“พรุ่งนี้เย็นมีไปดูตัวไม่ใช่หรือหนูเกล” น้ำเสียงทรงอำนาจของชายวัยกลางคนเรียกให้เกวลินทร์สะดุ้งจากจานอาหารตรงหน้า ที่ถูกจำกัดปริมาณให้น้อยเกินกว่าคนคนหนึ่งจะทานอิ่ม
“ค่ะคุณพ่อ”
“งั้นตอนนี้ก็ควรหยุดกินได้แล้ว อยากจะอ้วนไปมากกว่านี้รึไง”
“ทานแค่นี้ไม่ทำให้อ้วนหรอกค่ะคุณสิงห์ เกลกินอีกหน่อยเถอะลูก” วาดจันทร์มองคนเป็นลูกอย่างสงสาร แม้จะไม่มีสิทธิ์มีเสียงมากนัก แต่เธอก็พยายามจะต่อต้านกับคนที่เป็นสามี แม้ว่ามันจะไม่เคยได้ผลก็ตาม
“อย่าตามใจมากเกินไป เก็บไป”
“แต่…”
สลัดที่ถูกกินไปเพียงสองคำถูกเก็บออกไปตามคำสั่งของสิงหราช
“ไปทำน้ำมะนาวมาให้คุณเกล”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณพ่อ แค่เติมน้ำเปล่าก็พอ” มือเธอสั่นระริกยามจับแก้ว สลัดอกไก่ที่เธอเพิ่งแตะอกไก่ไปเพียงไม่กี่คำกับผักไม่กี่ชิ้นยังไม่ทันเต็มท้องที่หิวของเธอเลย
หลัง ๆ พอต้องมีดูตัวเหมือนว่าอาหารของเธอจะถูกจำกัดมากขึ้น ถ้าหากเป็นไปได้เธอแต่งงานออกก็น่าจะดีกว่า ถ้าอีกฝ่ายตอบตกลงก็คงดี
แดนสิงห์เหลือบมองคนเป็นพ่ออย่างหงุดหงิด
“ดูตัวอีกแล้วเหรอครับ เดือนนี้พี่เขาดูตัวเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้ว ยังพยายามอยู่อีกเหรอครับ”
“เป็นลูกสาวฉันจะเลือกคู่ครองก็ควรเลือกที่ดีสิ จะคว้าสวะสักตัวมาเป็นเขยฉันได้ยังไงกัน”
“ผมไม่เห็นว่าคนที่พ่อเลือกมา จะมีดีกว่าสวะตรงไหน”
“หุบปากไปเลยแดนสิงห์ แกไม่ต้องยุ่งเรื่องพี่เขา เอาเวลาไปใส่ใจว่าที่คู่หมั้นของแกเถอะ”
“พ่ออยากให้ผมหมั้นนักก็สนใจเองเถอะครับ”
“ฉันไม่เคยคิดจะให้แกปฏิเสธ”
“ผมก็ไม่เคยคิดจะตอบรับเหมือนกัน พี่ก็ควรจะกินให้มากหน่อย ไปเอาผลไม้มาให้คุณเกล”
“ไม่ต้อง ผลไม้มีน้ำตาล ดื่มแค่น้ำเปล่าก็พอ”
“แค่นั้นจะไปพออะไรครับ”
“ฉันบอกว่าพอก็คือพอ”
“พอของพ่อพี่เขาจะไม่มีแรงเดินอยู่แล้วนะครับ”
“อย่ามารู้ดีไปมากกว่าฉัน”
สองพ่อลูกโต้เถียงกันด้วยน้ำเสียงเย็นชา มันทำให้เกวลินทร์ที่เหนื่อยอยู่แล้วยิ่งเหนื่อยไปกันใหญ่ เธอทำเพียงแค่ยิ้มบางเบาเหมือนคนโง่แล้วจิบน้ำเปล่า ฟังบทสนทนาธุรกิจของสองพ่อลูกที่ไม่เข้าหัวสักนิด ราวกับตุ๊กตาไร้หัวคิดที่ถูกจับขึ้นมาตั้งบนเก้าอี้
...เช่นเดียวกับผู้เป็นแม่
ร่างบางเปิดประตูห้องนอนก่อนจะปิดลง สองเท้าก้าวเข้าไปใกล้ตู้หนังสือที่ซ่อนกล่องล็อกกุญแจเอาไว้ แล้วใช้มือที่สั่นเทาเปิดมันออกอย่างเร่งรีบ
เคร้งงง!
กล่องเหล็กที่หล่นลงพื้นมีช็อกโกแลตและลูกอมหลากหลายชนิดซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในกระจายออกมาเต็มพื้น
“อึก” เกวลินทร์รีบหยิบมันใส่ปากชิ้นแล้วชิ้นเล่าจนเต็มปากเหมือนคนอดอยาก
“อื้อ ๆ อื้ออออ แคก ๆ”
“นั่นพี่กำลังทำอะไรน่ะครับ” แดนสิงห์พิงขอบประตูมองเกวลินทร์อย่างไม่เชื่อสายตา เขาเปิดประตูเข้ามาสักพักแล้ว แต่เธอไม่แม้แต่จะรู้ตัวสักนิด กลับกำลังฉีกซองช็อกโกแลตอีกซองยัดเข้าปากทั้งที่ยังเคี้ยวไม่หมดดีด้วยซ้ำ
“แดน…” ดวงตากลมโตหันมามองเขาอย่างตกใจ ท่าทีลนลานนั่นทำให้แดนสิงห์รู้สึกแปลกใจเข้าไปกันใหญ่ ทำไมถึงกลัวจะถูกจับได้ขนาดนั้น
ท่าทางแบบนั้นไม่ปกติสักนิด
ถึงจะน่าเอ็นดูก็เถอะ เขาระบายยิ้มออกมา “พี่หิวขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
ดวงตาคู่สวยไม่กล้าสบตาเขาเธอเหมือนเด็กถูกจับผิดได้ว่าขโมยของอย่างไรอย่างนั้น “อย่าฟ้องคุณพ่อได้ไหม”
“ถ้าหิวทำไมไม่กินให้อิ่มตั้งแต่บนโต๊ะอาหารล่ะครับ”
“ไม่มีอะไรพี่ก็แค่อยากกินน่ะ เข้ามามีอะไรเหรอ” เธอวางช็อกโกแลตลงแล้วกลืนสิ่งที่อยู่ในปากลงลำคอ รสชาติหวานปนขมซ่านไปทั่วลิ้นนั่นทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นมานิดหน่อย
แดนสิงห์ยักไหล่เดินไปนั่งที่โซฟาในห้องของหญิงสาวอย่างถือวิสาสะ ในห้องที่ถูกตกแต่งด้วยสีชมพูราวกับเจ้าหญิง แล้วใช้นิ้วชี้กระดิกเรียกเกวลินทร์ให้เข้าไปหา
“มานี่สิครับ”
เขามองหน้าจอที่กำลังรันโค้ดที่ถูกเกวลินทร์แผลงฤทธิ์อย่างพึงพอใจ การได้ก่อกวนใหญ่ตระการเป็นของเล่นที่เขาพึงพอใจไม่น้อย
“พี่สาวผมนี่เก่งจังเลยนะครับ” ท่อนแขนแกร่งโอบคนที่มีศักดิ์เป็นพี่สาวเอาไว้
“ขยับออกไปก่อนได้ไหม”
“ไม่เอาครับผมอยากอยู่กับพี่นี่นา”
“อย่าพูดอะไรชวนอ้วกได้ไหมแดน”