@ โรมแรม xxx
จริงๆ ฉันก็แอบกังวลเหมือนกันนั้นแหละ ก็ประวัติอันโชกโชนของเขานั้น...มันน่าสะพรึงมากจริงๆ และก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่เลย์หามาให้ฉันมันจริงเท็จขนาดไหน เสือ 18 วินาทีอย่างนั้นหรอ...ทำไมเขาถึงได้รับฉายานี่ละ ผู้หญิงเดี๋ยวนี่พอเห็นผู้ชายหน้าตาดีหน่อย ปากหวานหน่อย ก็เสนอตัวเข้าหาละ และแน่นอนฉันไม่มีทางตกเป็นเหยื่อของหมอนี่เด็ดขาด เสือ 18 วิอะไรละ ไม่มีใครมาทำลายความบริสุทธิ์ของฉันได้หรอกย่ะ! ฉันมาถึงโรงแรมxxx ตามเวลานัด ในใจก็คิดตลอดล่ะ ว่าหมอนี่จะหน้าตาเป็นยังไง ฉันเดินตรงมายังลิฟต์ ก่อนจะกดลิฟต์เข้าไป
ติ๊ง! เสียงลิฟต์กำลังจะปิด แต่ก็มีมือของใครบางคนมาขวางการปิดของลิฟต์ไว้เสียก่อน อื้อหื้อ! อย่างกับในหนัง
“ขอโทษครับ” ผู้ชายหน้าตาดี ผิวขาว ผมสีดำซอยสไลต์สั้นๆ และเซ็ทผมให้ดูตั้งและเท่ เขาเดินเข้ามาโดยที่ในมือยังคงคุยโทรศัพท์ไปด้วย ฉันเลยกดเปิดลิฟต์ให้เขา
“อะไรนะครับพ่อ! เป็นทนาย” เขายังคงวางมาด เท่ มือจกกระเป๋า ส่วนอีกมือก็ถือโทรศัพท์คุยด้วยเสียงดัง จนฉันต้องหันไปมอง หน้าตาก็ดี ทำไมไร้มารยาทขนาดนี่!
“ทำคดีหย่าร้าง แต่สามารถให้ลูกคดีกลับมาคืนดีกันได้ ไร้สาระ” เขาพูดด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์ แต่คำพูดของเขามันทำให้ฉันเคือง จนฉันต้องหันไปมองค้อนใส่เขา
“ก็คนเขาจะหย่ากัน จะไปห้ามเขาทำไม อยู่ๆ กันไป เดี๋ยวก็ต้องกลับมาหย่ากันอยู่ดี!” นี่ความคิดของผู้ชายสมัยนี่หรอ รู้ไหมว่าคนเขากว่าจะรักกันได้ ผ่านอะไรมาด้วยกันตั้งมากมาย แล้วจะมาหย่ากัน ต้องคิดถึงวันที่รักกันไว้สิ! ถึงจะถูก
“ปัญญาอ่อน!”
//ปัญญาอ่อนอะไรย่ะ!// ฉันมองค้อนไปยังเขาทันที
“จะหาผู้หญิงให้ผม หาที่มันดีๆ หน่อยก็ได้ครับ เอาทนายโลกสวยมาให้ผมซะงั้น” ผู้ชายคนนี่นี่มันยังไง ปากเสียที่สุด ไร้มารยาท พูดเสียงก็ดัง นี่แค่อยู่กับฉันในลิฟต์สองคนนะ ยังพูดออกมาไม่เกรงใจขนาดนี่
ติ๊ง! เสียงประตูลิฟต์เปิดออก เขาเดินตามฉันออกมา และก็ยังคุยโทรศัพท์ไปด้วย ฉันเดินไปยังโซนอาหารของโรงแรม ก็ยังเห็นเขาเดินตามมา พร้อมกับคุยโทรศัพท์ไปด้วย
“จองไว้หรือป่าวครับ” พนักงานเดินมาต้อนรับฉัน ฉันเลยยิ้มให้เขาและตอบกลับไป
“จองไว้ค่ะชื่อมิ้น”
“ทางนี่เลยครับ” เขาผายมือเพื่อให้ฉันเดิน ก่อนที่ฉันจะเดินตามพนักงานชายไป แต่เขาก็ยังเดินตามฉันมาติดๆ เขาก็มีพนักงานชายอีกคนนำทางให้มาเหมือนกัน
“ตรงนี่เลยครับ” พนักงานชายของเราทั้งคู่ เลื่อนเก้าอี้ให้นั่ง
ฉันตกใจทันที ที่เห็นไอ้ผู้ชายคนนี่นั่งตรงข้ามฉัน อย่าบอกนะ! ว่าเขาคือ ต้น ไตรวิชย์ เตชะอุดม เสือหรอเนี้ย! ไอ้บ้านี่...เสือ 18 วินาทีหรอ~
“อ้าปากค้างเพราะเห็นผมหล่อหรือไง” เป็นเสือไม่พอหลงตัวเองด้วย เอาพูดพร้อมกับหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มอย่างหน้าตาเฉย
“คุณนี่หน้าตาคุ้นๆ นะ” ก็คนที่เจอกันในลิฟต์เมื่อสักครู่ไงย่ะ!
“ยังตกใจอยู่...ผมคงหล่อมากสิ” เขาเสยผมตัวเองขึ้น หลงตัวเองชัดๆ มันน่าหลงใหลตรงไหน ผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อของเขา หลงหมอนี่ได้ยังไง
“คุณคือ...ต้น”
“ครับ ผมต้น ส่วนคุณคือ... มิ้น”
“ทนาย!!” เราอุทานขึ้นมาพร้อมกัน
“นี่คุณ! ผมพอทราบประวัติคุณมานิดหน่อย ผมค่อนข้างไม่เห็นด้วยกับการทำคดีของคุณ ผู้หญิงผู้ชายเราเลือกที่จะเดินทางแยกกัน คุณไม่ควรไปรั้งพวกเขาไว้” เขายกน้ำขึ้นมาดื่มอีกครั้ง แต่คำพูดเขาทำให้ฉันฉุนทันที
“ผู้หญิงอะค่ะ เราก็ต้องการความมั่นคงในชีวิตตัวเองกันทั้งนั้น ไม่มีใครอยากจะเดินทางแยกกันหรอกค่ะ ที่พวกเขาเลือกที่จะแยกกัน เป็นเพียงแค่ ความเห็นบางอย่างไม่ลงตัวกันก็เท่านั้น ถ้าเราเปิดใจยอมฟังเหตุผลของกันแหละกัน เชื่อเถอะค่ะ อยู่กันต่อไปได้ยังแก่!!” ฉันก็เป็นทนายคดีหย่าเหมือนกันนี่ เรื่องอะไรจะต้องให้เขามาต่อว่าฉันฝ่ายเดียว ฉันก็มีเหตุผลในการทำคดีของตัวเองเหมือนกัน แต่ฉันไม่เข้าในเหตุผลในการทำคดีของเขาสักนิดเดียว
“ถ้าคุณคิดแบบนั้น...แล้วคุณคิดว่าเราจะอยู่ด้วยกันได้ไหม”
“คุณกับฉันไม่ได้เกิดจากความรัก เราอยู่ด้วยกันไม่ได้หรอกค่ะ” ฉันยังคงเถียงเขา
“นั้นละครับ คู่รักบางคู่อยู่ด้วยกัน ก็เพราะไม่ได้รักกันนี่แหละ เราไม่ได้รู้เบื้องหลังเขา ดังนั้นคุณควรปล่อยเขาไป ไม่ใช้รั้งให้เขามารักกันต่อ” เขายื่นหน้ายื่นตามามองฉัน สายตาเจ้าเล่ห์แบบนั้น เหมือนกับว่าสิ่งที่เขาพูดมันถูกอย่างนั้นแหละ นายคิดผิดแล้ว...เสือ
“ถ้าเขาไม่ได้รักกัน แล้วเขาจะตัดสินใจแต่งงานกันทำไม!” ฉันยังคงต่อล้อต่อเถียงกับเขา เพราะฉันเชื่อว่า...ยังไงความเห็นฉันก็ถูกที่สุด
“เพราะโดนแบบเราไงคุณ!”
“บางทีเขาอยู่ด้วยกันไป เขาก็รักกันเองนั้นแหละค่ะ ไม่งั้นเขาจะทนอยู่ด้วยกันนานขนาดนั้นทำไม”
โป๊ะ!
อยู่ดีๆเขาก็ลุกขึ้น ยื่นใบหน้ามาหาฉัน จนฉันตกใจ จะตีโต๊ะเสียงดังขนาดนั้นทำไม ไม่อายคนอื่นหรือยังไงเล่า ไอ้เสือไร้มารยาท! ไอ้ทนายหลงตัวเอง