ร้อน
"เก๋ลูกค้ากลุ่มสิบสองคนโอนเงินแล้วนะส่งเมล์ให้ลูกค้าได้เลย"
"ค่ะ"
"พี่มอส"
"ว่า?"
"ทริปจีนสิ้นเดือนนี้เบียดอีกสองที่ได้ป่ะลูกค้าอยากพาพ่อกับแม่แฟนไปด้วย"
"ลูกค้าที่จองไว้คอนเฟิร์มครบรึยัง?"
"ยังค่ะเหลืออีกสองเจ้าแล้วก็คุณนุนี่แหล่ะ"
"ถ้าจำไม่ผิดเราจองรถ24ที่นั่งนะเมย์ไปเช็คมาแล้วกันใช่ก็คอนเฟิร์มคุณนุได้เลย"
"ค่ะ"
"ใครมีอะไรอีกมั้ยพี่เข้ามาแล้วนะมีอะไรด่วนก็โทรมาแล้วกัน" ผมมองลูกน้องสองคนที่นั่งเงียบ "เก๋เอกสารที่เซ็นต์แล้วอยู่บนโต๊ะ"
"ค่ะ"
"พี่ไปนะ" ผมเดินออกจากออฟฟิสเล็กๆเป็นอาคารพานิชย์หนึ่งคูหา
้เช่าครับไม่ได้ซื้อยังไม่ได้ร่ำรวยอะไรขนาดนั้น
ธุรกิจยังล้มลุกคลุกคลานพึ่งจะมาตั้งหลักได้ก็ปีนี้จากที่ทำเองทุกอย่างตั้งแต่งานเอกสารยันเป็นไกค์นำเที่ยวก็เริ่มจ้างพนักงานมาช่วย เมย์เป็นแอดมินและเซลล์ในเวลาเดียวกัน เก๋เป็นผู้ช่วยผมดูเรื่องเอกสาร บัญชี ภาษีนั่นนี่ที่ได้รับมอบหมายจากผม หนุ่มเป็นไกค์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้เข้าออฟฟิสหรอกครับ
ตอนบ่ายผมมีนัดขายงานกับผู้ใหญ่ผอ.สำนักงานเขตต้องการใบเสนอราคาสำหรับทริปดูงานที่ญี่ปุ่น มีเวลาสำหรับการเดินทางห้าสิบนาที
'เอิงเอยเพิ่มคุณเป็นเพื่อนจากหมายเลขโทรศัพท์'
ผมมองข้อความแจ้งเตือนที่เด้งขึ้นมา 'เอิงเอย' เหรอ?อย่าบอกนะว่าเป็นเอยเดียวกัน 'เอิงเอย' ที่ผมรู้จักมีแค่คนเดียวครับจ้องรูปโปรไฟล์ที่เป็นน้องหมาขนดำอย่างช่างใจผมลังเลว่าควรจะบล็อคเธอมั้ยแต่ความสนใจอยากรู้ทำให้ผมตัดสินใจตรงกันข้ามกดเพิ่มเอยเข้ามาในลิส
ติ๊ง
'เจอกันหน่อยได้มั้ย?'
กดรับปุ๊ปเิยก็ทักมาทันทีแสดงว่ารอผมอยู่ล่ะสิ
'ว่างเย็นนี้'
'ได้ ขอบคุณนะ' เอยแถมท้ายด้วยสติกเกอร์ยิ้มสดใส
ผมพิมพ์สถานที่นัดหมายและเวลาส่งไปให้ก่อนเก็บมือถือลงกระเป๋ารีบขับรถไปพบลูกค้า
ร้านกาแฟในคอมมูนิตี้มอลแห่งหนึ่ง
ผมนัดเอยไว้ที่นี่ครับไม่ได้ตกใจเลยที่เอยทักมาหาเรียกว่ากำลังรอคอยอย่างใจเย็นมากกว่า เอยคงเห็นผมเป็นก้างชิ้นใหญ่ที่ขวางคอทำให้ชีวิตคู่ในอนาคตของเธออาจไม่ราบรื่น
“ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีกนะ” ผมเริ่มพูดหลังจากนั่งจิบกาแฟเงียบๆ กันมาพักใหญ่ต่างฝ่ายต่างก็อึดอัดใจมีเรื่องจะพูดมากมายแต่ไม่อาจจะเรียบเรียงออกมาได้ทั้งหมด
“เหมือนกัน” เอยยังคงจริงจัง ก่อนจะก้มหน้ามองแก้วกาแฟตัวเอง
“ก็โลกนี้มันกลมนี่นะใครจะไปนึกล่ะว่าแฟนเก่าอย่างเราจะเป็นเพื่อนกับว่าที่สามีเธอได้”
“……” เอยไม่พูดอะไรนอกจากละสายตาจากแก้วกาแฟมามองผม
“ตอบเรามาตามตรงได้มั้ยว่าตอนนั้นเธอทิ้งเราไปเพื่อคบกับไอ้เกี้ยวใช่รึเปล่า”
“มันผ่านมานานแล้วนะเราว่า…”
“ในเมื่อมันผ่านมาแล้วก็ตอบมาดิ...จะคิดมากทำไม?” ผมคาดคั้นเพราะในใจมันรู้ดีว่าคำตอบดีอยู่แล้วแต่แค่อยากได้ยินชัดๆอยากให้เอยรู้ว่านิสัยเธอมันน่ารังเกียจน่าขยะแขยงแค่ไหน
้เลิกแสร้งทำตัวเป็นคนดีหรือทำราวกับว่าตัวเองตกเป็นเหยื่อสักทีเธอรู้ตัวเองดีว่าความจริงคืออะไร
“มอส…”
“ถ้าไม่ใช่เธอคงไม่หาทางติดต่อเรามาแบบนี้ คนอย่างเธอคงไม่ทำหน้ากังวลเวลาที่อยู่ต่อหน้าเรานิสัยเธอน่ะสนใครที่ไหนทำอะไรตามแต่ใจที่ตัวเองต้องการมาตลอด”
"อยากฟังมันจริงๆเหรอคำตอบของเราน่ะ"
"ใช่"
“เราไม่ตอบ...มอสเองก็น่าจะรู้อยู่แล้วนะ”
“หึ! ...คบซ้อนสินะแล้วทำไมถึงบอกเลิกเราล่ะ ทำไมทิ้งเราแล้วเลือกมันแถมคบกันตั้งสิบปีอย่าบอกนะว่าที่ทนคบอยู่นี่เพราะความรวยของไอ้เกี้ยวมันเสกทุกอย่างให้เธอได้"
“เกินไปนะมอสเกี้ยวเขาไม่ได้ให้อะไรเราทั้งนั้น"
"จะบอกว่ารักกันด้วยใจ?"
"มอสทำแบบนี้ทำไมต้องการอะไรกันแน่"
"เรามากกว่าที่ต้องถามเธอว่าอยากเจอเราทำไมจะแกล้งทำเป็นไม่รู้จักกันต่อไปก็ได้นี่"
"มอส...เราขอนะเห็นแก่เกี้ยวอย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก"
"เรื่องไหนล่ะ?ที่เธอแอบมาเจอเราวันนี้อ่ะนะ"
"ไม่...เราหมายถึง"
"ไม่พูดเรื่องที่เราสองคนเคยเป็นอะไรกันอ่ะนะ เห็นแก่ตัวว่ะเอย"
"มอสจะด่าเรายังไงก็ได้จะเกลียดเราไปเลยก็ได้แต่ขอล่ะ...อย่าบอก้กี้ยวเลยนะเกี้ยวเขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วยคนผิดคือเราเอง"
“อืม...ชักไม่แน่ใจแล้วสิ" ผมยิ้มหยันเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นต่อ
“ขอโทษนะมอส…เราขอโทษจริงๆ” สีหน้าเอยเต็มไปด้วยความสำนึกแต่ผมว่าลึกๆเอยกลัวมากกว่า
มันก็แอบเจ็บอยู่นะที่เห็นว่าเอยพยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษาชีวิตคู่เพื่อได้อยู่กับคนที่ตัวเองรัก
“เรื่องอะไรล่ะที่เธอจะขอโทษเรา”
“ทุกอย่างเลย…เราขอโทษสำหรับทุกอย่างที่ผ่านๆมาตอนนั้นเรายังเด็กทำอะไรตามอารมณ์เราไม่ได้คิดว่ามันจะทำร้ายมอสแค่ไหน”
“ช้าไปมั้ย? ...จริงๆเธอไม่ได้รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำไว้กับเราสักนิด ถ้าไม่เพราะเราเป็นเพื่อนไอ้เกี้ยวเธอก็ไม่คิดจะขอโทษเราหรอก เอย...เธอหลอกเราไม่ได้หรอกนะ"
“มอสเรา…”
“เริ่มกลัวขึ้นมาแล้วสินะอดีตที่ลืมไปแล้วน่ะ"
“เราเป็นคนแปลกหน้าต่อกันได้มั้ย? ...เราจะไม่ขอให้มอสให้อภัยหรือว่าขอให้กลับมาเป็นเพื่อนกันหรอกนะ มอสจะเกลียดเราเหมือนที่ผ่านมาเลยก็ได้เราขอแค่อย่างเดียวอย่าให้เกี้ยวรู้”
“นี่สิค่อยสมเป็นเอยหน่อย” ผมยิ้มให้ตัวเองรู้สึกสมน้ำหน้าที่ต้องมานั่งฟังคำพูดนี้เจ็บซ้ำๆเมื่อรู้สึกได้ว่าสุดท้ายผมก็ยังไม่ใช่คนที่เธอให้ความสำคัญอยู่ดี
ไม่มีสักนิดที่เธอจะคิดถึงความรู้สึกผม
“ได้มั้ยมอส…นะ ถือซะว่าเห็นแก่เกี้ยวก็ได้”
“เธอเอาเพื่อนรักเรามาต่อรองแบบนี้ไม่ได้นะ”
“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะอย่าบอกนะว่ามอสจะบอกเกี้ยวจริงๆ”
“ทำไมเราจะพูดไม่ได้…พูดแล้วเธอจะกลายเป็นหม้ายขันหมากงั้นเหรอ?”
“ไม่ตลกนะมอส บอกเรามาได้เลยว่าต้องการอะไรสิ่งที่เราเคยทำลงไปมอสต้องการให้เราชดใช้ยังไงพูดมาได้เลย”
"แน่ใจนะ"
"แน่!"
“หึ!…เธอรักเกี้ยวมากสินะ” ผมข่มความรู้สึกในใจด้วยการยกกาแฟขึ้นมาจิบ
“เอาตามตรงคือเรากำลังจะแต่งงานเราไม่ต้องการให้ทุกอย่างมันพังมอสเข้าใจมั้ย?”
“งั้นเธอก็ต้องชดใช้ให้เราแล้วล่ะ”
“ก็บอกมาสิว่าต้องการอะไร!”
“ใจร้อนจังนะ”
“อย่ายั่วโมโหกันดีกว่าเราไม่อยากจะทะเลาะกับมอสตอนนี้”
“…” ผมเงียบไปในหัวกำลังคิดว่าควรจะทำยังไงกับอำนาจต่อรองที่ได้มา
“ถึงยังไงเกี้ยวก็ไม่ควรรู้เขาเป็นคนดีข้อนี้มอสก็น่าจะรู้อีกอย่างคือเรา…ไม่อยากเสียเกี้ยวไป…”
...
ผมรู้สึกหน่วงในใจเมื่อได้ยินทำไมผมยังรู้สึกแบบนี้ล่ะมันผ่านมานานเต็มทีนานเกินกว่าที่ผมจะรู้สึกอย่างนี้ได้ผมฝังใจอะไรกับผู้หญิงคนนี้นักหนา
ผู้หญิงสองหน้า
ผู้หญิงสองใจ
“งั้นก็ชดใช้มา” ผมบอกพร้อมสบตากับเอยขณะที่อารมณ์ในใจกำลังครุกรุ่น “ทุกอย่างที่เธอคิดว่าทำไว้กับเราชดใช้มาซะแล้วเราจะไม่พูดอะไรจะทำเหมือนคนไม่เคยรู้จักกัน”
“มะ…หมายความว่า?เงินเหรอเท่าไหร่ล่ะ?”
"ซื่อจังนะ...หรือว่าแกล้งไม่เข้าใจเลือกมาสิระหว่างโรงแรมแถวนี้กับห้องเรา”
“..!!.." ผมส่งยิ้มที่ดูเย็นชาไปให้ผู้หญิงตรงหน้าที่ดูตกใจ "มันไม่เห็นเกี่ยวกันเลย!!"
"แค่ชดเชยด้วยร่างกายเล็กๆน้อยๆคงไม่เป็นไรหรอกมั้งถือว่าทำเพื่อไอ้เกี้ยวไง"
"..."
ทำไมล่ะ?
ผมว่ามันก็ยุติธรรมออกนะเพราะตลอดสิบปีที่ผ่านมาเอยทำให้ผมไม่สามารถที่จะคบใครจริงจัง พอจะเริ่มต้นกับใครสักครั้งใจมันก็ยังคิดถึงเอย ผมจะใช้โอกาสนี้เพื่อลบลืมเธอไปจากใจผมคงไม่เผลอไปจริงจังกับคนที่กำลังจะกลายเป็นเมียเพื่อนหรอก
“ว่าไงเลือกได้รึยัง”
“นะ…นานแค่ไหน?”
“หมายถึง?”
“เรื่องที่เราต้องชดใช้น่ะ”
“เป็นคำถามที่ดีแต่ว่าตอนนี้เรายังไม่คิด”
“คิดสิมอส!ต้องคิดแล้วบอกเรามา” เอยชักสีหน้า
"อย่าเห็นแก่ตัวสิเอย...นี่คืออาการของคนที่อยากแก้ตัวเพราะสำนึกผิดงั้นเหรอ?"
"เรื่องนี้มัน!!"
"ถ้าไม่พอใจจะไม่ทำก็ได้นะก็แค่อยู่อย่างหวาดระแวงต่อไป"
"แกล้งเราเธอคงสะใจมากสินะ"
“เราพูดจริงไม่ได้แกล้งเธอไม่ตกลงเราจะไปบังคับอะไรได้"
...
.....
เอยนิ่งไปคงกำลังใช้ความคิดผมก็เลยจิบกาแฟรอรู้อยู่แล้วครับว่าสุดท้ายคำตอบจะเป็นไง
“...ห้อง...ห้องมอส” เอยพูดอย่างจริงจังแต่สายตาที่มองกลับมานั้นมันเปี่ยมไปด้วยความสับสนกังวลใจ
หึหึ...
นั่นแหล่ะครับความสะใจของผม