ตอนที่ 3
Rrrrrr.
Rrrrrr.
เสียงเรียกเข้าจากมือถือเครื่องเก่ากำลังแผดร้องเตือนว่ามีใครสักคนโทรศัพท์เข้ามา
มือหนาควานหาที่มาของเสียงที่ดังอยู่ไม่ไกลนัก ก่อนจะพบว่าเขานอนทับมันอยู่
"ไง" แมทกดรับสายทั้งที่ยังหลับตา กรอกเสียงทักทายด้วยน้ำเสียงเนือย ๆ เพราะรู้ว่าใครเป็นคนโทรศัพท์เข้ามา
บรรณาธิการที่คอยบ่นตลอดเวลาที่เขาส่งงานช้า ก็เพื่อนเขานั่นแหละ
(ไม่ไง เมื่อไหร่จะส่งต้นฉบับ นี่เลทมาสองวันแล้วนะ) โรส บรรณาธิการสาวประจำสำนักพิมพ์มีชื่อแห่งหนึ่งของเมือง อีกด้านก็เป็นเพื่อนสนิทของแมทด้วยเช่นกัน
"ก็ยังไม่เสร็จ เสร็จแล้วจะส่ง" แมทตอบกลับไปอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว เขารู้ดีว่าตัวเองส่งงานสายไปสองวัน แต่ที่สายคือกำหนดของโรส ไม่ใช่กำหนดของเขา
อีกตั้งสามวันกว่าจะถึงเส้นที่เขากำหนด เพราะฉะนั้นสำหรับแมทยังไม่ถือว่าสาย
(เผื่อเวลาให้ฉันได้ตรวจงานบ้างสิแมท) โรสบ่นมาตามสาย และรู้ดีเรื่องกำหนดวันเส้นตายของตนกับนักเขียนหนุ่มคือคนละวันกัน แต่ก็อดที่จะทวงงานก่อนไม่ได้
"ก็รีบให้แล้วไง เนอะเจ้าเหมียว" แมทว่าทั้งลูบขนนุ่มนิ่มของเจ้าก้อนขนที่นอนซบอยู่บนตัวเขาตอนนี้
แต่เหมือนมีบางอย่างไม่ปกติ
"แค่นี้ก่อนนะโรส เดี๋ยวจะรีบส่ง" แมทกดวางสายแล้วต้องสะดุ้งสุดตัว รีบลุกขึ้นจากโซฟา ถอยห่างไปหลายก้าว
"เธอเป็นใคร เข้ามาในบ้านผมได้ยังไง" แมทชี้ไม้ชี้มือไปทางหญิงสาวปริศนาที่นั่งบนโซฟาตัวเดียวกันกับเขา
ไม่สิ นอนเกยบนตัวเขาเลยต่างหาก
ถึงว่า ลูบไปลูบมากลับไม่เจอขนแมวเลยสักเส้น เจอแต่ความนุ่มลื่นเข้ามาแทน
เหมือนแมทจะนึกอะไรบางอย่างได้
เจ้าเหมียวหายไปไหน
แมทสอดส่ายสายตาหาโดยรอบที่เขายืนอยู่ก็ไม่พบเจ้าก้อนขนสีขาว ในใจก็นึกห่วง ทั้งยังระแวงหญิงสาวตรงหน้านี้ด้วย
"คุณเป็นใคร แล้วทำไมมาอยู่ในบ้านผม หรือเป็นขโมย" แมทตั้งข้อสงสัย แม้ประโยคหลังจะดูเป็นไปได้น้อยสุดก็เถอะ
ขโมยที่ไหนจะมานอนบนตัวเขากัน อีกทั้งเสื้อผ้าที่สวมใส่อย่างกับเพิ่งกลับมาจากงานแฟนตาซี
"เจ้าพาข้ามาเองนะหนุ่มน้อย" เสียงหวานใสเอ่ยขึ้นก่อนลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
"ผมไม่ได้เสียสติถึงขั้นจำไม่ได้หรอกนะว่าพาใครเข้าบ้านบ้าง" แมทไม่รู้ว่าควรจะไม่พอใจกับประโยคไหนดี ระหว่างเขาเป็นคนพาเธอเข้ามากับ หนุ่มน้อย
"เจ้านั่นแหละ" เธอยังยืนยันคำเดิมพร้อมทั้งยกยิ้มที่ใครได้เห็นคงต้องเอ่ยชมว่าหวานมาก แต่ไม่ใช่แมทในเวลานี้
นอกจากเสื้อผ้าที่เหมือนชุดชั้นในที่เต็มไปด้วยขนนกนั่นแล้ว ยังมีคำพูดคำจาที่ชวนขนลุกนิดหน่อย
ถ้าเขาไม่กำลังฝันอยู่ก็คงเป็นคนตรงหน้าที่เพิ่งกลับจากงานแฟนตาซีแล้วเข้าผิดบ้าน
แมทมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างสำรวจและระแวง
ใบหน้าที่ไร้การแต่งแต้มจากเครื่องสำอาง หรืออาจแต่งแต่เขาดูไม่ออก ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูสดรับกับรูปหน้าเรียวและจมูกเชิดรั้นเล็กน้อย บวกกับผิวกายที่ขาวเนียน แมทยอมรับกับตัวเองว่าหญิงสาวตรงหน้าดูงดงามมาก
แต่นั่นไม่สามารถลบล้างข้อกล่าวหาที่ว่าเธอเข้ามาอยู่ในบ้านของเขาโดยพละการแบบนี้ได้ยังไง
"หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ อย่าได้คิดหนีไปไหนเป็นอันขาด" แมทขู่สำทับเมื่อหญิงสาวตรงหน้าทำท่าเหมือนจะเดินเข้ามาหาเขา ก่อนแมทจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์แจ้งตำรวจ
พรึ่บ
ปีกขนนกสีขาวขนาดใหญ่กางออกอย่างรวดเร็ว แมทตกใจจนแทบทำโทรศัพท์ร่วงหลุดมือ ดีที่ยังรั้งไว้ได้
"เดี๋ยวนี้คอสเพลย์เขาเล่นใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ ... เฮ้ บอกว่าอย่าขยับ" แมทว่า ชี้นิ้วไปตรงเพดานเมื่อเห็นปีกสีขาวขยับแล้วชนเข้ากับโคมไฟตรงโต๊ะทำงาน
"หยุดแล้วยืนนิ่ง ๆ เก็บปีกของเธอด้วย มันสวยนะ แต่มันจะทำข้าวของฉันเสียหาย" เขาเหล่สายตาไปทางโคมไฟที่เกือบจะหล่นเพราะโดนปีกนั่นปัดไปโดน
"ได้ ข้าจะเก็บปีก" สิ้นคำปีกขนนกสีขาวก็ถูกเก็บเข้าที่โดยไร้เสียง แมทแอบวิจารณ์ในใจ
ทำไมไม่ทำให้เก็บเสียงได้ด้วยตอนกางออก
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก ตอนนี้เขาต้องแจ้งตำรวจก่อน ก่อนที่ผู้บุกรุกจะหลบหนี
"ข้าไม่ได้บุกรุก เจ้าอุ้มข้ามาเอง"
"อย่าเถียง ผมไม่ได้เมา ไม่ได้บ้าที่จะไม่รู้ตัวว่าอุ้มใครเข้าบ้าน...อุ้ม อุ้มเหรอ" แมทชะงักไปเล็กน้อยกับคำนั้น
หัวคิ้วเริ่มขยับเข้าหากันเมื่อเหตุการณ์เมื่อคืนไหลย้อนเข้ามาเป็นฉาก ๆ
"ไม่น่าเป็นไปได้" เสียงพึมพำกับตัวเองดังเล็ดลอดเพียงเล็กน้อย แต่เพียงพอให้หญิงสาวตรงหน้าได้ยินชัดเจน เธอได้ยินแม้แต่เสียงจังหวะหัวใจที่เปลี่ยนไปของชายหนุ่มเจ้าของบ้าน
"ใช่ เจ้าอุ้มข้ามา ให้อาหารข้า แถมยัง...นอนกอดข้าทั้งคืนอีกด้วย"
"ไม่ ไม่ นี่มัน...ไม่จริงน่า" แมทไม่เชื่อเรื่องผีสาง ไม่เชื่อเรื่องลี้ลับ ไม่เชื่อแม้แต่พระเจ้า
"เจ้าก็เห็นปีกข้าแล้ว"
"โอย นั่นมั่นลูกเล่นของชุดคอสเพลย์ มีขายเกลื่อน ใครเขาจะไปเชื่อ เลิกถ่วงเวลาได้แล้ว อยู่นิ่ง ๆ แล้วรอตำรวจ อย่าให้ต้องจับมัด" แมทว่า พยายามจะกดโทรศัพท์หาตำรวจอีกครั้ง แต่ดูเหมือนเครื่องมือสื่อสารจะไม่เป็นใจ เครื่องดับขณะที่เขากำลังจะกดปุ่มโทรฯ ออก
"ให้ตายสิไอ้โทรศัพท์บ้านี่จะมาดับอะไรตอนนี้" เขาโมโหเลยเคาะโทรศัพท์เจ้าปัญหาเสียหลายครั้งแต่ก็ไร้วี่แววว่าเครื่องจะติด
แมทยืนควบคุมสติ สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ อย่างกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง ก่อนเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวที่ยืนอยู่กับที่และกำลังจ้องตากับเขาอยู่