2:ร้อน

1677 คำ
ร้อน "เก๋ลูกค้ากลุ่มสิบสองคนโอนเงินแล้วนะส่งเมล์ให้ลูกค้าได้เลย" "ค่ะ" "พี่มอส" "ว่า?" "ทริปจีนสิ้นเดือนนี้เบียดอีกสองที่ได้ป่ะลูกค้าอยากพาพ่อกับแม่แฟนไปด้วย" "ลูกค้าที่จองไว้คอนเฟิร์มครบรึยัง?" "ยังค่ะเหลืออีกสองเจ้าแล้วก็คุณนุนี่แหล่ะ" "ถ้าจำไม่ผิดเราจองรถ24ที่นั่งนะเมย์ไปเช็คมาแล้วกันใช่ก็คอนเฟิร์มคุณนุได้เลย" "ค่ะ" "ใครมีอะไรอีกมั้ยพี่เข้ามาแล้วนะมีอะไรด่วนก็โทรมาแล้วกัน" ผมมองลูกน้องสองคนที่นั่งเงียบ "เก๋เอกสารที่เซ็นต์แล้วอยู่บนโต๊ะ" "ค่ะ" "พี่ไปนะ" ผมเดินออกจากออฟฟิสเล็กๆเป็นอาคารพานิชย์หนึ่งคูหา ้เช่าครับไม่ได้ซื้อยังไม่ได้ร่ำรวยอะไรขนาดนั้น ธุรกิจยังล้มลุกคลุกคลานพึ่งจะมาตั้งหลักได้ก็ปีนี้จากที่ทำเองทุกอย่างตั้งแต่งานเอกสารยันเป็นไกค์นำเที่ยวก็เริ่มจ้างพนักงานมาช่วย เมย์เป็นแอดมินและเซลล์ในเวลาเดียวกัน เก๋เป็นผู้ช่วยผมดูเรื่องเอกสาร บัญชี ภาษีนั่นนี่ที่ได้รับมอบหมายจากผม หนุ่มเป็นไกค์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้เข้าออฟฟิสหรอกครับ ตอนบ่ายผมมีนัดขายงานกับผู้ใหญ่ผอ.สำนักงานเขตต้องการใบเสนอราคาสำหรับทริปดูงานที่ญี่ปุ่น มีเวลาสำหรับการเดินทางห้าสิบนาที 'เอิงเอยเพิ่มคุณเป็นเพื่อนจากหมายเลขโทรศัพท์' ผมมองข้อความแจ้งเตือนที่เด้งขึ้นมา 'เอิงเอย' เหรอ?อย่าบอกนะว่าเป็นเอยเดียวกัน 'เอิงเอย' ที่ผมรู้จักมีแค่คนเดียวครับจ้องรูปโปรไฟล์ที่เป็นน้องหมาขนดำอย่างช่างใจผมลังเลว่าควรจะบล็อคเธอมั้ยแต่ความสนใจอยากรู้ทำให้ผมตัดสินใจตรงกันข้ามกดเพิ่มเอยเข้ามาในลิส ติ๊ง 'เจอกันหน่อยได้มั้ย?' กดรับปุ๊ปเิยก็ทักมาทันทีแสดงว่ารอผมอยู่ล่ะสิ 'ว่างเย็นนี้' 'ได้ ขอบคุณนะ' เอยแถมท้ายด้วยสติกเกอร์ยิ้มสดใส ผมพิมพ์สถานที่นัดหมายและเวลาส่งไปให้ก่อนเก็บมือถือลงกระเป๋ารีบขับรถไปพบลูกค้า ร้านกาแฟในคอมมูนิตี้มอลแห่งหนึ่ง ผมนัดเอยไว้ที่นี่ครับไม่ได้ตกใจเลยที่เอยทักมาหาเรียกว่ากำลังรอคอยอย่างใจเย็นมากกว่า เอยคงเห็นผมเป็นก้างชิ้นใหญ่ที่ขวางคอทำให้ชีวิตคู่ในอนาคตของเธออาจไม่ราบรื่น “ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีกนะ” ผมเริ่มพูดหลังจากนั่งจิบกาแฟเงียบๆ กันมาพักใหญ่ต่างฝ่ายต่างก็อึดอัดใจมีเรื่องจะพูดมากมายแต่ไม่อาจจะเรียบเรียงออกมาได้ทั้งหมด “เหมือนกัน” เอยยังคงจริงจัง ก่อนจะก้มหน้ามองแก้วกาแฟตัวเอง “ก็โลกนี้มันกลมนี่นะใครจะไปนึกล่ะว่าแฟนเก่าอย่างเราจะเป็นเพื่อนกับว่าที่สามีเธอได้” “……” เอยไม่พูดอะไรนอกจากละสายตาจากแก้วกาแฟมามองผม “ตอบเรามาตามตรงได้มั้ยว่าตอนนั้นเธอทิ้งเราไปเพื่อคบกับไอ้เกี้ยวใช่รึเปล่า” “มันผ่านมานานแล้วนะเราว่า…” “ในเมื่อมันผ่านมาแล้วก็ตอบมาดิ...จะคิดมากทำไม?” ผมคาดคั้นเพราะในใจมันรู้ดีว่าคำตอบดีอยู่แล้วแต่แค่อยากได้ยินชัดๆอยากให้เอยรู้ว่านิสัยเธอมันน่ารังเกียจน่าขยะแขยงแค่ไหน ้เลิกแสร้งทำตัวเป็นคนดีหรือทำราวกับว่าตัวเองตกเป็นเหยื่อสักทีเธอรู้ตัวเองดีว่าความจริงคืออะไร “มอส…” “ถ้าไม่ใช่เธอคงไม่หาทางติดต่อเรามาแบบนี้ คนอย่างเธอคงไม่ทำหน้ากังวลเวลาที่อยู่ต่อหน้าเรานิสัยเธอน่ะสนใครที่ไหนทำอะไรตามแต่ใจที่ตัวเองต้องการมาตลอด” "อยากฟังมันจริงๆเหรอคำตอบของเราน่ะ" "ใช่" “เราไม่ตอบ...มอสเองก็น่าจะรู้อยู่แล้วนะ” “หึ! ...คบซ้อนสินะแล้วทำไมถึงบอกเลิกเราล่ะ ทำไมทิ้งเราแล้วเลือกมันแถมคบกันตั้งสิบปีอย่าบอกนะว่าที่ทนคบอยู่นี่เพราะความรวยของไอ้เกี้ยวมันเสกทุกอย่างให้เธอได้" “เกินไปนะมอสเกี้ยวเขาไม่ได้ให้อะไรเราทั้งนั้น" "จะบอกว่ารักกันด้วยใจ?" "มอสทำแบบนี้ทำไมต้องการอะไรกันแน่" "เรามากกว่าที่ต้องถามเธอว่าอยากเจอเราทำไมจะแกล้งทำเป็นไม่รู้จักกันต่อไปก็ได้นี่" "มอส...เราขอนะเห็นแก่เกี้ยวอย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก" "เรื่องไหนล่ะ?ที่เธอแอบมาเจอเราวันนี้อ่ะนะ" "ไม่...เราหมายถึง" "ไม่พูดเรื่องที่เราสองคนเคยเป็นอะไรกันอ่ะนะ เห็นแก่ตัวว่ะเอย" "มอสจะด่าเรายังไงก็ได้จะเกลียดเราไปเลยก็ได้แต่ขอล่ะ...อย่าบอก้กี้ยวเลยนะเกี้ยวเขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วยคนผิดคือเราเอง" “อืม...ชักไม่แน่ใจแล้วสิ" ผมยิ้มหยันเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นต่อ “ขอโทษนะมอส…เราขอโทษจริงๆ” สีหน้าเอยเต็มไปด้วยความสำนึกแต่ผมว่าลึกๆเอยกลัวมากกว่า มันก็แอบเจ็บอยู่นะที่เห็นว่าเอยพยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษาชีวิตคู่เพื่อได้อยู่กับคนที่ตัวเองรัก “เรื่องอะไรล่ะที่เธอจะขอโทษเรา” “ทุกอย่างเลย…เราขอโทษสำหรับทุกอย่างที่ผ่านๆมาตอนนั้นเรายังเด็กทำอะไรตามอารมณ์เราไม่ได้คิดว่ามันจะทำร้ายมอสแค่ไหน” “ช้าไปมั้ย? ...จริงๆเธอไม่ได้รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำไว้กับเราสักนิด ถ้าไม่เพราะเราเป็นเพื่อนไอ้เกี้ยวเธอก็ไม่คิดจะขอโทษเราหรอก เอย...เธอหลอกเราไม่ได้หรอกนะ" “มอสเรา…” “เริ่มกลัวขึ้นมาแล้วสินะอดีตที่ลืมไปแล้วน่ะ" “เราเป็นคนแปลกหน้าต่อกันได้มั้ย? ...เราจะไม่ขอให้มอสให้อภัยหรือว่าขอให้กลับมาเป็นเพื่อนกันหรอกนะ มอสจะเกลียดเราเหมือนที่ผ่านมาเลยก็ได้เราขอแค่อย่างเดียวอย่าให้เกี้ยวรู้” “นี่สิค่อยสมเป็นเอยหน่อย” ผมยิ้มให้ตัวเองรู้สึกสมน้ำหน้าที่ต้องมานั่งฟังคำพูดนี้เจ็บซ้ำๆเมื่อรู้สึกได้ว่าสุดท้ายผมก็ยังไม่ใช่คนที่เธอให้ความสำคัญอยู่ดี ไม่มีสักนิดที่เธอจะคิดถึงความรู้สึกผม “ได้มั้ยมอส…นะ ถือซะว่าเห็นแก่เกี้ยวก็ได้” “เธอเอาเพื่อนรักเรามาต่อรองแบบนี้ไม่ได้นะ” “ทำไมพูดแบบนั้นล่ะอย่าบอกนะว่ามอสจะบอกเกี้ยวจริงๆ” “ทำไมเราจะพูดไม่ได้…พูดแล้วเธอจะกลายเป็นหม้ายขันหมากงั้นเหรอ?” “ไม่ตลกนะมอส บอกเรามาได้เลยว่าต้องการอะไรสิ่งที่เราเคยทำลงไปมอสต้องการให้เราชดใช้ยังไงพูดมาได้เลย” "แน่ใจนะ" "แน่!" “หึ!…เธอรักเกี้ยวมากสินะ” ผมข่มความรู้สึกในใจด้วยการยกกาแฟขึ้นมาจิบ “เอาตามตรงคือเรากำลังจะแต่งงานเราไม่ต้องการให้ทุกอย่างมันพังมอสเข้าใจมั้ย?” “งั้นเธอก็ต้องชดใช้ให้เราแล้วล่ะ” “ก็บอกมาสิว่าต้องการอะไร!” “ใจร้อนจังนะ” “อย่ายั่วโมโหกันดีกว่าเราไม่อยากจะทะเลาะกับมอสตอนนี้” “…” ผมเงียบไปในหัวกำลังคิดว่าควรจะทำยังไงกับอำนาจต่อรองที่ได้มา “ถึงยังไงเกี้ยวก็ไม่ควรรู้เขาเป็นคนดีข้อนี้มอสก็น่าจะรู้อีกอย่างคือเรา…ไม่อยากเสียเกี้ยวไป…” ... ผมรู้สึกหน่วงในใจเมื่อได้ยินทำไมผมยังรู้สึกแบบนี้ล่ะมันผ่านมานานเต็มทีนานเกินกว่าที่ผมจะรู้สึกอย่างนี้ได้ผมฝังใจอะไรกับผู้หญิงคนนี้นักหนา ผู้หญิงสองหน้า ผู้หญิงสองใจ “งั้นก็ชดใช้มา” ผมบอกพร้อมสบตากับเอยขณะที่อารมณ์ในใจกำลังครุกรุ่น “ทุกอย่างที่เธอคิดว่าทำไว้กับเราชดใช้มาซะแล้วเราจะไม่พูดอะไรจะทำเหมือนคนไม่เคยรู้จักกัน” “มะ…หมายความว่า?เงินเหรอเท่าไหร่ล่ะ?” "ซื่อจังนะ...หรือว่าแกล้งไม่เข้าใจเลือกมาสิระหว่างโรงแรมแถวนี้กับห้องเรา” “..!!.." ผมส่งยิ้มที่ดูเย็นชาไปให้ผู้หญิงตรงหน้าที่ดูตกใจ "มันไม่เห็นเกี่ยวกันเลย!!" "แค่ชดเชยด้วยร่างกายเล็กๆน้อยๆคงไม่เป็นไรหรอกมั้งถือว่าทำเพื่อไอ้เกี้ยวไง" "..." ทำไมล่ะ? ผมว่ามันก็ยุติธรรมออกนะเพราะตลอดสิบปีที่ผ่านมาเอยทำให้ผมไม่สามารถที่จะคบใครจริงจัง พอจะเริ่มต้นกับใครสักครั้งใจมันก็ยังคิดถึงเอย ผมจะใช้โอกาสนี้เพื่อลบลืมเธอไปจากใจผมคงไม่เผลอไปจริงจังกับคนที่กำลังจะกลายเป็นเมียเพื่อนหรอก “ว่าไงเลือกได้รึยัง” “นะ…นานแค่ไหน?” “หมายถึง?” “เรื่องที่เราต้องชดใช้น่ะ” “เป็นคำถามที่ดีแต่ว่าตอนนี้เรายังไม่คิด” “คิดสิมอส!ต้องคิดแล้วบอกเรามา” เอยชักสีหน้า "อย่าเห็นแก่ตัวสิเอย...นี่คืออาการของคนที่อยากแก้ตัวเพราะสำนึกผิดงั้นเหรอ?" "เรื่องนี้มัน!!" "ถ้าไม่พอใจจะไม่ทำก็ได้นะก็แค่อยู่อย่างหวาดระแวงต่อไป" "แกล้งเราเธอคงสะใจมากสินะ" “เราพูดจริงไม่ได้แกล้งเธอไม่ตกลงเราจะไปบังคับอะไรได้" ... ..... เอยนิ่งไปคงกำลังใช้ความคิดผมก็เลยจิบกาแฟรอรู้อยู่แล้วครับว่าสุดท้ายคำตอบจะเป็นไง “...ห้อง...ห้องมอส” เอยพูดอย่างจริงจังแต่สายตาที่มองกลับมานั้นมันเปี่ยมไปด้วยความสับสนกังวลใจ หึหึ... นั่นแหล่ะครับความสะใจของผม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม