ภพธร

1306 คำ
"กรีดร้องกันนะครับ! ชอบกันมากนะครับ! กล้ามท้องแน่น ๆ ซิกซ์แพ็กสวย ๆ !" รุ่นพี่กลุ่มนั้นยังคงพูดต่อวิจารณ์สรีระไอ้เต้ยกันต่อไป ไอ้เต้ยยังเฉย คงมีแต่เหงื่อนั่นแหละที่ไหลมาตามหน้า และลำตัว นี่มันบ่ายโมงนะโว้ย ให้มาถอดเสื้อตากแดด บ้าหรือเปล่า แต่ก็ดี มีอาหารตาดูแก้เซ็ง           "เราจะทำโทษตัวถ่วงนี้ยังไงดีครับ! ให้เต้นก็เฉย ให้ปรบมือก็ผิดจังหวะ ให้วิ่งก็อยู่รั้งท้าย"           "อย่ารุนแรงนักเลยค่ะตัวเอง เราขอนะ” ความหล่อช่วยชีวิต รุ่นพี่สาวประเภทสองขอลดหย่อนโทษให้มัน           "หาคู่มาครับ อยากอยู่ใกล้ใคร รักใคร  ชอบคนไหน ไปดึงมือออกมาเลยครับ” อ้าวพี่ ทำไมหาเรื่องให้คนอื่นซวยด้วยล่ะ ฉันคิดตาม หน้าเริ่มเสีย เมื่อมองสบตาคม ๆ ของไอ้เต้ย ไม่นะเต้ย เวลานี้มึงเลือกคนอื่นก่อนนะ ปล่อยกูไปวันหนึ่ง วันนี้กูไม่รู้จักมึง  สาว ๆ ที่อยากอยู่คู่มึงมีเยอะแยะ มองเลยกูไปก่อน ฉันขอร้องไอ้เต้ยในใจ ส่งสายตาวิงวอนไปที่มัน ขอให้มันเมตตาฉันสักครั้ง แล้วก็เป็นไปตามดั่งที่ฉันคิด ไอ้เต้ยเดินตรงดิ่งมาทางนี้ มาแบบแมน ๆ นั่นแหละ มันมองตรงมาที่ฉัน แล้วเดินแหวกกลุ่มคนเข้ามา ฉันเริ่มหันรีหันขวางหาทางเอาตัวรอด ขาฉันก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว เมื่อไอ้เต้ยมายืนตรงหน้า มันไม่พูดไม่ทักไม่ถาม มือแกร่งของมันคว้าหมับมาที่ต้นแขนฉันทันที           "เต้ย คือ มึง" มันไม่ฟังเสียงอะไร จูงแขนฉันติดมือมันออกมา ตอนนี้คงใช้คำว่าจูงไม่ได้ ต้องเรียกว่า ‘ลาก’ ถึงจะเหมาะกว่า เชี้ย! แล้วกู ฉันกรีดร้องในใจ                              End Talk.             "มีน มีน แม่เรียกได้ยินไหมเนี่ย"             "ขะ คะแม่ แม่ว่าอะไรนะคะ” เสียงเรียกของมารดา ปลุกมินรญาให้ออกจากห้วงความคิด              "แม่บอกว่า มดยิ้มหลับแล้ว มีนก็ลุกมาอาบน้ำกินข้าวได้แล้ว" นางบอกย้ำอีกครั้งแล้วเดินออกไปจากห้องนอน             "อ้อ…คะ แป๊บนะคะแม่ เดี๋ยวมีนตามไป" ร่างบางค่อย ๆ ขยับออกจากใบหน้าเล็กเบา ๆ เมื่อเจ้าตัวน้อยหลับสนิท ลูกเธอมักจะหลับทุกครั้งที่ได้นอนกินนมแบบนี้ ริมฝีปากบางจุมพิตหน้าผากเล็กเบา ๆ ขยับผ้าห่มให้กระชับตัวลูก แล้วลุกเดินเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการธุระส่วนตัว  ร่างบางยืนมองตัวเองหน้ากระจก มินรญาในวัย ยี่สิบเจ็ดปี ดูอย่างไรก็ไม่น่าเชื่อว่าจะอายุยี่สิบเจ็ดแล้ว เธอโชคดีที่มีใบหน้าอิ่มสวยที่ใคร ๆ มักล้อว่าหน้าวัยมัธยม ร่างสูงแต่ดูอวบอิ่ม มองอย่างไรก็เหมือนสาวทั่ว ๆ ไป นอกจากคนใกล้ตัวแล้ว คนนอกก็ดูไม่ออกว่าเธอมีลูกถ้าไม่บอก ก็คงไม่มีใครเชื่อ             มินรญายืนจ้องหน้าตัวเองอยู่แบบนั้น หลายครั้งที่เธอมักจมอยู่กับตัวเอง อยู่ในห้วงความคิด เธอยังคิดถึงเขาเสมอ ถึงแม้เวลาจะผ่านมาสามปีแล้วก็ตาม เธอตัดการติดต่อกับภพธรทุกทาง เขาโทรมาเธอก็ไม่รับ บล็อกเฟซฯ  บล็อกไลน์ หลบหลีกทุกทาง เก็บตัวอยู่เงียบ ๆ ทำงานประจำ หลังจากที่เรียนจบปริญญาตรี แล้วมีแผนจะไปเรียนต่อปริญญาโทกับภพธร แต่เมื่อเธอรู้ตัวว่าตั้งท้อง ทุกอย่างก็ผิดแผนไปหมด เธอหลอกให้ภพธรเดินทางล่วงหน้าไปก่อน โดยอ้างว่าจะเคลียร์อะไรที่ค้างคาอีกหน่อยแล้วจะตามไป แต่เมื่อเขาไปแล้ว เธอก็เลิกติดต่อกับเขาทันที ใช้ชีวิตเงียบ ๆ กับครอบครัว หางานประจำทำ จนกระทั่งให้กำเนิดลูกน้อย และเลี้ยงมาจนจะครบสามขวบในอีกไม่กี่เดือน เธอไม่เดือดร้อน เพราะมีพ่อแม่คอยช่วยเหลือ และที่ดีที่สุดคือพ่อแม่ไม่เคยถามเธอถึงพ่อของมดยิ้มเลยสักครั้ง เมื่อลูกไม่เล่าท่านก็ไม่ถาม เพราะคิดว่าลูกโตแล้ว ภพธรก็หายออกไปจากชีวิตเธอเลย เขาคงติดต่อเธอไม่ได้ แล้วคงเลิกที่จะตามเธอ เพื่อน ๆ รุ่นเดียวกันบอกว่าเขาจบโทแล้วต่อ ดร.ทันที และคงมีโครงการจะตั้งหลักอยู่ที่นั่นเลย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับมินรญา เพราะเธอก็ไม่อยากเจอเขา "มีน งานยุ่งเหรอ ช่วงนี้กลับบ้านดึกเกือบทุกวัน” คุณญดาถามเมื่อมินรญาเดินลงมาจากชั้นบนด้วยสีหน้าอิดโรย             "นิดหน่อยค่ะแม่ช่วงนี้งานเร่ง หัวหน้าทีมวิศวกรคนใหม่เขาสั่งมาน่ะค่ะ ก่อสร้างอาคารเสร็จเมื่อไร ทีมตกแต่งภายในก็ต้องพร้อมลงหน้างานเลย” มินรญาบอกมารดาถึงสาเหตุที่กลับดึก             "เขาเปลี่ยนทีมวิศวกรใหม่น่ะค่ะ"             "เหรอ” คุณญดาพยักหน้าตามไปอย่างนั้น เธอไม่ค่อยเข้าใจงานของลูกสาวสักเท่าไร รู้ว่าลูกทำงานออกแบบภายในขีด ๆ เขียนก็แค่นั้น เพราะงานของเธอคือเป็นแม่บ้าน อยู่บ้านทำงานบ้านเลี้ยงลูก เมื่อมีหลานก็เลี้ยงหลาน สามีเธอเป็นข้าราชการ จึงไม่ขัดสนอะไร             "เหนื่อยก็พักบ้างนะกลับบ้านดึก ๆ สงสารมดยิ้มมันน่ะ มืดมาก็ร้องหา มิม มิม ทุกวัน"             "ช่วงนี้เร่งน่ะค่ะ ถ้าทางเจ้าของโครงการเขาพอใจกับแบบที่เสนอไป ก็โอเคค่ะคงได้พัก รออาคารเสร็จค่อยลงมือ" มินรญาคุยกับมารดาไปเรื่อย ๆ เธอก็สงสารลูกกลับบ้านมาทีไรลูกก็หลับแล้วทุกครั้ง             "มดยิ้ม อ้อนมากเหรอคะแม่"             "ไม่เท่าไรหรอก จะร้องเอามือถือตามาดูการ์ตูนน่ะ เด็กสมัยนี้รู้เร็ว ตาให้ดูแค่ครั้งสองครั้งจำได้ด้วย ฉลาดจริง ๆ”             "นี่พ่อหัดให้มดยิ้ม ดูมือถือแล้วเหรอคะ"             "ก็เป็นช่วงที่ร้องหามีนนั่นแหละ"             "เสียสายตาแย่เลยค่ะแม่"             "นิดหน่อยน่า แม่พานอนเล่านิทานก็หลับแล้ว” คุณญดาบ่ายเบี่ยงเมื่อถูกถามเรื่องมือถือเพราะมินรญาไม่ค่อยชอบให้มดยิ้มดูการ์ตูนจากโทรศัพท์มือถือสักเท่าไร             "ออ แม่ว่าจะบอกลืมเลย"             "อะไรคะ"             "วันเกิดมดยิ้มปีนี้ลางานด้วยนะ แม่ว่าจะเลี้ยงพระตอนเช้า"             "เลี้ยงที่บ้านเหรอคะ"             "ทำอาหารไปวัดดีกว่าสะดวกดีกว่าทำที่บ้าน แม่คนเดียวคงไม่ไหวมดยิ้มกำลังซนด้วย ไปวัดง่ายกว่า"             "ค่ะมีนจะได้ยื่นใบลาล่วงหน้า” มินรญาบอก บ้านเธอมักให้ความสำคัญกับวันเกิดคนในครอบครัวเสมอ แม่จะทำบุญบ้านทุกครั้งเมื่อถึงวันเกิดของเธอ ตอนนี้ก็มาให้ความสำคัญกับวันเกิดหลาน จนเธอไม่รู้สึกว่ามดยิ้มขาดอะไร เพราะที่บ้านเธออบอุ่นจนแทบร้อน มินรญาอมยิ้ม เมื่อเห็นมารดากำลังล้างขวดนมให้ลูกสาวเธอ             "เอาวางไว้นั่นแหละแม่ เดี๋ยวมีนทำเอง"             "ไม่เป็นไรแค่นิดเดียว มีนข้าวเหนียวมะม่วงในตู้นะลูก แม่ทำเมื่อเช้ามืด คิดถึงเต้ยนะรายนั้นชอบจริง ๆ เลยมีเท่าไรก็ไม่เคยพอ"           เคร้ง! เสียงช้อนล่วงกระทบพื้นโต๊ะ             "อะไรหล่นน่ะ มีน"             "เปล่าค่ะแม่" มินรญารีบตอบ คำว่าข้าวเหนียวมะม่วงกับเต้ย กระทบใจอย่างแรง นี่เธอจะคิดถึงเขาบ่อยเกินไปแล้ว ยิ่งเข้าหน้าร้อนยิ่งคิดถึง เพราะเป็นเดือนที่แม่ชอบทำข้าวเหนียวมะม่วง และก็เป็นเดือนเกิดของใครบางคน คนที่แม่ชอบพูดถึงเสมอ  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม