EP.04 - ฝากฝัง

1208 คำ
“ทำไมถึงเข้ามาจอดในบ้านพี่ล่ะ” ฉันถามเมื่อก้าวลงจากรถเรียบร้อยแล้ว มองไปทางรั้วบ้านตัวเองซึ่งอยู่ติดกันกับบ้านเก้าทัพ คนถูกถามปิดประตูรถเดินผ่านหน้าฉันไปโดยไม่ตอบอะไร ฉันอ้าปากจะตะโกนเรียกแต่เปลี่ยนใจเดินตามเขาแทน บ้านหลังใหญ่แห่งนี้ฉันคุ้นเคยเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าเข้าออกบ่อยเสียจนจะเป็นบ้านตัวเองอยู่แล้ว เดินเข้ามาถึงโถงกลางบ้าน ร่างบางคุ้นตาเดินสวนออกมาพอดี “อ้าว มาแล้วเหรอน้องจา อาหารเย็นจัดเสร็จพอดีเลย” “สวัสดีค่ะป้าขิม” ฉันยกมือไหว้ป้าสายขิม แม่ของเก้าทัพด้วยความนอบน้อม ท่านเป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่ยังคงหน้าเด็กราวกับอายุสามสิบต้น ๆ ใบหน้าสวยยิ้มใจดีตอบกลับ เดินเข้ามาจับแขนฉันเบา ๆ “ป้าจัดห้องไว้ให้แล้วนะ ห้องเดิมของหนูแหละลูก” ฉันขมวดคิ้ว มองป้าสายขิมด้วยความงุนงง ก่อนมองไปทางเก้าทัพซึ่งยืนทำหน้านิ่ง ๆ อยู่ด้านหลังแม่ตัวเอง “จัดห้องไว้ให้จาเหรอคะ? หรือว่า… พ่อกับแม่ไม่อยู่อีกแล้วเหรอคะ” นี่คือความเป็นไปได้อย่างเดียวที่ทำให้ฉันต้องนอนค้างบ้านของเก้าทัพ ปกติแล้วไม่ได้เป็นแบบนี้บ่อย ๆ แต่ถ้านับดี ๆ ก็ตกเดือนละครั้งเห็นจะได้ เพราะพ่อกับแม่ของฉันมักไปทำธุระเกี่ยวกับธุรกิจที่เมืองนอกเดือนละครั้ง และทุกครั้งที่ท่านบินไป ท่านมักจะพาฉันมาฝากไว้ที่บ้านเก้าทัพเสมอ เหมือนเช่นวันนี้… “ใช่จ้ะ น้องจาไม่รู้เหรอ ป้าก็นึกว่าเพียวโทรบอกแล้วซะอีก” จริง ๆ มีสายของแม่โทรเข้ามาเหมือนกัน แต่ฉันไม่ได้รับเพราะมัวแต่ยุ่ง ๆ อยู่ แม่คงจะโทรมาบอกฉันเรื่องนี้สินะ “มายืนทำอะไรกันตรงนี้ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าขิม” เสียงทุ้มต่ำดังมาจากประตูทางเข้าบ้าน ลุงเสือพยัคฆ์ ประมุขของบ้านเดินเข้ามาด้วยท่าทางภูมิฐาน ชายวัยสี่สิบกว่า ๆ ที่ยังหล่อสมาร์ทอย่างร้ายกาจ สมกับพ่อลูกกันจริง ๆ ช่างเป็นผู้ชายที่มีหน้าตาเป็นอันตรายต่อสาว ๆ เสียจริง “กลับมาแล้วเหรอ” ป้าสายขิมหันไปยิ้มให้สามี ลุงเสือพยัคฆ์เดินมาหยุดยืนข้างภรรยาพลางโอบไหล่เธอเบา ๆ “ก็เพียวน่ะสิ สงสัยจะยังไม่ได้ยัยหนูว่าตัวเองกับเช่จะบิน ยัยหนูก็เลยไม่รู้ว่าสองสามวันนี้ต้องค้างบ้านเราน่ะ” “ไอ้แก่นั่นเอาอีกแล้วเหรอ ไปไหนมาไหนไม่ชอบบอกลูกบอกเต้า น่ายึดลูกมันมาเลี้ยงเองจริง ๆ” ลุงเสือเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ท่านเป็นไม้เบื่อไม้เมากับพ่อฉันน่ะ ฉันเห็นแบบนี้จนชินตาแล้ว “แม่โทรหาจาแล้วค่ะ แต่จาไม่ว่างรับสาย เอ่อ… ถ้างั้นจาขอตัวโทรหาแม่สักครู่นะคะ” ฉันตัดบทก่อนจะปลีกตัวออกมาจากตรงนั้น ฉันยอมรับว่าลุงเสือกับป้าขิมใจดีกับฉันมาก ๆ พวกท่านเอ็นดูฉันเหมือนลูกสาวมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ซึ่งฉันก็รักและเคารพพวกท่านทั้งคู่มาก ๆ แต่ว่า… ฉันไม่เคยอยากจะค้างบ้านนี้เลยสักครั้ง เพราะอะไรน่ะเหรอ… เพราะผู้ชายที่ยืนทำหน้าเรียบนิ่งอยู่ตรงนั้นนั่นไงล่ะ! . [ฮัลโหล ว่าไงจ๊ะลูกรัก] “แม่… ทำไมมาฝากจาไว้กับป้าขิมอีกแล้วล่ะคะ?” ฉันลากเสียงเรียกแม่ด้วยความเหนื่อยใจ ปลายสายไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวอะไรกับฉันเลยนะเนี่ย ป่านนี้คงกำลังสนุกกับการเดตกันสองต่อสองกับพ่ออยู่ล่ะสิ [อ้าว ทำไมล่ะ ปกติลูกก็อยู่กับบ้านนั้นทุกทีนี่นา] “แต่จาโตแล้วไงคะ จาก็คุยกับแม่ไว้แล้วไม่ใช่เหรอคะว่าถ้าแม่กับพ่อจะบินไปเมืองนอกอีกก็ไปกันได้เลยไม่ต้องห่วงจา จาอยู่บ้านคนเดียวได้ไงคะ” ฉันนั่งลงบนโต๊ะหินอ่อนภายในสวนหน้าบ้าน รู้สึกปวดหัวขึ้นมาตงิด ๆ นี่ฉันต้องมาค้างบ้านหลังนี้ตั้งสองสามวันเลยเหรอ… [ตายจริง แม่ลืมไปเลย] ฉันกลอกตาใส่ปลายสาย น้ำเสียงแม่ฉันไม่มีความจริงใจเลยสักนิด ท่านไม่ได้ลืม แต่ท่านไม่ได้จำเลยต่างหากล่ะ “แม่…” ฉันล่ะอ่อนใจจริง ๆ [เอาน่า ๆ แค่สามวันเองนะจา แม่ฝากฝังกับขิมไว้แล้ว จะไปกลับคำตอนนี้ได้ยังไงกันล่ะ ลูกก็อยู่กับป้าเขาไปก่อนนะ ไว้ครั้งหน้าแม่จะให้ลูกอยู่บ้านคนเดียว นะลูกนะ] “เฮ้อ… ก็คงต้องแบบนั้นแหละค่ะ” ฉันถอนใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “แต่แม่รับปากจาแล้วนะคะว่าครั้งหน้าจะให้จาอยู่บ้านคนเดียว ไม่งั้นจาจะย้ายออกไปอยู่หอจริง ๆ ด้วย” ฉันไม่ได้ขู่นะ แต่ฉันคิดมาสักพักแล้วว่าอยากจะแยกตัวออกไปอยู่คนเดียว เคยคุยกับพ่อแม่เรื่องนี้ไว้บ้างแล้วเมื่อตอนก่อนขึ้นมหาวิทยาลัย ซึ่งตอนนั้นท่านไม่เห็นด้วย บอกว่าฉันยังเด็กอยู่ ท่านเป็นห่วง แต่ตอนนี้ฉันอายุยี่สิบแล้ว ฉันคิดว่ามันถึงเวลาแล้วล่ะ [จ้ะ ๆ แม่เข้าใจแล้ว ถ้างั้นแค่นี้ก่อนนะลูก พ่อเขาแต่งตัวเสร็จแล้ว ลูกดูแลตัวเองดี ๆ นะจ๊ะ แม่รักลูกนะ] สายถูกตัดไปอย่างรวดเร็วทันใจ ฉันดึงโทรศัพท์ออกมาดูหน้าจอ ถอนใจหนึ่งทีแล้วเก็บมันใส่กระเป๋า ลุกขึ้นเตรียมจะเดินกลับเข้าบ้านก็ต้องชะงักเมื่อเจอกับร่างสูงของใครคนหนึ่งกำลังยืนกอดอกอยู่ไม่ไกล ในมือเขาคีบมวนบุหรี่ที่สูบไปเกือบจะครึ่งมวนแล้ว แสดงว่ามายืนตรงนั้นได้สักพักหนึ่งแล้วสินะ… ฉันเมินใส่เก้าทัพแล้วเดินผ่านเขามา ทว่ายังไม่ทันจะพ้นร่างสูง ต้นแขนถูกจับเอาไว้ ฉันหันมองเจ้าของฝ่ามือหนาด้วยแววตานิ่งเฉย เลิกคิ้วนิด ๆ เป็นเชิงถามว่าเขาต้องการอะไร “ไม่อยากค้างบ้านฉันหรือไง?” คำถามตรงประเด็นของเขาทำฉันมั่นใจว่าเมื่อครู่เก้าทัพแอบฟังฉันคุยสายกับแม่แน่นอน ทำไมเป็นคนนิสัยเสียได้ขนาดนี้กันนะ! “ใช่ ก็อย่างที่พี่ได้ยินนั่นแหละ จาไม่อยากค้างบ้านพี่…” ฉันพูดยังไม่ทันจบ แรงบีบที่แขนเพิ่มขึ้นพร้อมกับน้ำเสียงติดคุกรุ่นสวนขึ้นมา “ทำไม? กลัวฉันจะทำอะไรเธออีก?” ฉันสะอึกกับคำว่า ‘อีก’ ของเก้าทัพ เพราะมันทำให้ฉันนึกถึง… ‘ความลับที่ไม่อยากให้ใครรู้…’ ………………….. ฝากกดถูกใจ+คอมเม้นท์พูดคุยกับไรท์ได้น้าา ไรท์ไม่ดื้อค่าา ><
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม