อาทิตย์ร้ายรัก | 6

1616 คำ
กลับมาที่ปัจจุบัน ฉันยังคงจับจ้องไปที่เขาอย่างลืมตัว เหมือนเมื่อก่อนที่ฉันมักจะชอบทำ ครืดดดดดด... “อือ ว่าไงฝ้ายป่าน” ฉันละสายตาจากร่างสูงแล้วกดรับสายของฝ้ายป่านที่โทรเข้ามาหา [แกจะกลับตอนไหนอ่ะ?] “น่าจะดึก ๆ อ่ะ แกมีอะไรหรือเปล่า?” [ตอนกลับฝากซื้อเครปร้านป้าที่อยู่ตรงข้ามสามแยกหอพักแพทย์ฯ หน่อยสิ] “กินดึก ๆ เนี่ยนะ” [อืม ฉันกลัวหิวตอนดึก ๆ อ่ะ] “อ่า ๆ เอาไส้อะไรบ้าง?” [หมูหย็อง ไส้กรอก และก็ชีสสสสส ใส่ซอสพริกเยอะ ๆ ด้วยนะ] “อะเค ๆ” [ขอบใจน้าเพื่อนร้ากกก] พูดเสียงลากยาวเพื่อเอาใจ และฉันก็ทำได้แค่ส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอา “จ้า ๆ” พอคุยกันเสร็จฉันก็วางสายจากฝ้ายป่าน แล้วหันกลับมาสนใจผู้ชายโต๊ะตรงข้ามกับฉันที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสืออย่างจดจ้อง พลางยกกาแฟขึ้นมาจิบเป็นพัก ๆ ไม่ได้เจอเขามาตั้งสามปี เขาเปลี่ยนจากการดื่มชาเขียวปั่นมาเป็นดื่มกาแฟแทนแล้วสินะ เมื่อก่อนว่าหล่อแล้ว ตอนนี้ก็ยิ่งหล่อสุด ๆ ไปเลย ตั้งใจเขียน Care Plan สิมุกดา วันนี้จะเสร็จไหมฮะถ้ายังเอาแต่มองผู้ชายแบบนี้! ฉันบอกตัวเองก่อนจะก้มหน้าทำงานต่อ แม้จะมีแอบเหลือบตาขึ้นมาดูอาทิตย์อยู่เป็นพัก ๆ ก็ตาม “เสร็จแล้ว” ฉันบ่นออกมาเบาๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอโน้ตบุ๊กหลังจากตั้งใจทำงานมาหนึ่งชั่วโมงเต็ม แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็ไม่เจออาทิตย์แล้ว เขาคงจะกลับไปแล้วสินะ... ฉันก้มลงมองนาฬิกาที่แสดงบนหน้าจอโน้ตบุ๊กอีกครั้ง ตอนนี้ก็ปาไปเกือบห้าทุ่มแล้วและร้านก็กำลังจะปิดในอีกไม่นานนี้แล้วด้วย ฉันจึงเก็บข้าวของเพื่อเตรียมตัวกลับ “ไว้มาใหม่นะครับ” พนักงานเอ่ยบอกเมื่อฉันจ่ายเงินค่ากาแฟที่เคาน์เตอร์เสร็จ ฉันพยักหน้าพลางยิ้มให้เขาเล็กน้อย ก่อนที่จะเดินออกมาจากร้าน ฉันเดินมายังรถมอเตอร์ไซต์ที่จอดอยู่ด้านหน้าร้าน ก่อนจะพยายามรื้อค้นหากุญแจรถในกระเป๋าเป้ของตนเอง แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอสักที จนฉันเริ่มกระวนกระวายใจและอยู่ไม่สุข “อยู่ไหนนะ!?” “หานี่อยู่หรือเปล่า?” จู่ ๆ กุญแจรถที่มีพวงกุญแจตุ๊กตาหมีห้อยอยู่ของฉันก็ปรากฏขึ้นมาต่อหน้า ฉันจึงคลี่ยิ้มร่าด้วยความดีใจ “ใช่แล้วค่ะ อะ..อาทิตย์!” แต่พอเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของมือที่ชูกุญแจรถให้ฉันดู ฉันก็ถึงกับร้องเสียงหลงออกมาอย่างตกใจเมื่อมันดันเป็นเขา “…...” “ไม่เจอกันนานเลยนะ” อาทิตย์เอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้มละมุนละไมเหมือนเมื่อสมัยก่อน ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่ฉันไม่ได้เห็นมาสามปีแล้ว นี่เขายังไม่ได้กลับไปอีกหรอกเหรอ แถมยังทักทายฉันเหมือนคนเคยสนิทกันอีก ทำเอาไปไม่เป็นเลย... “อะ..อืม ไม่เจอกันนานเลยเนอะ” ฉันยิ้มแหยทักทายกลับ แล้วเอื้อมมือไปรับเอากุญแจรถคืนจากมือของเขา ก่อนจะพูดว่า “ขอบคุณนะ” อาทิตย์ยิ้มบาง ๆ มองมาที่พวงกุญแจตุ๊กตาหมีของฉันแล้วถามขึ้น “อืม ยังแขวนพวงกุญแจตุ๊กตาหมีตัวนี้อยู่อีกเหรอ?” “อืม ตุ๊กตาตัวโปรดน่ะ” ฉันตอบแล้วก้มมองพวงตุ๊กตาหมีที่อาทิตย์เคยเก็บมันคืนให้เมื่อสามปีก่อน “อ้อ แล้วตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้าง?” “ก็ดีนะ” “อ้อ แล้วมาเรียนที่นี่เหรอ?” “ใช่แล้ว ว่าแต่นายทำไมถึงมาอยู่ที่นี่เหรอ นายไม่ได้ไปเรียนที่เมืองนอกหรอกเหรอ?” “ฉันเพิ่งย้ายกลับมาเรียนที่นี่น่ะ” “แล้ว..นายเรียนคณะอะไรเหรอ?” “บริหารฯ น่ะ แล้วเธอล่ะ?” “ฉันเรียนพยาบาล” “พยาบาลเหรอ ดูเหมาะกับเธอดีนะคุณพยาบาล” พอได้ยินเขาแซวฉันก็ยิ้มบาง ๆ ด้วยความเขินอาย พร้อมกับยกมือขึ้นเกาแก้มเพื่อแก้เขินด้วย “เธอรีบกลับเถอะมันดึกมากแล้วนะ แถมอันตรายอีก” “อืม ไว้เจอกันนะ” ฉันพยักหน้าให้อาทิตย์ ก่อนจะเดินไปขึ้นคร่อมรถมอเตอร์ไซต์ของตัวเอง หันไปมองหน้าเขาอีกครั้ง เขาก็โบกมือพลางส่งยิ้มให้ ฉันจึงส่งยิ้มคืนให้บาง ๆ แล้วก็สตาร์ทรถขับออกมาจากร้านกาแฟด้วยหัวใจที่กำลังพองโต ทำไมนะ? ทำไมหัวใจของฉันต้องกลับมาเต้นแรงอีกครั้งด้วย แถมยังเต้นแรงเหมือนเมื่อสามปีก่อนอีกด้วย นี่เธอยังไม่เข็ดและเจ็บไม่พออีกเหรอมุกดา!? เธอเคยโดนเขาปฏิเสธมาแล้วครั้งหนึ่งนะ!!! ณ หอพักนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ พอฉันเปิดประตูเข้ามาในห้องก็เจอกับฝ้ายป่านที่กำลังนอนพลิกตัวไปมาเล่นอยู่บนเตียงของตัวเอง “เครปของฉันล่ะ?” ฝ้ายป่านเด้งตัวลุกขึ้นมานั่งมองหน้าฉันตาแป๋วแล้วถามขึ้น จริงด้วย นี่ฉันลืมไปซะสนิทเลยว่าฝ้ายป่านฝากซื้อเครป!!! “คะ..คือว่า...ฉันลืมซื้อให้แกอ่ะ” ฉันส่งยิ้มแห้งให้ฝ้ายป่าน พลางยกมือขึ้นมาพนมไหว้แล้วถู ๆ กันไปมาเป็นเชิงขอโทษ “แกอ่ะ!” ทำหน้าบูดบึ้งใส่ แล้วสะบัดหน้าหนีไปทางอื่นอย่างงอน ๆ ฉันจึงต้องเดินเข้าไปกอดฝ้ายป่านไว้ เพื่อขอโทษและง้อไปในตัว เพราะดูจากท่าทางแล้วคงจะโกรธและงอนให้ฉันอย่างแน่นอน “ฉันขอโทษน้า ฉันผิดไปแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันซื้อให้แกสองอันเลย” “ชิ!” สะบัดหน้าใส่ ยกมือขึ้นมากอดอก แล้วทำหน้าบึ้งตึง ยังไม่หายงอนอย่างง่ายๆ “หายงอนน้า นะ ๆๆ” “......” เงียบ “Care Plan ยังไม่เสร็จเหรอ เดี๋ยวฉันช่วยทำให้นะ เอาไหม ๆ” พอเหลือบตาไปเห็นหน้าจอโน้ตบุ๊กของฝ้ายป่านที่ขึ้นโชว์หน้า Care Plan ที่ยังไม่เสร็จดีก็เสนอตัวช่วยอย่างยินดี “ไม่ต้องเลย ฉันทำเองได้” ฝ้ายป่านพยายามดันตัวฉันที่สวมกอดออก แล้วทำเป็นตั้งใจพิมพ์งานต่อ “แกลืมใส่กิจกรรมการพยาบาลเรื่องสังเกตลักษณะแผลของผู้ป่วยอ่ะ” ฉันชะโงกหน้าไปตรงหน้าจอแล้วชี้บอก “รู้แล้วน่า แกไปอาบน้ำนอนเลยไป!” ฝ้ายป่านทำมือไล่ฉัน ใบหน้ายังคงแสดงออกว่ากำลังงอนอยู่ “ยังก่อน เดี๋ยวฉันช่วยแกทำนี่เสร็จแล้วค่อยไปอาบก็ได้” “ยัยเน่า!” “เน่าอะไร ฉันเพิ่งอาบก่อนไปร้านกาแฟเองนะ” “แกอาบน้ำไปตั้งหลายชั่วโมงที่แล้ว ตอนนี้ตัวแกเหม็นแล้วย่ะ” “ไม่นะ” ฉันทำหน้าไม่พอใจใส่ฝ้ายป่านที่มาหาว่าฉันตัวเหม็น พลางใช้จมูกดมกลิ่นตามเนื้อตัวของตัวเองแบบฟุดฟิด “ฮ่า ๆๆๆๆ” จู่ ๆ ฝ้ายป่านก็หลุดขำออกมา “หน้าแกตลกมากเลยมุกดา ฮ่า ๆๆ” “อะไรของแก?” ฉันขมวดคิ้วทำหน้าไม่เข้าใจ “ฉันแกล้งงอนแล้วก็ว่าแกเล่นเฉย ๆ แต่เมื่อกี้หน้าแกเหวอกับตลกมากเลย จนฉันกลั้นขำไม่ไหวอ่ะ ฮ่า ๆๆ” “แกแกล้งฉันเล่นเหรอ นี่แน่ะ ๆๆ” ด้วยความที่ฉันหมั่นไส้ฝ้ายป่านที่แกล้งฉัน จึงเอานิ้วไปจี้เอวของฝ้ายป่านเล่นทั้งสองข้าง เพราะรู้ดีว่ามันบ้าจี้มากแค่ไหน “พะ..พอแล้ว ฮ่า ๆๆ ฉันจักจี้” ฝ้ายป่านร้องโวยวายสลับหัวเราะออกมาอย่างทรมาน พลางสะดุ้งไปมาตามจุดที่ฉันจักจี้ “ยะ..ยอมแล้ว ๆๆ ฉะ..ฉันขอโทษมุกดา” ฝ้ายป่านแหกปากร้องลั่น แล้วพยายามจับมือฉันให้หยุดจักจี้มัน ฉันจึงยอมหยุด แล้วใช้มือเขกมะเหงกลงบนหน้าผากของมันแรง ๆ หนึ่งทีอย่างมันเขี้ยว “นี่แน่ะ!” “โอ๊ยยยย เจ็บนะเว้ย!” “ก็มันเขี้ยว” “ชิ!” ฝ้ายป่านทำหน้ามุ่ยใส่พลางเอามือลูบหน้าผากของตัวเองปอย ๆ “เดี๋ยวสั่งแกรปฟู้ดให้” “ไม่เอาไม่กินแล้ว เดี๋ยวอ้วนเป็นหมูเหมือนแกเมื่อก่อน” “......” ฉันชะงักและนั่งนิ่งเงียบ เพราะคำพูดของฝ้ายป่านมันทำให้ฉันนึกถึงเรื่องราวเมื่อก่อนในตอนที่ฉันอ้วนเป็นหมู แล้วพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่ออาทิตย์ “แกเป็นอะไรเหรอ ทำไมนั่งเงียบ?” ฝ้ายป่านเอ่ยถามฉันด้วยใบหน้าแปลกใจเมื่อเห็นฉันนั่งเงียบและไม่ตอบโต้ “วันนี้ฉันเจออาทิตย์ที่ร้านกาแฟ” “หืม ทำไมเจอ เขาไม่ได้ไปเรียนต่อที่เมืองนอกหรอกเหรอ?” ฝ้ายป่านทำหน้าแปลกใจ “เขาบอกว่าเพิ่งย้ายกลับมาเรียนที่นี่อ่ะ” “นี่แกได้คุยกับเขาด้วยเหรอ?” ฝ้ายป่านทำตาโตอย่างตื่นตาตื่นใจ “อืม เขาทักฉันด้วยอ่ะ” “นี่ยังกล้ามาทักแกอีกเหรอ ปฏิเสธแกอย่างไม่มีชิ้นดีขนาดนั้น!” “นั่นสินะ...” ฉันพูดพึมพำพลางลอบถอนหายใจเบา ๆ “แล้วทำไมจู่ ๆ ถึงกลับมาเรียนที่นี่ล่ะ?” ฝ้ายป่านทำหน้าครุ่นคิดและสงสัย “ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน” ฉันพูดตอบฝ้ายป่านเบา ๆ ก่อนจะมองตรงไปที่กล่องสีชมพูผูกริบบิ้นสีขาวที่วางอยู่บนตู้เสื้อผ้า ที่ฉันยังอุตส่าห์เก็บมันเอาไว้จนถึงทุกวันนี้ ทั้ง ๆ ที่ควรจะทิ้งมันไปเมื่อสามปีก่อนเสียด้วยซ้ำ...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม