๔
รอยจารึก
ตีรณาไม่คิดจะยอมเขาง่ายๆ มือทั้งสองทุบตีและข่วนหยิกลงไปทุกที่ที่สามารถทำได้ จนอีกฝ่ายคำรามแหบห้าวพร้อมสบถหยาบคาย
แควก! ปลายคางจนถึงตลอดลำคอถูกปลายเล็บของตีรณาขีดข่วนเป็นทางยาวจนเลือดซิบเจ็บแปลบ ทำให้คนที่ไม่เคยเลือดตกยางออกเพราะผู้หญิงคนไหนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ตีรณาไม่เพียงด่า แต่หล่อนยังทำร้ายร่างกายเขาด้วย
“ไม่นะ ไอ้สารเลว ปล่อยฉัน” น้ำตาไหลพรากเมื่อกางเกงหลุดพ้นปลายเท้า รองเท้ากระเด็นหลุดไปตอนไหนไม่รู้ แต่กางเกงเพิ่งหลุดลอยตามไปหมาดๆ พร้อมซับใน
เสียงหวีดร้องออกมาอีกครั้งเมื่อท่อนขาอวบแยกกว้างเพราะถูกเขายัดเยียดตัวเองเข้ามา จนรู้สึกถึงแก่นกายชูชันที่บดเบียดเสียดสี
“จะทำไร อย่า ขอร้อง อย่านะ” เสียงใสสั่นพลิ้วด้วยความหวาดหวั่น
เขากระชับมือทั้งสองข้างของหญิงสาวขึ้นเหนือศีรษะด้วยมือใหญ่เพียงข้างเดียว พร้อมกับโน้มใบหน้าลงมาจนเกือบชิดใบหน้าที่อาบเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา มองเขาด้วยสายตาวิงวอน
“จารึกไง”
สิ้นเสียงกระซิบต่ำลึกร่างบางก็สะดุ้งเฮือก กายที่หยัดเกร็งหวังตั้งรับสิ่งแปลกปลอมและความรุนแรงเจ็บปวดที่กำลังสอดลึกเข้ามากลับกลายเป็นความรู้สึกเสียวแปลบเมื่อสิ่งนั้นขยับเกี่ยว เขี่ยคลึงจุดกระสันจนคนที่พยายามขัดขืนเสียวปราดไปทั้งร่าง พยายามพลิ้วกายดิ้นรนบิดสะโพกหนี แต่กลับรู้สึกอ่อนเปลี้ยสิ้นเรี่ยวแรงยามปลายนิ้วเรียวยาวสอดลึกกระแทกกระทั้น
หญิงสาวสะอึก ดวงตาแดงจัดช้ำชอกสบตาที่มองมาอย่างเยาะหยัน พร้อมอาการกระตุกเพราะความเสียวซ่านวาบหวามที่ทวีรุนแรงขึ้นทุกนาที
“แฉะไวเหมือนกันนี่ อยากแล้วใช่ไหม” เขาก้มหน้าลงมากระซิบ หญิงสาวพลิกหน้าหนีอย่างอดสู ไม่อยากยอมรับความรู้สึกที่เกิดขึ้นแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากำลังรู้สึกเช่นนั้น ปลายจมูกโด่งกับริมฝีปากได้รูปจึงซบกับซอกคอหอมกรุ่น ขบเม้มลงบนติ่งหูบอบบาง
“อื๊ออ” หญิงสาวสะบัดหน้าหนี รู้สึกร้อนวูบวาบเสียวสยิวตลอดร่าง ใบหน้างามส่ายรัวเมื่อท่อนขาถูกผลักกว้างกว่าเดิม ขณะที่จุดอ่อนไหวของวัยสาวถูกเขี่ยขยี้หนักหน่วงจนร่างงามกระตุกเบาๆ ก่อนถูกแทนที่ด้วยบางอย่างที่ใหญ่โตกว่าหลายเท่า
“ไม่นะ” เสียงหวานสั่นพร่า ดวงตาฉ่ำหยาดน้ำสบตาคมกล้าอย่างอ้อนวอนเป็นครั้งสุดท้าย แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นรอยยิ้มเย็นชาเหี้ยมเกรียม พร้อมกับร่างกายที่ถูกรุกรานเข้ามาช้าๆ ใบหน้างามบิดเบ้ เปลือกตาปิดลงช้าๆ พร้อมความรู้สึกอีกแบบที่พวยพุ่งขึ้นอย่างไม่อาจหักห้าม
ดวงตาพร่าพราวไปด้วยความโกรธก่อนหน้าถูกอารมณ์ที่เต็มไปด้วยกำหนัดแทนที่ ใบหน้าคมคายถมึงทึงถูกเคลือบอาบด้วยความหฤหรรษ์ยามเสือกส่งกายผ่านความคับแน่นและอบอุ่นบีบรัดอย่างหนักหน่วงเร่าร้อน เสียงเสียดสีเปียกแฉะและครวญครางดังเคล้าคลอ เร่งให้เขากระทั้นแก่นกายหนักหน่วง
ร่างบางสั่นระริก ครั้นเมื่อจวนเจียนถึงจุดไคลแม็กซ์เขากลับถอยห่าง แล้วรั้งร่างอ่อนปวกเปียกที่ยังมีเสื้อเชิ้ตถูกปลดกระดุมจนหมดแถว ส่วนบราเซียร์ถูกถลกขึ้นไปกองเหนืออกอวบให้ลุกขึ้นแล้วสั่งให้นอนคว่ำหน้า หญิงสาวทำตามอย่างโง่งม พร้อมกับฝ่ามือใหญ่ที่รั้งเอวคอดเล็กยกขึ้นจนสะโพกผายงามเชิดรั้น ไม่กี่วินาทีร่างหนาก็แนบชิดพร้อมกับแก่นกายที่สอดลึกเข้ามาจากด้านหลัง
ตีรณาสะอึกกับอาการจุกเสียวเมื่อเขาสอดเข้ามาเพียงครั้งเดียว ใบหน้างามบิดเบ้ ขบเม้มริมฝีปากซบนิ่งกับโซฟาหนานุ่ม ไม่กี่อึดใจก็เสียววาบเมื่อเขากระแทกแก่นกำยำมันวาวเข้ามาอย่างหนักหน่วง
“อ๊ะ! อื๊ม!”
อารมณ์เสียวกระสันวาบไหว เป็นอารมณ์ที่หล่อนไม่ต้องการให้เกิดขึ้น แต่ร่างงามกลับสั่นสะท้านเกินควบคุม ทุกการสอดกระแทกแต่ละคราวลึกสุดออกสุดจวนเจียนคลั่ง
เวลาเดียวกันทีปกรเองก็รั้งกายบอบบางเอาไว้ยามกระแทกกระทั้น ใบหน้าคมแดงก่ำด้วยความหฤหรรษ์ที่เสียดลึกเพิ่มขึ้นทุกขณะ รับรู้ความรู้สึกร้อนวูบวาบและเสียวแปลบปลาบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า หล่อนดูดรัดเขาหนักจนเกินทานทน
เสียงหอบหายใจพร่าดัง คลอไปกับเสียงครางกระเส่าของหญิงสาว เขาฉุดรั้งอารมณ์ของตนเองให้ช้าลง แล้วโน้มกายแนบไปกับแผ่นหลังบอบบาง พลางเลื่อนฝ่ามือใหญ่ไปกอบกุมและบีบเคล้นเต้าอวบที่ส่ายไปมายามเขากระแทกกระทั้นสอดเสียบ ขบเม้มใบหูนุ่ม แล้วขบดูดลำคอระหงชื้นเหงื่อ
ตีรณารู้สึกวาบหวามเสียวซ่าน ร่างกายโยนโยก บั้นท้ายอวบอิ่มกระทบหน้าขาแกร่งจนเกิดเสียงเนื้อกระทบกัน พร้อมกับแก่นกายกำยำที่สอดเสียบหนักหน่วงเร่งเร้าทวีความรุนแรงขึ้น เร็วขึ้น แล้วทุกอย่างก็พร่างพราว กระจัดกระจาย สั่นระริก แตกซ่าน ร่างกายร้อนระอุด้วยอารมณ์เสียวทะยานสูงสุดพร้อมเสียงหวีดร้องหวานแหลม ขณะที่ผู้กุมชะตากรรมเร่งกระแทกอัดสะโพกหนักหน่วง ไม่กี่วินาทีเขาก็หยัดกายส่งท่อนลำเข้าหาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะดึงออกแล้วรูดรั้งแก่นกายอย่างหนักหน่วงปลดปล่อยหยาดน้ำขุ่นขาวลงบนสะโพกอวบผาย ใบหน้าคมคายแหงนเริด ริมฝีปากบางเผยอครางกระหึ่มออกมาด้วยอารมณ์รุนแรงสูงสุดที่ถูกปลดปล่อยจนหมด
ร่างอ้อนแอ้นทิ้งกายซวนซบกับโซฟาหนังสีน้ำตาล ร่างกายร้อนผ่าวราวกำลังมอดไหม้แต่หัวใจยังเต้นรัว
ชายหนุ่มยืนหยัดเต็มความสูง เขาเป่าปากเบาๆ ดวงตาคมเฉี่ยวราวเหยี่ยวปรือมองเรือนร่างขาวผ่องด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะหันไปหยิบกระดาษทิชชูออกมาชำระคราบคาวจากแก่นกาย หยิบกางเกงขึ้นมาสวมใส่แล้วเดินเข้าห้องน้ำ
หญิงสาวนอนนิ่งอย่างคนหมดแรง ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาด้วยความเจ็บใจ มือเรียวที่วางข้างใบหน้าขยับกำแน่น รวบรวมกำลังใจกลับคืนมา ลุกขึ้นนั่ง มองหาเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายทั่วห้อง
เมื่อทีปกรออกมาจากห้องน้ำหญิงสาวก็จัดการกับตัวเองเรียบร้อย มีเพียงใบหน้าและดวงตาที่แดงก่ำ ยืนนิ่งค้างอยู่กับที่
ร่างสูงเดินไปหยุดที่โต๊ะทำงานของเขา ก่อนจะหันมามองคนที่เม้มปากแน่น ดวงตากลมโตมองตามเขาด้วยสายตาแค้นเคือง แต่เขากลับยิ้มน้อยๆ อย่างท้าทาย ก่อนจะหยิบเช็คออกมาเซ็นไม่กี่วินาทีก็ก้าวมาหาร่างบอบบางที่มองเขาทุกฝีก้าวด้วยหัวใจเต้นรัวและความชิงชัง
“ค่าเสียเวลาของเธอ”
ดวงตาคู่งามหลุบมองเช็คที่ถูกยื่นมาตรงหน้า มองตัวเลขบางเบาบนนั้นแล้วเม้มปากแน่น
“เป็นค่าตัวสำหรับหนึ่งชั่วโมง ฉันให้ราคาเท่าเด็กตัวท็อปของที่นี่เลยนะ ถึงแม้เธอจะไม่ได้เรื่องเลยสักนิดก็ตามเถอะ”
สิ้นเสียงหยามเหยียดใบหน้าคมก็สะบัดไปตามฝ่ามือที่ฟาดลงมาบนแก้มของเขาเต็มแรง
“สกปรก!”
ใบหน้าคมที่นิ่งค้างอยู่ท่านั้นหันมา ดวงตาคมวาวโรจน์พร้อมมือใหญ่ที่เงื้อขึ้นหมายฟาดกลับ ทว่าใบหน้างามกลับเชิดรับ ดวงตากร้าวร้าวรานบอกชัดถึงหัวใจที่แตกสลายไม่มีชิ้นดีของคนตรงหน้า ทำให้คนที่เกือบขาดสติต้องยับยั้งฝ่ามือลงกลางคันทั้งที่วาดลงมาได้ครึ่งทางแล้ว
ตีรณาสบตาเขาอย่างไม่พรั่นพรึงอีกต่อไป เพราะไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้ว พลันน้ำตาก็ไหลอาบแก้ม ริมฝีปากที่สั่นระริกขบเม้มเข้าหากัน ก่อนจะหมุนตัววิ่งออกจากห้องทำงานทิ้งให้เจ้าของห้องยืนนิ่งขึงอยู่ที่เดิม สายตาแข็งกร้าวพลันสั่นไหววูบหนึ่งก่อนกลับเป็นปกติ เขาหลุบตามองเช็คในมือตนเอง คิ้วหนาเข้มกระตุกเข้าหากัน ถอยหลังไปทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ตัวใหญ่ ก่อนจะหันไปมองยังโซฟาตัวนั้น
เขาไม่เคยคิดว่าทุกอย่างจะลงเอยแบบนี้สักนิด แค่เรียกหล่อนมาคุย ตั้งใจบอกว่าไม่ต้องกลับเข้าไปบริการเพื่อนๆ ของเขาอีก แต่การปะทะคารมกันทำให้เขาหมดความยับยั้งชั่งใจ ไม่มีใครเคยท้าทายเขาเหมือนที่หล่อนทำ
ที่ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่ได้ป้องกันตัว ที่ทำลงไปก็ด้วยความสะใจล้วนๆ
ไอ้โง่เอ๊ย...
เสียงผ่อนลมหายใจสั่นพร่า มือหนายกขึ้นคลึงขมับตนเอง ปรายตามองเช็คใบนั้นอีกหน ก่อนจะหยิบมันขึ้นมาพร้อมกับฉีกจนย่อยยับ ดวงหน้าที่มองเศษกระดาษแข็งกระด้างตามอารมณ์