INTRO – พบเจอ

1392 คำ
ไดม่อน หนุ่มหล่อลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ที่ตอนนี้ได้มาเที่ยวผับเพื่อคลายความเบื่อของตัวเอง โดยมีลูกน้องคนสนิทสองคนอย่างทอยและทีมที่เป็นพี่น้องฝาแฝดคอยดูแลความปลอดภัย โดยการมาเที่ยวผับในครั้งนี้ของเขา อีกอย่างหนึ่งเพื่อมาหาเพื่อนรักของเขาสองคนที่เป็นเจ้าของผับแห่งนี้ด้วย โดยที่พวกเรานัดกันไว้ ซึ่งพวกมันสองคนได้มาสานต่อธุรกิจต่อจากคุณพ่อของพวกมันอย่างพ่อมาร์คกับพ่อเดวิสที่เป็นเพื่อนและหุ้นส่วนกันมานานหลายปี แถมพวกท่านทั้งสองคนยังเป็นเพื่อนสนิทของคุณพ่อของผมด้วย ผมจึงนับถือ​พวกท่านทั้งสองคนดั่งกับพ่อแท้ๆ ซึ่งพวกท่านก็เอ็นดูผมเหมือนลูกแท้ๆเช่นกัน เราสามครอบครัว​จึงมีความสนิทสนมกันมากพอสมควร พวกผมสามคนจึงรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งตอนนี้ผมก็ได้มานั่งรอพวกมันอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่พวกมันจะว่างลงมาหาผมได้สักที ทั้งที่พวกเราก็นัดกันไว้แล้วแท้ๆ แล้วปล่อยให้ผมมานั่งรอพวกมันอยู่คนเดียว ปัก! "อื้อ ม่ายมีตามองหรอว่ามีคนเดินมาอยู่อ่ะ จะเดินมาชนกันทำไมไม่ทราบ" คนเมาที่เมาจนจำอะไรไม่ได้ จึงเอ่ยโวยวายขึ้น จนไดม่อนได้แต่ทำหน้างงกับคำพูดของเธอ เพราะจู่ๆก็มีผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้เดินโซซัดโซเซ​มาหาเขาแถมยังสะดุดขาตัวเองล้มจนมานั่งทับบนตักเขาเข้าพอดีอีก แถมยังมาโวยวายว่าเขาเป็นคนเดินชนเธออีก ทั้งที่ตัวเองหกล้มเองแท้ๆ คนเมานะคนเมา ผมล่ะหมดคำจะพูด ‎"ลุกออกไปซะ ฉันหนัก" ผมจึงเอ่ยบอกเธอเสียงดุ แล้วพยายามผลักเธอออกไปให้พ้น เพราะไม่ใช่ธุระกงการอะไรของผมที่ต้องปล่อยให้ผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้มานั่งตักผมต่อ แต่ติดที่ว่าเธอไม่ยอมลุกออกไปง่ายๆนี่สิ แถมยังทิ้งตัวใส่ผมอีก ‎"จะให้ฉานลุกปายหนาย คนยิ่งมึนๆหัวอยู่" คนเมาที่เมาจนเละเทะ​แถมผมยังปกปิดหน้าจนรุงรัง​เอ่ยเสียงขึ้นอย่างกระอ้อมกระแอ้ม​ แล้วซุกหน้าลงกับอกของชายหนุ่มอย่างถือวิสาสะ "นี่เธอ ลุกออกไปเดี๋ยวนี้นะ ฉันไม่ได้รู้จักเธอ เธออย่ามาตีเนียนนะ" ไดม่อนที่เห็นว่าผู้หญิงตรงหน้าซุกไซร้หน้ากับอกเขาไม่หยุด ทำอย่างกับเขาเป็นที่นอนให้เธอนอนอย่างนั้นแหละ ผมล่ะอยากจะบ้า! เกิดมาไม่เคยพบเคยเจอ "ม่ายออก นายอยู่เฉยๆจะได้ไหม คนจะนอน" คนเมาที่เริ่มงอแงจนหน้ายู่เอ่ยบอกไดม่อนขึ้นมาอย่างไม่สนใจว่าชายหนุ่มจะเป็นยังไง จนทำให้ไดม่อนรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาไม่น้อย "นี่เธอ! มันจะเกินไปแล้วนะ ถ้าเธอจะนอนก็ควรออกไปเปิดโรงแรมนอนเองจะดีกว่าไหม อย่ามาสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นดิ แล้วเธอน่ะมาทางไหนก็กลับไปทางนั้นซะ" ผมจึงเอ่ยบอกเธออย่างเสียงดุ ก่อนที่ผมจะรู้สึกถึงลมหายใจที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอของผู้หญิงตรงหน้า ‎"โอ้ย! แม่งเอ้ย ให้มันได้อย่างนี้สิวะ เห้อ!" ผมล่ะหนักใจกับผู้หญิงคนนี้เลยจริงๆ แล้วผมจะเอายังไงกับเธอต่อดีวะ ก่อนที่ผมจะเอาผู้หญิงคนนี้มานอนตักดีๆพร้อมสางผมที่ปิดใบหน้าของเธอออก ก่อนจะต้องตกตะลึงในความสวยความน่ารักของเธอ‎ "หน้าตาก็ดูสวยดูน่ารักดี แต่ติดที่ขี้เมาไปหน่อย หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกสักครั้งนะสาวน้อย ครั้งนี้ฉันจะยอมปล่อยเธอไป แต่ถ้าเรายังมีโอกาสได้เจอกันอีกครั้ง ฉันจะไม่มีทางยอมปล่อยเธอไปอีกแน่ หลังจากนี้ก็ขอให้โชคชะตาช่วยนำทางพวกเราสองคนให้มาเจอกันอีกสักครั้งก็แล้วกัน หึหึ!!” ไดม่อนที่ได้เห็นใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้าก็รู้สึกถูกใจไม่น้อย แต่ก็ยังไม่อยากเปิดใจรับอะไรในตอนนี้ จึงหวังว่าเราจะได้เจอกันอีกสักครั้ง เขาถึงจะยอมเปิดใจรับเธอเข้ามาในชีวิต ถ้าสักวันโชคชะตานำทางให้พวกเราสองคนมาเจอกันจริงๆ เขาคนนี้ก็ไม่ยอมปล่อยเธอไปไหนแล้วเหมือนกัน นานๆทีจะเจอคนที่ถูกใจแบบนี้สักครั้ง “ไอ้ทีม ไอ้ทอย พวกมึงมานี่ดิ” ไดม่อนที่พูดกับหญิงสาวตรงหน้าเสร็จจึงเอ่ยเรียกลูกน้องคนสนิทสองคนมาทันที "ครับคุณไดม่อน/ครับคุณไดม่อน" สองคนที่มาถึงตัวเจ้านายหนุ่มก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่เห็นหญิงสาวจากที่ไหนก็ไม่รู้มานอนตักเจ้านายหนุ่มอย่างสบายใจ โดยปกติแล้วคุณไดม่อนจะไม่วุ่นวายหรือสุงสิง​กับผู้หญิง​คนไหนเลยด้วยซ้ำ แต่คนนี้ดูน่าจะมีอะไรพิเศษกว่าคนอื่น "พวกมึงพาเธอไปส่งโรงแรมที่อยู่ใกล้ๆนี้ แล้วจัดการพาเธอเข้าห้องให้เรียบร้อย​ ส่วนค่าใช้จ่าย​ทั้งหมดมาเบิกกับกู ส่งเสร็จแล้วพวกมึงค่อยกลับมาหากูที่นี่" "ครับคุณไดม่อน/ครับคุณไดม่อน" สองคนตอบรับคำสั่งเจ้านายหนุ่มและพร้อมทำตามในทันที โดยที่ไม่กล้าแม้จะเอ่ยถามว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ก่อนที่จะจัดการพยุงผู้ใหญ่​คนนี้ออกจากผับไป "​อ้าว! เห้ย แล้วไอ้ทีมกับไอ้ทอยพยุงผู้หญิง​คนนั้นไปไหนวะ ดูไม่ได้สติเลยนะนั่น" พอร์ช ลูกชายของเดวิสเอ่ยขึ้น "เออ นั่นดิวะ หวังว่าไม่ได้พากันสวิงกิ้ง​หรอกนะเว้ย หึหึ" มาร์ชลูกชายของมาร์คก็เอ่ยเสริมตามมาด้วยเช่นกัน "สวิงห่าอะไรล่ะ กูแค่ใช้พวกมันไปส่งผู้หญิงคนนั้นที่โรงแรม เมาแม่งไม่ได้สติเลย เห็นแล้วก็เกิดสงสาร" ก่อนที่มึงจะได้พาเธอไปสวิง พวกมันสองตัวต้องข้ามศพเขาไปก่อนเถอะ "​หืมม คนอย่างมึงสงสารใครเป็นด้วย กูแทบไม่อยากจะเชื่อหู" ลูกชายมาเฟียอย่างมันนี่นะจะสงสารใครเป็น เขาไม่อยากจะเชื่อหูเลย "กูก็คนเหมือนพวกมึงไหมไอ้สัส" ไอ้เวรสองตัวหนิ ชักจะคุยกันไม่รู้เรื่อง "เออๆ มาๆดื่มๆกันดีกว่าเว้ย อีกหน่อยจะได้แยกย้ายกันทางใครทางมัน" แหม! แหย่นิดแหย่หน่อยทำเป็นหงุดหงิด "โหย!! ไอ้พวกห่า มาก็ช้ายังจะมาแยกย้ายกันเร็วอีกนะพวกมึง" ไอ้เวรสองตัวหนิ มันน่านัก "หืมม ก็กว่าพวกกูสองคนจะดูบัญชีของทางผับเสร็จ พวกกูสองคนก็พากันตาลายแล้วไหมวะ มึงก็หัดเห็นใจพวกกูหน่อยดิ" พวกเขาแค่อยากกลับไปพักผ่อนเอง มันผิดอะไรวะ "แหม!​ สำออย​จริงๆเลยนะพวกมึง กูดิดูแลธุรกิจแทนพ่อกูอยู่คนเดียว ไม่เห็นจะบ่นให้พวกมึงฟังสักคำ" เขาดิหนักกว่าเยอะ ไม่เห็นจะมาบ่นให้พวกมันฟังเลย "ก็พวกกูกับมึง หัวสมองมันต่างกันนะรู้ไหม ใครมันจะเก่งมันจะเพอร์เฟค​เท่ามึงได้ล่ะ" มึงอ่ะแม่งโครตเก่งเลย เพอร์เฟค​ไปซะทุกอย่าง เก่งไปซะทุกเรื่อง "​ข้ออ้างไอ้สัส หัวสมองก็มีอยู่เท่าๆกัน" มันไม่มีใครเก่งไปกว่าใครหรอก ถึงคนเราจะเก่งก็ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิดหรอก มีแต่ความพยายาม ความอดทนเท่านั้นแหละถึงจะทำให้คนเราเก่งได้ "เออน่า มึงก็อย่าบ่นนักเลย" พวกเขารู้ว่ามันเก่งมาก พวกเขาเทียบมันไม่ได้หรอก "​หึ!" ก็พวกมึงขี้เกียจกันเองจะให้กูช่วยอะไรได้วะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม