ปีกแข็ง

1249 คำ
“ไปแล้วนะแม่..หวัดดีค่ะ” เสียงใสแจ๋วดังขึ้น พร้อมหน้าที่จิ้มลิ้มของเธอโผล่เข้ามา ทำหญิงวัยกลางคนร่างอวบท้วมหันหลังกลับมามอง ในขณะที่หล่อนเหมือนจะวุ่นอยู่กับการจัดกวาดบ้าน “เอ๋..นี่ลูกจะไปแล้วเหรอขิม” “ใช่ค่ะ” “ไหนบอกไฟล์ออกหกโมง นี่เพิ่งจะบ่ายสาม” “ขิมนัดพรีมเอาไว้” “หืม..แม่ไม่ยักรู้ พรีมจะไปเรียนต่อที่กรุงเทพด้วย นึกว่าลูกไปคนเดียวนะนี่” “ยัยนั่นเพิ่งจะมาเปลี่ยนใจเอาเมื่อคืนน่ะค่ะ” “อีกแล้วเหรอ..พรีมเป็นแบบนี้ตลอด ชอบทำอะไรฉุกละหุก” แม่เธอบ่น ในขณะขิมเองก็ถอนหายใจ เลิกคิ้วขึ้น แล้วบอกเสียงหน่าย “งั้นจะเป็นเพื่อนขิมได้เหรอคะ..เฮ้อ..” “อืม ถึงเมื่อไหร่ ก็โทรหาแม่ด้วยละกัน” “ได้ค่ะ ไปแล้วนะคะ” “บุญรักษาจ้ะ ^^” ถัดจากแม่ของเธอ ก็มาเจอด่านของพี่ชาย ซึ่งถอดเสื้อเหลือบ็อกเซอร์ตัวเดียวนอนแผ่อ้าซ่าอยู่ พอเธอเดินผ่าน “มองไม่เห็นหัวเฮียรึอีเตี้ย!” “แม่...ดู..” ถึงชะงักหันไปแสร้งฟ้องคนข้างหลัง ที่ส่ายหน้าเอือมระอารออยู่ก่อนแล้ว “มาลาเฮียเลย...” ก่อนขิมจะอมยิ้มก้มลงไปมองพี่ชายตัวเอง ที่ตอนนี้กางแขนออกมารอตรงหน้า “เออ ก็ได้ๆ” แต่แทนที่เธอจะค่อยๆโน้ม กลับทิ้งลงไปทั้งตัวซะงั้น “หัวก็ไม่ได้ล้าน ขี้น้อยใจจัง..” “โอ้ววว แม่ง..น้ำหนัก..กลับมาคราวหน้าลดด้วยนะ เดี๋ยวจะกลายเป็นหมูเอา..” “เหวอ~ ปากหมาเหมือนเดิมจริงๆ ไปละ เสียเวลา” “เดินทางปลอดภัย” “รักนะเฮียยย” “แหวะ..แหยง” “ฮ่าๆๆ” ถึงคนเป็นแม่อย่างเจ้แหวนจะเอือมระอาแค่ไหน ที่คุยกันเมื่อไหร่เป็นต้องมีคำหยาบตลอด แต่เชื่อไหม..ความสนิทสนมของทั้งคู่ ที่ทำให้เชื่อว่ายังไงก็ไม่มีทางทิ้งกันนั้น มันทำให้หล่อนสบายใจ ถึงจะแอบกังวลใจ ที่คราวนี้ขิมกำลังจะไปเรียนต่อที่กรุงเทพก็เถอะ.. ​ ..Airport... “ขิม ทางนี้แก ฉันอยู่ทางเน้!” เสียงดังกังวานพอๆกับระฆังโรงเรียนของพรีมดังขึ้น ตะโกนโหวกเหวกไม่สนใจใครว่าจะมอง หลังจากเห็นเพื่อน “ฮื่ม..พรีม” ในขณะเจ้าของชื่อยิ้มกว้างมาแต่ไกล.. “ตรงเวลาเชียวนะยะวันนี้..” ก่อนถูกเหน็บ “พูดถึงใครน่ะ? ตัวแกเองเรอะ! ฮ่าๆๆ” “โถ่..” “คนอะไร..ตัดสินใจชั่วข้ามคืน” “ก็ฉันติดแกนี่ อยากอยู่กับแกอะ มันต้องคิดถึงมากแน่ๆ ถ้าแกไป ฉันมีเพื่อนสนิทเท่าแกที่ไหน” พรีมบ่นอุบ เหลือบตาขึ้นแสร้งงอน “เขาติดต่อกันล่วงหน้านะมหาลัยน่ะ แกมาตัดสินใจเอาตอนนี้ ไม่รู้จะเหลือใบสมัครให้รึเปล่า” “ก็ลองไม่เหลือดูสิ ฉันจะชักกระแด่วๆ ต่อหน้าอาจารย์ซะเลย” “ได้ด้วยเหรอ?” “ฮ่าๆๆ พูดจริงนะ ฉะนั้น แกต้องเอาใจช่วยฉันด้วย โอเคมั้ย..” “ไม่โอเค..” “โด่ว..ขิมงะ” พรีมถึงกับอมลมเข้าปาก เธออุตส่าห์อ้อน ทว่าเพื่อนรักกลับไม่เห็นหัวเลย “ลำพังตัวฉันเองยังเอาไม่รอด จะเอาปัญญาที่ไหนไปช่วยแกห๊ะ..คิดบ้างสิ” พลางใช้ปลายนิ้วผลักหัวพริมหน้าหงาย หวังหยอกทิ้งท้าย ทว่า..กลับเลยเถิดไกล กลายเป็นชนคนอื่นซะงั้น พลั่ก! “โอ้ย ขอโทษค่ะ” ถึงกับทำพรีมตกใจ หันไปขอโทษ ในขณะที่คนถูกชนไม่ได้สะท้กสะท้านอะไร พยักหน้ากลับมาให้ แล้วเดินต่อเฉยเลย “ไม่เป็นไรครับ” “อ๊ะ” “...” “แกฉันเหมือนเคยเห็นเขา ที่ไหนสักที่อะ แกคิดเหมือนฉันมั้ย” พรีมหันขวับมาถามขิมด้วยความตื่นเต้นทันที “เดือนโรงเรียนไง” ในขณะที่ขิมนั้นตอบหน้าตาย ...รู้นะว่าหล่อ ออร่าออกซะขนาดนั้น แต่ทว่า เธอไม่ใช่คนที่จะแพ้ความหล่อแบบพรีม.. “ฮะ..ว่าแล้วเชียว ว่าแต่เขามาทำอะไรที่นี่ล่ะ” “หาเมียเขาละมั้ง” “อร๊ายยย ขิม แกนี่ปากคอเลาะร้าย เมียอะไร้! เขาไม่มีหร้อก!” “แกนั่นแหละ บ้าผู้ชายไม่เลิก ไปได้แล่ว ใกล้เวลาเครื่องจะออกแล้ว” “ย่ะ สั่งอย่างกับแม่” “ก็เดินดิ้” ขิมผลักหลังพรีมเบาๆ แต่เธอกลับหันหลังมาพูดใหม่ “..หล่อดีนะแก คนตะกี้น่ะ” ซึ่งนั่นทำขิมอดใจขำ กับการแพ้ความหล่อของเพื่อนตัวเอง “เหรอ..ไม่เห็นจะหล่อตรงไหนเลย” “ฮ่าๆๆ” กลับกลายเป็นพรีมที่หัวเราะออกมาแทน หลังจากเห็นขิมจีบปากจีบคอพูดหย่อนหน้าหยีตา “งั้นๆล่ะ” พลางยักไหล่ “เหรออออ” ในขณะทั้งคู่กำลังเดินหาที่นั่ง ท่ามกลางความความงงของขิมไม่หาย คนดังอย่างคุณสปอร์ต มาทำอะไรที่นี่ ...รึจะไปเรียนต่อแบบเธอเหมือนกัน ..หอพักมหาลัย.. “ว้าว...สวยจังเลยง่ะขิม น่าอยู่กว่าห้องนอนที่บ้านฉันตั้งเยอะ” เด็กเพิ่งขึ้น ขิมมาเข้าใจความรู้สึกนี้ก็ตอนนี้แหละ หลังจากลงเครื่องมาถึง วินาทีเหยียบดินแดนกรุงเทพ อุณภูมิอุ่นๆ ที่ไม่รู้แผ่มาจากความใจร้อนของคน หรือควันรถยนต์กันแน่ ทำความรู้สึกเธอเปลี่ยนแปลงไปทันที มันคนละซีน มันคนละโมเม้น หนักสุด..คือคนละโลก! “ที่นี่ดูวุ่นวายชะมัด..” “บ่นไรน่ะ” เสียงพรีมถาม ในจังหวะวางกระเป๋าลง เดินเข้ามาหาแล้วยิ้มทะเล้น ต่างจากขิมที่ปั้นหน้าบึ้งตึง “ไม่ชอบที่นี่เลยว่ะ นี่ถ้าไม่ติดว่ามาเรียนนะ ฉันจะไม่เหยียบเลย” มองบรรยากาศ ของหอพักรอบๆ “คิดถึงแม่ขึ้นมาทันที.. ฟู่!” “โด่ว..แกอย่าบ่นซี่ มันทำฉันคิดตามไปด้วยนะ” “ก็มันจริงนี่หว่า...” “เอางี้มะ .. ถ้ามันอุดอู้ ก็ไปหาไรกินกัน ดีปะๆ” “พรีม แม่บอกฉันให้ประหยัด เงินฉันมีจำกัดนะเว้ย” “แต่ไม่ใช่ตอนนี้” “พรีม...” “เราหิวเราต้องกิน” “แกคนเดียวรึเปล่า..ฉันไม่..” “ขิม..ข้าวจานนึงเนี่ยนะ ไม่ได้ผลาญมากมายตรงไหนเลย ที่นี่ไม่แพงหรอก พี่คนที่เคยมาอยู่บอกฉันมาแบบนี้” “เฮ้อ... ก็ได้ แต่ระหว่างนี้ ฉันขอไปหางานทำด้วยเลยดี มะ” “ห๊ะ” เถียงกันมาถึงประโยคนี้ของขิม พรีมถึงกับเงียบไปทันที ..หรี่ตาถาม ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงเมื่อได้คำตอบ “นี่แกมา เพื่อจะทำงานจริงๆน่ะ เหรอ” “อืม..แกก็รู้นี่ ครอบครัวฉันไม่ได้มีตังค์เหมือนพ่อแม่แก แม่อนุญาตให้ฉันมาเรียนได้ ก็เพราะฉันบอกว่าฉันจะหาทำงานทำส่งตัวเองเรียน” “ทำไมแก ไม่เรียนที่บ้านวะ ตัดสินใจมาที่นี่ทำไม ดูแกไม่ได้มีความสุขเลยนะนี่..” และอีกคำถาม ที่ทำขิมเป็นฝ่ายนิ่งซะเอง เธอเงียบไปกลางคันเสมือนถูกแทงใจดำ ในขณะที่พรีมเพิ่งจะมานึกออก เธอไม่น่าถาม ทั้งๆที่ควรจะรู้ ...คนเราต้องมีเหตุผลที่จำเป็นสิ ถึงจะทำอะไรฝืนใจ.... “ขอโทษ..” “อะไร้..บ้าป่าว..” “ขิม...” พรีมยื่นมือไปจับ.. “ไหนบอกหิวข้าว ไปสิ” ในขณะขิมกลบเกลื่อนโดยการเดินนำไป “อ่าว..”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม