ตะวันพาร่างบางย้ายจากเบาะหน้ามาเบาะด้านหลังเพราะมันกว้างและสะดวกกว่าด้านหน้า
ปัก! ปัก! ปัก!
น้ำอิงโดนอีกคนกระแทกใส่หนักๆเสียงเนื้อของทั้งสองกระทบกันดังลั่นอยู่ในรถ เนินเนื้อหน้าอกทั้งสองข้างไม่มีพื้นที่ว่างนอกจากรอยสีชมพูกับรอยกัดที่ตะวันทำทิ้งเอาไว้
อ่าส์!
”ตอดแรงๆน้ำอิง“ เขาครางเสียงกระเส่าเมื่อใจกลางสาวของเธอตอดเขาไม่ยอมหยุดไม่นานตะวันก็เสร็จสมไปในตัวเธอ ความอุ่นร้อนที่มันฉีดพุ่งเข้าไปทำให้น้ำอิงรู้ว่าเขาปลดปล่อยในตัวเธออีกแล้ว ตะวันดึงแก่นกายของตัวเองออกโดยไม่สนว่าอีกคนจะเสร็จด้วยหรือไม่เธอจะค้างอยู่ที่ตรงไหน ก่อนที่เขาจะสวมใส่กางเกงเรียบร้อยแล้วกลับไปนั่งยังเบาะด้านหน้าหลังพวงมาลัยอีกครั้ง เขาทำราวกับว่าเธอเป็นทิชชู่ที่ใช่เสร็จก็ขยำทิ้งถังขยะ
พรึบ!
“เช็ดให้สะอาด” ตะวันโยนห่อกระดาษทิชชู่มาให้น้ำอิงและเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
น้ำอิงปิดปากตัวเองไว้เงียบเธอเช็ดคราบน้ำสีขาวที่มันเลอะเทอะอยู่บนเบาะรถราคาแพงให้เขาจนสะอาดพร้อมกับหยดน้ำตาของเธอที่ไหลออกมาหยดแหมะลงบนเบาะไม่ยอมหยุด เธอสูดหายใจเข้าปอดลึกๆก่อนจะแต่งตัวให้เรียบร้อยและลงจากรถขึ้นมานั่งด้านหน้าข้างคนขับแต่แล้วเสียงมือถือของเธอก็ดังขึ้น
Rrrrrrr…Rrrrrrr
ขวับ!
ตะวันหันขวับมามองยังมือถือที่วางอยู่บนตักของเธอก่อนที่เขาจะต้องยกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นสายที่โทรเข้ามา น้ำอิงรู้สึกเกลียดรอยยิ้มนั้นของเขามากเหลือเกิน เธอกลืนก้อนสะอื้นลงคอและรีบกดรับสายพี่ชาย
“พี่พล“
”อิงอยู่ไหนพี่ไปหาที่ห้องก็ไม่เจอ”
“พี่พลอิงขอโทษนะคะที่ไม่ได้บอกอิงกลับมาแล้วค่ะ”
“กลับแล้วๆกลับกับใคร!” พลเอ่ยถามน้องสาวเสียงดังด้วยความตกใจ
“คือ..เออ…อ๋อ อิงกลับกับยัยดาวค่ะ ดาวก็ไปงานเลี้ยงเมื่อคืนเหมือนกันเลยนัดกันไปกินข้าวเช้ากินข้าวเสร็จก็กลับกันเลยค่ะ” น้ำอิงคิดอะไรไม่ออกไม่รู้จะบอกพี่ชายว่ายังไงดีก็โกหกใส่เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอ
“ดาวไปทำไมพี่ไม่เห็น..?” พลเอ่ยถามน้องสาวขึ้นอีกครั้ง
“พี่พลจะเห็นได้ยังไงคะเอาแต่คุยกับคุณพ่อของพี่ศิลาน้ำอิงก็ลืมบอกไปเลยเดี๋ยวก็ไปเจอดาวที่บ้านไม่เชื่อถามดาวได้นะคะ” เธอโกหกพี่ชายเป็นเรื่องราว
“หึ!” ตะวันที่ได้ยินหัวเราะเบาๆในลำคอ เขาแค่คิดว่าถ้าพี่ชายของเธอรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วเป็นเขาเองที่บังคับพาเธอมาพลคงอกแตกตาย
“เดี๋ยวเจอกันที่บ้านนะคะพี่พลดาวเขาคิดถึงพี่พลจะแย่” แม้ในใจจะทุกข์ระทมมากแค่ไหนแต่น้ำอิงก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยหยอกล้อพี่ชายทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
-1 ชั่วโมง-
รถขับเคลื่อนเข้ามาในเขตกรุงเทพน้ำอิงรีบหยิบมือถือขึ้นกดโทรออกหาเพื่อน…
“ว่าไงจ๊ะเพื่อนรักถึงแล้วเหรอ” ดาวเอ่ยถามขึ้น
“ดาวอยู่ไหน”
”บ้านฉันกำลังจะไปบ้านเธอไปหาว่าที่สามีจ๊ะ“
”ดาวเรารอที่ป้ายรถเมล์ทางบ้านเข้าบ้านดาวนะกำลังจะถึง“ น้ำอิงรีบเอ่ยบอกเพื่อนเพราะเธอไม่อยากให้ตะวันไปส่งที่บ้าน
”หือ..พี่พลละ…?“
”เดี๋ยวค่อยคุยกันเรากำลังจะถึงแค่นี้นะ“ น้ำอิงตัดสายเพื่อนเธอรีบเก็บมือถือเข้ากระเป๋าและเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กของเธอที่วางอยู่ด้านหลังไม่ต้องถามก็รู้ว่าคนใจร้ายยังอุสาห์มีน้ำใจเอากระเป๋าของเธอมาให้ด้วย
“จอดหน้าซอย 53 ซ้ายมือค่ะ” เธอเอ่ยบอกคนขับรถ ตะวันตบไฟเลี้ยวเข้าไปจอดริมฟุตบาทให้ทันทีแต่ในขณะที่น้ำอิงกำลังจะลงจากรถ
หมับ!
เขาจับหมับเข้าที่ท่อนแขนของเธอจนน้ำอิงต้องหันไปมองหน้าเขา
”คืนนี้ไปหาฉันที่คอนโด“
“ไม่ค่ะ“
”เธอก็รู้ว่าฉันไม่ชอบพูดเรื่องเดิมๆซ้ำซาก“ เขาเอ่ยบอกเสียงเรียบสายตาคมจ้องมองหน้าเธอนิ่ง แววตาของเขาออกคำสั่งปนบังคับอย่างปิดไม่มิด
”ฉันต้องไปท่องกฎหมายไว้วันอื่นนะคะ“ ทุกคืนน้ำอิงจะต้องท่องตัวบทกฎหมายคืนนี้ก็เช่นกัน
“เธอพูดไม่รู้เรื่องมันน่าเบื่อนะน้ำอิง”
“อือ..เจ็บนะคะ ปล่อย” เขาออกแรงบีบจนน้ำอิงแสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมาเธอพยายามแกะมือเขาออกจากต้นแขนแต่อีกคนกลับบีบไว้จนแน่น
“ไปหาฉันที่คอนโดอย่าต้องให้โทรตาม ลงไปซะ“ ตะวันสั่งเธอเสียงเรียบและยอมปล่อยแขนเล็กก่อนจะไล่เธอลงจากรถ น้ำอิงไม่รอช้ารีบหอบข้าวของลงจากรถเขาอย่างไว เธอเดินเอากระเป๋าไปวางบนม้าหินที่ป้ายรถเมล์ก่อนจะก้มมองแขนตัวเองที่เขียวช้ำและมันก็เจ็บเอามากๆ
”น้ำอิง!” ไม่นานดาวก็ขับรถมาจอดเธอรีบวิ่งขึ้นรถเพื่อนไปเพราะด้านหลังมีรถเมล์รอเข้าจอดที่ป้าย
“น้ำอิงแขนไปโดนอะไรมาทำไมถึงช้ำขนาดนั้น” ดาวเอ่ยถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นต้นแขนของเพื่อนเธอรีบหักพวงมาลัยรถเข้าข้างทางอีกครั้งและหันไปมองหน้าเพื่อนอย่างต้องการคำตอบ ดวงตาคู่สวยของน้ำอิงสั่นระริกขึ้นทันที
”เพราะผู้ชายคนนั้นอีกแล้วใช่ไหม“ ดาวเอ่ยถามเธอรู้ทุกอย่างระหว่างน้ำอิงกับตะวันเพราะทั้งสองไม่เคยมีความลับต่อกัน
“ฮือ…ดาวเราไม่อยากอยู่แบบนี้อีกแล้ว“ หลังจากได้ยินคำถามห่วงใยของเธอ น้ำอิงร้องให้โฮออกมาก่อนที่จะหันไปสวมกอดกับดาว
“น้ำอิงบอกพี่พลไหม พี่พลคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยน้ำอิงจากเรื่องนี้ได้”
“ไม่ได้นะดาวเราไม่อยากให้พี่พลต้องเป็นอันตรายอีกพวกเขามีอิทธิพลแค่ไหนดาวก็รู้..ฮือ” น้ำอิงเอ่ยบอกเพื่อน
หลายปีก่อนหลังจากที่ทอฝันเสียชีวิตไปได้ไม่นานพลโดนลอบทำร้ายอยู่บ่อยครั้งแต่ตำรวจไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้เลยแม้ตำรวจคนนั้นจะเป็นเพื่อนสนิทกับพี่ชายของเธอก็ตามหลังจากครั้งแรกก็มีครั้งต่อไปอยู่เรื่อยมาจนวันหนึ่งที่น้ำอิงต้องมาเป็น เชลย อยู่ใต้อาณัติของตะวันมันก็ทำให้เธอรู้ว่าคนที่สั่งการเป็นครอบครัวของตะวันแน่นอนเธอเลยยอมที่จะทำตามคำสั่งของเขามาตลอดเพื่อที่จะรักษาชีวิตพี่ชายเพียงคนเดียวของเธอเอาไว้
“เลวมากเขาใจร้ายที่สุดฉันเชื่อว่ายังไงพี่พลก็ไม่ใช่ฆาตกร พี่พลจะไปฆ่ายัยนั่นทำไม” ดาวเอ่ยบอกและเธอก็มั่นใจว่ายังไงพี่ชายของเพื่อนที่เธอแอบชอบไม่มีทางที่จะทำแบบนั้นแน่นอน
“ความจริงน้ำอิง เราต้องตามหาความจริงเรื่องนี้” ดาวเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“จะตามหาที่ไหนดาวเรื่องมันตั้งนานมาแล้ว”
“พี่พลไงเราต้องเค้นเอาคำตอบจากพี่พลให้ได้”
“ดาวก็รู้ว่าถามเรื่องนี้ทีไรพี่พลก็โมโหทุกครั้ง” ไม่ใช่น้ำอิงไม่เคยถามน้ำอิงถามพี่ชายตลอดแต่ทุกครั้งที่ถามเขาจะต้องโมโหเป็นฟืนเป็นไฟใส่เธอทุกครั้ง
“ถ้าบอกเรื่องเธอกับรุ่นพี่คนนั้นมีหวังฆ่ากันตาย คิดแล้วสยอง“ ดาวทำหน้าทำตาพลางลูบแขนสองข้างของตัวเองไปด้วย เพราะถ้าพลรู้ไม่ใครก็ใครต้องตายกันไปข้าง
”เดี๋ยวอีกไม่กี่เดือนเขาก็เรียนจบแล้วถึงเวลานั้นมันก็คงจะดีขึ้น“ น้ำอิงนับวันรอวันที่ตะวันเรียนจบเพราะคิดว่าทุกอย่างอาจจะดีกว่าตอนนี้ที่เป็นอยู่
“อือ.. งั้นไปกันเถอะแต่ก่อนกลับขอแวะซุปเปอร์ไปซื้อน้ำเมาหน่อยนะจะเอาไปมอมว่าที่สามีและหลอกถามซะเลย” ดาวเอ่ยขึ้นยังไงวันนี้เธอจะต้องได้ไขข้อสงสัยสักหน่อยก็ยังดี ทั้งสองขับรถมาจอดยังซุปเปอร์มาร์เก็ตก่อนถึงบ้านน้ำอิง
น้ำอิงไม่ลืมที่จะหยิบเสื้อแขนยาวในกระเป๋าออกมาใส่ปกปิดรอยเขียวช้ำที่ต้นแขนทั้งสองเดินควงแขนกันเข้ามาในซุปเปอร์น้ำอิงเข็นรถเข็นคันเล็กเดินไปยังโซนที่ขายแอลกอฮอล์อีกมุมหนึ่งยังมีสายตาร้ายๆของคุณหญิงกนกนุชเอาแต่จ้องมองน้ำอิงด้านหลังของเธอมีชายฉกรรจ์ 2 คนยืนคอยรักษาความปลอดภัยไม่ยอมห่าง
“คุณหญิงจะให้จัดการเธอเลยไหมครับ” บอดี้การ์ดเอ่ยถาม
“รอดูมันไปก่อนถ้าตะวันยังดื้อดึงกำจัดมันทิ้งซะ” คุณหญิงรีบตามลูกชายมาจากพัทยาระหว่างทางที่ตะวันจอดรถจัดการกับน้ำอิงมันนานพอให้คุณหญิงขับรถตามมาทันและเธอก็ตามตะวันมาตลอดจนเห็นลูกชายจอดรถส่งน้ำอิงริมถนนเมื่อเห็นลูกชายออกรถไปเธอก็ค่อยตามมองน้ำอิงจนมาถึงซุปเปอร์แห่งนี้
^^