บทที่2 ตกงาน

1287 คำ
1เดือนผ่านไป “ผมหาเธอไม่เจอเลยครับนาย สะพานที่เธอเคยไปนั่งขอทานก็ไม่มี ถามคนแถวนั้นก็บอกว่าตั้งแต่พ่อเธอเสียก็ไม่เคยเห็นเธอเลยครับ” หลังจากที่ธันย์ได้รับคำสั่งให้ตามหาลูกสาวคนขอทาน แต่กลับไม่พบเจอเเม้เเต่เงาและไม่ทิ้งล่องลอยอะไรไว้ให้พวกเขาตามเจอแม้แต่นิดเดียว “กูสั่งงานไหนพวกมึงไม่เคยพลาดแต่ผู้หญิงขอทานเเค่คนเดียวพวกมึงกลับหาไม่เจอ” แผ่นดินตะหวาดใส่ลูกน้องอย่างเสียงดัง “ผมขอโทษครับนาย” “ออกไป” “ครับ” ธันย์รีบโค้งตัวและเดินออกไป ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!! “เข้ามา” “ขออนุญาตค่ะคุณแผ่นดิน ป้าว่าจะออกไปตลาดคุณแผ่นดินอยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ” ป้าเขียนเดินเข้ามาหาแผ่นดินเพื่อถามว่าวันนี้จะรับประทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าเพราะวันนี้นานิจะมากินข้าวด้วยที่บ้าน “ป้าเขียนก็รู้ว่านานิชอบกินอะไร ป้าเขียนก็ทำเลยครับ” “ค่ะ” “เอ่อ ป้าเขียนครับรับแม่บ้านมาอีกคนก็ได้นะครับ ป้าเขียนจะได้ไม่เหนื่อยมากจะได้มีคนช่วยเเบ่งเบาภาระ ผมให้ป้าเขียนเป็นคนจัดการเลยครับ” “ได้ค่ะคุณแผ่นดิน” ป้าเขียนดีใจที่จะได้มีเพื่อนมาช่วยทำงานบ้านเพราะป้าเขียนรอเวลานานนี้มานานเเล้ว ด้านเอวา ดวงตาคู่สวยแหงนมองดูท้องฟ้า หญิงสาวใช้หลังมือปาดน้ำตาด้วยความเจ็บปวดและความเหนื่อยล้า น้ำตาไหลออกมาเเทบเป็นสายเลือด เธอรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งเมื่อนึกถึงอดีตที่เลวร้าย “พ่อจ๋าเอวาหนื่อยเหลือเกิน เอวาคิดถึงพ่อ ฮื้อ” เอวานั่งร้องไห้ในขณะที่มือกำลังล้างจานอยู่ หลังจากเหตุการณ์วันนั้นเอวาได้ย้ายไปอยู่ที่ใหม่เพื่อให้ใกล้มหาวิทยาลัยและที่ทำงานจะได้สะดวกในการเดินทาง “เอวาล้างจานเสร็จยังมันใกล้จะเลิกงานแล้วนะชักช้าอยู่ได้” เจ้าของร้านหมูกะทะชักสีหน้าอย่างหงุดหงิด “ล้างเสร็จแล้วค่ะ” เอวารีบตะโกนบอกเจ้าของร้าน “อ๊ะ นี้ค่าจ้างวันสุดท้ายของเธอ” “มะ หมายความว่ายังไงคะ?” “ก็หมายความว่าฉันไล่เธอออก ฉันต้องการคนที่ทำงานประจำทุกวัน ไม่ใช่พนักงานชั่วคราวอย่างเธอแล้วอย่าลืมเก็บเสื้อผ้าข้าวของของเธอออกไปด้วยนะจะได้ให้น้องใหม่เข้ามาอยู่ต่อ” พูดจบเจ้าของร้านก็ยื่นเงินให้เธอและเดินเข้าไปในร้านโดยไม่ใยดีเธอแม้เเต่นิดเดียว เอวายืนกำเงินห้าร้อยบาทเป็นค่าจ้างวันสุดท้ายที่เธอจะได้รับ เธอยืนเช็ดน้ำตาและรีบเข้าไปเก็บข้าวของออกจากร้านนี้ไป “แล้วเอวาจะหาเงินที่ไหนไปจ่ายค่าเทรอมละ ฮื้อ” เธอนั่งร้องไห้อยู่ใต้สะพานหลังจากที่ได้เก็บกระเป๋าออกจากร้านมา ตลาดฯ “คุณนานิชอบกินผัดผักรวมมิตร ยำเห็ดออรินจิกุ้งสด ข้าวผัดน้ำพริกกะปิ ของแค่นี้ก็น่าจะพอ” ซื้อของเสร็จป้าเขียนรีบเดินออกมาเพื่อจะรีบขึ้นรถกลับบ้าน “เอ๊ะ! คนขับรถหายไปไหนนะรถก็ไม่อยู่คงได้นั่งแท็กซี่กลับบ้านสินะ” ป้าเขียนรีบสาวเท้าเดินเพื่อรีบกลับบ้านในขณะที่กำลังเดินอยู่นั้น ป้าเขียนได้ชำเรืองตาไปเห็นหญิงสาวร่างบางที่ดูน่าสงสาร ป้าเขียนเลยตัดสินใจเดินเข้าไปหา “อ่าวหนู! เป็นอะไรทำไมถึงมานั่งร้องไห้อยู่ใต้สะพานละ” ป้าเขียนเอ่ยถามหญิงสาวอยู่ตรงหน้าเพราะเธอดูน่าสงสารมาก ป้าเขียนเลยอดที่จะเข้าไปถามไม่ได้ “หนูตกงานค่ะ หนูไม่มีที่ไป” “แล้วหนูก็มานั่งร้องไห้ใต้สะพานเนี่ยนะไม่กลัวโดนฉุดหรอ” “ปกติหนูก็นั่งอยู่แล้วค่ะ เพราะพ่อของหนูเป็นขอทานแต่ตอนนี้เขาได้จากหนูไปแล้วค่ะ” ด้วยความที่น่าสงสารบวกกับใบหน้าอันสวยหวานของสาวน้อยอยู่ตรงหน้าทำให้ป้าเขียนรู้สึกอดใจไม่ได้ที่จะไม่ช่วยเหลือ “หนูไปทำงานกับป้าไหมเป็นแม่บ้าน ป้ากำลังจะหาเพื่อนอยู่พอดีสนใจไหมรายได้ดีด้วยนะ” “ป้าไม่กลัวหนูหรอคะ” “ป้าไม่กลัวหนูหรอกเจ้านายที่บ้านน่ากลัวกว่าเยอะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” พูดจบป้าเขียนก็หัวเราะออกมากอย่างชอบใจ บ้านแผ่นดิน “ป้าคะทำไมบ้านมันถึงใหญ่และสวยขนาดนี้คะหนูไม่เคยเห็นเลย” ดวงตาเบิกกว้างเอเวาไม่เคยเจอบ้านที่สวยขนาดนี้มาก่อนแถมยังมีบอดี้การ์ดล้อมบ้านเต็มไปหมด “ไปนั่งรอป้าอยู่หลังสวนก่อนนะ เดียวป้าไปรายงานเจ้านายป้าก่อน” “ค่ะ” เอวาตอบรับและก้มหัวลงเล็กน้อยและเดินออกไป ป้าเขียนมองตามหลังเอวาทำไมถึงรู้สึกชอบเด็กคนนี้จังนะ “ป้าเขียนมายืนทำไรครับ” “อ่าว! คุณแผ่นดินป้าว่าจะขึ้นไปหาอยู่พอดีเลยค่ะ” “มีอะไรครับ” “เอ่อ คือว่าป้าพาแม่บ้านคนใหม่มาสมัครงานค่ะ” “แล้วแต่ป้าเขียนเลยครับ ขออย่างเดียวอย่าเด็กก็พอผมกลัวนานิจะไม่ชอบ” “เอ่อ คือ..” “ถ้ายังเด็กอยู่ผมไม่รับครับ” แผ่นดินไม่รอฟังคำตอบรีบเดินออกจากบ้านไปทันที “เฮ้อ! ป้าเขียนถอนหายใจเบาๆ” ด้านเอวา ตุ๊บ!! โอ้ย!! “ขอโทษคะ” มือเล็กพยายามพยุงตัวเองขึ้น เธอถือวิสาสะเดินดูบรรยากาศรอบๆ บ้านเพราะเธอไม่เคยเห็นบ้านสวยขนาดนี้มาก่อน “นี้ เธอเข้ามาในบ้านฉันได้ยังไง!” “คะ...คุณนี้บ้านคุณหรอ?” “มีอะไรกันหรอคะ” ป้าเขียนรีบวิ่งเข้ามาดูหลังจากได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย “นี้มันอะไรกัน” แผ่นดินมองไปยังป้าเขียนสลับกับมองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า “เอ่อ คือ ว่าป้าเป็นคนพาเธอเข้ามาเองคะ ถ้าคุณแผ่นดินไม่รับเดียวป้าพาเธอกลับเดียวนี้แหละคะ” ว่าจบป้าเขียนก็รีบดึงมือเอวารีบพาออกจากบ้าน “เดี๋ยว! ถ้าเธออยากทำงานอยู่ที่นี้เธอต้องทำทุกอย่าง” “ไหวค่ะ เอวาไหว” เธอข่มอารมณ์ไว้ใต้ก้นบึ้ง “ส่วนที่พักก็อยู่หลังสวน อยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ออกไป” “แต่คุณแผ่นดินคะนั้นมันห้องเก็บของนะคะ” ป้าเขียนรีบสวนขึ้นเด็กตัวเล็กๆ บอบบางขนาดนี้จะไปอยู่หลังสวนคนเดียวได้ยังไงถึงจะมีบอดี้การ์ดคุ้มกันล้อมบ้านก็เถอะ “เอวาอยู่ได้คะ ป้าเขียนพาไปหน่อยได้ไหมคะ” เธอรีบตอบขึ้นพร้อมกับเดินไปจับมือป้าเขียนให้พาไปยังห้องที่เธอจะพัก หลังจากนั้นเอวาได้เก็บข้าวของไว้ในห้องและทำความสะอาดใหม่ทั้งหมด ในห้องนั้นมีแค่ตู้เสื้อผ้าส่วนที่นอนเธอก็เอาผ้าห่มที่ติดตัวมา มาทำเป็นที่นอน “เฮ้อ! เหนื่อยจังกว่าจะทำความสะอาดห้องเสร็จ” เอวาใช้เวลาหลายชั่วโมงในการกวาดห้อง เธอรู้สึกเหนื่อยล้าหลังจากนั้นเธอก็พล็อยหลับไป แกร็ก แอ๊ด~ เสียงประตูห้องเอวาดังขึ้นในเวลา4ทุ่ม หลังจากที่เธอพล็อยหลับไป เธอรู้สึกเหมือนมีใครมายืนจ้องมองเธออยู่ “อื้อ~ กี่โมงแล้วเนี่ยเสียงหญิงสาวครวญครางอยู่ในลำคอ เธอลืมตาขึ้นมาตกใจสุดขีด “กรี๊ด!!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม