EP.19 – หงุดหงิด

902 คำ
ช่วงเย็นฉันมีซ้อมละครเวทีเช่นเดิม ตลอดเวลาการซ้อมฉันมัวแต่ตั้งใจจนไม่ทันสังเกตคนดูเบื้องล่าง กระทั่งถึงช่วงพักเบรก ทุกคนแยกย้ายกันไปพัก เสียงซุบซิบจากเพื่อนร่วมแสดงเรียกความสนใจจากฉัน “ใช่เหรอ… เขามาทำอะไรที่นี่อ่ะ” “นั่นสิ ๆ เขาอยู่เอกดนตรีสากลนี่นา โอ๊ย… หล่อราวเทพบุตรเลยแม่!” “มีอะไรกันเหรอ” ฉันอดไม่ได้ที่จะหันไปถาม ตอนนี้พวกเรานั่งอยู่บนพื้นเวที แสงไฟจากเวทีส่องแยงตามากจึงมองไปทางเก้าอี้คนดูเบื้องล่างไม่ค่อยชัด แต่เห็นพวกเธอกำลังมองไปทางนั้นแล้วซุบซิบกัน “อ้อ เหมือนพวกเราจะเห็นเอสเอกดนตรีสากลน่ะสิ” “เอสเอกดนตรีสากล?” ฉันทวนคำ “อื้อ! คนที่หล่อ ๆ ร้องเพลงเพราะ ๆ ไง ปีที่แล้วเขาได้ขึ้นแสดงในงานคณะเราด้วย ปีนี้ก็คงได้ขึ้นเหมือนกัน” ฉันเปิดฝาขวดน้ำขึ้นดื่มขณะฟังสองสาวเม้าส์อย่างออกรส ปกติฉันไม่ค่อยตามข่าวคราวในมหาวิทยาลัยสักเท่าไหร่จึงไม่ค่อยรู้จักใครมากนัก “รู้สึกจะชื่อว่าอะไรนะ อืม… อ้อ! พี่ไวน์!” “แค่ก ๆ ๆ !” ฉันสำลักน้ำแทบจะทันที เมื่อครู่ฉันไม่ได้หูฝาดใช่ไหม? “เอ้า เป็นอะไรหรือเปล่าจา” วายุที่เพิ่งนั่งลงข้างฉันรีบลูบหลังให้ ฉันส่ายหน้าพลางรับกระดาษทิชชูมาเช็ดปาก สายตามองย้อนแสงสปอตไลต์ลงไปทางที่นั่งคนดูเบื้องล่าง และนั่น… ฉันเห็นพี่ไวน์นั่งอยู่ตรงนั้นจริง ๆ ด้วย! เขาส่งยิ้มให้ฉัน แถมยังโบกมือทักทาย ทุกคนที่นั่งอยู่บนนี้พากันมองเขาสลับกับฉัน “เดี๋ยวจามานะ” ฉันลุกขึ้นเดินไปทางหลังเวทีเพื่อลงไปหาพี่ไวน์ เขาเองก็ลุกมายืนรอฉันราวกับรู้ตัวงั้นแหละ “พี่ไวน์มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ?” ฉันถามอย่างไม่อ้อมค้อม “พอดีพี่มีซ้อมขึ้นแสดงแถวนี้ก็เลยแวะมานั่งเล่นที่นี่ระหว่างพักซ้อมน่ะ” เขายิ้มตอบ ฉันจ้องมองเขานิ่ง ๆ ไม่พูดอะไรต่อ พี่ไวน์เม้มปากยิ้ม ยกมือขึ้นยอมแพ้ “โอเค พี่ยอมรับก็ได้ว่าจริง ๆ แล้วพี่ตั้งใจมาหาจา” “มาหาจาเหรอคะ?” ฉันขมวดคิ้ว “มีอะไรหรือเปล่าคะ” “ก็… ไม่มีอะไรมากหรอก” เขาตอบอึกอัก เสสายตาไปทางอื่นคล้ายกำลังประมวลความคิด ท่าทางเขาแปลกไปจากเมื่อคืนเล็กน้อย แต่ยังคงรอยยิ้มใจดีและแววตาอบอุ่นเช่นเดิม “พี่แค่อยากมาดูจาซ้อมน่ะ” ฉันนิ่งงัน ฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมพี่ไวน์ถึงอยากมาดูฉันซ้อมละคร หรือว่าเขาชอบบทละครเรื่องนี้นะ “เอ่อ… ถ้างั้นก็ตามสบายเลยค่ะ จาขอตัวกลับไปซ้อมต่อนะคะ” ฉันขยับยิ้มตอบ ปลายสายตาเห็นร่างสูงของใครคนหนึ่งลุกขึ้นจากที่นั่งปลายแถวใกล้ประตูทางออก ฉันจึงหันไปมองเต็มสายตา เห็นเพียงแผ่นหลังของร่างสูงสวมฮู้ดคลุมศีรษะกำลังเดินออกไป คิ้วขมวดน้อย ๆ ความรู้สึกคุ้นเคยบางอย่างแล่นวาบเข้ามา “มีอะไรหรือเปล่า ใครเหรอ” พี่ไวน์มองตามสายตาฉัน ฉันดึงสายตากลับมา ส่ายหน้าตอบ “ไม่มีอะไรค่ะ แค่รู้สึกคุ้น ๆ นิดหน่อย ถ้างั้นจาขอตัวก่อนนะคะ” “โอเค พี่ก็จะไปซ้อมต่อแล้วเหมือนกัน งั้นไว้เจอกันใหม่นะ” พี่ไวน์ก้มหน้ามาใกล้ วางมือลงบนศีรษะฉันเบา ๆ พลางยิ้มเอ็นดู “จาก็สู้ ๆ นะ” “ขอบคุณค่ะ พี่ไวน์ก็ด้วยนะคะ” “แน่นอน” เขายิ้มกว้างให้ฉันอีกแล้ว ผู้ชายคนนี้ขยันยิ้มจังเลย รอบตัวเขาดูสดใสและอบอุ่นอยู่เสมอ แตกต่างจากใครอีกคน… ผู้ชายคนนั้นนอกจากจะยิ้มยาก หน้าตาย ยังชอบแผ่รังสีเย็นยะเยือกออกมาตลอดเวลาอีกต่างหาก บ้าจริง… แล้วฉันจะไปคิดถึงเขาทำไมล่ะเนี่ย . . . ตัดมาทางด้านร่างสูงที่เพิ่งเดินออกมาจากโรงละครด้วยอาการหัวเสียนิด ๆ เขาปัดฮู้ดบนศีรษะออกเผยให้เห็นเรือนผมสีเทาควันบุหรี่ที่มัดรวบไว้ด้านข้างหลวม ๆ มือหนาหยิบมวนบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ ยืนพิงผนังตึกด้วยท่าทางอารมณ์ไม่ดี ยิ่งคิดถึงใบหน้าสวยที่กำลังยิ้มหวานเมื่อครู่ ความหงุดหงิดยิ่งทวีคูณขึ้นมา “เฮอะ! อยากได้อิสระ อยากไปจากฉัน หรืออยากอ่อยผู้ชายกันแน่วะ!” เขาบ่นงึมงำขณะริมฝีปากยังคาบบุหรี่อยู่ ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นร่างสูงของใครคนหนึ่งเดินออกมาจากโรงละคร ริมฝีปากหนาแสยะยิ้ม มองตามชายคนนั้นไปจนลับสายตา เขารู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร เพราะแบบนั้นถึงได้หงุดหงิด “เปิดช่องโหว่ไว้แค่แป๊บเดียวก็มีหนูสกปรกน่ารำคาญมายุ่งแล้ว ฮึ!” มวนบุหรี่ถูกทิ้งลงพื้น ปลายรองเท้าหนาบดขยี้แรง ๆ สองสามทีก่อนเงยหน้ามองไปทางโรงละคร “คิดจะไปจากฉันงั้นเหรอ… ฮึ… อย่าฝัน!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม