ภาวินยังไม่ทันได้รับคำตอบ ก็มีชายวัยกลางคนอายุกลางสี่สิบคนหนึ่งเดินเข้ามาหาสองแม่ลูก จากนั้นก็ขอคุยกับซินดี้เป็นการส่วนตัว
หญิงสาวไม่รู้จะไหว้วานใครให้ช่วยดูแลลูกสาวจึงกัดฟันหันไปขอร้องชายหนุ่มตรงหน้า ถึงแม้เธอไม่ค่อยอยากให้เด็กน้อยอยู่ใกล้เขาเท่าไรนัก แต่ตอนนี้คงไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
“ฉันขอฝากลูกไว้สักแป๊บนะคะคุณวิน”
“ได้สิ ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะดูแลน้องมาดี้ให้เป็นอย่างดี”
“ขอบคุณค่ะ น้องมาดี้ขา”
“ขามัมขา” เด็กอยากกินไอศกรีมตอบรับเสียงหวานใสทำให้ภาวินยิ่งเอ็นดูเข้าไปอีก ถ้าเขาถูกอ้อนด้วยน้ำเสียงแบบนี้ ไม่ว่ายัยหนูอยากได้อะไรเขาก็ยินดีจะหามาให้
“หนูอยู่กับคุณลุงแป๊บหนึ่งนะคะ มัมขอไปคุยธุระก่อน”
“ได้เยยค่ามัมขา น้องมาดี้จะไม่ดื้อ ไม่ชน ยับยองได้”
“กูดเกิร์ลมากค่ะลูกสาวคนสวยของมัมขา”
หญิงสาวยีผมลูกน้อยด้วยความมันเขี้ยว ก่อนจะเดินตามหลังผู้ชายที่มีอาชีพเป็นทนายความไป แล้วปล่อยให้ภาวินเป็นคนดูแลเด็กแก้มป่องชั่วคราว เมื่อคุณแม่ไม่อยู่ชายหนุ่มจึงชวนแม่หนูน้อยไปนั่งบนโซฟาตรงล็อบบีของโรงแรม
“อร่อยไหมครับน้องมาดี้” คุณลุงตั้งคำถามหลังจากเห็นเด็กน้อยตรงหน้าตักไอศกรีมเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย
ไอศกรีมกับเด็กเป็นของคู่กันจริงๆ เพราะสองพี่น้องมีพร้อมสุขกับมาพร้อมรักก็ชอบเหมือนกัน รวมถึงเพื่อนสนิทของพี่สุขอย่างเด็กชายวิคเตอร์ก็ชื่นชอบไม่ต่างกัน
“อาหย่อยมากค่าคุนยุง” เด็กฉลาดเงยหน้ามาตอบ ถึงเจ้าตัวยังพูดไม่ค่อยชัดแต่ความฉลาดไม่เป็นสองรองใคร แววตาของแม่หนูน้อยตรงหน้าทำให้ภาวินยิ่งคิดเข้าข้างตัวเอง
เด็กคนนี้อาจจะเป็นทายาทของเขาที่ติดท้องเธอไป ก่อนที่เธอจะไปแต่งงานกับผู้ชายคนนั้น ถ้าไม่ใช่แล้วทำไมยัยหนูถึงได้มีหน้าตาคล้ายเขาขนาดนี้
“หนูไม่มีแดดดี้จริงๆ เหรอครับ” ถามเพื่อความแน่ใจ ถ้ายัยหนูแก้มยุ้ยบอกว่าไม่มีเขาก็จะเชื่อ เด็กน้อยยังไม่ได้ให้คำตอบในทันทีเพราะกำลังให้ความสนใจไอศกรีมแสนอร่อยตรงหน้า
“ว่ายังไงครับ หนูไม่มีแดดดี้ใช่ไหม”
“ไม่มีค่าคุนยุงฉุดหย่อ”
ปากหวานเหมือนแม่ไม่มีผิด ภาวินขำกับความคิดของตัวเองก่อนจะหยิบกระดาษทิชชู แล้วยื่นไปเช็ดปากให้เด็กน้อยอย่างเบามือ เขาค่อนข้างทึ่งมากที่น้องมาดี้ไม่มีแววว่าจะกลัวคนแปลกหน้า ทั้งที่เพิ่งรู้จักกัน
หรือนี่จะเป็นสายใยพ่อลูกถึงทำให้น้องมาดี้ไม่กลัวเขา
ชายหนุ่มแอบคิดเข้าข้างตัวเอง ขณะเช็ดปากคนสวยที่กินของหวานในถ้วยจนเลอะ ไม่ห่วงชุด ไม่ห่วงลิปสติก เอาแต่ตักกินไม่หยุด ขาที่กำลังห้อยแกว่งดุกดิกไปมาบ่งบอกถึงความถูกใจ
“อร่อยไหมครับคนสวย”
“อาหย่อยค่า น้องมาดี้ช้อบชอบ”
“แต่กินเยอะไม่ได้ครับ เดี๋ยวจะปวดท้อง”
“ได้ค่าคุนยุง น้องมาดี้แข็งแยงมากเยย ชื่นจาย”
“น้องมาดี้แข็งแรงจริงเหรอครับ”
“จิงๆ ค่าคุนยุง”
มุมปากคนที่แอบเข้าข้างตัวเองว่าเป็นบิดาของยัยหนูยกยิ้มขึ้นมาอย่างถูกใจ เด็กน้อยตรงหน้าดื้อและแสบเหมือนแม่ของเจ้าตัวไม่ผิด ชายหนุ่มลืมงานแต่งของเลขาไปเสียสนิท กระทั่งเห็นแขกในงานทยอยเดินออกมาจึงนึกขึ้นมาได้ เขากำลังจะกดโทรศัพท์แต่เห็นอัครเดชเดินมาทางนี้พอดี
คุณเลขารีบสาวเท้าเดินตรงมาทางเจ้านายอย่างรวดเร็ว หลังจากเห็นภาวินนั่งอยู่บนเก้าอี้ โดยมีเด็กน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มนั่งอยู่ด้วย ตอนแรกเขาคิดว่าเจ้านายแอบหนีกลับก่อนแต่ที่ไหนได้มาเลี้ยงเด็กอยู่ตรงนี้นี่เอง ว่าแต่เด็กคนนี้ลูกใคร?
“คุณวินมาอยู่ตรงนี้เองผมนึกว่ากลับไปแล้วเสียอีก” ปากพูดกับภาวิน แต่สายตากลับจับจ้องยังคนที่กำลังกินไอศกรีมจนเลอะไปหมดอย่างสงสัย หากเขาไม่รู้มาก่อนว่าเจ้านายยังโสดต้องคิดว่าสองคนนี้เป็นพ่อลูกกันแน่ๆ เพราะหน้าตาพิมพ์เดียวกันเป๊ะ
“ผมลืม พอดีเดินชนเด็กน่ะก็เลยมาซื้อไอติมปลอบใจ”
“เด็กคนนี้เหรอครับ นี่ถ้าไม่รู้จักคุณวินผมคงนึกว่าลูกสาว”
“คุณเดชคิดว่าน้องหน้าตาเหมือนผมใช่ไหม”
“เหมือนมากครับ ยกเว้นปาก อย่างอื่นคือใช่เลย”
“คุณเดชลองดูให้ชัดๆ ดูให้ดีว่าเหมือนขนาดไหน”
“เหมือนอย่างกับแกะ อย่าบอกนะครับว่ามีสาวคนไหนที่คุณวิน...เอ่อแล้วเผลอท้อง” อาจจะเป็นไปได้ ไม่อย่างนั้นแม่หนูน้อยคนนี้จะมีหน้าตาเหมือนเจ้านายเขาขนาดนี้เหรอ
คุณเลขาเพ่งมองอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็คือภาวินใส่วิกผมยาวในร่างเด็ก เจ้านายของเขายิ่งเป็นพวกเสือซุ่มกินเงียบอาจจะพลาดทำผู้หญิงท้องก็เป็นได้
คำตอบของคุณเลขายิ่งสร้างความมั่นใจให้ชายหนุ่ม กับผู้หญิงคนอื่นเขาไม่มีทางพลาดแน่นอน เพราะป้องกันอย่างดีแต่กับแม่ของน้องมาดี้อาจจะเป็นไปได้ เนื่องจากวันนั้นสดไม่ใส่ถุง
“ไม่รู้เหมือนกันต้องเค้นถามแม่ของเด็ก”
“แล้วแม่ของเด็กคือใครครับ”
“น้องมาดี้ขา แม่ของหนูชื่ออะไร ลุงหมายถึงมัมขาน่ะ”
“มัมขาชื่อชินดี้ค่าคุนยุง”
เด็กกินไอศกรีมจนปากเลอะเงยหน้าตอบพร้อมส่งยิ้มหวาน รอยยิ้มพิมพ์เดียวกับมารดานี้ทำให้คุณเลขาถึงกับช็อก ไม่อยากจะเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อ
ภาวินมีลูกกับซินดี้! เป็นไปได้ยังไง สองคนนี้ไปเล่นผีผ้าห่มกันตอนไหน ทำไมเขาไม่รู้ล่ะ
“อย่าบอกนะครับว่าแม่ของหนูน้อยคนนี้คือคุณซินดี้”
“ครับ เธอนั่นแหละคือแม่ของน้องมาดี้ และเด็กคนนี้น่าจะเป็นลูกสาวผม”
คุณพระคุณเจ้ามันเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย อัครเดชยิ้มแห้งก่อนจะถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้งว่าเป็นเธอจริงเหรอ เจ้านายไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม ภาวินจึงชี้ไปยังจุดที่ซินดี้นั่งคุยกับผู้ชายคนหนึ่งด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“คุณเดชว่าผมตาฝาดไหมล่ะครับ นั่นไงซินดี้”
“คุณซินดี้จริงด้วย คุณวินแน่ใจเหรอครับว่าน้องมาดี้คือลูกสาวของคุณก็ในเมื่อเธอแต่งงานแล้ว”
“คุณเดชบอกเองนี่ครับ น้องมาดี้หน้าตาเหมือนผม ถ้าไม่ใช่ลูกผมแล้วจะเป็นลูกใคร”
“คุนยุงขา ขอกินอีกได้มั้ยค่า น้องมาดี้หยักกินอีก”
สองลุงคุยกันไม่ทันได้ดูว่าเด็กน้อยกินไอศกรีมจนหมดแล้ว หันมาอีกครั้งก็เจอกับสายตาอ้อนวอน ยัยหนูก็ช่างรู้งาน รีบเดินไปนั่งบนตักคุณลุงจากนั้นก็ยกมือขึ้นไปกุมแก้มสาก
“คุนยุงขา ขออีกกินอีกน้า ไอติมอาหย่อยๆ”
คุณลุงสุดหล่อใจเหลวเป็นน้ำ แค่ยัยหนูบอกด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนลุงก็พร้อมตามใจ มาอ้อนกันแบบนี้แล้วลุงจะตอบว่าไม่ได้ได้เหรอ แต่ภาวินต้องบอกเองว่าห้ามสั่งเด็ดขาด เด็กกินของเย็นเยอะไม่ได้ ที่เขารู้เพราะชอบขลุกอยู่กับลูกๆ ของผู้หญิงที่เคยแอบชอบ แต่ตอนนี้ไม่ได้ชอบแล้ว
“คุนยุงขา พลีสสส” ลุงไม่ยอมก็ต้องอ้อนวอนอีก คำว่าพลีสที่ออกเสียงไม่ค่อยชัดกำลังสั่นคลอนความตั้งใจของคุณลุง
“เอาไงดีคุณเดช” ภาวินเงยหน้ามองเลขาด้วยความลำบากใจ คุณเลขาเองก็เป็นคนแพ้เด็กจึงขอตัวกลับก่อน ส่วนเรื่องนี้ขอให้เจ้านายเป็นคนตัดสินใจเองจะดีกว่า
ชายหนุ่มมองแผ่นหลังของคุณเลขาที่กำลังห่างออกไป สลับกับดวงตากลมโตสุกใสของคนบนตัก เด็กหญิงมาดีมีรักสัมผัสได้ถึงความใจดีของคุณลุงจึงยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บแก้ม ก่อนจะเอ่ยอ้อนวอนอีกครั้ง
“เอาฉะตอเบอยี่ค่าคุนยุงขา”
“แต่ลุงว่าอย่ากินเลยครับ กินเยอะๆ ไม่ดี”
“ดีค่าคุนยุงขา พลีส นะค้าคุนยุง พลีสสส”