บท 1

2282 คำ
1  ตั้งแต่ที่จำความได้ ชีวิตของใบว่านก็ไม่เคยรู้จักคำว่าสุขสบายเลยสักครั้ง พ่อแม่ของใบว่านมีเขาตั้งแต่ตอนที่ทั้งคู่ยังเรียนไม่จบมัธยมปลาย นั่นจึงทำให้ทั้งสองมีวุฒิการศึกษาเพียงแค่ชั้นมัธยมต้นเท่านั้น ซึ่งเดิมทีพ่อแม่ของใบว่านก็คอยรับจ้างขายของช่วยร้านยาอยู่แถวอนุสาวรีย์ แต่พอทั้งสองมีอายุมากขึ้น ทั้งคู่จึงตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพมาขายพวกน้ำพริกตามตลาดนัดแทน ส่วนใบว่านหลังหย่านมแม่แล้ว เขาก็ถูกยายเลี้ยงดูมาตลอด จนกระทั่งใบว่านอายุสิบสองและยายของเขาก็จากไปด้วยโรคภัยนั่นแหละ ใบว่านถึงได้กลับมาอยู่กับพ่อแม่อีกครั้ง มีหน้าที่ตั้งอกตั้งใจเรียน คอยทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ จนกระทั่งขึ้นชั้นมัธยมต้น พอเริ่มโตสักหน่อย ใบว่านก็เริ่มเข้ามาช่วยพ่อแม่เตรียมของเพื่อเอาไปขายที่ตลาดนัด มีรับจ้างล้างจานตามร้านอาหารบ้าง บ้างก็รับทำงานบ้านตามระแวกใกล้ ๆ เพื่อให้ครอบครัวของเขาพอมีรายได้เข้ามาอีกทาง ใบว่านยอมรับว่าการใช้ชีวิตของเขามันค่อนข้างเหนื่อย แต่จะให้ทำยังไงได้… ก็ครอบครัวของใบว่านมันยากจนนี่ ชีวิตไม่มีก็ต้องดิ้นรน ถ้าไม่ดิ้นรนก็ต้องอดตาย “ใบว่าน เย็นนี้แกว่างหรือเปล่า” “ว่างจ้ะ ป้ามีอะไรเหรอจ๊ะ” ขณะที่กำลังยืนผัดถั่วงอกใส่เต้าหู้เหลืองอยู่ข้างบ้าน ใบว่านก็หันไปคุยกับป้าที่เป็นเพื่อนบ้านกันเสียงสดใส เมื่ออีกฝ่ายได้เดินเข้ามาทักทายกัน “พอดีเลย งั้นเย็นนี้แกเข้าไปทำความสะอาดบ้านคุณนายหน่อยนะ เพราะเดี๋ยวคืนนี้ลูกชายเขาจะแวะเข้ามานอนที่นี่” “ได้จ้ะ เดี๋ยวทำกับข้าวเสร็จ ว่านจะรีบไปทำให้นะจ๊ะ” “แล้วนี่พ่อแกไปไหน วันนี้ไม่เตรียมของออกไปขายที่ตลาดนัดเหรอ” ป้าถามต่อ “อ๋อ วันนี้พ่อไม่สบายจ้ะ เลยหยุดขายของหนึ่งวัน” “แล้วพ่อแกไปหาหมอหรือยัง” “เมื่อเช้าว่านก็ชวนพ่อไปหาหมอแล้วนะจ๊ะ แต่ว่าพ่อไม่ยอมไป พ่อบอกว่าพ่อแค่เป็นไข้หวัดธรรมดาเท่านั้น เพราะเมื่อวานนี้พ่อแกตากฝนเก็บร้านน่ะจ้ะ” ใบว่านเอ่ย เนื่องจากเมื่อเช้านี้เขาเองก็พยายามจะโน้มน้าวใจพ่อแล้ว แต่มันไม่สำเร็จ ใบว่านก็เลยต้องปล่อยไปตามนั้น เพราะถ้าเซ้าซี้มาก ๆ เดี๋ยวพ่อก็รำคาญกันอีก “เป็นงั้นไป ถ้าพรุ่งนี้อาการยังไม่ดีขึ้นแกก็รีบพาพ่อแกไปหาหมอเลยนะ เผื่อมันจะไม่ใช่ไข้หวัดธรรมดา” “ได้เลยจ้ะ” ใบว่านพยักหน้ารับ และในเวลาเดียวกันนั้นเขาก็ผัดถั่วงอกเสร็จพอดี “พ่อจ๊ะ ว่านทำผัดถั่วงอกไว้ให้แล้วนะ ถ้าพ่อหิวพ่อก็ลุกขึ้นมากินเลยนะ เพราะเดี๋ยวว่านจะต้องไปทำความสะอาดบ้านคุณนายต่อ” “….” “พ่อ… นี่พ่อได้ยินเสียงว่านหรือเปล่า” หลังเดินกลับเข้ามาในบ้านพร้อมกับผัดถั่วงอกแล้ว ใบว่านก็เอ่ยถามพ่อของตัวเองด้วยอาการใจไม่ค่อยดีนัก เมื่อพ่อของเขาเอาแต่นอนนิ่งไม่พูดไม่จาอะไรทั้งนั้น ซึ่งในจังหวะที่ใบว่านกำลังจะเดินตรงปรี่เข้าไปหาพ่อ พ่อของเขาก็ลืมตาขึ้นมาเสียก่อน นั่นจึงทำให้ใบว่านถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “ว่านมีอะไรต้องทำก็รีบไปทำเถอะลูก” “จ้ะ ว่าแต่พ่อโอเคใช่ไหม” ใบว่านถามด้วยความเป็นห่วง และยังคงใจหายกับเหตุการณ์เมื่อครู่นี้อยู่ “อืม พ่อโอเค” “….” “นิ่งอยู่ทำไมล่ะ ว่านรีบไปทำงานซี่ เดี๋ยวฟ้าก็มืดก่อนหรอก” พ่อของใบว่านว่าต่อ หลังอีกฝ่ายเห็นว่าใบว่านยังคงยืนนิ่งอยู่ “จ้ะ ๆ งั้นเดี๋ยวว่านรีบกลับมาแล้วกัน” เพราะพ่อออกปากไล่กันแล้ว ใบว่านจึงพยักหน้ารับและยอมเดินไปวางผัดถั่วงอกเอาไว้ที่โต๊ะ จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในห้องตัวเองจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียใหม่ เพื่อที่ใบว่านจะได้ลุกนั่งทำงานบ้านได้อย่างสะดวก ๆ “ป้าจ๊ะ แล้ววันนี้ว่านต้องทำสวนหน้าบ้านด้วยหรือเปล่า” “คุณนายบอกไม่ต้องทำ แค่ทำความสะอาดบ้านเหมือนอย่างที่เคยทำ กับเคลียร์ตู้เย็นก็พอ อันไหนที่มันเสียแล้วแกก็เอาไปทิ้ง ส่วนอันไหนที่ใกล้หมดอายุแล้ว ถ้าแกไม่ถือสาแกจะเอากลับบ้านไปกินก็ได้” ป้าข้างบ้านคนเดิมพูด ซึ่งหน้าที่ของอีกฝ่ายก็คือการดูแลบ้านให้คุณนายผู้เป็นภรรยาของนักการเมือง โดยคุณนายคนนี้ก็มีบ้านอยู่หลายหลัง และนาน ๆ ทีครอบครัวของเธอถึงจะแวะมานอนที่นี่ “ได้เลยจ้ะ” หลังป้าเปิดประตูบ้านให้เรียบร้อยแล้ว เธอก็เดินกลับบ้านของตัวเองทันที ทิ้งให้ใบว่านยืนกวาดสายตามองรอบ ๆ บ้านอยู่พักหนึ่ง เนื่องจากเขาไม่รู้จะเริ่มทำอะไรก่อนเป็นอย่างแรก “นี่ดีนะที่ไม่ได้เว้นช่วงไว้นานขนาดนั้น ไม่งั้นคงเหนื่อยแย่” ใบว่านพึมพำ ก่อนที่ต่อมาเขาจะเดินไปยังหลังบ้าน เพื่อเตรียมน้ำและเครื่องมือทำความสะอาดบ้านคุณนาย โดยการทำความสะอาดบ้านหลังนี้ในแต่ละครั้ง ใบว่านก็จะได้ค่าเหนื่อยครั้งละห้าร้อย หากครั้งใดที่คุณนายบอกให้ทำสวนหน้าบ้านด้วย ใบว่านก็จะได้หนึ่งพัน ซึ่งมันก็ถือว่าเยอะมากสำหรับใบว่าน ฮ้าดดดดเช้ย! “นี่ครั้งก่อนเราไม่ได้ทำความสะอาดตรงนี้เหรอเนี่ย ทำไมฝุ่นมันถึงเกาะแล้วล่ะ” ระหว่างที่กำลังยืนใช้ผ้าสะอาดเช็ดฝุ่นที่เกาะอยู่ตามชั้นหนังสือ ใบว่านก็พูดกับตัวเองไปด้วย เมื่อเขารู้สึกว่าฝุ่นตรงบริเวณนี้มันเยอะกว่าปกติ “ดีนะเนี่ยที่ครั้งก่อนคุณนายไม่ได้มานอนค้าง แต่ให้ทำความสะอาดไว้เฉย ๆ” เขาว่าต่อ เพราะถ้าครั้งก่อนคุณนายแวะมานอนที่นี่ มีหวังใบว่านคงถูกเธอตำหนิหรือไม่เธอก็คงไม่จ้างกันต่อแน่ เวลาต่อมา หลังใบว่านจัดการทำความสะอาดชั้นหนังสือเสร็จแล้ว เขาก็ใส่ถุงมือเตรียมไปทำความสะอาดห้องน้ำต่อ โดยการทำความสะอาดห้องน้ำในครั้งนี้ ใบว่านก็ไม่ต้องใช้พลังงานมากนัก เนื่องจากมันสะอาดอยู่แล้ว แค่เขาต้องเข้าไปตรวจตราความเรียบร้อย ทำความสะอาดตามซอกมุมเล็ก ๆ เผื่อว่ามันยังมีคราบอะไรหลงเหลืออยู่ ซึ่งพอใบว่านทำความสะอาดห้องน้ำทั้งชั้นบนและล่างเสร็จ เขาก็ลงมาเคลียร์ตู้เย็นให้คุณนายต่อ ตรวจดูวัตถุดิบสดต่าง ๆ ที่คุณนายเคยซื้อทิ้งเอาไว้ ชิ้นไหนขึ้นราหรือหมดอายุใบว่านก็เก็บใส่ถุงดำ อันไหนที่ใกล้หมดอายุและคุณนายไม่น่าจะกินทันแน่ ๆ ใบว่านก็เก็บใส่ถุงเอาไว้ เตรียมจะเอากลับไปทำอาหารที่บ้าน เขาง่วนอยู่กับการเคลียร์ตู้เย็นให้คุณนายอยู่พักใหญ่ ก่อนจะเริ่มดูดฝุ่นตามพื้นกับโซฟา และถูพื้นให้เป็นอย่างสุดท้าย โดยกว่าที่ใบว่านจะทำทุกอย่างเสร็จให้มันคุ้มกับค่าแรง ดวงตะวันก็ลับขอบฟ้าไปเสียแล้ว “เฮ้อ เสร็จสักที!” เขาพูด พร้อมหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายภาพความเรียบร้อยภายในบ้านส่งให้ป้าคนที่ดูแลดู จากนั้นใบว่านถึงเดินไปเก็บอุปกรณ์เอาไว้ที่เดิม แล้วค่อยเดินออกมาจากบ้านหลังนั้นพร้อมของสดที่ใกล้จะหมดอายุเต็มที “พ่อจ๊ะ ว่านกลับมาแล้ว” เมื่อเข้ามาในบ้าน ใบว่านก็ตะโกนบอกพ่อตัวเองเสียงดังลั่น พร้อมหันมองซ้ายขวาหลังตอนนี้บ้านของเขามืดมาก เพราะคนที่อยู่บ้านไม่ลุกมาเปิดไฟ แต่ใบว่านก็พอจะเข้าใจได้ เพราะพ่อของเขากำลังไม่สบายอยู่นี่นา “พ่อหลับเหรอจ๊ะ” เขาลองถามขึ้นอีก พลางรีบเร่งถอดรองเท้าด้วยใจไม่สู้ดี ซึ่งพอใบว่านเดินเข้าไปในบ้านได้แล้ว เขาก็รีบเดินไปเปิดไฟแล้วปรี่เข้าไปดูอาการพ่อของตัวเองทันที “พ—พ่อ พ่อหลับเหรอ” ใบว่านถามเสียงสั่น และเริ่มเขย่าแขนพ่ออย่างแรง หลังพ่อของเขาไม่มีท่าทีว่าจะตื่นเสียที “พ่อ... พ่อ” เพราะไม่ว่าจะเขย่าเท่าไร พ่อของใบว่านก็ไม่มีท่าทีว่าจะตื่น ต่อมาใบว่านจึงลองเอานิ้วของตัวเองไปอังแถวปลายจมูกของพ่อดูด้วยอาการสั่นเทา แล้วพอใบว่านไม่รับรู้ถึงลมหายใจของพ่อแล้ว เขาก็ถึงกับนิ่งค้างไปพักใหญ่ก่อนที่จะส่งเสียงร้องโวยวาย จนเพื่อนบ้านต้องวิ่งออกมาดู “ฮ—ฮึก ฮือ” “อย่าเศร้าไปเลยนะว่าน อย่างน้อยพ่อแกเขาก็ไปสบาย ไม่ได้ไปแบบทรมาน” “ก็ว่านรู้สึกผิด เพราะบางที ฮ—ฮึก บางที…ถ้าเย็นวันนี้ว่านอยู่บ้าน พ่อว่านอาจไม่เป็นอะไรก็ได้ หรือไม่เขาก็อาจไปโรงพยาบาลทัน” ขณะที่กำลังยืนมองเจ้าหน้าที่จัดการศพพ่อของตัวเองใส่ผ้าขาว ใบว่านก็ยืนร้องไห้ไปด้วย เมื่อเขาไม่นึกว่าเหตุการณ์กะทันหันเช่นนี้ มันจะเกิดขึ้นกับตัวเอง “อย่าไปคิดแบบนั้น แกโทษตัวเองอย่างนั้นมันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นหรอก” “ฮ—ฮึก” “เดี๋ยวพรุ่งนี้แกก็ไปโรงพยาบาลนะ เพราะเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเขาจะออกเอกสารให้ เตรียมพวกบัตรประชาชนสำเนาทะเบียนบ้านไปด้วยล่ะ เพราะต้องแจ้งสำนักงานเขตให้เขาออกใบมรณบัตรให้” “….” “แล้วนี่แกมีเงินติดตัวหรือเปล่า เพราะต้องจัดงานศพอีกนะ” “มีอยู่จ้ะ ว่านมีอยู่สามพัน มันฮ—ฮึก มันพอไหมป้า” ใบว่านถามต่อเสียงสะอื้น เนื่องจากตอนงานศพแม่ใบว่านก็ไม่ค่อยรู้อะไรมากนัก เพราะพ่อของเขาเป็นคนจัดการทุกอย่างเอง “เงินแค่สามพันมันจะไปพออะไรล่ะ จัดงานศพเล็ก ๆ มันก็หมดสามสี่หมื่นแล้วว่าน” “แต่ว่านไม่มีเงินขนาดนั้น…” ใบว่านว่า เพราะทำอาชีพขายน้ำพริกกับพ่อกำไรมันก็ไม่ได้มากมาย วันไหนที่หยุดขายเขาก็ไม่มีรายได้ “ถ้างั้นแกลองไปยืมพวกเงินด่วนที่ติดเบอร์อยู่ตามเสาไฟฟ้าก่อนไหมล่ะ” ป้าข้างบ้านเสนอความคิด “แบบนั้นเขาเก็บร้อยละยี่สิบเลยไม่ใช่เหรอจ๊ะ” ใบว่านถาม เพราะเขาเคยเห็นออกข่าวอยู่เป็นประจำ “ก็ใช่ แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ เราไม่มีจริง ๆ อีกอย่างแกจะไปยืมธนาคารก็ไม่ได้อีกเพราะแกยังไม่ได้ทำงาน” “….” “หรือไม่… แกลองโทรไปขอความช่วยเหลือจากผู้อุปถัมภ์แกสิ เขาเคยติดต่อกับแกบ้างไหมล่ะ” เพราะป้าข้างบ้านแนะนำมาอย่างนั้น นั่นจึงทำให้เวลาต่อมาหลังศพของพ่อถูกเอาไปไว้ที่โรงพยาบาลแล้ว ใบว่านก็กลับมาค้นลิ้นชักของตัวเอง เพื่อหาเบอร์ผู้อุปถัมภ์ของเขาต่อ หลังใบว่านจำได้ว่าอาจารย์ที่ปรึกษาเคยให้เอาไว้ เผื่อใบว่านอยากติดต่อกับผู้อุปถัมภ์โดยตรง “เจอแล้ว…” หลังเห็นซองสีน้ำตาลที่ด้านในมีเอกสารที่ต้องการใช้แล้ว ใบว่านก็เอ่ยเสียงดีใจ พร้อมหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมากดเบอร์ตามหมายเลขที่ปรากฏบนกระดาษทันที โดยระหว่างที่กำลังรอให้ปลายสายกดรับนั้น ใบว่านก็รู้สึกกล้า ๆ กลัว ๆ และใจสั่นอย่างบอกไม่ถูก เนื่องจากเขาไม่เคยโทรหาผู้อุปถัมภ์ของตัวเองเลย จนกระทั่งวันนี้ นี่ผู้อุปถัมภ์ของใบว่าน จะมองว่าเขาเป็นคนโลภที่ให้เท่าไรก็ไม่พอหรือเปล่านะ… ขณะที่กำลังรอสาย ใบว่านก็นึกในใจไปด้วย ก่อนที่ต่อมาเขาจะเบิกตากว้างเล็กน้อย เมื่อคนปลายสายกดรับแล้ว “ฮ—ฮัลโหล สวัสดีครับ” [ครับ ใครครับ] “ผมชื่อใบว่านครับ” [ใบว่าน เด็กที่ฉันให้ทุนน่ะเหรอ] “ช—ใช่ครับ ผมเอง” [อืม เธอมีอะไรล่ะ ทำไมถึงโทรมาหาเวลานี้] “คือพ่อผมเสียวันนี้น่ะครับ” [….] “แต่ตอนนี้….เนื้อตัวผมมีอยู่สามพัน ผมไม่มีเงินจัดงานศพให้พ่อ คุณเกื้อช่วยผมได้ไหมครับ ฮ—ฮึก ผมยินดีทำให้คุณทุกอย่างเลย ผมทำสวนได้ ทำงานบ้านได้นะครับหรือไม่ก็ให้ผมยืมเงินก่อนก็ได้ แล้วผมจะรีบหามาคืนคุณเกื้อให้เร็วที่สุด คุณเกื้อช่วยผมทีนะครับ” ใบว่านร่ายยาว รู้สึกละอายใจอยู่ไม่น้อยที่ตัวเองไม่มีปัญญาจัดงานศพให้พ่อ แถมยังต้องบากหน้าโทรไปขอความช่วยเหลือจากผู้อุปถัมภ์อีก [ใจเย็น ๆ ก่อนนะว่าน เธออย่าทำเหมือนฉันเป็นคนใจร้ายไม่มีน้ำใจสิ ว่าแต่พ่อเธอตายแล้วเหรอ] “….” [งั้นได้สิ เดี๋ยวฉันจะช่วยเธอเอง] คุณเกื้อตอบกลับมา ซึ่งนั่นก็ทำให้ใบว่านถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม