DYNE ♡ CAKE
“เฮอะ... สำคัญตัว”
ข่มใจไว้เค้ก เขาแค่ชอบกวนประสาท ไม่ต้องไปพิศวาสท่าทางที่เขาแสดง เธอจะไม่ชอบดายน์ เธออย่าเป็นคนไม่ดีคิดรักคนมีเจ้าของ บทเรียนแรกก็มีแล้ว อย่าได้คิดให้มันเกิดขึ้นอีกเด็ดขาด
“ส่งฉันที่ป้ายรถเมล์ข้างหน้าที จะไปธุระต่อ”
ฉันพูดขึ้น ขณะที่รถเคลื่อนตัวออกจากร้านได้สักพัก ฉันอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกว่าดายน์นิ่งมากเกินไป
“ดายน์... ”
ฉันเรียกชื่อเขา เมื่อเขาไม่ยอมจอด ทั้งยังลงน้ำหนักที่ฝีเท้าเพิ่มความเร็วของรถไปอีก
“รู้จักกันมาเป็นปี เธอยังไม่รู้จักนิสัยของฉันดีเลยนะ”
“ฉันไม่อยากรู้ จอดเลย”
“ฉันร้ายมากนะ... อย่าลืม เลิกพูดด้วย หนวกหู”
ทำไมฉันต้องมาติดกับเขาบนรถนี่ด้วย แล้วเขาจะพาไปไหน เดาใจคนอย่างดายน์ไม่ออกจริง ๆ
ดายน์พาฉันออกนอกเมือง เขาแวะซื้อของนิดหน่อย เขาโยนถุงของร้านสะดวกซื้อมาใส่ตักฉัน ซึ่งในนั้นมีขนม นม น้ำผลไม้หลากหลายอย่าง เขาโยนมา ไม่พูดไม่จาอะไร
ทำไมเป็นคนแบบนี้นะ!
“ว้าว... เปิดตัว ว้าว ๆ”
ถึงสถานที่ ที่เรียกว่าอะไรก็ไม่รู้ มันมีลักษณะคล้ายตู้คอนเทนเนอร์ขนาดสามอันติดกัน แต่ทาสีดำ
พอเราลงจากรถ ก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยแซว ซึ่งเขาคนนั้นแต่งตัวในชุดนักศึกษาเหมือนเราสองคน เรียวนิ้วของเขาคีบบุหรี่อยู่ มุมปากเขากระตุกยิ้ม ก่อนจะโคลงศีรษะ คล้ายกับจะทักทายฉัน
“เปิดพ่อง... ”
ดายน์เดินไปฟาดหัวผู้ชายคนนั้นอย่างแรง แล้วเขาก็เปิดประตูเข้าไปด้านใน
“ตามเข้าไปสิคนสวย เดี๋ยวไอ้คุณชายมันก็หงุดหงิดเอาหรอก”
ฉันมองหน้าเขาดี ๆ คนนี้เคยเห็นเรียนในสถาบันเดียวกัน แต่คนละแขนง
จะมาหงุดหงิดฉันทำไม คนอย่างดายน์เคยไม่หงุดหงิดด้วยเหรอ?
“ข้างในมีอะไรเหรอ”
ฉันเอ่ยถาม เพราะไม่รู้ว่าข้างในจะมีอะไร เพราะหลายธุรกิจก็ชอบใช้ตู้แบบนี้เยอะ ร้านกาแฟ คาเฟ่กึ่งบาร์ ร้านอาหารสำหรับมาคนเดียว ส่วนมากก็จะตกแต่งสไตล์นี้กัน
“แล้วมันบอกเธอว่าไง”
เขาขมวดคิ้วใส่ฉันอย่างงงงัน
“ไม่ได้บอก ละฉันก็ไม่ได้เต็มใจมาด้วย”
“เหรอ... ”
เขายิ้ม และ ใช้สายตามองฉันตั้งแต่หัวจดเท้า เหมือนกำลังวิเคราะห์อะไรในตัวฉัน สักพักเขาก็พยักหน้าพลางยิ้มออกมา
มันหมายความว่าไง รอยยิ้มแบบนั้น?
“ตามมาสิ”
เขาทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้น ใช้เท้าขยี้เพื่อดับไฟ จากนั้นก็ยืนเต็มความสูงก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดประตูแล้วเดินนำเข้าไป
นี่มันที่เสพสุขของผู้ชายชัด ๆ.....
โต๊ะสนุ๊กขนาดใหญ่ ตู้สำหรับใส่เครื่องดื่มมึนเมา ตู้เกมที่ไม่คิดว่าจะมีในที่แบบนี้ มีบาร์เหล้า มีเคาท์เตอร์บริการอย่างกับร้าน ดายน์กำลังเลือกสรรเครื่องดื่มอยู่ตรงนั้น
ข้างในกว้างขวาง แต่ออกจะมืดไปหน่อย ฉันเดินดูอย่างนึกประหลาดใจ ต้องใช้เงินเท่าไหร่ถึงจะมีของเล่นอะไรแบบนี้ได้ แต่ละอย่างล้วนแล้วแต่สำหรับคนว่างที่ต้องการผ่อนคลายทั้งนั้น
“ทำไมที่นี่ไม่มีคน”
ฉันเดินตามเขา ถามเขาเบา ๆ เพราะรู้สึกในนี้เสียงมันดูจะก้องเข้าหูเหลือเกิน
“ก็ร้านยังไม่เปิด”
เขาตอบแล้วยิ้ม บางทีคนนี้ดูจะยิ้มมากเกินความจำเป็นอีกนะ
“นี่คือร้านเหรอ?”
ซึ่งเขาพยักหน้ารับอย่างง่ายดาย
คงจะเป็นร้านเหล้าที่รู้กันไม่เยอะละมั้ง ขนาดของร้านเหมือนเปิดสนองเจ้าของ บรรจุได้ถึงยี่สิบคนรึเปล่าก็ไม่รู้
ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างดายน์จะชอบทำอะไรแบบนี้.....
“มาช่วยกันสิ ยืนเอ๋ออยู่ได้”
ดายน์ตะโกนมาราวกับว่าฉันเป็นลูกน้องเขางั้นแหละ ฟังน้ำเสียงที่ใช้เรียก สายตาที่ส่งมา ฉันว่าดายน์น่าโดนตบมาก ๆ
ฉันช่วยเขาเช็ดแก้วหลายขนาด หลายรูปทรง แก้วแต่ละใบมีลวดลายแตกต่างกันใบเป็นเซ็ท มีสามขนาดต่อเซ็ท บรรจงทำอย่างเบามือเพราะถ้าเผลอทำหลุดมือ ไอคนหน้าดุต้องลงมือบีบคอฉันแน่ ๆ
“สุดหล่อ ขออะไรกระแทกปากหน่อยสิ”
ขณะนั้น ก็มีสาวสวยแต่งตัววาบหวิวด้วยชุดนอนที่ใส่สบายเกินเหตุ เพราะเนื้อผ้าที่เผยเรือนร่างเสมือนไม่ได้สวมใส่อะไร มาหย่อนก้นนั่งลงตรงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับที่เรายืนอยู่
“โจลี่... ”
คนที่พาฉันเข้ามาในนี้ ตะโกนเรียกเธออย่างดัง ร่างเขาปรี่เข้ามาประชิดร่างสวยที่ทำหน้าไม่รู้สึกรู้สาอะไร
เขาใช้สายตาตำหนิเธอ ก็เพราะชุดของเธอมันเว่อร์จนเกินไป ฉันคิดว่างั้นนะ
“พ่อเป็นเจ้าของมหาลัยแล้วจะไปเรียนตอนไหนก็ได้เหรอโจ”
ดายน์ถามพลางเลิกคิ้วมอง แต่พอสบเข้ากับสองเต้าที่เกือบพ้นเสื้อตรงหน้า เขาก็ทำเป็นเอือมระอาออกมาชัดเจน
เขาน่าจะสนิทกัน เลยชิน!
“ก็คงงั้นมั้ง วันนี้โจว่างนี่นา”
เธอรับเครื่องดื่มจากดายน์พลางจิบเบา ๆ สายตาก็ป๊ะเข้าที่ดวงหน้าของฉัน
“คนนี้เหรอดายน์”
หมายความว่าอะไร?
รู้จักฉันเหรอ?
“ถามเองสิ”
เขาปัดมาที่ฉัน เธอก็เลยส่งยิ้มมาให้หนึ่งที
“เราชื่อโจลี่ บางทีก็เป็นเมียดายน์ บางทีก็เป็นเมียไอ้นี่ แต่บ่อย ๆ คงเป็นไอ้นี่อะ เธอคือเค้กใช่ไหม?”
ละนี่คือการแนะนำตัวของเธอ ฉันก็เอ๋อไปสักครู่ ดายน์เจ้าชู้เกินไปไหมเนี่ย เมียมีทุกที่เลย
“มึงเมียกู”
เขาล็อกคอเธอจนร่างแน่งน้อยแทบตกเก้าอี้ โจลี่ขำออกมาพลางทำตามองหน้าคนที่ล็อกคอเธออย่างคนชอบใจ
สรุปก็ไม่ได้อะไรจากการแนะนำตัวของเธอ มีเพียงความน่ารักของสองคนนี้เท่านั้น.....
“รำคาญ”
เปลือกมะนาวถูกโยนใส่คู่รักทันที ดายน์ไปหยิบของพวกนี้มาจากไหนไวปานนั้น ไหนจะการชักสีหน้าที่บ่งบอกว่ารำคาญสุด ๆ นั่นอีก คนที่เขามีแฟนเขาจะไม่แสดงอาการแบบนี้ออกมานะ
“ดายน์รำคาญแล้วน่ารัก โจจะทำให้ดายน์รำคาญทุกวันเลย”
เธอไม่มีท่าทางสลดลง กลับทำตาล้อเลียนเขา จนดายน์ต้องเบนหน้าไปอีกทาง
สีหน้าแบบนั้นคืออะไร?
ใบหูที่แดงของเขาหมายความว่ายังไง?
ทำไมสองคนนี้ดูชอบใจที่ดายน์รำคาญ...
แล้วสรุปดายน์เป็นคนแบบไหน? ความสัมพันธ์ของสามคนนี้เป็นยังไง? ทำไมฉันต้องมายืนมองแบบไม่เข้าใจอยู่ตรงนี้.....
“เค้กไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องโจดีกว่า วันนี้น่าจะอยู่ยาว”
โจลี่เอ่ยชวนพลางจับข้อมือฉันเบา ๆ ฉันมองหน้าคนที่พามาเพื่อถามว่า 'เอายังไงดี' สิ่งที่ได้รับกลับมา คือความเฉยชาไม่แม้แต่จะแลตามาหาเลยด้วยซ้ำ
“เค้กเรียนที่เดียวกับดายน์ถูกไหม”
เธอว่า พลางหันหลังให้แล้วสนใจเสื้อผ้าในตู้ของเธอ เมื่อเราสองคนเข้าห้องมาแล้ว ซึ่งมันมีอีห้องอยู่อีกทาง นั่นคงเป็นห้องของคนที่พาฉันมาวันนี้
“อืม... ทำไมรู้จักชื่อฉันล่ะ”
“ก็ดายน์บอกว่าจะพาเค้กมาด้วย”
“บังคับต่างหาก”
ฉันพึมพำแสนเบา เจ้าตัวที่ได้ยินอะไรแว่ว ๆ ก็หันมาขมวดคิ้วใส่ พอฉันส่ายหน้าว่าไม่มีอะไร เธอก็มองร่างกายฉันอีกรอบ ก่อนจะหยิบชุดมาให้หนึ่งตัว
ซึ่งมันไม่ค่อยจะปิดอะไรมิดเท่าไหร่.....
“อยากเห็นคนหงุดหงิด”
โจลี่ป้องปากขำ พลางดันไหล่ให้ฉันรีบไปเปลี่ยน
ฉันคงเพี้ยนไปแล้วที่ไม่คัดค้านอะไรยัยน่ารักคนนี้เลย.....
“ได้เวลาปั่นประสาทคน”
เธอเองก็เปลี่ยนชุดแล้ว แต่เรื่องอาบน้ำ ไม่น่าจะไวขนาดนี้ เดาว่าคงใส่ไปปั่นผู้ชายของเธอมากกว่า
“โจไปเรียนมาแล้ว เมื่อกี้แค่แกล้งแฟนโจเฉย ๆ เลยใส่ชุดนั้น เพราะโจรู้ว่าเวลานี้มีแค่แฟนโจกับดายน์ที่เข้ามาได้ โจก็เลยใส่แบบนั้น อย่าพึ่งตัดสินกันนะ”
ฉันพยักหน้าเข้าใจ คำอธิบายที่ค่อนข้างจะเป็นกันเอง คงเพราะว่าฉันมากับดายน์ เธอเลยแสดงออกแบบนี้ หรือไม่ ยัยน่ารักคนนี้ คงมีอุปนิสัยแบบนี้จริง ๆ
“โจลี่... ”
ดายน์หุนหันเข้ามาหาเราทันทีที่ก้าวขาเข้ามาตรงโถงกว้าง ตอนนี้ไฟถูกเปิดแทบทุกดวง พอมองแบบนี้ มันสวยนะ บรรยากาศดูเมา ๆ ความรู้สึกคือกาวนิด ๆ เหมาะจะเป็นที่สถิตของวัยรุ่นวัยเราชะมัดเลย
“ไม่เอา ไม่หงุดหงิดนะ ไม่ชอบเขาก็อยู่เฉย ๆ นะคะ”
เธอทำนิ้วจิ้มไปตามใบหน้าของดายน์เชิงหยอกล้อ ส่วนเจ้าตัวทำตาดุชนิดที่ว่า ถ้าโจลี่ไม่หยุดเขาจะหงุดหงิดใส่เธออย่างไรอย่างนั้น
“เออ.... ”
ดายน์กระแทกเสียง ชำเลืองตามามองฉันแบบดุ ๆ ก่อนจะเดินไปอีกทางอย่างคนหงุดหงิด
เขาหงุดหงิดให้ฉันเห็นหลายรอบแล้วนะ เป็นบ้าแน่ ๆ ถ้าเดาไม่ผิด!
“เค้กชอบดายน์บ้างยัง อยู่กันมาตั้งปี”
แล้วพอตรงนี้มีแค่เราสองคน โจลี่ก็เอ่ยถามในสิ่งที่ฉันเองก็คิดไม่ถึง ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ
“ไม่อะ พูดจาไม่ดี”
เข้าขั้นปากหมาเลยแหละ
“เค้กเองก็พูดเจ็บนะ”
เธอยิ้ม...
เพื่อ?
“ก็เขาไม่เคยพูดดีกับฉัน”
“เดี๋ยวรู้จักกันมากขึ้น เค้กจะเข้าใจ ที่จริงดายน์ก็เป็นคนที่ดีคนหนึ่ง อย่างน้อยก็ดีกับเราและแฟน”
ฉันมองอย่างสงสัย แม่ดายน์ก็พูดแบบนี้ และ ขอให้ฉันเกลานิสัยที่ไม่ดีของดายน์ให้หายออกจากตัวเขาไป ยิ่งโจลี่มาเสริมทัพใส่ ฉันยิ่งต้องมองดายน์ในมุมใหม่งั้นซิ
“แต่ดายน์เจ้าชู้... ”
“คนโสด ทำได้ไม่น่าเกลียด”
โจลี่ยักคิ้วราวกับว่าเป็นเรื่องปกติ
“หรือเค้กไม่ชอบคนเจ้าชู้”
แล้วเธอก็ตั้งคำถามกับฉัน
“ไม่มีใครชอบหรอก”
ฉันบอกตามตรง แต่ถึงดายน์จะเป็นผู้ชายที่ดีแสนดี ฉันก็ไม่คิดจะชอบเขาอยู่ดี
เพราะฉันมีคนในใจแล้ว.....
“นั่นสิเนอะ... แต่เราอยากบอกเค้กหนึ่งอย่างนะ”
“หืม... ”
ฉันก็ตั้งใจฟังอย่างใจจดใจจ่อ โจลี่หันซ้ายแลขวา ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้หู
“ดายน์ไม่เคยพาใครมาที่นี่ เค้กเป็นคนแรกที่ดายน์มาปรึกษาเรา เค้กเป็นคนที่ทำให้ดายน์หงุดหงิดบ่อยที่สุด เค้กนั่นแหละ จะฉุดดายน์ขึ้นมาให้อยู่ร่วมโลกกับคนอื่นได้ปกติ เค้กจะทำให้ดายน์ เปิดใจกับสิ่งรอบข้างมากยิ่งขึ้น ขอเพียงเค้กเปิดใจกับดายน์ เค้กจะเข้าใจ ทำไมดายน์ถึงแสดงออกกับใครต่อใครแบบนี้”
เธอว่าออกมายาวเหยียด แต่ฉันก็จับใจความทั้งหมดไม่ได้อยู่ดี
“ฝากดายน์ด้วยนะเค้ก”
ฝากไว้กับคนแบบฉันเนี่ยนะ ได้ฆ่ากันตายพอดี.....