EP05 the feel…
ร่างบางที่ตอนนี้นั่งอยู่บนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าในห้องน้ำกำลังโกนหนวดให้ผู้กำกับหนุ่มที่งานยุ่งจนไม่มีเวลาดูแลตัวเองอย่างตั้งใจ คนตัวเล็กตั้งใจและโฟกัสกับการโกนหนวดมากๆ จนไม่ได้สนใจอย่างอื่นเลยนอกจากปลายคางคมจนลืมสังเกตไปว่าตอนนี้เธอกับขุนเขาอยู่ในท่าทางที่ ‘ล่อแหลม’ มากแค่ไหน
ร่างสูงยืนเปลือยท่อนบนโชว์แผงอกและกล้ามหน้าท้องค้ำแขนทั้งสองข้างลงข้างร่างบางเหมือนเขากำลังคร่อมร่างเธออยู่กลายๆ วาเลนที่ตอนนี้สวมเพียงสปอร์ตบราและกางเกงขาสั้น (มาก) เพราะก่อนหน้านี้เธอเพิ่งออกกำลังกายมาหลังจากที่ตกลงว่าจะโกนหนวดให้เขารู้ตัวอีกทีก็เข้ามาอยู่ในห้องน้ำในห้องนอนของคนตัวสูงซะแล้ว
มันก็คือชุดออกกำลังกายทั่วไปที่ผู้หญิงชอบใส่แต่พออยู่บนตัวของวาเลนแล้วมันกลับดูเซ็กซี่เกินความจำเป็นไปมาก สปอร์ตบราตัวจิ๋วไม่สามารถปิดบังความอวบอิ่มของหน้าอกเธอได้จนขุนเขาต้องเบือนหน้าหนีไปอีกทางเพราะระยะห่างเพียงไม่กี่เซนติเมตรทำให้เขาเห็นร่างกายเธอได้อย่างชัดเจน
เขาก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งนะอย่าลืม
ร่างสูงรู้สึกเหมือนตัวเองเริ่มไม่มีสมาธิจนอยากให้น้องหยุดทำแต่ถ้าทำแบบนั้นวาเลนต้องสงสัยแน่นอนว่าเขาเป็นอะไร
“หันมาหน่อยค่ะวาโกนไม่ได้”
โดนคนน้องดุเมื่อเขาเริ่มเบี่ยงตัวออกห่างจนถูกคนตัวเล็กจับปลายคางไว้ให้หันกลับไปอีกครั้ง
พออยู่ใกล้กันแบบนี้แล้วก็ไม่รู้จะเอาสายตาไปวางที่ไหนจึงมองหน้าคนเด็กกว่าที่ตั้งใจโกนหนวดให้เขาอย่างดี
ดวงตากลมโตแพขนตายาวริมฝีปากบางๆ รับกับจมูกเชิดรั้นบ่งบอกถึงความดื้อของเธอได้เป็นอย่างดี
หน้าเรียวสวยแต่แอบมีแก้มเล็กน้อยทำให้วาเลนทั้งสวยและน่ารักในเวลาเดียวกัน ใบหน้าขาวใสไร้เครื่องสำอางแต่งแต้มจนเห็นแก้มสีแดงเป็นธรรมชาติที่น่าจะเป็นเพราะเธอเพิ่งเสียเหงื่อจากการออกกำลังกายมาแต่ถึงอย่างนั้นวาเลนก็ยังตัวหอมอยู่ดี
กลิ่นกายสาวและกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ผสมกันเป็นกลิ่นเฉพาะตัวของวาเลนชวนหลงใหลและปลุกเร้าอารมณ์ในกายชายให้ตื่นตัวจนขุนเขาต้องกวาดสายตามองไปทางอื่นจะได้ไม่ฟุ้งซ่านแต่เหมือนจะคิดผิดเพราะเมื่อสายตาคมปะทะเข้ากับต้นคอขาวที่เพียงแค่เธอขยับปรับองศาหน้าเพื่อโกนหนวดให้เขามันกลับดูเซ็กซี่และชวนใจเต้นจนเผลอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
เขาเพิ่งรู้ตัวว่าคิดผิดมากๆ ที่ยอมให้วาเลนโกนหนวดให้เพราะยิ่งอยู่ใกล้กันยิ่งรู้สึกถึงแรงดึงดูดบางอย่างจนเขากลัวว่าจะห้ามใจตัวเองไม่ได้เหมือนทุกครั้ง...
ก่อนหน้านี้เขาเหนื่อยจนแทบไม่มีแรงทำอะไรพอคนตัวเล็กอาสาดูแลก็เลยเคลิ้มตามได้ง่ายๆ
รู้สึกเหมือนกำลังโดนวาเลนเอาใจจนเขาแอบ...รู้สึกดี
“เสร็จแล้วค่ะ!”
เหมือนเสียงสวรรค์หลังจากที่ยืนเกร็งมาหลายนาที วาเลนจับปลายคางคมบิดไปมาเช็กความเรียบร้อยมองผลงานการโกนหนวดครั้งแรกของตัวเองด้วยความพอใจ
“วาเองก็เก่งเหมือนกันนะเนี่ย”
“หึ ชมตัวเองก็ได้เหรอ”
“ก็ไม่มีคนชมนี่คะ :(”
“เก่งมากครับ”
ขุนเขาเอ่ยชมพร้อมกับลูบหัวคนตัวเล็กด้วยความเอ็นดูจนวาเลนต้องก้มหน้างุดไม่กล้ามองสบตาเขาเพราะความเขินอาย
‘เก่งมากครับ’
แค่ประโยคง่ายๆ แต่ทำเอาคนตัวเล็กใจเต้นแรงจนกลัวว่าเขาจะได้ยิน เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่เขาชมเธอขนาดตอนที่เข้าฉากแสดงเขายังไม่เคยชมเลย
“เอ๊ะ! ตรงนี้”
วาเลนมัวแต่ก้มหน้าจนสายตาไปสะดุดเข้ากับรอยสักตรงไหปลาร้าของคนตัวสูงที่เธอเพิ่งสังเกตเห็น
“สักเหรอคะ”
“อืม สักพักแล้ว”
“วาจับได้มั้ยคะ?” มือเล็กลูบลงบนรอยสักของเขาหลังจากได้รับอนุญาต รอยสักที่เป็นเพียงแค่ตัวเขียนขนาดไม่ใหญ่มากแต่พออยู่บนตัวของขุนเขาแล้วมันกลับดูดีและมีความพิเศษบางอย่างจนเธอหยุดมองไม่ได้
“Valentine... ทำไมถึงสักคำนี้เหรอคะ?”
“วันเกิดไง”
“อ่า เหมือนชื่อวาเลยอะ”
คนตัวเล็กพึมพำกับตัวเอง ที่บอกว่าเหมือนชื่อเธอเพราะชื่อเต็มๆ ของเธอคือ ‘วาเลนไทน์’ เป็นชื่อที่ป๊าเจษตั้งให้เพราะเธอเกิดในวันแห่งความรักเช่นเดียวกันกับขุนเขาแต่ห่างกันถึงห้าปี
วาเลนไทน์ฟังดูยาวเกินไปก็เลยตัดให้เหลือแค่ ‘วาเลน’ น่ะ
“แอบสักชื่อวาหรือเปล่าคะเนี่ย” วาเลนแอบแซวเล่นอย่างไม่จริงจัง
“เอ่อ พี่จะสักชื่อวาทำไมกันล่ะเนอะ” ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรแซวเพราะรอยสักของทุกคนย่อมมีความหมายในตัวของมันไปโมเมว่าเป็นชื่อตัวเองแบบนี้เขาอาจจะไม่ชอบใจ
ขุนเขาไม่ได้ว่าอะไรปล่อยให้คนตัวเล็กลูบรอยสักอยู่สักพักจนเริ่มรู้สึกแปลกๆ จึงจับมือเธอไว้ให้หยุดลูบมัน
ร่างบางเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างแปลกใจแต่การตัดสินใจเงยหน้าขึ้นมองเขาครั้งนี้เป็นการกระทำที่อันตรายมากๆ เพราะสายตาของคนตัวสูงที่มองลงมาแฝงไปด้วยความหมายที่เธอแปลไม่ออกแต่ก็ไม่กล้าหลบสายตาเขาสักวินาที
“พะ พี่ขุน...” เรียกชื่อเขาเสียงสั่นเมื่อใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาใกล้เรื่อยๆ เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างจนระยะห่างระหว่างทั้งคู่เหลือเพียงไม่กี่เซนติเมตร
“ถ้าไม่ชอบก็ผลักออก”
เขาบอกในขณะที่ปลายจมูกของทั้งคู่ชนกัน ถึงจะไม่เข้าใจแต่วาเลนกลับเลือกที่จะไม่ผลักออก แขนเรียวทั้งสองข้างยกขึ้นคล้องคอเขาไว้หลวมๆ ก่อนจะเอียงหน้าปรับองศาให้พอดีแล้วเป็นฝ่ายขยับเข้าไปจูบเขาก่อน...
ขุนเขาทำเพียงแค่แช่ริมฝีปากไว้นิ่งๆ รอจนคนน้องเริ่มขยับเป็นเชิงอนุญาตเขาถึงเริ่มดูดดึงและขบเม้มริมฝีปากบางไปมา ปาดลิ้นเลียตามขอบปากเล็กก่อนสอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปชิมความหวานภายในโพรงปากซึ่งวาเลนเองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ทั้งคู่เกี่ยวกระหวัดดูดดึงเรียวลิ้นแลกความหวานจากกันและกันอย่างดูดดื่ม ร่างกายขยับเข้าใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆ จนร่างสูงแทรกตัวอยู่กลางหว่างขาของคนที่นั่งอยู่บนเคาน์เตอร์ร่างกายแนบชิดกันจนอากาศไม่สามารถแทรกผ่านได้
“อื้อ...”
เสียงครางประท้วงหลุดออกมาจากคนตัวเล็กเมื่อจูบที่ดูดดื่มเริ่มทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเธอเริ่มหายใจไม่ทัน มือที่กอดรัดเอวบางก็เริ่มไม่อยู่นิ่งลูบไล้ไปตามร่างบอบบางตามแรงอารมณ์ที่เกินจะควบคุม
ขุนเขาตะโบมจูบดูดดึงริมฝีปากหวานเหมือนกินเยลลีรสโปรดทั้งนุ่มนวลและรุนแรงสลับกันไปจนวาเลนรู้สึกเจ็บปาก พยายามตวัดลิ้นตามเขาแต่ก็ตามไม่ทันจนต้องอยู่นิ่งๆ ให้เขาดูดกินความหวานจากปากเธอจนพอใจ
จูบที่อัดแน่นไปด้วยความโหยหาและความคิดถึง...
ร้อนแรงเหมือนจะแผดเผาร่างกายให้มอดไหม้จนคนตัวเล็กเริ่มหายใจไม่ทันจนต้องทุบอกแกร่งแรงๆ เพื่อส่งสัญญาณ
“อื้อๆ”
คนตัวสูงที่ตะโบมจูบน้องจนปากเจ่อเหมือนเริ่มได้สติจึงถอนจูบออกแต่ก็ยังไม่วายจูบซับริมฝีปากเธอแรงๆ ส่งท้ายอีกครั้งอย่างแสนเสียดาย
“วาเจ็บ :(” คนตัวเล็กที่รู้สึกได้ว่าตอนนี้ปากเธอน่าจะแตกไปแล้วเพราะได้กลิ่นคราวเลือดบอกเขาอย่างงอแงจนคนพี่รู้สึกผิด
“อ่า โทษที”
ขุนเขาซบหน้าลงกับไหล่เล็กสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อตั้งสติ ตอนนี้เขารู้สึกร้อนไปทั้งตัวอารมณ์ในร่างกายกำลังพุ่งสูงจนแก่นกายที่อยู่ภายใต้กางเกงยีนตัวเก่งแข็งนูนขึ้นดันขาคนตัวเล็ก
ฉิบหาย!
“ออกไปก่อนไป” เขารีบผละออกจากร่างบางแล้วสั่งให้เธอออกไปก่อนที่วาเลนจะรู้ตัวว่าตอนนี้เขากำลังมีอารมณ์ คนตัวเล็กมองท่าทางของเขาอย่างแปลกใจแต่ก็ยังไม่ยอมออกไปในทันทีเพราะเธอทำ ‘หน้าที่’ ของเธอยังไม่เสร็จ
“แต่ว่ายังไม่ได้สระผม...”
“เดี๋ยวพี่ทำเอง ออกไปก่อน”
เห็นท่าทางเขาไม่ค่อยดีคนตัวเล็กถึงได้ยอมปีนลงจากเคาน์เตอร์ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไป
ร่างสูงขยี้หัวตัวเองแรงๆ เพื่อเรียกสติ
เกือบไปแล้วมั้ยล่ะขุนเขา อาเจษเขาอุตส่าห์ไว้ใจให้ดูแลน้องแต่เขาเกือบจับน้องกินซะแล้ว แฟนก็ไม่ใช่แล้วดันไปทำแบบนั้นกับน้องอีกต่อไปนี้วาเลนจะมองเขายังไง
ทางด้านวาเลนหลังจากที่ออกมาจากห้องของเขาเธอก็รีบกลับห้องตัวเองด้วยความรู้สึกหัวใจเต้นแรงจนแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว
ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอกับเขาจูบกันแต่ครั้งล่าสุดที่เคยจูบกันมันก็นานมาแล้วจนเธอแทบจะจำความรู้สึกตอนนั้นไม่ได้แล้ว และอีกอย่างคือครั้งนี้มันเป็นจูบที่ทั้งเขาและเธอมีสติด้วยกันทั้งคู่
ไม่ใช่เพราะเมาเหมือนครั้งก่อน
มันยิ่งทำให้เธอตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก
หลังจากที่เลี่ยงเธอมาตั้งนานแต่ครั้งนี้ขุนเขาเป็นคนเข้าหาเธอก่อน
ทำไมกันนะ...
อารมณ์ชั่ววูบ?
หวั่นไหว?
หรือตั้งใจ?
ไม่ว่าเหตุผลที่เขาทำจะเป็นเพราะอะไรแต่จังหวะนี้วาเลนคิดว่าเธอไม่ควรปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไป
คงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ...
.
.
เกือบสามสิบนาทีที่ขุนเขาใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำเพื่อ ‘จัดการตัวเอง’ ร่างสูงที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันรอบเอวเดินเช็ดผมเปียกโชกออกมาจากห้องน้ำด้วยความรู้สึกสบายตัวแต่ก็ไม่สุด ตั้งใจว่าอาบน้ำแล้วจะเข้านอนเลยเพราะสถานการณ์ตอนนี้คงไม่เหมาะที่จะออกไปนั่งดูทีวีที่ห้องนั่งเล่นเท่าไหร่เพราะเขาอาจจะเจอกับวาเลนจนทำให้รู้สึกอึดอัดต่อกันได้
แต่ความตั้งใจของเขาต้องถูกพับเก็บลงเมื่อออกมาเจอคนตัวเล็กที่ตอนนี้น่าจะเพิ่งอาบน้ำมาเหมือนกันเพราะเธอสวมเพียงชุดนอนสายเดี่ยวตัวเดียวนั่งรอเขาอยู่ที่ปลายเตียง
ขมวดคิ้วมองร่างบางอย่างแปลกใจเพราะเขาคิดว่าเธออาจจะโกรธหรืออายที่โดนเขาจูบจนไม่กล้าสู้หน้ากันแล้วซะอีก แต่นอกจากจะไม่โกรธแล้ววาเลนยังส่งยิ้มหวานให้เขาเหมือนก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“วาเช็ดผมให้ค่ะ”
มัวแต่ยืนขมวดคิ้วมองคนตัวเล็กรู้ตัวอีกทีก็ถูกวาเลนแย่งผ้าเช็ดผมไปแล้วดึงแขนเขาให้มานั่งลงที่ปลายเตียงซะแล้ว
แปลกใจแต่ขุนเขาไม่ได้ว่าอะไรนั่งนิ่งๆ ให้คนตัวเล็กเช็ดผมให้อยู่สักพักจนกระทั่ง
ฟุ่บ!
“ทำอะไร!” วาเลนเปลี่ยนจากเช็ดผมด้านหลังมานั่งคร่อมตักแกร่งเพื่อเช็ดผมด้านหน้าทำให้ใบหน้าหล่อเหลาอยู่ตรงกับร่องอกอวบพอดี
“เปลี่ยนที่ไงคะ วาเช็ดไม่ถนัด”
ร่างสูงถึงกับถอนใจใส่เด็กดื้อที่ดูก็รู้ว่าตั้งใจมาปั่นหัวเขา พออยู่ใกล้กันแบบนี้แล้วเขาถึงสังเกตเห็นว่าเธอ...
โนบรา!
เหมือนกำลังเล่นเกมทดสอบความอดทน ขุนเขาพยายามไม่มองเบือนหน้าหนีไปอีกทางแต่สุดท้ายก็โดนคนตัวเล็กประคองหน้าเขาให้หันกลับมามองเธออยู่ดี
“เขินวาเหรอคะ”
“อะไร?”
“ก็พี่ขุนไม่มองหน้าวาเลย :(” วาเลนตัดพ้อทำหน้างอเหมือนเสียใจมากที่เขาไม่ยอมมองเธอแต่ในแววตาซนๆ นั้นวาเลนกำลังสนุกแหละที่ทำให้เขา ‘เสียอาการ’
“วาอยากให้พี่ขุนมองวา”
“…”
“มองวาหน่อยสิคะพี่ขุน”
‘มอง’ ที่ไม่ได้หมายถึงการมองหน้าเฉยๆ หรือมองแค่ตอนนี้ วาเลนพยายามสื่อความหมายผ่านประโยคนั้นแต่ไม่รู้ว่าคนตัวสูงจะรับรู้ถึงสิ่งที่เธอตั้งใจจะสื่อบ้างหรือเปล่า
“น้องวา”
“ขา~”
“รู้ตัวมั้ยว่ากำลังทำอะไร?”
“ทำอะไร วาไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย” คนตัวเล็กทำปากยื่นทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ขยับร่างกายเบียดชิดร่างสูงยิ่งกว่าเดิมจนปลายคางคมแทบจะเกยอยู่กลางร่องอกอวบของเธออยู่แล้ว ในสายตาขุนเขาตอนนี้วาเลนดูเหมือนเด็กติดเล่นที่กำลังสนุกกับการปั่นหัวเขาแต่เขาไม่สนุกด้วยเลยสักนิด
“พี่เป็นผู้ชาย ไม่ได้เป็นคนดีขนาดนั้นอย่าไว้ใจมากเกินไป”
“หมายถึงยังไงคะ... ที่บอกว่าไม่ใช่คนดีพี่ขุนหมายถึงเรื่องไหน?”
เธอถามพร้อมกับเท้าแขนลงบนไหล่แกร่งเท้าคางมองเขาตาใส
“เรื่องที่พี่...กำลังมีอารมณ์เพราะวาหรือเปล่า” นิ้วเรียวยาวเขี่ยไปมาบนแผงอกเปลือยเปล่าอย่างยั่วเย้า
“วาเลน! ไม่เล่น” สะโพกสวยที่นั่งทับอยู่บนตักแกร่งที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวปิดบังกลางกายที่เริ่มตื่นตัวบดไปมาช้าๆ จนโดนร่างหนากัดฟันดุเสียงแข็งแต่คนตัวเล็กกลับไม่สะทกสะท้าน
“วาก็ไม่ได้เล่นสักหน่อย ที่ทำอยู่ตอนนี้วา ‘จริงจัง’ นะคะ”
“อ่อย?”
วาเลนพยักหน้าหงึกหงักยอมรับว่ากำลังอ่อยเขาจนขุนเขาถึงกับเหยียดยิ้มออกมา ในห้องน้ำก่อนหน้านี้ยังสั่นเพราะเขินเขาอยู่เลยแล้วทำไมตอนนี้เธอถึงได้ดูเปลี่ยนเป็นคนละคนขนาดนี้กัน
ขุนเขารู้ดีว่ากับวาเลนน่ะยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุพูดอะไรไปเด็กดื้อก็ไม่ฟังหรอกต้องทำให้กลัวจะได้ไม่กล้า ‘ล้อเล่น’ กับเขาอีก
เอาสิ...ถ้าอยากเล่นมาก
เขาก็จะเล่นด้วย