แสงแดดยามสายส่องลอดผ้าม่านผืนบางเข้ามากระทบเปลือกตาที่ยังหนังอึ้งของคนตัวบาง ความปวดเมื่อยและอุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้นเข้าเล่นงานจนแทบลืมตาไม่ขึ้น
ใช้เวลาอยู่นานกว่าเปลือกตาที่ปิดสนิทจะปรือขึ้นกะพริบถี่ ก่อนจะเบิกโพลงเมื่อพบว่าสิ่งที่เธอนอนหนุนต่างหมอนมาทั้งคืนคือหน้าอกหนั่นแน่นของเพื่อนสนิท
ขวัญข้าวรู้สึกคอแห้งผากจนต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ตั้งใจจะขยับตัวหนีให้เงียบเชียบที่สุดแต่กลับต้องสะดุ้งโหยงเมื่ออยู่ ๆ เจ้าของอกแกร่งที่คิดว่ายังไม่ตื่นดันพูดออกมา
“ตื่นแล้วเหรอ”
ความตกใจทำเธอเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างอัตโนมัติโดยไม่ผ่านสมอง ดวงตากลมโตเบิกโพลงของเพื่อนสนิทผู้หญิงเพียงคนเดียวในชีวิตของเขาทำคนตัวโตเลิกคิ้ว
“เป็นอะไร”
“แก เอ่อ นาย คือ...”
“โดนกระแทกจนเพี้ยนไปแล้วหรือไงยัยข้าวสาร เคยเรียกแบบไหนก็เรียกแบบนั้นสิ มานงมานายอะไร ไม่กระดากปากหรือไง”
“อือ”
เธอรับคำแล้วลุกขึ้นนั่งคว้าผ้าห่มปิดบังอกอวบ เขาจึงลุกขึ้นนั่งตาม มองสีหน้ากระอักกระอ่วนพร้อมผมเผ้ายุ่งเหยิงดูน่ารักแล้วใจสั่น ยื่นมือไปปัดผมที่ปิดบังซอกคอขาวผ่องก็เห็นร่องรอยจ้ำแดงที่เขาฝากเอาไว้
“แดงจริงด้วย ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
“ก็แกกัดมาได้ ไอ้บ้า”
“ฉันไม่ได้กัด เขาเรียกดูด เรื่องแค่นี้ก็ยังไม่รู้ ถึงว่าโดนไอ้ชั่วนั่นหลอกเอามาเป็นของเดิมพัน”
“เหอะ ฉันมันโง่เองที่รักและเชื่อใจไอ้ชั่วนั่น แต่แกก็ชั่วไม่ต่างกันหรอก ขนาดเพื่อนยังไม่เว้น”
สะบัดหน้าหนีทันทีที่ด่าเขาจบ แต่เขาดันคว้าข้อมือกระชากเธอเซถลามาปะทะอกแกร่งแล้วกอดรัดเอวบางอย่างรวดเร็วจนเธอดิ้นหนีไม่ทัน
“เพราะเธอเป็นเพื่อนฉัน ตอนนี้เธอถึงลุกขึ้นมาเถียงฉันฉอด ๆ ไหว ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่น ป่านนี้เธอถูกหามส่งโรงพยาบาลไปแล้ว สำนึกบุญคุณกันหน่อยยัยข้าวสาร”
คนตัวบางเบะปากใส่ กิริยาน่าหมั่นไส้ทำชายหนุ่มของขึ้น จึงล็อกต้นคอเล็กให้แหงนขึ้นรับจูบที่ไม่ได้อ่อนโยนเท่าไร่นัก
“อื้อ ไอ้บ้า หมดรอบของแกแล้ว ตอนนี้ฉันเป็นอิสระ ไม่ได้เป็นของเดิมพันของไอ้ชั่วนั่นแล้ว แกจะมาจูบฉันไม่ได้”
วายุแค่นหัวเราะขำดวงตาวาววับของเพื่อนรักแล้วเม้มปากราวกับต้องการเก็บสัมผัสแสนหวานเอาไว้ให้ได้นานที่สุด
“งั้นก็ไปอาบน้ำ จะมัวรออะไรอยู่ หรือรอให้ฉันอุ้มไปอาบแบบเมื่อคืน”
“พูดมาก หุบปากเน่า ๆ ของแกไปเลย”
เธอทุบอกแกร่งดังอึกแล้วลากผ้าห่มคลุมร่างกายหายเข้าไปในห้องน้ำ วายุมองบานประตูที่ปิดสนิทอยู่นานแล้วหัวเราะขำ ก่อนจะก้มมองตัวตนใหญ่โตที่เหยียดขยายจนปวดหนึบ ส่ายหน้าระอาตัวเองที่แค่จับเธอจูบนิดหน่อยก็ตื่นเต้นได้ขนาดนี้
“ไอ้ตัวดี มึงหยุดเลยนะ”
ชี้หน้าคาดโทษลูกชายตาเดียวแล้วทิ้งตัวนอนหงาย ท่อนเนื้อใหญ่โตตั้งโด่ไม่ยอมอ่อนตัวลงสักทีไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน จนขวัญข้าวเดินออกจากห้องน้ำมาด้วยสภาพผ้าขนหนูมัดปมเสียแน่นก็กรีดร้องตกใจ ยกมือขึ้นปิดตาจึงไม่รู้ว่าคนตัวโตก้าวพรวดถึงตัวเสียแล้ว
“ว้าย”
ข้อมือเล็กถูกกระชากอย่างแรงจนเซถลาตามเขาขึ้นมาบนเตียง คนตัวโตพลิกเธอให้นอนหงายแล้วขยับขึ้นคร่อม มองสบดวงตากลมโตเบิกโพลง กัดกรามข่มอารมณ์ไม่ให้จับเธอกิน แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหว โน้มลงซุกไซ้ดูดเลียร่องรอยจ้ำแดงนั้นย้ำ ๆ อีกครั้ง
“ลม...”
ปมผ้าเช็ดตัวที่คิดว่ามัดเสียแน่นถูกคลายออกโดยง่าย เขาแหวกชายผ้าทั้งสองข้างออกแล้วกวาดมองความงดงามตรงหน้าที่ทำเอาเขาตาพร่า
“หุ่นโคตรน่าเอา”
ปลายยอดสีชมพูคือจุดต่อไปที่ปากร้ายดูดดึงอย่างเมามัน เธอร้องครางระทดระทวย ส่ายหน้าไปมาบนหมอน ใจไม่ยินยอม แต่ร่างกายไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจะต้านทาน
“ลม แกจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้แล้ว ลุกไปเดี๋ยวนี้”
“ฉันขอครั้งสุดท้าย แล้วเธอเอาเงินเดิมพันทั้งหมดที่ฉันได้มาไปได้เลย”
“ไม่เอา ไอ้บ้า”
ท่อนเนื้อใหญ่ยาวถูกกดแทรกเข้ามาในความฉ่ำเยิ้มรวดเดียวสุดโคน ผนังบอบบางแน่นหนึบตอดรัดเป็นจังหวะลามกทำหัวคิ้วเข้มกดต่ำ กัดกราม คำรามเบา ๆ ในลำคอด้วยความชอบใจ
“อืม เธอแม่ง...”
“ลม แกจะทำฉันไปถึงไหน”
“ครั้งสุดท้ายไง ให้ได้ไหมล่ะ”
“แกเสียบคาอยู่ ไม่ให้ได้ไหมล่ะ”
“เหอะ งั้นร้องครางหวาน ๆ สิ อย่าบ่นมาก ถ้ารำคาญขึ้นมาจะไม่ให้ลงจากเตียงจนกว่าจะถึงวันจันทร์ เอาไหม”
“ฉันต้องทำงาน”
“เดี๋ยวก็ได้เงินฉันแล้ว วันนี้ลาป่วยแล้วกัน”
สะโพกสอบตอกกระแทกด้วยจังหวะเร่าร้อนตั้งแต่เริ่ม เขาลดตัวลงกอดเธอเอาไว้ ร่างกายทั้งสองแนบชิดบดเบียดไปทุกสัดส่วน ความเสียวซ่านที่เขามอบให้ทำเธอโอบกอดแผ่นหลังกว้าง หลับตาพริ้ม ส่งเสียงครวญครางหวานหูแบบที่เขาชอบ
“ดีไหม ข้าว”
“อืม ดี”
“แรงอีกได้ไหม เธอไหวหรือเปล่า”
“เอาสิ”
ทันทีที่เธอเอ่ยอนุญาต เขาจึงใช้มือทั้งสองข้างเท้าที่นอนยกลำตัวส่วนบนขึ้น แล้วเร่งจังหวะกระแทกกระทั้นในมุมงัดเสยถี่ยิบจนเสียงเนื้อกระทบกันดังก้อง
ขวัญข้าวเบิกตาโต คว้าหมับที่ข้อมือใหญ่ เนินหัวหน่าวแข็ง ๆ ตอกกระแทกบดขยี้จุดที่ไวต่อความรู้สึก ภายในก็ถูกท่อนร้อนเสียดสีจุดกระสันพร้อมกันจนใบหน้าสวยหวานเหยเก
“เสียวเหรอ ข้าว”
“อือ เสียว มันโดน”
“โดนอะไร โดนตรงนี้ใช่ไหม หืม”
ถามพรางกระแทกเสยแรงขึ้นให้เนินเนื้อกระทบกันดังถี่ หลายนาทีผ่านไปจึงจับเธอพลิกกายคลานเข่า เขาขยับเข้าหา บีบขยำบั้นท้ายทั้งสองแล้วฟาดลงไปแรง ๆ
“ว้าย”
เธอหันขวับมองหน้าด้วยสายตาวาววับ จึงได้รับผลตอบแทนจากความดื้อด้วยการที่ร่างกายสะดุ้งโหยงกรีดร้องลั่นเมื่อเขาดันท่อนเนื้อเข้ามาในความสาวรวดเดียวสุดโคน
“อ่า ท่านี้เป็นไง”
“อือ ลึก ถอยไปหน่อยลม”
มือเล็กยื่นมาดันหน้าท้องหนั่นแน่นที่เต็มไปด้วยซิกซ์แพ็ก หวังให้เขาขยับตัวออกห่าง แต่นอกจากที่เขาจะไม่ยอมทำตามแล้วยังบดคลึงบั้นท้ายอย่างยั่วยวน
คนหล่อเลิกคิ้วกวนประสาท มุมปากยกยิ้มร้าย เธอจึงเงื้อมือหวังทุบลงไปที่หน้าท้องนั้น แต่เขากลับคว้าข้อมือเอาไว้ได้แล้วกำแน่น
“ปล่อยนะ”
“ปล่อยแน่ แต่ปล่อยในนะ”
พูดจบก็คว้าข้อมืออีกข้างดึงเข้าหาตัว ทำให้ร่างกายบอบบางลอยขึ้นไม่มีแม้มือสักข้างจะยันที่นอนเพื่อพยุงกาย
“ว้าย ลม ปล่อยสิไอ้บ้า”
ท่วงท่าพิสดารทำเธอตกใจเบิกตากว้าง ก่อนจะกรีดร้องออกมาเมื่อเขาตอกสะโพกเน้น ๆ จนหน้าอกอวบอิ่มเด้งดึ๋งรุนแรง
“อ๊า อ๊า ลม”
“หืม ดีไหม เสียวหรือเปล่า”
เธอไม่ตอบแต่กลับหลับตาปี๋ ความสาวตอดระรัว ความเสียวซ่านแล่นผ่านสองร่างไปมาจนแทบทนไม่ไหว เร่งความเร็วขึ้นอีกนิด
“ฉันจะแตกแล้วข้าว ฮืม”
เสียงเนื้อกระทบกันดังถี่เป็นจังหวะเดียวกับที่ร่างบางขยับรุนแรงจากการโดนกระแทก เมื่อเดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายของอารมณ์เสียงลามกยิ่งดังก้อง ก่อนเขาจะใส่สุดแรงสามครั้งสุดท้าย
ตับ ตับ ตับ!
ขวัญข้าวกรีดร้องเสียงหลง กระตุกเฮือกสั่นระริก ใบหน้าเหยเก ช่องทางแน่นหนึบตอดตุบรีดเคล้นน้ำรักออกจากความเป็นชายที่จมพรวดดำลึกมิดโคน แตกกระจายความรักใส่เธอจนร้อนวาบไปทั้งท้องน้อย
“ข้าว...อืม”