เรือนร่างเปลือยเปล่าของบุรุษร่างกำยำ คว่ำหน้าลงกับเตียงสีดำสนิท
ภายในห้องหรูชั้นสิบสองของตึกสูงมหานครสิบทิศที่แสนเย็นเยียบ แม้กระทั่งใส่สูทหนาไอเย็นยังโลมเลียผิวกายจนรู้สึกหนาวเย็น หากแต่ผู้ที่ได้ฉายานายแห่งมหานคร ที่มักถูกกล่าวถึงว่าเป็นสัตว์เลือดเย็น กลับนอนซุกอยู่ใต้ผ้าห่มแค่เพียงครึ่งตัว
แผ่นหลังสมชายชาตรีจากการออกกำลังกายอย่างหนักเต็มไปด้วยฝีเย็บ และรอยแผลเป็นเหวอะหวะ แซมด้วยรอยเลือดแห้งกรังจากเล็บของหญิงสาวสักคน
ร่างกายของเขาถูกใช้จนคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม
หากแต่เมื่อคืนสิ่งที่เปรอะเปื้อนกระจายเป็นจุดเล็กบนผ้าปูเตียงราคาแพง กลับเป็นของหญิงสาวคนหนึ่งที่เขาหิ้วขึ้นมาด้วยจากบาร์ด้านล่าง
ความสวยของเธอจัดว่าธรรมดามากเมื่อเทียบกับดารานางแบบที่เขาเคยควง ใบหน้าเล็กเพียงแค่ฝ่ามือ หากแต่ดวงตาใต้กรอบแว่นกลับกลมโต เปล่งประกายราวกับอัญมณีจนไม่สามารถหยุดมองได้เลย
คืนนี้คืนที่สิบเอ็ด...หรืออาจจะสิบสองคืนแล้วมั้ง ที่เขาเห็นหญิงสาวนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิม ชุดสไตล์เดิม และเครื่องดื่มแบบเดิม
วันแรกเขามองเธอผ่านไปเช่นเดียวกับมดปลวกที่ไม่ควรมาเพ่นพ่านในบาร์หรูหราของเขา แต่ในเมื่อมีเงินจ่ายค่าเมมเบอร์และค่าเครื่องดื่ม ทำไมเขาจะไม่ต้อนรับล่ะ
วันที่สองเขาเพียงแค่สงสัยว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงยังมาอีก
วันที่สาม สี่ ห้า หก และต่อ ๆ มาเขามักมองเสมอว่าเธอมารึเปล่า คลาดเคลื่อนจากเวลาเดิมไปเท่าไหร่
ชายหนุ่มจิบเหล้าในมือ แม้แต่แสงไฟสลัวเขายังเห็นเธอได้ชัดเจน เรือนร่างเล็กสูงไม่เกินร้อยหกสิบ กับแววตาที่คล้ายแก้วใส ทำให้ชายหนุ่มร้อนรุ่มแทบบ้า จนอยากยื่นมือไปบีบคนตรงหน้าให้แตกละเอียดคามือ
สายตาที่มองมาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ นั่นยิ่งแล้วใหญ่ มันทำให้เขาอยากผลักเธอลงบนเตียงนุ่ม
เรือนผมเธอคงลื่นมือยามแผ่สยายหายไปบนเตียงของเขา
ปลดเปลื้องเสื้อผ้าฉีกออกไม่ให้เหลือสักชิ้น
ได้ปรายตามองเธอด้วยความปรานีเหมือนเสือร้ายที่กำลังจะกินลูกกวางน้อย ท่ามกลางเสียงหวานที่อึกอักอยู่ในลำคอ ราวกับลูกสัตว์หูยาวตัวน้อยที่ตัวสั่นงกเงิ่น เพราะถูกเขาชโลมความใคร่ลงไปทั่วทั้งตัวคงดีไม่น้อย
ความปรารถนาของใหญ่ตระการจุดปะทุเสมือนฟืนที่กำลังโหมเมื่อถูกเผาไหม้ ประกายไฟแตกดังเปรี๊ยะท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ เช่นเดียวกับสมองที่ถูกแอลกอฮอล์ฤทธิ์แรงกล่อมจนหยุดไม่อยู่
รู้ตัวอีกทีเขาก็เดินเข้าไปตรงหน้าเธอ
‘คุณ...’ เสียงเธอหวานใสจนใจของสัตว์เลือดเย็นอุ่นวาบ เขาครางรับด้วยเสียงที่สั่นเล็กน้อย
ร่างสูงถือวิสาสะถอดแว่นของเธอออก หลังจากนั้นก็คว้าต้นคอระหง ก้มจูบเรียวปากเธออย่างไม่คิดจะถามชื่อให้เสียเวลา
เกวลินทร์ไม่คิดว่ามันจะรวดเร็วถึงเพียงนี้
อาการตกใจทำให้ริมฝีปากหวานอ้าปากค้างในพริบตา เปิดทางให้ลิ้นเขาโฉบเข้าไปหาความหวาน พลิกลิ้นดูดดึงความหวานซึ้ง หยอกล้ออย่างเร่าร้อนสลับกับอ่อนหวาน
‘เดี๋ยวค่ะ...’
เขาไม่ฟังเสียงทัดทานของลูกกวางน้อยที่กำลังจะเข้าปาก ร่างสูงใช้ตัวดันร่างเธอให้หมุนไปติดกับบาร์ ช้อนแผ่นหลังเนียนนุ่มลูบไล้ลงไปที่สะโพกผาย
บีบเคล้นต้นขาอ่อนด้านในอย่างจาบจ้วงท่ามกลางสายตาร้อนแรง
‘หรือว่าเธอไม่ต้องการ แต่สายตาเธอมันทำให้ฉันแข็งจนทนไม่ไหวแล้วคุณหนู’
‘ฉันอื้อ...อึก’
‘นอนกับฉันสักครั้ง’ ไม่ใช่คำเว้าวอนแต่เป็นคำสั่ง เกวลินทร์สั่นระริกในอ้อมแขนของเขา เรียวลิ้นเธอถูกเขากลืนกินรุนแรงจนไม่มีโอกาสแม้แต่จะตอบรับด้วยซ้ำ
ใหญ่ตระการสำรวจเรือนร่างตรงหน้า เช่นเดียวกับจมูกที่กดลงข้างแก้ม ยามประกบปากดูดดื่มกับเยลลี่สีหวานที่ครางอึกอัก เขารู้สึกเหมือนกำลังจมลงในความรู้สึกที่ไม่รู้จัก อยากได้มากกว่านี้ อยากดูดกลีบปากเธอให้บวมเป่งและแดงช้ำด้วยปากของเขา
ยิ่งยามเธอยกมือกอดต้นคอเขาไว้แทนการผลักออก ยิ่งทำให้เขาร้อนมากขึ้นอีก
แรงปรารถนามหาศาลกดทับทรวงอกหญิงสาว ให้รู้สึกอ่อนระทวยจนยั้งตัวไม่อยู่
กลิ่นน้ำหอมและกลิ่นเหงื่อบุรุษที่ไม่เคยได้สัมผัส ทำให้ร่างแน่งน้อยสั่นสะท้าน ไม่รู้ทำไมร่างกายเธอถึงยอมถูกเขาบดเบียดอย่างง่ายดาย
เจ้าหล่อนหน้าแดงก่ำพลางหอบกระเส่าไร้ความประสีประสา เมื่อเขาถอนริมฝีปากออกไป แล้วเหม่อมองริมฝีปากบวมเจ่อของเธอราวกับเสียดาย เลื่อนสายตาสบกับหญิงสาวแล้วพบว่ามันสวยงามจนเขาแทบคลั่ง เมื่อหยาดน้ำใสเคลือบอยู่ในดวงตาคู่นั้น
ลิ้นของเขากดเลียริมฝีปากช้ำราวกับต้องการจะปลอบโยน
เท่านั้นหัวใจดวงน้อยก็กระตุกสั่นระรัว ราวกับเจ้าของตึกแห่งนี้ล้วงเข้ามาในอก แล้วเป็นคนบีบบังคับจังหวะของมัน
‘...ว่าไง’ เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้มที่มุมปากพลางยื่นมือไปตรงหน้าเธอ ‘นอนด้วยกันสักครั้งดีไหม’
‘ค่ะ’
ไม่รู้เช่นเดียวกันว่าทำไมเธอถึงตอบรับเขาอย่างง่ายดาย
ปลายนิ้วเรียวสั่นเล็กน้อย เพียงแค่วางมือลงบนฝ่ามือใหญ่ หญิงสาวก็รู้สึกเหมือนตนเองเป็นสัตว์ตัวเล็ก ที่กำลังยื่นมือเข้าไปหาสัตว์ตัวใหญ่ ฝ่ามือเธอแค่ครึ่งฝ่ามือของเขา แต่ปลายประสาทกลับสัมผัสถึงกระแสไฟที่มองไม่เห็น มันช็อกร่างเธอและเขาสั่นสะท้านไปพร้อมกัน
ไม่ทันได้เอ่ยมากกว่านั้นร่างเล็กก็ถูกช้อนจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว
เจ้าของมหานครหรือตึกแห่งนี้ไม่คิดจะเหนียมอายสักนิด เขาแค่อยากจะอุ้มร่างตรงหน้าไปวางบนเตียงให้เร็วที่สุด โดยไม่สนเสียงนินทา หรือรั้งรอท่อนขาเล็ก ๆ นั้นเสียเวลาเดินตาม เขาอยากให้เธอใช้มันโอบรอบเอว หรือวางบนบ่าแข็งแกร่งของเขา
‘อยากดื่มอะไรก่อนไหม’ เขาถามในขณะที่กำลังก้มหน้ามองเธอที่ยังไม่กล้าแม้แต่เงยหน้าขึ้นสบตา
‘ขอน้ำเปล่าสักแก้วได้ไหมคะ’
คราวนี้เกวลินทร์ถึงกล้าเงยหน้าขึ้นสบตาเขา
ชายหนุ่มไม่ตอบแต่เลือกก้มลงไปจุมพิตเธออีกครั้ง แผ่นหลังของหญิงสาวกระแทกเข้ากับผนังลิฟต์ที่เย็นเยียบ
กลิ่นกายของเธอเหมือนฝักวานิลลาสุกที่กำลังรอวันปริแตก กลิ่นที่เล็ดลอดออกมาหอมหวานเกินห้ามได้แล้ว แต่ยังชวนสงสัยว่าถ้าหากปริแตกจะหอมหวนมากเพียงใด ชายหนุ่มก้มลงประทับจูบที่ซอกคอขาวหลังวางเธอลงบนเตียง
แน่นอนว่าเธอได้น้ำเปล่าหนึ่งแก้วตามที่ขอ ก่อนจะถูกโยนลงบนเตียง
สวย…
เขาจับเส้นผมเธอแล้วลากออกมาเรียงทีละช่ออย่างอ่อนโยน เหมือนจะไร้ความรีบร้อนและเยือกเย็น แต่ดวงตาของชายหนุ่มมีแต่ความร้อนรน ลมหายใจที่รุนแรงทำให้หญิงสาวครางเบา ๆ เมื่อถูกเขาดูดดุนที่ชีพจรแผ่วเบา หัวใจของเธอเต้นราวกับจะระเบิด มองเขาผละออกไปกระชากเสื้อสูทและเสื้อกั๊กของตัวเองออก
รอยบาดแผลบนร่างกายที่พอรู้อยู่แล้ว ว่าคนอย่างเขาคงไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างราบรื่นเผยอยู่บนผิวกระจ่าง
‘มันดูเจ็บมาก เจ็บไหมคะ’
‘อย่าซน’ ชายหนุ่มส่งเสียงคำรามต่ำเตือนคนอวดดี ที่กล้าดีใช้มือเล็ก ๆ น่าดูดนั่นลูบรอยแผลที่ท้องน้อยของเขา สิ่งที่อยู่ภายใต้ร่มผ้ากระตุกแผ่วเบา ก่อนจะตอบสนองต่อมือนั้นอย่างดีเยี่ยม จนแข็งขืนขึ้นมาชวนให้เขาเม้มปากอย่างทรมาน แล้วลงโทษเธอบ้างโดยการประกบปากดูดทรวงอกนุ่มเป็นการตอบแทน ทั้งที่เนื้อผ้ายังขวางกั้น
ลากนิ้วของเธอให้จับแก่นกายที่กำลังผงาด
‘ใหญ่พอไหม’
‘เกลว่ามันใหญ่เกินไปค่ะ’ เธอตอบอย่างแผ่วเบา ร่างกายที่สั่นระริกสะท้านขึ้น เมื่อนิ้วมือของเขาเรียวยาวหากแต่สากจนเสียดสีเนื้ออ่อนของกลีบกุหลาบจนขึ้นรอยแดง ก่อนจะถูกไฟร้อนแรงของคนตัวสูงแผดเผาจนอยู่ไม่สุข
ริมฝีปากเขาอุ่นแต่ลิ้นกลับเย็นชุ่มด้วยน้ำลายและน้ำหวาน ที่ตวัดเลียไปทุกสัดส่วนที่อ่อนไหว
ส่วนที่แข็งแกร่งกำลังกดแนบเข้าในความอ่อนนุ่ม
‘อึก’
และดันเข้าไปช้า ๆ เกวลินทร์สบตาคนเหนือร่าง ก่อนเสียงครางหวีดหวิวจะดังขึ้น เมื่อเขาสอบเอวกระแทกเข้ามาไม่คิดให้เธอได้พัก ร่างกายเหมือนกำลังจะขาดเป็นสองท่อน หากแต่ลมหายใจอบอุ่นของเขากลับปลอบประโลมเธอ
หญิงสาวตะเกียกตะกายไปบนผ้าปูเตียง ไม่นานความเจ็บก็แปรเปลี่ยนเป็นกลิ่นเหงื่อหอมหวาน และกลิ่นกามที่สาดกระเซ็นฟุ้งกระจาย ท่ามกลางเสียงครางหวานและแหบห้าวของลูกกวางตัวน้อยกับนายแห่งมหานคร