:แก้วกันยา แสงสุริยา
บ้านแสงสุริยา
เสียงคนทะเลาะกันข้างล่างปลุกให้แก้วกันยาตื่นจะบอกว่าเริ่มชินก็ไม่น่าใช่เธอหนักใจ เหนื่อยหน่ายกับครอบครัวที่บิดเบี้ยวของตัวเองเต็มทนตั้งแต่เธอกับน้าเต็มกลับมาจากเมืองนอกนิลลินีก็ตั้งตนเป็นศัตรูสู้รบลับฝีปากกับน้าเต็มได้ทุกวัน
ไม่แน่ใจว่ามันเป็นอารมณ์คนท้องหรือมันเป็นสันดาร
ไม่เข้าใจที่สุดคือพ่อตัวเองที่คว้าผู้หญิงที่เธอเรียกว่าเกรดต่ำมาทำเมีย
"น้าเต็มนี่มันเรื่องอะไรกันอีกคะ?” แก้วกันยาเดินมาจับแขนเดือนเต็มพร้อมส่งสายตาเว้าวอนขอความเห็นใจ
"ฝากไว้ก่อนเถอะนังตัวดี" เดือนเต็มจ้องนิลลินีก่อนจะเดินออกไป
"เออรีบๆนะ" คนท้องตอบกลับอย่างท้าทาย
“คุณลินี…” เป็นแก้วกันยาที่หันมาเจรจากับแม่เลี้ยงบ้างเธอกำลังอุ้มท้องลูกคนที่สี่ให้กับพ่อของเธอ
ถ้าเลือกได้แก้วกันยาก็ไม่อยากนับเป็นน้องเพราะพฤติกรรมของคนแม่มันสุดจะทนจริงๆ นิลลินีเป็นผู้หญิงที่มีแต่พลังงานลบไร้มารยาท ไม่รู้จักกาละเทสะ โมโหร้ายจะมีดีก็แค่ความสะสวยกับปากที่เอาไว้พูดอกเอาใจพ่อของเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น
"คุณ...กำลังท้องนะช่วยใช้สมองคิดหน่อยจะไปต่อปากต่อคำยืนเถียงกับใครเขาเพื่ออะไร”
“ไม่ใช่เรื่องตัวเองอย่ายุ่ง!”
“นี่มันบ้านหรือสมรภูมิรบล่ะ”
“น้าแกน่ะมันปากดีทำเป็นวางมาดผู้ดีความจริงอยากได้คุณธีเป็นผัวจนตัวสั่น”
“ไม่มากไปหน่อยเหรอคุณลินี!”
“ฉันพูดความจริงย่ะว่าน่าแกน่ะมันแรดเงียบ”
“คุณ!”
"แกก็อีกคนเป็นแค่ลูกเลี้ยงอย่าปากดีทำมาสอนฉัน"
"งั้นคราวหน้าก็อย่าแหกปากตะโกนแต่เช้าแบบนี้คนอื่นเขานอนไม่ได้มารยาทสมบัติผู้ดีคุณควรหามาอ่านไว้บ้างก่อนที่จะไม่มีใครในบ้านเคารพ”
"แก..."
"อ่อ…เลิกซะทีเถอะไอ้นิสัยร้ายกาจแบบตัวอิจฉาในทีวีน่ะแม้อายุเราจะห่างกันไม่มากแต่ฉันก็อยากให้คุณทำตัวให้น่าเคารพนะ"
"แก...นังเด็กไม่มีแม่!”
"หยุดนะ!อย่าพูดถึงแม่ฉัน"
"จะทำไม...ก็แกมันไม่มีแม่นี่นาว่าฉันเป็นตัวอิจฉาแกมันก็หมาหัวเน่าล่ะวะ”
เพี๊ยะ!!!
แก้วกันยาฟาดฝ่ามือลงบนหน้าแม่เลี้ยงสุดแรง
"เคยเตือนแล้วใช่มั้ยว่าอย่าปากผล่อยถ้าแกกล้าพูดถึงแม่ฉันอีกล่ะก็" แก้วกันยาชี้หน้านิลลินีอย่างเอาเรื่องแต่สุดท้ายก็เลือกจะเดินหนีไป
สงสารไม่อยากให้แท้งหรอกนะ
"โห...สุดยอดอ่ะพี่แก้ว”
“เกมส์มายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ก็ตั้งแต่ป้าเต็มเดินขึ้นไป”
“พี่ไม่ได้ตั้งใจจะตบแม่เรานะ”
“รู้…แม่อ่ะทำตัวให้น่าตบเอง”
"เกมส์พูดแบบนี้ได้ไงไม่เอา” แก้วกันยาปรามน้องชายวัยสิบขวบ
“เกมส์ถ่ายคบิปไว้ด้วยนะพี่แก้วดูมั้ย?”
“ลบทิ้งไปเลย!” เธอพยายามแย่งมือถือในมือน้องชาย
“ไม่เอา!...เกมส์จะเอาให้พี่เก่งดูก่อน” สองพี่น้องแย่งมือถือกันแม้แก้วกันยาจะไม่ชอบนิลลินีแต่เธอนั้นรักน้องทั้งสองคนนะ
รวมถึงคนที่ยังอยู่ในท้องด้วย
เธอเชื่อว่าเด็กคือผ้าขาวถ้าสาดสีที่สดใสลงไปน้องๆก็จะเป็นเด็กที่สดใสร่าเริงเป็นเด็กดี แต่คงไม่ทันสำหรับตาเก่งแล้วล่ะรายนั้นรับพลังงานลบไปเต็มๆถอดแบบนิลลินีตรงที่พร้อมปะทะกับทุกคน
“กรี๊ดดด!!!...”
สองพี่น้องมองกันหน้าตาตื่น
"แม่" เด็กชายออกวิ่งไปตามเสียงของมารดาที่กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดแต่เมื่อแก้วกันยาวิ่งมาถึงภาพที่เห็นก็คือนิลลินีนอนหมดสติอยู่หน้าห้องนอน
"แม่!!" เกมส์เขย่าตัวแม่ด้วยความตกใจ
"เกมส์ไปตามเก่งมาอุ้มแม่เร็วๆ"
"ครับ" เด็กน้อยรีบวิ่งไปตามพี่ชายทันที
แก้วกันยานึกสงสัยว่าทำไมมีเรื่องวุ่นวายมากขนาดนี้พ่อถึงไม่ออกมาดูแต่เมื่อเธอมองลอดประตูที่เปิดแง้มไว้ทุกอย่างก็กระจ่างแก่ใจในทันที หญิงสาวเบือนหน้าหนีรู้สึกอายแทนคนที่กำลังขย่มกันอยู่ในห้อง
รีบปิดประตูให้เป็นจังหวะเดียวกับที่เก่งวิ่งมาถึงพอดี
"แม่เป็นไรพี่แก้ว"
"ไม่ต้องถามพาไปที่รถพี่จะไปโรงบาล"
เก่งช้อนร่างแม่ขึ้นอุ้มสายตาทอดมองแม่ที่หมดสติอย่างหวั่นวิตกขณะที่เกมส์ก็ช่วยประคองและระวังทางให้อีกทีสายตาสองพี่น้องมองกันอย่างหวั่นเกรงขณะที่แก้วกันยาวิ่งไปสตาร์ทรถเตรียมพาคนท้องส่งโรงพยาบาล
หน้าห้องฉุกเฉิน
เด็กทั้งสองนั่งหน้าเครียดไม่มีใครยอมพูดอะไรสีหน้าเต็มไปด้วยความกังวลเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมแม่ของตัวเองถึงได้หมดสติแบบนั้น
ด้านแก้วกันยาเองก็นิ่งเงียบไปเช่นกัน
ในหัวเธอมีแต่เรื่องวุ่นๆของคนในบ้านภาพในอดีตตั้งแต่เธอได้เจอนิลลินีมันไม่เคยสงบ ที่เธอต้องไปเรียนเมืองนอกก็เพราะนิลลินีตอนคุณย่ายังไม่เสียท่านเห็นว่าเธอโดนแม่เลี้ยงรังแกเลยขอให้น้าเต็มรับเธอไปดูแลชั่วคราว
แต่ไม่ว่าเธอจะจากไปกี่ปีนิลลินีก็ยังเป็นคนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
"คุณพ่อ" เกมส์วิ่งเข้าไปกอดบิดาทันทีที่มาถึงความอ่อนแอที่ฝืนทนก็ทลายลงเป็นหยดน้ำตา "แม่จะเป็นอะไรมั้ย” เด็กน้อยพูดได้เพียงเท่านั้นก็สะอื้นหนัก
"ไม่เป็นไรหรอกไม่ต้องกลัวนะ" สุธีกอดปลอบลูกชายคนเล็ก
"เลิกร้องได้ละเกมส์แม่ไม่ตายง่ายๆหรอก” เก่งรำคาญน้องชาย
“พูดดีๆกับน้องหน่อย”
“แล้วเก่งพูดไม่ดีตรงไหน”
“เจ้าเก่ง!”
“พ่อคะ…” แก้วกันยารีบห้ามเมื่อพ่อลูกทำท่าจะมีปัญหากัน
“ดูน้องแกสิ!” สุธีชี้ไปที่ลูกชายคนโตที่กำลังชักสีหน้าไม่พอใจใส่เขา “จะไปไหน! ดูมันถามอะไรไม่เคยตอบนี่มันเห็นฉันเป็นพ่ออยู่มั้ยห๊ะ!”
“ใจเย็นๆนะคะ”
“เกมส์ไปตามพี่เก่งเองฮะ”
“เดี๋ยวเกมส์” แก้วกันยาเรียกไว้ไม่ทันกลัวว่าสองพี่น้องจะไปทะเลาะกันซะมากกว่า
“ปล่อยไปเถอะ” สุธีถอนใจหันมามองลูกสาวด้วยความภาคภูมิใจ
ของแบบนี้บางทีมันก็อยู่ที่ชาติตระกูลนะแม่มันเป็นยังไงลูกมันก็ไม่ต่างกัน ดูหนูแก้วของเขาสิทั้งแสนดี ทั้งเก่ง ทั้งอ่อนหวานคนละเรื่องกับลูกที่เกิดจากลินี
“พ่อมีแต่หนูนี่แหล่ะ...ลูกรัก" สุธีดึงแก้วกันยามากอดด้วยความรักภาพครอบครัวอันแสนอบอุ่นสมัยที่แม่ของแก้วกันยายังมีชีวิตอยู่ย้อนกลับเข้ามาให้คิดถึงเขาผิดเองที่ความเหงาทำให้หลงใหลไปกับเมียเด็กของพ่อเลี้ยง
ฟังไม่ผิดหรอก
นิลลินีเคยเป็นแม่เลี้ยงเขามาก่อนสาววัยสิบเจ็ดที่ว้าเหว่ตอนผัวคราวปู่จากไปเขาเลยอาสาควายเหงาให้ตั้งแต่ศพคุณพ่อยังไม่เผาด้วยซ้ำจะมารู้ตัวตอนนี้ทุกอย่างมันสายเกินแก้เขาเริ่มเห็นข้อเสียนิลลินีและเห็นข้อดีของเดือนเต็มตั้งแต่อดีตน้องเมียกลับมา
ยอมรับอย่างไม่อายว่าในอดีตเคยมีความคิดอยากเป็นพระยาเทครัว
“น้าเต็มล่ะคะ”
“หื้ม?” สุธีแปลกใจที่ลูกสาวถามถึง
“ไม่ได้มาด้วยกันเหรอคะ”
“เอ่อ…” สุธีอึกอักเพราะสายตาของลูกสาวเปลี่ยนไปหรือว่าหนูแก้วก็เห็นว่าเขากับเดือนเต็มทำอะไรกันในห้องส่วนลินีเขามั่นใจว่าเห็นไม่งั้นคงไม่ร้องกรี๊ดๆแล้วก็เป็นลมไป
"หนูแก้วเห็นนะคะและคิดว่าคุณลินีเธอคงเห็นมากกว่าหนูแก้ว"
"พ่อ...."
“เท่านี้บ้านเรามันยังวุ่นวายไม่พอเหรอคะ”
“หนูแก้วฟังพ่อนะ…”
“เอาเถอะค่ะ…หนูแก้วขอโทษที่ยุ่งเรื่องส่วนตัวคุณพ่อ”
“หนูไม่ดีใจเหรอที่มีน้าเป็นแม่อีกคน” เดือนเต็มพูดแทรกขึ้นมาเธอฟังอยู่นานแล้วล่ะ
“น้าเต็ม”
“ว่าไงคะคนดีน้าไม่เหมาะสมที่จะเป็นแม่หนูตรงไหน?” เธอลูบแก้มหลานสาวอย่างเอ็นดูรักใคร่
“มัน…ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ” แก้วกันยาอึดอัด
“หนูไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้นค่ะจากนี้ไปน้าจะจัดการนังลินีให้เอง” เดือนเต็มกุมมือหลานสาวเหมือนเป็นคำสัญญา
แก้วกันยามองพ่อกับน้าเต็มที่เข้ากันได้ดี
ครอบครัวเธอมันแปลกประหลาดเกินกว่าที่คนนอกจะเข้าใจได้ใครๆก็คิดว่าการที่เกิดมาเป็น ‘แก้วกันยา แสงสุริยา’ นั้นน่าอิจฉาเป็นคุณหนูนักเรียนนอกทายาทธุรกิจส่งออกอาหารทะเลมูลค่าหลายพันล้านใช้ชีวิตสวยหรูดูแพง สุขสบายบนสมบัติที่กินใช้เท่าไหร่ก็ไม่หมด
แต่ในมุมของเธอมันไม่มีอะไรที่น่าภูมิใจสักนิด
เธอรู้ว่าทุกอย่างที่มีในวันนี้เป็นของคนอื่นถ้าคุณปู่มีทายาทสืบสกุลพ่อก็คงเป็นแค่ลูกติดเมียจนๆคนนึงเท่านั้นแถมความรังเกียจที่คุณปู่มีต่อพ่อยังตกทอดมาถึงเธอด้วย คุณปู่ไม่เคยรับว่าเธอเป็นหลานบอกเสมอว่าเรามันคนละเผ่าพงษ์กันไม่มีทางให้ใช้นามสกุลบูรพัฒน์เป็นอันขาด
ภาพจำของคุณปู่มีแต่ความน่ากลัว
“หนูแก้วว่าหนูแก้วกลับก่อนดีกว่า” แก้วกันยาดึงมือออกเปลี่ยนเป็นสวมกอดเดือนเต็มไว้
“น้ารักหนูที่สุดนะคะลูก” เดือนเต็มลูบหัวลูบหลังแก้วกันยาใจฟูอิ่มราวกับว่าได้รับการยอมรับ
“หนูแก้วไปก่อนนะคะ”
แก้วกันยาเดินเข้าลิฟท์กดขึ้นมาชั้นหกซึ่งเป็นลานจอดรถในตัวอาคาร หญิงสาวผลักประตูเชื่อมลานจอดรถออกไปตอนเอารถมาจอดก็ไม่ทันได้คิดอะไรแต่พอตอนกลับทำไมมันถึงวังเวงแบบนี้ล่ะ มีรถจอดอยู่บางตาไฟในลานจอดรถก็ไม่เปิดในหัวเริ่มจินตนาการถึงผีที่นั่งกอดเข่าอยู่ในมุมมืดๆ
รถที่เคยคิดว่าจอดใกล้ๆก็เริ่มไกลขึ้น
"คิดบ้าอะไรของแกนะยัยแก้ว" แก้วกันยาดุตัวเองเมื่อความคิดฟุ้งซ่านไปไกลมือบางล้วงกุญแจรีโมทรถออกมากดโดยเร็ว
ติ๊ดๆ…
กำลังจะเปิดประตูเข้าไปนั่งแต่เหมือนเห็นเงาดำๆและหางตามันเหมือนเห็นบางอย่างยืนอยู่
“...กรี๊ดดด!!!” หญิงสาวเอามือปิดหน้าพร้อมกับกรี๊ดลั่น