ตอนแรกว่าจะนอนเล่นๆเพื่อแกล้งอ่อยเหยื่อ จะเป็นด้วยเหนื่อยล้าจากการทำงาน อาจจะเป็นด้วยความเหงาที่เกาะกินใจ
หรืออาจจะเป็นเพราะแผงไหล่ที่ใหญ่แข็งแรงนั้น อบอุ่นไปถึงหัวใจอันแสนโดดเดี่ยว ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่
สตรีผมหยักโศกหน้ากลมตาเฉี่ยวคนนี้หลับไปจริงๆ
ผัดไทยคนซื่อทำได้แต่เพียงนั่งนิ่งไม่กล้าไหวกาย ด้วยความกลัวว่าจะทำให้สาวแปลกหน้าคนงามตื่นโดยไม่ควร
ตอนนี้อาการประหม่าหายไปบ้างแล้ว พอจะมีความกล้าชำเรืองมองดูหน้าประธานสาวขึ้นมาทางหางตา
'สวยจริงๆ' รำพึงสั้นๆ พลางคิดอย่างไม่เชื่อสายตาคนที่สวยดูดีมีชาติตระกูลอย่างนี้จะซบไหล่คนอย่างเค้าไปเพื่ออะไร
แกล้งหรือ ?
แกล้งแล้วจะได้อะไร ?
ถ้ามองจากภายนอกมา ซอยเล็กๆนี้มีเพียงป้อมยามนี้เท่านั้นที่ดูจะสว่างที่สุด ถัดเลยไปก็จะมีเพียงแปลงที่ดินเปล่าที่แทบจะมืดสนิท จะมีไฟทางบ้างก็เว้นระยะห่างกันเกินกว่าที่ควรเป็นทำให้บรรยากาศในคืนข้ามปีของบริเวณนี้ดูเงียบเหงากว่าที่อื่นๆ
เดิมทีพื้นที่ตรงนี้ก็ควรมีแต่ความเหงาอันเปล่าเปลี่ยวเท่านั้นที่คู่ควรกับรปภหนุ่ม แต่ตอนนี้เหมือนจะไม่ใช่เสียแล้ว
ลมอ่อนพัดโชยหอบเอากลิ่นหอมจางๆของดอกไม้บางชนิดที่ส่งกลิ่นยามราตรี รวมกับแสงเหลืองอ่อนจากจันทร์เสี้ยวที่สาดส่องผ่านเมฆาลงมาเป็นระยะและประธานสาวคนงามที่หลับใหลอย่างเอาเป็นเอาตายบนแผงไหล่อันอบอุ่นนั้น
ทำให้ความเหงาอันเปล่าเปลี่ยวที่เคยเกาะกินใจปลิดปลิวไปกับสายลม
ขณะที่เวลาของปีนี้นับถอยหลังใกล้สิ้นสุดลง
แต่เวลาหัวใจของใครบางคนกลับพึ่งเริ่มขึ้น
.
.
บนแผงไหล่นั้นคนตาเฉี่ยวเหมือนจะเริ่มรู้สึกตัว ศีรษะนั้นเริ่มเคลื่อนไหวนิดๆ เปลือกตาเริ่มเผยอขึ้นพร้อมกับรู้สึกตัวอย่างเขินอาย
"นี่เราหลับไปนานเท่าไหร่" เหมือนกับจะถามตัวเองมากกว่า พร้อมกับยันตัวขึ้นนั่งตรงแต่ก็ยังเบียดชิดกันอยู่ดี
"เกือบชั่วโมงครับพี่" เสียงทุ้มสุภาพตอบกลับมาอย่างแผ่วเบาพร้อมกับยื่นทิชชูให้
รินรดาขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจแต่ก็รับมาพร้อมกับสำรวจร่างกายราวกับว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในช่วงหลับไป แต่ก็เปล่าเลยไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเธอแม้แต่น้อยจึงหันไปมองหนุ่มคนซื่อเชิงตั้งคำถามว่า ให้มาทำไม
รปภ หน้าคมตอบด้วยนำเสียงสุภาพว่า
"เช็ดน้ำลายครับพี่มันไหลออกมาเต็มแก้มพี่เลย"
เหมือนจะไม่เชื่อประธานสาวยกมือจับแก้มซ้ายตัวเอง
มันเปียกเหนียวๆ หันไปมองไหล่ขวา รปภ หนุ่มถึงกับหน้าร้อนผ่าวอยากจะเอาหัวมุดลงดินให้รู้แล้วรู้รอด ไหล่ขวาอันแสนอบอุ่นที่เธอเคยหนุนนอนเสื้อยืดสีขาวตรงหัวไหล่นั้นเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายเธอ
แก้เขินด้วยการไม่ใช้ทิชชูที่ผัดไทยยื่นให้แต่หยิบทิชชูเปียกในกระเป๋าถือมาใช้แทนพร้อมเช็ดแก้มอย่างเขินอาย
"ตรงนี้ด้วยครับพี่" หนุ่มคนซื่อชี้ไปที่ติ่งหูตัวเองบ่งบอกเป็นนัยว่าติ่งหูพี่ยังเลอะอยู่
คนที่อายอยู่แล้วยิ่งอายกว่าเดิมแต่ต้องเช็ดอย่างจำใจ
"เราน่ะยังเรียนอยู่เหรอ" รินรดาเปลี่ยนเรื่องอย่างดือๆ
หนุ่มหน้าคมมีสีหน้างงเล็กน้อยต่อการเฉไฉแต่ตอบแต่โดยดี
"ครับพี่เรียนกฏหมายอยู่ครับ"
"ห๊ะ นิติเลยหรอขยันๆท่องเข้าละ แล้ว แล้วอาชีพยามนี้ล่ะ"
"อ๋อ เป็นอาชีพเสริมครับพี่ได้เงินด้วยได้ดูหนังสือด้วย"
ประธานสาวแอบมีความรู้สึกชื่นชมอยู่ในใจ
น้ำเสียงซื่อๆ ท่าทางขยัน แถมยังตั้งใจเรียนอีก เด็กนี่มีอนาคตแน่นอน
แต่ไอ้ที่หงุดหงิดจริงๆ ก็ไอ้ท่าทีเล่นตัวนี้แหละแกล้งต่อดีกว่า
"วันนี้พี่คงเหนื่อยซินะครับ"
"ใช่พี่น่าจะเหนื่อยแหละถึงหลับไปได้" พอวกกลับมาเรื่องนี้เธอถึงกับยกมือคลำแก้มตัวเองเพื่อเช็คดูว่าคราบน้ำลายหมดแล้วหรือยัง
"พี่พึ่งเลิกงานเหรอครับ" หน้าซื่อนั้นหันมามองอย่างอ่านไม่ออกว่ามีความหมายแฝงหรือไม่ แต่ประธานสาวก็ร้อนตัวพลางมองสำรวจชุดตัวเองอีกครั้ง
"นี่ถามแบบนี้คือ ? เธอคิดว่าพี่ขายตัวเหรอ"
"โอย ไม่ใช่ครับพี่" คนซื่อตาโตด้วยท่าทีตกใจยกมือโบกเชิงปฏิเสธว่าไม่ได้หมายความแบบนั้น
"แล้วถ้าพี่ขายล่ะ เราจะซื้อไหม" ประธานสาวทรงเสน่ห์มองด้วยสีหน้าท่าทางบ่งบอกว่าเอาจริงพร้อมเบียดตัวแนบชิดกว่าเดิม อารมณ์ครุกรุ่นอยากยั่วสวาทกลับมาอีกครั้ง
"ไม่ครับ ผมไม่มีตังครับ"
"แล้วถ้าฟรีล่ะ" ในที่สุดประธานสาวก็วกเข้าประเด็นได้
"ก็ไม่ล่ะครับ"
"ห๊ะ !! ทำไม" ประธานสาวถึงกับลุกขึ้นยืนอย่างมีอารมณ์
"พี่ไม่สวย ! หรือยังไง หรือมีอะไรตอบมาซิ" รินรดาโมโหจริงๆ เธอมั่นใจในเสน่ห์ของตัวเองมากรายไหนรายนั้นไม่เคยรอดมือ นางยืนเท้าเอวขมวดคิ้วมองหน้า รปภ หนุ่มอย่างรอคำตอบ
"ก็ ก็ผมอ่านหนังสืออยู่ครับพี่ การศึกษามันเป็นเรื่องสำคัญน่ะครับ" ประธานสาวไม่แน่ใจว่าเป็นการตอบอย่างกวนตีนหรือตอบแบบซื่อ แต่นางพยักหน้าอย่างเข้าใจพร้อมกับนั่งลงเก้าอี้ข้าง รปภหนุ่มเหมือนเดิม
"โอเคงั้นพี่ไม่กวนและอ่านไปซิ พี่ขอนั่งข้างๆนี่แหละ วันนี้พี่ไม่มีที่ไป"
"อ๋อได้ครับ แคบหน่อยนะพี่" หนุ่มคนซื่อหยิบหนังสือขึ้นมาเปิดอ่านตามเดิมพร้อมกับเปิดวิทยุฟังอย่างไม่ใยดีต่อความงามแบบยั่วยวนของรินรดา ประธานสาวชายตามองซ่อนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์โดยทำทีเป็นไม่สนใจ
'กล้าเมินเหรอเดี๋ยวได้รู้ว่ารินรดาคนนี้ร้ายกาจได้ขนาดไหน' ทิ้งระยะเวลาได้เพียงชั่วครู่เหมือนทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี
มือของประธานสาวค่อยๆลูบคลำอย่างแผ่วเบาที่น่องของหนุ่มคนซื่อแล้วก็อย่างคนมือไวจากน่องตอนนี้มือนั้นไปซุกอยู่ที่เป้ากลางลำตัว
ผัดไทยหันมามองด้วยสีหน้าตกใจ ส่วนประธานมองสู้กลับด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอย่างซุกซนลอยหน้าลอยตาส่ายหัวไปมา พร้อมกับมือที่รูดขึ้นลงอย่างเน้นย้ำกว่าเดิม
"ไม่อ่านหนังสือไปล่ะ การศึกษาสำคัญนะ" รินรดาทวนคำให้
ยิ่งพ่อหนุ่มผัดไทยปฏิเสธนางมากเท่าไหร่นางก็จะยิ่งเอาให้ได้มากเท่านั้น
"โธ่ พี่ผมจะอ่านได้ยังไงล่ะ อูวววววว" ตอนนี่ชายคนซื่อถึงกับทำตาโตพร้อมกับปากจู๋ มือของประธานสาวล้วงเข้าไปในกางเกงเรียบร้อย
กระบองยามตกอยู่ในมือรินรดาอย่างเป็นตัวประกัน
มือนั้นรูดขึ้นลงอย่างช้าๆจากคนที่เป็นงาน รปภหนุ่มถึงกับต้องแอ่นเอวลอยในบางจังหวะ
"พะ พะ พี่ กะลังล่วงละเมิดทางเพศผะ ผม นะครับ" คำขู่อย่างติดๆขัดๆด้วยความเสียวซ่านจากนักศึกษากฏหมาย แทนที่จะหยุดมือนั้นรูดอย่างเน้นหนักกว่าเดิม ชนิดที่ว่าขึ้นสุดลงสุด
"แล้วจะลงโทษพี่ยังไงคะ"
"หรือจะให้พี่ใช้ปากดูดแทน"
ตอนนี้รปภหนุ่มนั่งตัวเกรงพิงผนังสีหน้ากลั้นเสียวอย่างเต็มกลืน ยิ่งเห็นอย่างนี้ประธานสาวยิ่งหนักมือขึ้น
ตอนนี้กระบอกยามตื่นขึ้นอย่างเต็มตัวแล้ว
"ไม่อ่านหนังสือแล้วหรอคะ"
"มะ..ไม่แล้วครับ" ผัดไทยตอบอย่างอ้อมแอ้มอารมณ์ของหนุมน้อยกระเจิงไปถึงไหนไม่มีใครหยั่งรู้ได้ นั่งพิงพนังด้านหนึ่งอย่างหายใจไม่ทั่วท้อง
"เรายังติดค้างพี่อยู่จำได้ไหม"
.
"คะ ครับ"
"งั้นถ้าตอนนี้ให้เอาจะเอาไหม"
"เอ่อ...ครับ" เหมือนจะลังเลอยู่นิดแต่ตอบตกลงอย่างไม่มีทางเลือก ส่วนประธานสาวเริ่มผ่อนการรูดมือ ใบหน้านั้นปรากฏรอยยิ้มอย่างมีชัย
บอกแล้วไม่มีใครรอดมือฉันไปได้หรอก
"ผัดไทยคะ....คืนนี้เรามาสนุกกันข้ามปีเลยนะคะ"
"ค..ครับ หมายถึงมีอะไรกันใช่ไหมครับ"
"อย่างนั้นแหละค่ะ อย่าทำปืนลั่นอีกนะคะ"