึกดีมาก ๆ แถมยังใจดีซื้อขนมซื้อของเล่นไปฝากฉันทุกครั้งเวลาที่ตามคุณลุงไปดูสวนกลับกลายเป็นคนที่ใจร้ายมาก ๆ เช่นกันเวลาที่อยู่ลับหลังคุณลุง
ตอนนั้นเหมือนโลกสลายเลยนะคะ ไม่ใช่เพราะเงินเดือนถูกลดลงไปครึ่งหนึ่งนะ ฉันรู้จักประหยัดมีเงินเก็บพอสมควรถ้าท่านจะไม่ให้ฉันก็ไปหางานพาร์ทไทม์ทำได้ในเมื่อฉันรู้ตัวดีเสมอว่าตัวเองตัวคนเดียวไม่มีครอบครัว มีแค่ป้าสินที่เป็นคนดูแลสวนให้คุณลุงเลี้ยงฉันมา แต่การที่คนที่เราเทิดทูนเป็นผู้ใหญ่ที่เราเคารพรักพูดจาทำลายน้ำใจของเราขนาดนั้นหัวใจของเด็กกำพร้าที่ไม่เคยได้รับความรักจากครอบครัวจริง ๆ ของตัวเองมันแตกสลายนะ
เฮ้อ! ช่างมันเถอะมันผ่านมานานแล้วไม่ได้คิดอะไรแล้วล่ะ ก็แค่ระลึกถึงความหลังแค่นั้นเอง อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าใครเอ็นดูฉันจริง
ตื๊ด ตื๊ด~
...คุณลุง
ฉันกำลังเซ็งที่เผลอคิดถึงเรื่องแย่ ๆ แต่พอเห็นว่าใครโทรมาฉันก็ยิ้มกว้างเลยค่ะ นี่ไงผู้ใหญ่ในบ้านของฉัน ผู้มีพระคุณที่มีนาคนนี้ยอมตายแทนได้
ติ๊ด!
“สวัสดีค่ะคุณลุง”
(ว่าไงลูก ทำอะไรอยู่)
“มีนเพิ่งกลับจากมหาลัยค่ะคุณลุง”
(พรุ่งนี้วันหยุดไม่มาหาลุงบ้างเหรอลูก)
“เอ่อ...พรุ่งนี้มีนไปเยี่ยมนะคะ เดี๋ยวจะซื้อกุยช่ายของโปรดไปให้คุณลุงค่ะ” อยากไปสิคะแต่ว่าคุณฤดีอยู่ รายนั้นต่อหน้าคุณลุงก็ใจดีอยู่หรอกแต่ลับหลังแสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากให้ฉันไปเหยียบบ้าน ก็ไม่รู้อะไรนักหนาฉันก็แค่เด็กผู้หญิงธรรมดา ๆ คนเดียว
(ฮึ ๆ ๆ ไม่ต้องลำบากหรอกลูก แค่หนูมาหาคนแก่ก็ดีใจแล้ว)
“ไม่ได้ค่ะ มีนรู้ว่าคุณลุงชอบกินถ้าไม่เอาไปฝากมีนเสียใจแย่เลยค่ะคุณลุงขา”
(ขี้อ้อนจริงเด็กคนนี้ ถ้างั้นมาวันนี้เลยแล้วกันนะลูก มาค้างที่บ้านสักสองคืนไอ้เกรย์มันจะกลับบ้านเหมือนกันเดี๋ยวลุงให้มันไปรับ)
-สองชั่วโมงต่อมา-
ตื๊ด ตื๊ด~
...พ่อ
ติ๊ด!
“ค่ะ”
(รอที่ปั๊มรึยัง)
“คะ? ยังเลยค่ะก็ไม่รู้ว่าจะมาตอนไหน”
(อืม ถ้างั้นก็รู้ซะว่ามาแล้ว)
“ค่ะ ๆ”
(อีกห้านาทีฉันถึง)
“ฮะ?”
(ถ้าฉันถึงแล้วเธอยังไม่ถึง...เธอตายแน่ยัยคนสวน)
“เอ้า! ใครจะไปทันมีนเพิ่ง...”
ตื๊ด ๆ ๆ
“ฮัลโหล? ฮัลโหล ๆ โอ๊ย! ไอ้โลกหมุนรอบตัวเอง!”